เจ้าสัวลึกลับกับเจ้าสาวบังเอิญ
เมื่อเห็นเจ้าสาวของเขากำลังขมวดคิ้วอยู่ ลู่เหยี่ยนก็มองตามสายตาของเธอไปที่นาฬิกาของเขา เขานิ่งไปสักพัก ก่อนจะหันไปกระซิบเธอว่า “ของก๊อปน่ะ เพื่อนผมมันขายอยู่แถวตลาดล่าง”
เขาพูดพลางถอดนาฬิกาออก ก่อนจะใส่มันลงไปในกระเป๋าเสื้อของเขา
“เหมือนของจริงจังค่ะ” ชูจี้ยิ้มให้เขา ก่อนจะถอยห่างเขาเล็กน้อย แล้วเอามือขึ้นปิดหูที่ร้อนผ่าวของเธอ
ลู่เหยี่ยนเข้ามาใกล้เธอมาก จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของเขา
คิดไปคิดมา คนที่หากินไปวัน ๆ อย่างเขา จะรู้จักเพื่อนพ้องที่ขายของก๊อปเกรดเอก็คงจะเป็นเรื่องปกติ
ดีที่นาฬิกาเป็นของปลอม เมื่อกี้เธอคิดว่าลู่เหยี่ยนไปทำอะไรที่ผิดกฎหมายมา ถึงได้มีเงินซื้อของหรู ๆ แบบนี้ได้
ลู่เหยี่ยนหรี่ตาลง เขาได้ยินมาว่าลูกสาวตระกูลหลิน เปลี่ยนแฟนแทบจะทุกเดือน และเธอมักจะออกไปเที่ยวกลางคืนบ่อย ๆ ทั้งยังควงคนโน้นคนนี้ไม่ซ้ำหน้า ทำไมตอนนี้ดูขี้อายขึ้นมาล่ะ?
“ไหน ๆ เจ้าบ่าวก็มาแล้ว ทำไมงานแต่งงานยังไม่เริ่มอีกล่ะ?” เสียงหวาน ๆ ดังแว่วมาแต่ไกล
ชูเสวควงแฟนหนุ่มเดินเข้ามา แล้วยิ้มให้พวกเขา “ในเมื่อเจ้าบ่าวมาแล้ว ฉันขอแนะนำให้พวกคุณรู้จักกับแฟนฉันหน่อยนะคะ เขาชื่อจือหยวน เป็นลูกชายคนโตของตระกูลโจวค่ะ เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว อนาคตถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกพวกเราได้นะคะ”
จือหยวนก้มหน้าเพราะไม่กล้าสบตากับชูจี้
ชูจี้ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ที่เห็นจือหยวนมากับน้องสาวของเธอ เธอเลยแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเขาและพูดเบา ๆ ว่า “ค่ะ เราควรจะรู้จักกันสักหน่อย แต่ดูเหมือนอาทิตย์ที่แล้ว น้องเขยฉันไม่ได้หน้าตาแบบนี้หนิคะ
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของจือหยวนก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
ชูเสวยิ้มเจือน ๆ แล้วหันไปถลึงตาใส่ชูจี้ ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องทันที “ถ้าไม่รังเกียจ ฉันช่วยฝากงานให้คุณลู่เหยี่ยน เข้าทำงานที่บริษัทของจือหยวนได้นะคะ ถ้าไม่ถนัดงานด้านเทคนิด ไปทำงานบริการแทนก็ได้ค่ะ อย่างงานทำความสะอาด กวาดพื้นถูพื้น อะไรประมาณนี้ ถึงยังไงซะได้ทำงานในออฟฟิศก็ยังดีกว่าออกไปตะลอน ๆ ทำงานข้างนอกนะคะ”
ชูจี้เลือบไปมองลู่เหยี่ยนอย่างเป็นห่วง น่าแปลกที่เขาไม่มีทีท่าสะทกสะท้านกับคำดูถูกเหยียดหยามพวกนี้เลย เขาเพียงแค่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไม่รบกวนดีกว่าครับ ผมชอบทำงานข้างนอกมากกว่า นั่งอยู่ในออฟฟิศทั้งวันคงเมื่อยตูดแย่”
พอทุกอย่างไม่เป็นไปตามคาด ชูเสวก็ควงแขนจือหยวนกลับไปนั่งที่อย่างโกรธ ๆ
พอบาทหลวงมาถึง งานแต่งงานก็จบลง
ลู่เหยี่ยนพาชูจี้กลับไปที่บ้านหลังเล็ก ๆ ในเขตชานเมือง
บ้านนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก ค่อนข้างเก่า ภายในนั้นตกแต่งอย่างเรียบง่าย ผนังของบ้านดูทรุดโทรมมาก มีเพียงของบางอย่างที่ดูเหมือนเพิ่งจะนำมาวางไว้สำหรับการแต่งงาน ลู่เหยี่ยนเป็นคนตัวสูง พอเขาเข้ามาในพื้นที่แคบ ๆ นี้ ก็ยิ่งทำให้บ้านหลังนี้ดูแคบเข้าไปอีก
ความรู้สึกแรกของชูจี้คือ ลู่เหยี่ยนนั้นจนมากจริง ๆ
“นี่คือบ้านของผม คุณทนอยู่ไปก่อนนะ” ลู่เหยี่ยนพูดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติมาก ไม่ได้รู้สึกประหม่าอะไรเลย
“มันเล็กไปหน่อย แต่ก็สะอาดดี อยู่กันสองคนได้พอดีเลยค่ะ”
ชูจี้พูดความจริง ถ้ามองดี ๆ จะรู้ว่า ถึงแม้ว่าบ้านจะดูทรุดโทรมแต่ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี บริเวณลานบ้าน และภายในตัวบ้านนั้นค่อนข้างสะอาดมาก ไม่ได้ดูรกร้างเลย แต่มันดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวา เหมือนไม่ค่อยมีคนอยู่
ชูจี้มองไปรอบ ๆ เธอเห็นลู่เหยี่ยนถอดเสื้อสูทออกพาดไว้บนเก้าอี้ไม้ และกำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาออก จากมุมนี้ทำให้เห็นกล้ามเนื้อที่กระชับภายใต้เสื้อตัวนั้น ดูเหมือนคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
เมื่อรู้สึกถึงการจ้องมองของเธอ ลู่เหยี่ยนก็หันไปมองเธอ และเห็นแววตาที่ตื่นตระหนกของเธอ มือของเขาหยุดนิ่ง เขามองไปที่เธอ แล้วพูดขึ้นว่า “วันนี้ยุ่งมาทั้งวันแล้ว ไปอาบน้ำก่อนไหม?”