อะไรนะ! เจ้าอยากเป็นเซียนอย่างงั้นเหรอ!?
่างก็ต้องรู้สึกอยากเดินเข้าไปกอดให้รู้แล้วรู้รอด จื่อหมิงเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ที่แม้แต่ผู้ใหญ่ในหมู่บ้านยังต้องตกตะลึง จื่อหมิงนั้นวิ่งได้เร็วมา
ิ่งที่จื่อหมิงปราถนาที่สุดคือการได้เข้าป่าไปฝึกล่าสัตว์กับท่านพ่อและพี่ใหญ่เพื่อจะได้ลงสมัครในเทศกา
ในหมู่บ้านต่างลงมติกันให้จัดเทศกาลล่าสัตว์ประจำปีของหมู่บ้
นเข้าสุดท้ายหวังสยงผู้เป็นบิดาก็ใจอ่อนยอมพาไปด้วย ตลอดทางที่เข้าป่าจื่อหมิงจะเลียนแ
ละสัตว์อสูรจากท่านพ่อและพี่ใหญ่มาพอสมควร จื่อหมิงตัดสิ
็พร้อม หึหึหึ วันนี้แหละข้าจะทำให้ท่านพ่อท่านแม่ภูมิใจ"จื่อหมิง
วกเราจะไปกันแล้วนะ" พี่ใหญ่ที่รอ
งกับดักตามจุดต่างๆเรียบร้อยแล้ว สองพี่น้องก็เดินหาเก็บของป่าไปเรื่อยๆ "วันนี้เราโชคดีแล้ว!! มีรังผึ้งป่าอยู่ใกล้ๆนี้"อยู่ๆพี่ใหญ่ก็โพล่งขึ้นหลังจากเงี่ยหูฟังเสียงจากรอบๆ หลังจากตามหารังผึ้งจนพบพี่ใหญ่ก็ให้จื่อหมิงออกไปวิ่งเล่นห่างๆก่อนเพราะการเก็บน้ำผึ
วน้อยที่ตนตามแกะรอยนั้นได้นอนตายอยู่ตรงหน้า แต่เพื่อความมั่นใจเขาจึงเดินเข้าไปดูซากสัตว์ที่พบว่าเป็นฝีมือของสัตว์ร้ายชนิดใด เมื่อจื่อหมิงพลิกซากสัตว์ดู เขาถึงกับหน้าซีด ขนลุก เหงื่อแตกโทรมกาย แผ่นหลังเย็นเฉียบ ที่ซากสัตว
บบนั้นมันเป็นวิธีการกินอาหารของอสูรร้ายที่ชื่อว่า ตัวกินสมอง เท่านั้นยังไงล่ะ และต่อให้เป็นข้าหรือท่าน
ีแดงฉานสองดวงขนาดเท่าลูกตระกร้อในพุ่มไม้ด้านขวามือที่ห่างออกไปประมาณ 10 จั้ง ทันทีที่จื่อหมิงสบสายตากับดวงไฟยักษ์นั้น สัญชาตญาณในการเอ
ุดที่จื่อหมิงเคยอยู่ก็คำรามเดือดดาลเพราะไม่พบตัวเหยื่อที่มันหมายตา เงาร่างสีเขียวรีบหันซ้ายหันขวามองหาเหยื่อที่พึ่งหลบหนีไปทันที เมื่อพบก
ต่อย่างไร เขารีบเร่งฝีเท่าขึ้นอีก ในใจก็ลอบบ่นโอดควรญ "นี่มันวั
างห้ามไม่ได้ เขารู้ดีว่าถ้าเขาหันหลังกลับไปมองหรือหยุดวิ่งเมื่อไหร่ความตายจะมายืนเขาทันที เขาทำได้เพียงทำในสิ่
*************
ไปหน่อยนะครับ แต่ผมขอรับประกันว่าจะจัด