แด๊ดดี้หนูเป็นซีอีโอ
เธอกวาดสายตามองเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ตั้งแต่ตรงประตูทางเข้าไปจนถึงหน้าประตูห้องนอน เฉี่ยนซียังเห็นเนคไทสีน้ำเงินเข้มที่เธอเคยมอบเป็นของขวัญให้จื่อห้าวด้วย ซึ่งตอนนี้ เนคไทนั่นกระจัดกระจายอยู่บนพื้นเหมือนเป็นแค่ขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น
เฉี่ยนซีเดินตรงไปยังห้องนอนของจื่อห้าวอย่างช้า ๆ และพยายามเงี่ยหูฟังในสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ในห้องนั้น เนื่องจากประตูห้องนอนถูกเปิดแง้มไว้เล็กน้อย เธอจึงได้ยินเสียงครางของพวกเขาดังออกมาข้างนอกอย่างชัดเจน ในที่สุดเฉี่ยนซีที่ทนไม่ไหวอีกต่อไปก็คว้า รองเท้าส้นสูงที่อยู่บนพื้นขึ้นมาถือไว้ในมือ แล้วเขวี้ยงใส่คู่ชายหญิงที่อยู่บนเตียงนั่นอย่างเต็มเเรง
“ครั้งหน้าอย่าลืมปิดประตูด้วยล่ะ! อย่าให้คนอื่นเขาเข้ามาเห็นเลยว่า เธอสองคนไร้ยางอายแค่ไหน แต่ฉันก็ไม่รู้นะว่า แกยังมีความสามารถในอีเรื่องนี้รึเปล่า” เฉี่ยนซีกล่าวด้วยความโกรธ
ทันทีที่จื่อห้าวหันไปเห็นสีหน้าโกรธจัดของเฉี่ยนซี เขาก็รีบคว้าผ้าห่มมาคลุมตัวเขาเอาไว้ ในขณะเดียวกัน เฟยเอ๋อก็รีบเอื้อมมือไปคว้าเสื้อเชิ้ตของจื่อห้าวที่อยู่ปลายเตียงขึ้นมาสวม จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาเฉี่ยนซี
“เฉี่ยนซี ยังไงซะเธอก็เห็นหมดทุกอย่างแล้ว งั้นฉันขอพูดกับเธอตามตรงเลยแล้วกันนะ เพราะฉันก็ไม่มีอะไรที่จำเป็นจะต้องปิดบังเธออีกต่อไป จื่อห้าวกับฉัน…”
“ไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนไหม?!” เฉี่ยนซีพูดตัดบท พร้อมกับเอามือปิดตาด้วยท่าทางรังเกียจสารรูปของเฟยเอ๋อในตอนนี้ “ช่วยเคารพตัวบ้าง”ั
“นี่ แก!”
เมื่อคนอื่นเห็นเธอในสภาพเเบบนี้เข้า เฟยเอ๋อทั้งโกรธเเละอาย จนพูดไม่อะไรไม่ออก เฉี่ยนซีมองไปที่เฟยเอ๋อ พร้อมกับหัวเราะเจื่อน ๆ สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก
“นี่คือสิ่งที่คุณต้องการงั้นหรอ จื่อห้าว เเบบนี้เหรอรสนิยมแก” เฉี่ยนซีจ้องหน้าจื่อห้าวที่ตอนนี้หน้าซีดเป็นไก่ต้มอยู่บนเตียง ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าที่เย้ยหยัน
“เฟยเอ๋อ ฉันเห็นแกเป็นเพื่อนสนิทของฉันมาตลอด แต่มันจะไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว!” เฉี่ยนซีพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “ฉันก็ไม่อยากพูดแบบนี้กับเธอหรอกนะ เพราะฉันคิดว่ามันอาจจะทำร้ายความรู้สึกของเธอ เฟยเอ๋อ ตอนที่เราเป็นเพื่อนกัน เธอคงรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เเต่ก็ไม่กล้าพูดออกมาสินะ แต่ตั้งแต่เล็กจนโต เสื้อผ้าที่เธอใส่ก็เป็นเสื้อผ้าเก่าของฉัน ของที่เธอใช้ก็เป็นของเก่าที่ฉันไม่ใช้แล้ว เธอไม่คิดว่า มันตลกบ้างเลยเหรอ” เฉี่ยนซีกล่าวขึ้นอย่างแดกดัน พร้อมกับหัวเราะเยาะเฟยเอ๋อ “แล้วตอนนี้ก็ดูเหมือนว่า เธอจะได้ผู้ชายมือสองจากฉันไปด้วย! เธอนี่ช่ำชองในการเก็บ ‘ขยะ’ จังเลยนะ เฟยเอ๋อ!”
คำพูดเหล่านี้ของเฉี่ยนซีทำให้เฟยเอ๋อรู้สึกเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด พ่อของเฟยเอ๋อเคยเป็นคนขับรถให้กับตระกูลนิ่งมาก่อน ด้วยเหตุนี้ เธอจึงคิดว่าตัวเองฐานะต่ำต้อย และมักรู้สึกด้อยค่าอยู่เสมอ จื่อห้าวที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง เมื่อได้ยินเฉี่ยนซีเปรียบตนเองว่าเป็น “ขยะ” ก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที เขาชี้ไปที่เฉี่ยนซีด้วยท่าทางหาเรื่อง และตะโกนใส่เธอว่า “นั่นคือสิ่งที่ผมเกลียดที่สุดในตัวคุณ เฉี่ยนซี!คุณเอาแต่หลงตัวเอง! คุณยังคิดว่า คุณเป็นลูกเศรษฐีจากตระกูลนิ่งเหมือนเมื่อก่อนอยู่อีกหรอ คุณอย่าลืมนะว่า พ่อของคุณตายไปแล้ว และครอบครัวของคุณก็ล้มละลายไปแล้วเหมือนกัน! ตอนนี้คุณก็เป็นแค่คนจน ๆ ที่ไม่มีประโยชน์อะไรกับผมเเล้ว คุณยังมีหน้ามาพูดถึงเฟยเอ๋อกับผมแบบนั้นอีกหรอ แล้วคุณกล้าบอกผมไหม ว่าเมื่อคืนคุณไปทำอะไรมา”
เมื่อเขาพูดประโยคนี้ขึ้นมา เฉี่ยนซีก็รู้ทันทีว่า พวกเขาเป็นคนวางแผนเรื่องนี้ทั้งหมด
เธอจึงนึกขึ้นได้ว่า จื่อห้าวเคยเล่าให้ฟังว่า เขาหมดเงินจำนวนมากไปกับการพนันที่มาเก๊าเมื่อกไม่นานมานี้ และเขาก็ไม่ต้องการให้ครอบครัวของเขารู้ ดังนั้น เขาจึงขายเธอเพื่อใช้หนี้งั้นเหรอ แต่ดูเหมือนว่า เฟยเอ๋อจะพาเธอเข้าห้องผิดโดยไม่รู้ตัว!
เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวขึ้นมาได้ เฉี่ยนซีกลับรู้สึกอารมณ์เย็นลงอย่างคาดไม่ถึง เธอมองไปยัง ‘อดีตแฟนหนุ่ม และอดีตเพื่อนสาว’ ที่อยู่ตรงหน้าเธอแล้วยิ้มเยาะอย่างเย็นชา
“ฉันจะบอกให้นะ! เมื่อคืนนี้ฉันได้ใช้เวลาชั่วข้ามคืน กับผู้ชายที่แสนดีคนหนึ่งในโรงแรมนั่น ร่างกายของเขากำยำและเซ็กซี่มาก แล้วเขาก็หล่อมากด้วย! มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับฉันเลยล่ะ!”
เฉี่ยนซีรู้ว่า จื่อห้าวเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างหยิ่งยโส เธอจึงพยายามยั่วยุเขาด้วยคำพูด ตามคาด สีหน้าของจื่อห้าวเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีที่เธอพูดจบ เขามองจ้องมาที่เธอและกัดฟันอย่างโกรธจัด
“เธอมันผู้หญิงสารเลว!”
“ฉันจะไปเทียบอะไรกับเธอสองคนได้ล่ะ? ฉันมั่นใจว่า พวกเธอจะเพลิดเพลินกับความน่าสมเพชที่ได้คบกัน” เฉี่ยนซีตอกกลับด้วยคำพูดที่เยาะเย้ยและดูถูก จากนั้นเธอจึงกลับหลังหัน แล้วเดินจากไปพร้อมกับเสียงส้นเท้าที่กระทบพื้นจนดังกึกก้องไปทั่วบ้านราวกับราชินีผู้หยิ่งผยอง