เสน่หากุมภัณฑ์ (ภาคเสริม แก้วอสุรา)
ที
ทันใด ออกปากไล่บรรดาข้าราชบริพารออกไป สั่งห้ามให้ผู้ใดย่างกรายเข้ามาด้วยเกรงว่าจะได้ยินสิ่ง
ู้เรื่องตั้งแต
่บนพื้นเบื้องล่างเหลือบมององค์ยุพราชที่บัดนี้
องค์วรรศเสด็จออกจ
าบคาย ตั้งสติได้ก็ถามอีก “เป็นเช่นนั้
องค์ไอศูรย์ก็ยังมิอาจเข้าไปบ
่วของไอศูรย์นั้นทำให้วิรัลย์โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ถึง
ป็นยักษ์บ้านแตกสาแ
จ้าศวร
ใด ทว่าก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ก่
บรมที่เวรุฬาแล้วพ่ะย่ะค่ะ จนกว่าจะ
าขึ้นดอยไปอยู่อย่างทุรกันดาร
ล้วกระมังที่ย
ราะไม่ว่าอย่างไรไอศูรย์จะต้องหาทางง้องอนวิรัลย์จนได้ เจ้าศวรรย์ที่ถูกส่งไปยังเวรุฬาเองก็หาได้ลำบาก เพราะที่นั่นก็เป็นบ้านเกิด
่งใดบ้างหรือไม่ เช่นให้มาล
ชะตากรรมของต
ืด รีบทูลให้คลา
าได้ตรัสสั่งส
็หมายความว
งค์วรรศกลับ คงเป็นเพราะไว้หน้าสราลีและปรมะ การลงโท
าได้ช่วยให้สถา
บิดาเท่าไรนัก แต่ก็ต้องยอมจำนนกับข้อเท็จจริงนั้น
องไม่เหลือซากแน่ รู้เช่นนี้แล้ว ข
ยวายออกไป การิตรีบป
ิพ่ะย่ะค่ะ เรื่องเช่นน
มีแผ
นายจะใจฝ่อ การิตจึงได้แต่พยัก
ยเย็นก่อนเถิด ลงประทับตามเดิมแ
้ว เพราะต่อให้เจ้าเล่ห์เพทุบาย เอาตัวรอดได้เก่งกาจเพีย
จากแดนไกลเต็มสองรูหูเพราะเขาตั้งใจที่จะมาขอโทษขอโพยอีกฝ่ายที่ทางสราลีได้ไปหลอกลวงไว้ ครั้นเห็นเหล่าข้าราชบริพารออกมานอกตำหนักก็หาได้ใส
งโกรธไป เพราะอย่างไรเสีย เข
ะมาได้ยินเรื่องที่ไ
ก ลำคอแห้งผากราวกับมีเศษผงติดอยู่ ก้อ
งค์ศวรรย์ หากแต่เป็นอง
งค์ยุพราชแล้ว ยังมีนิสัยร้ายกาจ กลั่นแกล้งผู้อื่นให้ปวดเศียรเวียนเกล้าไปทั่ว เรียกได้ว่าเป็นองค์ยุ
่องนี้ไปกราบ
ิดแต่เพีย
สราลีหลอกลวง ปรมะเองก็
บก็เซไปชนเข้ากับโต๊ะตัวเล็กซึ่งมีแจกันทองประดับดอกไม้ตั้งอยู่ จะคว้าก็คว้ามิอาจทัน แจกันร่วงหล่นสู่พื้น ส่งเสี
ุง
ลอบฟังพ่
านั้นก็เห็นองค์นวินทำท่างกๆ เงิ่นๆ อยู่ด้านหน้า เมื่อเหลียวกลับมามองตามเสียงบานทวาร
ยุพรา
บลงฝัก หลีกทางให้เจ้าว
บฟัง ที่แท้ก็เจ้านั
ไรเล่าว่าไม่
เสียวสันหลังวาบไปทั่วทุกอณูแล้ว ถูกจ
ายจะหนี แต่ก็มิอาจสู้ความว่องไวของเจ้
อบฟังแล้ว ข้าจะปล่อยใ
ยิ่งหันมาเห็นรอยยิ้มเย็นของเจ้าวรรศแล้ว
งตำหนัก มี
องค์นวินส่งเสียง
้าหาใช่อ
แต่เจ้าวรรศกลั
วอย่
ฝดผู้พี่ ปะ...เป็นองค์ยุพราชแห
กฝ่ายที่เอาแต่ก้มหน้า
วอย่างไร เจ
็จพ่อจะต้องทรงกริ้วแน่ท
หรอก ได้แต่คิดในใจ ปล
วีความสั่นเทามากขึ้นไปอีกเมื่ออีกฝ่ายโน
่นล่วงรู้สิ ข้ารับประกันว่าแผ่นดินสราลีจะไ
ถึงเพียงนี้ เหตุใดเสด็จพ่อถึงได้อยากดอ
่ในใจ ขณะเดียวกันก็เข้า
ื่องนี้กั
เขลาถึงจะไม่รู้เรื่องนี้ ก่อนที่เจ้าวรรศจะขยายคว
ะตากหากไม่อยากให้แคว้นของเจ้าและข้าบาดหมางกัน สราลีจะ
นตนเองแท้ๆ แต่กลับถูกอาคันตุกะกดขี่ข่มเหงเช่นนี้ มันช่างน่าอนาถนัก แต่ก็เอาเถิด ในเมื่อเป็
างเขา
ในเพลานี้ พลันอ
่งพรายความลับนี้ให้ผู้ใดล่วงรู้ เจ้าจ
ะไ
นั่นแล้ว เจ้าวรรศก็นึกอยากรู้ขึ้นมา องค์นวิน
ม่กล้าเอ่ยพูดสิ่งที่อยู่ในใจออก
งใดก็จ
กิน องค์นวินสะดุ้งแ
สั่งให้มาเกี
ห
่อนจะหัวเราะขบขันกับท่าทางขององค์นวินเมื่อรู้สึกตัวก็รีบเก็
ะรึจะเกี้ยวพ
ต่อให้ไม่ใช่เจ้าวรรศก็มิอาจท
ม่ให้ข้าถูกตำหนิว่าเป็นองค์ยุพราชที่ไม่เอาไหน อย่างไรเสีย เจ้า
ยบร้อยแล้วด้วยว่าหากให้เจ้าวรรศแสร้งทำทีเป็นมีใจป
่า
่องอะไรที่ข
ักษ์กักขฬะที่เชิดหน้าลอ
..ก็
์นวินก็อับจนคำพูด ได้แต่เอ่ยไปเท่านั้นแล้วก็เงียบงันไป สีหน
ข็งค้างเป็นศิลาแลง แต่ก็หาได้น่าชิงชัง ออกจะน่ารักน่าทะนุถนอมราวกับลูกสัต
ก็นึกสนุกขึ้นมา แส
ก็จะเก็บเรื่องที่สราลีหลอกลวงไว้เป็นความลับจากบรรดาเสด็จ
ตาเบิกโตเป็นเชิงถามว่า ‘จริงรึ’
ีเงื่
ขององค์นวินหม่นแสงล
อนไขก
เล่ห์ผุดพราย ยื่นมือไปจับปลายคางมนข
วี่วันจนกว่าจะครบสามเดือน ไม่
ว่าจะช่วย ไยเขาจะต้อ
ะทำสิ่งใดเลย และหากจู่ๆ ข้าแสร้งมีใจปฏิพัทธ์ให้เจ้
อย่างรู้ทัน องค์
ม่มีผู้ใดเชื่อว่าเจ้าวรรศมีใจปฏิพัทธ์ นึกนับถือในความฉลาดเฉลียว ไหวพริบป
ะทำตามนั้น ข้าก็ว่าดี แค่คิด
อยยิ้มกว้างราวกับบุษบาแรกแย้ม ครั้
มื่อคลี่ยิ้มแล้วไซร้...ราวกับฟ
ืนสติก็ตอนที่ก
งปล่อยองค์นวินเถิดพ่ะย่ะค่
เห็นว่าเป็นดั่งที่การิตว่าก็รีบปล่อยมือออก องค์น
บบางยิ
คิดแต่อยากจะรังแกอีกฝ่ายให้ร่ำไห้ไม่หยุดหย่อน มิหนำซ้
ีบมาหาข้าที่นี่ อย่าชักช้าโอ้เอ้
สุราตรงหน้านิสัยดีได้ประเดี๋ยวเ
หาว ข้าอายุม
ึมพำเสียงแผ่ว “อืม...ขะ
่งใดอยู่ ไปได้แล้
จากนอกตำหนัก แต่ก็มิวายชนข้าวของให้หล่นกระจัดกระจายเป็นที่ช
ียงนี้ ไม่เหมาะสมเป็น
สงสัยคงต้องได้รับการอบรมสอนส
ลั่งน้ำตาเลยทีเดี