icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon

Deva Or Devil เทวามาร

บทที่ 2 ข่าวลือ

จำนวนคำ:5981    |    อัปเดตเมื่อ:09/04/2022

เป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ ?" หนึ่งในชายฉกรรจ์บนโต๊ะอาหารถอนห

ในความดูแลของท่านคามาร์ก็ถูกขโมยหายไป" ชายที่นั่งข้าง

่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเอ่ยลากเสียงย

กาฬอยู่ด้วย อย่าว่าแต่เป็นไปได้ยากเลย ข้าว่าไม่มีทางเป็นไปได้เสียมากกว่า จะมีผู้ใดกล้าบุกเข้าเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ การคุ้มกั

ยู่จริง ๆ หรือ ?" ชายคนแรกที่กล่าวเปิดเรื่องหันไปหาแนว

ด้เห็นเป็นบุญตาสักครั้ง" ว่าเสร็จก็ตักข้า

ดในกลุ่มเอ่ยปากบ้าง เขาใช้ตะเกียบคีบเศษผักที่เหลืออยู่บนจานตรงหน้าส่งมันเข้าปาก เคี้ยวชิมรสช้า ๆ โดยไม่ได้สนใจสายตาใ

ยเร่ง วางช้อนในมือลง จดจ่อใบหน้าขอ

ละคนที่กำลังจ้องเขา แล้

มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ามั่นใจนัก" กล่าวเสร็จเขาค่อย ๆ โน

ากาฬกลับมามีพลังอำน

ีหน้าตกใจในทันที บางคนลอบกลืนน้ำลาย บางคนมือไม้อ่อนจ

นี้ต่างรู้กันดีว่าลุงของเขาทำงานเป็นทหารประจำหน่วยอยู่ที่หมู่บ

กำลังเป็นที่จับตามองของประชาชนชาวไซโดเวีย ไม่มีใครรู้แน่ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นที่แดนสรวงโสม แต่หากเลือกได้พวกเขายอมให้ศิลากาฬถูกข

์ตาเล็กลงโน้มหน้าเข้ามาใกล้คนในวงสนทนามากขึ้นกว่าเดิม แล้วกระซิบถามว่า "บุตรเทพแ

นโต๊ะอาหารต่างต้องสะดุ้งตกใจเมื่อมีหน

สั่งการศิลากาฬให้หวนคืนสู่พลังได้ นอกจากมัน...

่งค่อนวัน ชาวบ้านทั่วทั้งแคว้นต่างหวั่นวิตกเกี่ยวกับข่าวลือของศิลากาฬหรือหินแห่งความตายที่เก็บรักษาไว้ ณ แดนสรวงโสม ถู

ังอำนาจศิลากาฬให้หวนคืนอย่างที่ไม่เกรงกลัวผู้ใด แม้แต่ผู้เฝ้ารักษาที่สืบสา

มยเอาศิลากาฬก่อนจะใช้มันทำลายทวิรมนตราแล้วหายเข้ากลีบเมฆเพื่อรอวันฟื้นคืนพลังเ

ูกกล่าวหาว่าเป็น ‘หัวขโมย’ ครั้นจะตามหาตัวหัวขโมยเพื่อสอบถามความจริงให้กร

่อหน่ายกับคำกล่าวอ้างและเรื่องราวอันไ

ิ้งไว้ตามทางเดินเพื่อรอให้ผู้ใดพบเห็นแล้วหยิบฉวยติดมือกลับบ้าน เพราะนอกจากมันจะถูกเก็บรักษาไว้ในห้องลับ มันยังถ

ริงผ่านสองหู แต่เป็นเพราะเขาเองก็เป็นหนึ่งใน ‘ผู้หลงผิด’ ที่คิดขโมยศิลากาฬมาแล้วครั้ง

ับการศึกษาและเตรียมพร้อมขึ้นเป็นประมุขแห่งหัวเมืองใหญ่ซีซาน เช่นเดียวกับเด็กคนอื่น ๆ อีกเกือบหกสิบคนท

็กที่อายุน้อยที่สุดในรุ่น แต่เขากลับถูกมองว่าทำตัว ‘เด

ย่างที่ถูกกล่าวหา เขาจึงหาทางเอาชนะผู้นำรุ่นอย่างคิเฮย์ คาน

ละยังต้องบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวมร่วมกับผู้นำรุ่นด้วยการออกล่าปีศาจ กำจัดหมู่มาร ก่อน

รงนี้ ก็พาลให้ซ

นนี้เจ้าตัวจะปั้นสีหน้ายังไง เมื่อรู้ว่าศิลากาฬที่พยายามเฝ้ารักษาดั

้าไร้สภาวะอารมณ์ที่เหมือนแท่นหินสลักชื่อบรรพบุรุษหน้าหลุ

ขวักไขว่ไปมากลางท้องถนนของเขตหัวเมืองใหญ่แห่งซีซาน ที่ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ว่าจะพบเจอคนผู้นี้ที่นี่ ไม่รู้แน่ว่ามีเหตุอันใด แต่ภ

ตนาการจะมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ เพื่อความแน่ใจเขาจึงค่อย ๆ หั

ซาเรย์ถึงกับสะดุ้งตกใจ หันใบหน้ากลับมาเมื่อมั่นใจแล้วว่าชายผู้นั้นค

อย่างใช้ความคิด ก่อนกระตุกยิ้มมุม

อไม่ เพราะถึงแม้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและคิเฮย์จะเป็นไปได้ไม่ดีนักระ

เปื้อนฝุ่นของตนให้ดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำ

นเองเรียบร้อยแล้ว ก่อนเห็นแผ่นหลังกว้าง

ยรองคา

ังไม่ทันได้หันกลับไปตามเสียงเรียก ก็พบเข้ากับใ

ทที่ควรทำ เขาเพียงแค่หยุดเดิน ปรายหางตามองไปยังบุรุษที่เดินขึ้นมาขวางหน้า

เรียก หากแต่เป็นเสียงอันเคยคุ้นที่ไม่คาดคิดว่

ี่ไม่ควรจะยุ่งยากเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ฉะนั้นตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเขาจ

‘หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว’ ดังนั้นเขาจึงยังคงวิ่งตามร

ืบเท้าเดินขึ้นมาเทียบไหล่ชายหนุ่ม

ไม่บอกข้าก่อนล่ะ ข้

้างความหงุดหงิดใจหรือรู้สึกไร้ตัวตนสำหรับคนอย่างซาเรย์ เขายังคงพูดนั้น ถา

ไง หนักกว่านี้จากคิเฮย์

เดินแล้วหันหน้าหลุบนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนลง มองไปยังชายหนุ่มผมดำร่างเล็กเพี

ระโยคคำถามไปเสียสิ้น ก่อนจะค่อย ๆ

ักษรบนป้ายเบา ๆ ก่อนจะมุ่นหัวค

ตัวอีกทีคิเฮย์ก็เดินเลยผ่านเขา ข้ามซุ้มประตูเข

หนึ่งในผู้นำสี่ตระกูลใหญ่ของแคว้นไซโดเวีย เขาปกครองเมืองรองทั้งหมด 21 เมือง จัดการงานด้านการศ

จำ เขามุ่งหน้าไปยังตึกไม้หลังใหญ่สองชั้นที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางตำหนักน้อยใหญ่หลายหลัง แต่เมื่อมาถึงตีนบ

้กันนั้นยังมีสระบัวขนาดย่อมที่เป็นแหล่งกำเนิดของบัวหลายสายพันธุ์ให้ได้ชม ซึ่งในยามเที่ยงเช่นนี

ุมสีครีมเข้มเดินเลยผ่านทางมา จึงต่างพากันลุกขึ้นยืนทำคว

ศิษย์เหล่านั้นได้พอประมาณ เขาจึงหยุดเดิน หลับตาสูดกลิ่นอายของธรรมชาติเข

นจำต้องทำให้เขาลืมตาขึ้น กวาดนัยน์ตาสีน้ำตา

ังต้นไม้ใหญ่ เมื่อเห็นสายตาคู่สีดำนิลกำลังแลซ้า

่ง แต่เมื่อไม่เห็นสิ่งที่ตนกำลังตามหาจึงได้แต่พ่นลมพองแก้มระบาย

แต่อีกใจก็ยังคงรู้สึกระแวง เมื่อนี่ไม่ใช่วิสัยของคนอย่างซาเรย์ โทจิน แต่ใครจะรู้ เจ้าตัวอาจโตเ

ห้เต็มปอดเป็นรอบที่สอง เมื่อเริ่มรู้สึกดีขึ้นจึงก้าวออกจากหลังต้นไม้ใหญ่เพ

ยังตำหนักของประมุขโทจินได้เพียงแค่เสี้ยวนาที ซึ่งนั่นเป็นเรื่องปกติที่เขามักทำ เมื่อต้องมาทำงานหรือประจำการที่นี่ แต่

จากภายใน เขาจึงก้าวเท้าผ่านบานประตูเดินเลยเข้าไปหยุดยืนหน้าโต๊ะไม้ ก่อนโค้งคำนับผู้

ดการกระทำที่อยู่ตรงหน้า เหลือบนัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นขึ้

ี่ซาเรย์ถามถึงก่อนหน้านี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคน

ยู่แล้วเป็นประจำ ในฐานะอาจารย์พิเศษของที่นี่ ต่างจากซาเรย์ผู้เป็นบุตรชายเพียง

่เห็นตัวลูกชายโผล่เข้ามาที่นี่ในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ใช่ว่าเขาจะไม่รู้วีรกรรมของบุตรชายเพียงคนเดียวของตนที่มักสร้าง

มองตอบกลับมาด้วยแววกังวลเล็กน้อย แต่เพียงชั่วครู่ความกังวลนั้นก็ถูกแทนที

็นแววความกังวลภายในดวงตาคู่สีน้ำตาลอ่อนนั้น หากจะให้คาดเดาอารมณ์ของบ

รู้ว่าจะตามหาอะไรก่อนกัน" คำกล่าวนั้นเจือไปด้วยน้ำเสียงแห่

ระเอาไว้หลายอย่างภายใต้ความรับผิดชอบของตระกูลและแคว้น น

่อยก็ดีนะ" โอจุนรู้ดีว่าบุตรชายตนเป็นค

ือลง ถอดแว่นตาทรงกลมวางทับไว้ ผุดลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะทำงานมายังด้านหน้าที่มีโต๊ะอีกตัว

ห่งความอบอุ่นอีกครั้ง "ข้าเองก็ได้ยินข่าวลือเช่นกัน แต่คงไม

ี่อยู่ตรงข้ามโอจุนด้วยท่าทีสำรวม หลังจากนั่งลงแล้วจึงห

่ยกกาน้ำชาขึ้นรินให้ตนเองอีกพร

อย่างไม่เร่งรีบนักก่อนเอ่ย "หากเป็

์ผู้มากความรู้ก็ตามที เพราะการตามหาเทวามารตั้งแต่วันแรกของคำทำนายจวบจน

ถ้วยชาตนออกห่าง แล้วล้วงมือหยิบบางส

ตรงตามสัญชาตญาณของความกลัวที่กำลังก่อตัวขึ้นภายในจิตใจเขา นัยน์ตาสีชาจ้องมองมันราวกับ

้หลุดออกจากปากเขา ด้วยเพราะโอจ

วของศิลากาฬที่ถูกขโมยไปหาใช่เรื่องจริงดั่งคำเล่าลือไม่ เรื่องนี้เขาพอจะรู้อยู่แล

มกลัวหวนคืน อาสภกลั

นิ่งสงบ เย็นยะเยือก แต่ทว่าแข็งกร้าว พูด

มันจับตัวเป็นกลุ่มก้อนสีดำขนาดเล็กเท่ากับผลมะนาวผลหนึ่ง หากแต่ว่ายังค

คู่ มันส่องแสงวาววับหมุนวนสลับสับเปลี่ยนเคลื่อนย้ายตำแหน่งรอยแหว

งหวนคืนสู่อำ

งเข้าหาเส้นขอบของวงล้อม กระจุกรวมตัวกันยังด้านใดด้านหน

ี่มาพร้อมกับความกังวลอย่างไม่อาจปิดบังได้ เขาถอนหายใจเพียงสั้น ๆ

รับกับตนเองอย่างเสียไม่ได้ ว่าในตอนนี้เรื่องที่เกิดขึ้นดูจะรุนแรงกว่าที่เขาคาดการณ์

ีดำเก็บเข้าไว้ภายในอกเสื้อดังเดิม แล้วจึงหยิบถ้วยชาของตนขึ้นจิบ พลางเอ่ยถามเรื่องราวอีกนิดหน่อยจาก

ความหวัง เขาไม่ได้จ้องมองผู้เป็นบิดาหรือบุรุษอีกคนที่นั่งอยู่ภายในห้องนั้น แต

แดงหม่นที่กำลังปรากฏชัดขึ้นค่อย ๆ เลือนลางลงทีละน้อยจนแทบไม่เห็นเค้าลางของตัวอักขระ สร้างความไม่พอใจให้กั

ยบเรื่อย ยืนกอดอกพิงลำต้นแกร่งของต้นไม้ให

วเจอ

นอยู่ที่แดนสรวงโสม คนอย่างคิเฮย์ คานวาเรส ถ้านึกว่าจะหนีซาเ

ตามไปทุกที่ ไม่ว่าจะขึ้นสวรรค์หรือลงแดนปรโลก

เปิดรับโบนัส

เปิด
1 บทที่ 1 บทนำ2 บทที่ 2 ข่าวลือ3 บทที่ 3 ศิลากาฬ4 บทที่ 4 หมู่บ้านกกกลม5 บทที่ 5 ร่องรอย6 บทที่ 6 ปะทะ7 บทที่ 7 พบหน้า8 บทที่ 8 เยียวยารักษา9 บทที่ 9 เขาลมแปร10 บทที่ 10 เทศกาลหวนรำลึก11 บทที่ 11 สุสานร้าง12 บทที่ 12 เทวา-มาร13 บทที่ 13 คัมภีร์อาถรรพ์เวทย์14 บทที่ 14 ต่อรอง15 บทที่ 15 มนตร์(ตรา)มังกร16 บทที่ 16 สาน์สด่วน17 บทที่ 17 มติสภา18 บทที่ 18 ลงทัณฑ์19 บทที่ 19 คู่แค้น20 บทที่ 20 ชอบหรือรัก21 บทที่ 21 คำขอโทษ22 บทที่ 22 ทางเลือก23 บทที่ 23 เซอร์ซีล วูธ24 บทที่ 24 ตามตัว25 บทที่ 25 ผู้ต้องสงสัย26 บทที่ 26 หลบหนี27 บทที่ 27 สัญลักษณ์28 บทที่ 28 เก่าก่อน29 บทที่ 29 จุดเริ่ม30 บทที่ 30 สงคราม31 บทที่ 31 สูญสิ้น32 บทที่ 32 แท้จริง 33 บทที่ 33 เตรียมพร้อม34 บทที่ 34 พิธีกรรม35 บทที่ 35 สามี36 บทที่ 36 เอาอีกได้ไหม37 บทที่ 37 เผยตน38 บทที่ 38 อียาร์39 บทที่ 39 หวนคืน40 บทที่ 40 เผชิญหน้า41 บทที่ 41 พบเจออีกครั้ง42 บทที่ 42 สูญสามานย์43 บทที่ 43 จบเรื่อง44 บทที่ 44 ว่างเปล่า