การแต่งงานที่ไม่คาดคิดของฉันกับ CEO
สถานที่ที่เราเดินทางไปนั้นไม่ได้อยู่ห่างจากตัวเมืองมากนัก มันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมชื่อ โถงยี่ทาวน์ จากย่านใจกลางเมืองไปถึงที่พักที่จองไว้ เราใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงในการเดินทางด้วยรถยนต์
ห้องพักสำหรับแขกของโถงยี่ทาวน์ค่อนข้างโดดเด่นมีลักษณะของตน ซึ่งเป็นกระท่อมไม้ที่สร้างแยกจากกันเป็นหลัง ๆ ตามชนบท เหอซวี่เลือกกระท่อมไม้หลังบนภูเขาที่อยู่ห่างไกลจากกระท่อมหลังอื่น ๆ โดยให้เหตุผลว่า กระท่อมหลังนั้นจะมีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับฉันและลูกในท้องมากกว่า
เมื่อเปิดกระโปรงท้ายรถเพื่อหยิบกระเป๋าเดินทางของเราออกมา ฉันก็สังเกตเห็นกล่องเครื่องมือผ่าตัดใบหนึ่งวางอยู่ในนั้น
เลยหันไปมองเหอซวี่ด้วยความสงสัย
“เธอกำลังท้องอยู่ พาเธอออกมาข้างนอกจะดีต่อลูกในท้องก็จริง แต่มันก็มีความเสี่ยงเหมือนกันนะ ผมเลยต้องเตรียมของพวกนี้มาด้วย กันไว้ดีกว่าแก้ ถูกใหมล่ะ?” เหอซวี่อธิบาย
หลังจากจัดกระเป๋าเดินทางเข้าที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ไปเดินเที่ยวสถานที่สำคัญที่เป็นสัญลักษณ์หลายแห่งในโถงยี่ทาวน์
ฉันเดินช้า เพราะกำลังท้องอยู่ และโชคดีที่เขาก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร เขาเดินช้าตามฉัน คอยดูแลฉันตลอดทาง แถมยังจูงมือฉันตอนขึ้นเขาอีกด้วย
พฤติกรรมทั้งคำพูดและการกระทำของเขากำลังบ่งบอกว่า เขาเป็นสามีที่ดี เอาใจใส่ภรรยาอย่างมาก จนทำให้ฉันคิดว่า บางทีฉันอาจจะคิดมากไปเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องหนังสือนั้น เขาอาจจะแค่หาความตื่นเต้นกับเพื่อนออนไลน์ผ่านวีดีโอก็ได้
ฉันเริ่มรู้สึกเหนื่อยเมื่อเดินขึ้นมาบนเขาได้ครึ่งทางแล้ว จึงนั่งพักผ่อนในศาลาริมทาง
ในตอนนี้เอง เหอซวี่ชี้ไปทางดอกตูมสองสามดอกที่กำลังบานเจริญงอกงานที่ริมเขา และบอกว่าทิวทัศน์ตรงจุดนั้นสวยมาก เขาอยากถ่ายรูปสวย ๆ ให้ฉันสักหน่อย
ฉันเดินไปยืนอยู่ข้างดอกไม้นั้นตามที่เขาบอก ก่อนจะหันหน้ากลับมา และยิ้มให้เขา ทว่าเขาบอกฉันว่า ยังไม่ได้แสงและมุมที่เหมาะเลย ฉันจึงถอยหลังไปอีกสองสามก้าวตามคำแนะนำของเขา เสี้ยววินาทีต่อมา ฉันก็บังเอิญลื่นล้มหงายหลังและกลิ้งตกลงไปตามเส้นทางบนภูเขา
สิ่งแรกที่แวบเข้ามาในสมองฉันในวินาทีนั้นคือลูก พอนึกถึงลูกในท้อง ฉันก็รู้สึกอย่างแรงกล้าว่า ฉันต้องมีชีวิตรอดไปให้ได้ หลังจากกลิ้งไปหลายตลบ ฉันก็คว้าต้นไม้ที่อยู่ใกล้ชิด และโอบมันไว้อย่างแน่นหนา
ถึงฉันจะเอาชีวิตรอดมาได้ แต่ฉันก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาจากหน้าท้องส่วนล่างของฉัน ซึ่งเจ็บปวดทรมานเสียจนเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มไปหมด แต่ไม่ว่ายังไง ฉันก็ไม่ยอมปล่อยมือจากต้นไม้ที่โอบไว้เด็ดขาด
ฉันรู้สึกไม่ดีเลย รู้สึกเหมือนว่า ลูกในท้องของฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย
จากนั้นไม่นานนัก ก็มีนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ของแหล่งท่องเที่ยวเข้ามาช่วยฉันมากมาย พวกเขามาจากทุกทิศทางด้วยความตื่นตระหนกตกใจอย่างเห็นได้ชัด
“ผมเป็นสามีของเธอครับ!” เหอซวี่ตะโกนลั่น “และผมก็เป็นสูติแพทย์ด้วย” เขากล่าวเสริม
จากนั้น เหอซวี่ก็ตะโกนพลางวิ่งผ่านฝูงชนที่ห้อมล้อมอยู่ ก่อนจะเอามือช้อนร่างฉันขึ้นมาอุ้มและวิ่งลงเขาไป
ระหว่างนั้น ฉันเอามือกำเสื้อผ้าของเขาไว้แน่น ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “ที่รัก ช่วยลูกของเราให้ได้นะ”
เขาวิ่งลงจากภูเขาอย่างรวดเร็วโดยไม่มองหน้าฉันเลย และตอบด้วยคำสั้นๆ “ครับ”
ในที่สุด สิ่งที่น่าเศร้าก็ได้เกิดขึ้น ฉันเสียลูกในท้องไปอย่างไม่มีวันกลับ ตอนนั้นถือเป็นเหตุฉุกเฉิน ดังนั้น เหอซวี่จึงจำเป็นต้องทำการผ่าตัดคลอดให้ฉัน
พอฉันฟื้นขึ้นมาอีกทีก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว ประกฏว่าเหอซวี่ไม่ได้อยู่เคียงข้างฉัน
ฉันดูเวลาที่โทรศัพท์และเห็นว่าเป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว
ฉันเลยสงสัยว่า เหอซวี่จะไปที่ไหนในตอนกลางดึกแบบนี้
ฉันลุกขึ้นจากเตียงอย่างลำบาก ใช้กำแพงห้องช่วยประคองตัวไปอย่างช้า ๆ เพื่อเดินออกไปหาเขา แต่เมื่อฉันไปถึงประตู ก็ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ข้างนอก
“คราวนี้เธอโชคดีเหลือเกิน แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ผมกำจัดเด็กไปแล้ว” มันเป็นเสียงของเหอซวี่
คำพูดของเขาราวกับสายฟ้าฟาด ทำเอาฉันช็อตไปเลย
ฉันไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเลย ที่จริงแล้ว ฉันไม่อยากจะยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริงด้วยซ้ำ ฉันโซเซถอยไปข้างหลัง แทบจะพิงกำแพงประคองตัวเองไว้ไม่อยู่
ฉันกัดหลังมือตัวเอง พยายามประคองสติเอาไว้ ห้ามไม่ให้ตัวเองส่งเสียงอะไรออกมา ถึงจะอยากกรี๊ดร้องมากแค่ไหนก็ตาม แต่ให้ตายสิ ฉันก็กลั้นน้ำตาตัวเองไว้ไม่ได้เลย ฉันกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้อีกแล้วจริง ๆ
ณ ตอนนี้ ฉันถึงได้รู้ว่าทั้งหมดนั้นเป็นกับดักของเขานั่นเอง
ผู้ชายที่ฉันแต่งงานด้วยเป็นเวลาสองปีเต็ม ชายที่คนอื่นเรียกว่าเทพบุตรจำแลงมาเกิด ที่จริงแล้วเป็นมารร้ายที่จุติมาเกิดเป็นคนแทน!
ฉันผิดไปแล้ว ฉันคิดผิดแล้วจริง ๆ ฉันไม่น่าหลอกตัวเองให้เชื่อใจเขาเลย
ฉันกลับเข้านอนด้วยความกลัวและตื่นตระหนก และแกล้งทำเป็นหลับสนิทบนเตียง
เพราะฉันรู้ดีว่าตอนนี้ ฉันไม่มีเรี่ยวแรงที่จะไปสู้กับเข้าอย่างต่อหน้าต่อตาได้
ผ่านไปครู่หนึ่ง เหอซวี่ก็เข้ามาในห้อง เขาเดินเข้าไกล้ฉัน เมื่อเห็นว่าฉันหลับสนิทแล้ว จึงหันหลังเดินจากไป
พอเขาเดินออกจากห้อง ฉันก็รีบลงจากเตียงทันที รีบวิ่งไปที่หน้าต่างเพื่อมองออกไปข้างนอก
เรือนร่างของเหอซวี่ค่อย ๆ หายไปกับความมืดยามค่ำคืน ทว่าถุงพลาสติกสีดำที่เขาถืออยู่ในมือเขากลับดึงดูดความสนใจของฉันเป็นอย่างมาก
ฉันจึงเดินตามเขาไปด้วยเพราะสังหรณ์ว่า ต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นอีกแน่ ๆ ...