การแต่งงานที่ไม่คาดคิดของฉันกับ CEO
ฉันรู้สึกว่า สิ่งที่อยู่ในนั้นคือลูกฉัน!
ขณะนี้หัวใจของฉันเหมือนถูกบีบ จนฉันแทบหายใจไม่ออก
เมื่อเขาเดินไปไกลแล้ว ฉันก็รีบหยิบโทรศัพท์แล้ววิ่งออกไป โดยไม่ได้สนใจสภาพร่างกายที่เพิ่งจะแท้งลูกไป
ฉันไม่รู้ควรจะไปทางไหนดี ทำได้แต่วิ่งไปอย่างไร้จุดหมายตามเส้นทางที่ตัดผ่านไร่นาที่อยู่นอกประตู
ฉันรู้แต่ว่า ฉันต้องหนี ต้องหนีไปให้ไกลจากมารร้ายตัวนั้นให้มากที่สุด
แต่ฉันก็กลัวมาก ฉันกลัวว่า เหอซวี่จะไล่ตามฉันมา ถ้าเขารู้ว่า ฉันหายไป
ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรขอความช่วยเหลือจากใครสักคน แต่ก็คิดไม่ออกว่า จะโทรหาใครได้ ณ ตอนนี้ แบตเตอร์รื่ในโทรศัพท์ก็ใกล้จะหมดอยู่แล้ว ฉันต้องรีบตัดสินใจ ในที่สุด ฉันโทรออกไปหาหลีโลว่
หลังเสียงโทรศัพท์รอรับสายดังอยู่สักพัก ฉันได้ยินเสียงที่แหบแห้งเล็กน้อยของเพื่อนรักหลีโลว่ที่ปลายสาย ฟังแล้วเหมือนเขายังไม่ได้ตื่น
“เสี่ยวหยวู ใช่มั้ยนั่น?”
“โลว่โลว่จ๊ะ ฉัน…เอ๋”
เพราะทางเดินในไร่นั้นแคบเหลือเกิน ฉันจึงเผลอตกไปในทุ่ง จนเนื้อตัวเปรอะเปื้อนด้วยโคลนเต็มไปหมด
ฉันลุกขึ้นจากท้องไร่อย่างระมัดระวัง ประกฏว่า รองเท้าของฉันหายไป และโทรศัพท์ของฉันก็ดับไปเสียแล้ว ฉันวิ่งต่อไปด้วยเท้าเปล่าเท่าที่วิ่งได้ ทว่าเลือดอุ่นๆ ของฉันกำลังไหลลงมาตามต้นขาปนไปกับโคลน
ฉันวิ่งไปถึงถนนสายหลักด้วยความยากลำบาก เมื่อวิ่งผ่านร้านอาหารที่เราทานอาหารกันตอนกลางวัน ฉันก็ได้รู้ว่า ฉันมาถูกทางแล้ว
จากนั้น ฉันก็วิ่งออกจากเขตท่องเที่ยว จนมาถึงริมถนนทางหลวง ฉันเดินไปตามถนนที่คดเคี้ยวตามภูเขา ฉันไม่กล้าหยุดเดิน จนรู้สึกว่า ขาของตัวเองเริ่มชาแล้ว
รอยเท้าของฉันที่เหยียบลงไปถนนลาดยางที่คดเคี้ยวนั้น กำลังบอกเล่าเรื่องราวอันน่าเจ็บปวดของฉันอย่างเงียบ ๆ
สายลมฤดูร้อนอันอบอุ่นที่พัดผ่าน ฉันกลับรู้สึกหนาวสะท้านทั้งภายในและภายนอก
ในที่สุด ฉันก็หยุดเดินเมื่อลงเขาไปได้ครึ่งทาง ฉันรู้สึกสิ้นหวังอย่างยิ่ง เมื่อจ้องมองไปที่ความมืดมิดใต้ภูเขาที่ไร้ขอบเขต
ฉันแต่งงานกับเหอซวี่มาสองปีแล้ว แต่ฉันกลับไม่เคยรู้จักธาตุแท้ของเขาแม้แต่น้อย ฉันตาบอด และโง่เง่าแค่ไหนล่ะ? จึงหลงเชื่อใจเขาได้ขนาดนี้?
เพียงคืนเดียว ฉันก็สูญเสียทุกอย่างไป นาทีนี้ ฉันอยากจะกระโดดลงจากหน้าผาเพื่อยุติเรื่องเราที่เจ็บปวดเหล่านี้ แต่ฉันก็นึกถึงคุณแม่ของฉัน
ตอนที่พ่อของฉันเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ แม่ของฉันก็ตกอยู่ในอาการโคม่า ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ มีฉันคนเดียวที่คอยดูแลท่าน ถ้าท่านต้องเสียฉันไป ท่านจะอยู่ได้ยังไง?
แล้วฉันยังคิดถึงผู้มีพระคุณคนนั้น เขาชื่อว่า “ไห่โอว“ เขาคอยสนับสนุนค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ฉัน และเขายังติดต่อมาให้กำลังใจผ่านทางวอตส์แอปป์อยู่เสมอ เขาคอยชี้แนะฉันอยู่บ่อยครั้ง จนฉันสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่คอยให้ไออุ่นแก่ฉันจวบจนฉันเติบใหญ่
ถ้าฉันต้องตายแบบนี้ ความทุ่มเททั้งหมดของเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็จะสูญเปล่า ไม่ใช่หรือ? ฉันยังไม่มีโอกาสได้เจอเขาและขอบคุณเขาต่อหน้าเลย อันที่จริงแล้ว ฉันก็ยังไม่รู้จักชื่อจริงของเขาด้วยซ้ำ
คนเราเกิดมามีแค้นต้องชำระ มีบุญคุณที่ต้องทดแทน ฉันไม่เพียงยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ แต่ยังมีความแค้นที่ต้องคิดบัญชีกับคนที่สร้างความเจ็บปวดในชีวิตให้ฉันอีกด้วย
ทำไมจู่ ๆ เหอซวี่ถึงกลายเป็นคนไร้มนุษยธรรมได้ขนาดนี้ สุดท้ายฉันก็เลือกที่จะไม่กระโดดลงจากหน้าผา เพราะฉันต้องอยู่คิดบัญชีกับเขาให้ได้
กระทั่งหลายปีต่อมา ฉันไม่เคยเสียใจ ที่ฉันเลือกใช้เหตุผล และความกล้าหาญ
ในเมื่อฉันเลือกที่จะอยู่ต่อ ฉันก็จะต้องมีชีวิตที่ดี ฉันจะต้องไม่เป็นวิญญาณพยาบาท คอยเฝ้าหุบเขาแห่งนี้ไปชั่วนิรันดร์ ฉันจะต้องรีบหาทางกลับเข้าเมืองให้ได้ ฉันต้องยอมรับ และเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชั่วข้ามคืนให้ได้
กลางดึกบนเขาแบบนี้จะมีรถแท็กซี่ที่ไหนผ่านมา
แต่แล้วก็มีรถวิ่งสวนออกมาจากจุดท่องเที่ยว ไฟหน้ารถที่ส่องมาตกกระทบร่างฉัน คงจะทำให้ฉันไม่หน้ามองนัก
ฉันยอมทิ้งศักดิ์ศรี ยื่นมือออกไปโบกรถทันที ผู้คนที่อยู่ในรถพากันมองฉันอย่างเยียดหยัน และหัวเราะขำออกมา จากนั้น พวกเขาก็ขับรถจากไปพร้อมกับเสียงเพลงร็อกแอนด์โรลที่ดังกระหึ่ม ไม่มีรถคันไหนยอมจอดเพื่อช่วยฉันเลย
บางทีพวกเขาคงคิดว่า ฉันเป็นพวกขอทาน หรือคนเร่ร่อนข้างถนน หรือไม่ก็เห็นฉันเป็นคนบ้าวิกลจริต ที่น่ารังเกียจ
หลังจากที่ผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันก็ตัดสินใจที่จะลองเสี่ยง
ฉันยืนพิงอยู่ที่หน้าผาตรงหัวมุมทางลงเขาเพื่อรอจังหวะ ทันทีที่เห็นแสงไฟรถสาดส่องมา ฉันรีบวิ่งออกไปกลางถนน โดยไม่คิดลังเลอะไร