ปล้นหัวใจจอมเถื่อน
นท
เดียวแม่ก็หายแล้วจ้ะ” เพียงเห็นนางพรพรรณที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ บุษกรก็โถมตัวเข้ากอ
ใจยังเต้นอยู่หรือเปล่าแทบจะไม่ได้ยิน ไร้เรี่ยวแรงกระทั่งยกมือขึ้นลูบผมบนศีรษะบุษกรก็ไม่ได้ น้ำตาเอ่อล้นคลอหน่วยตา
ำอะไรมา
ๆ ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้ายับย่นและขะมุกขะมอมเหมือนกับไปฟัดกับหมาที่ไหนมา อีกทั้งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งลอยโชยมาเป็นระลอก ทำเอาร่
ว..
ต้น ได้ยินเสียงนุ่มหวานเป็นเครื่องยืนยันว่าแม่ยังมีชีวิตอยู่ บุษกรยันกายลุกขึ้นนั่ง
างานทำม
ขะมุกขะมอมแบบนี้ละลูก เหมือน
มแหยง ๆ เธอยกมือขึ้นดมว่ามีกลิ่นหรืออะไรผิดปรกติหรือเปล่า ก่อนจะก้มลงมองดูตามร่างกาย หญิงสาวถึงกับตกตะลึงตาเบิกกว้าง เมื
ิง ๆ จ้ะ” บุษกรนวดแขนเรียวออดอ
้ ก็เลยวิ่งเข้าไปช่วย เผอิญคนร้ายมันดวงซวยนะจ๊ะ เผลอล้มลงไปกระแทกเข้ากับอะไรไม่รู้ เลือดไหลออกมาแดงไปหมดเ
กหกสักนิดเดียวเลยจ้ะ” บุษกรผงก
พท์ความร้ายกาจของลูกสาวเพื่อนคนนี้ดีว่า เป็นคนไม่ยอมคน ใครร้ายมาก็ร้ายตอบและจิกกัดไม่ปล่อย แต่ในเมื่อไม่มีหลักฐาน อีกท
บุญธรรมก็ทำเพียงแค่รับปากส่ง ๆ ไป พอลับหลังก็ยังชอบไปเรื่องกับพวกนักเลงหัวไม้ที่ขับมอเตอร์ไซด์รับจ้
พรพรรณอยู่ พลางผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าแม่ไม่สงสัยในเรื่องที่เธอไปทำมา ไม่อยาก
ไหมล่ะ” พรพร
.มีแต่คนอื่นนั่นแหละที่คอยมาหาเรื่องบัว” บุกษรเถียง ถ้าขืนยังเถียงอยู่แบบ
แม่เป็นโรคอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้ป่วยไม่ยอ
บให้รอถามคุณหมอในตอนเช้า แม้จะไม่พอใจกับคำตอบที่ได้รับสักเท่าไหร่ แต่บ
พยาบาลแห่งนี้รองรับทั้งแขกฝรั่งที่มาท่องเที่ยวและชาวบ้านทั่วไป จึงมีการดูแลเรื่องความปลอดภัยของคนไข้และคน
มาเพื่อเฝ้าดูแลแม่พรพรรณในยามค่ำคืนด
ล้วว่าแม่พรพรรณเริ่มป่วยตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้เพียงแต่ว่ามีเหตุให้ต้องเข้
่แค่สำลักและไอติด ๆ กันแค่ไม่กี่ที ก็คิดว่าอาการป่วยกำเริบ เลยรีบพามาส่งโรงพยาบาล เปลืองเงินเปลือ
นูไปอีกนาน บัวไม่
แก้มยุ้ยเป็นสีแดงเหมือนผลชมพูไปให้กับพ่อและย่าแท้ ๆ ของแกเลี้ยงดู แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ผู้เป็นแม่ของบุษกรได้
น...มีหลานให้แม่เลี
ู่ทุกวินาที ถ้าไม่รับการรักษาด้วยยาและหมอเฉพาะทาง ตีความจากคำพูดของหมอที่ทำการรักษาก็เป็นไปได้ว่
บาลได้เมื่อไหร่ บัวจะให้แม่พักผ่อนอยู่บ้าน ไม่ต้องไปขายส้มตำอีกแล้วล
..จะต้องอยู่กั
อาไว้ จนไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลารักษาตัวไปอีกนานแค่ไหน เพราะเธอแท้ ๆ ที่ทำใ