พระชายาสารพัดพิษ
“คุณหนู!” ทันใดนั้นเอง เงาของร่างหนึ่งก็พุ่งพรวดเข้ามาในเรือนเมฆธารา มู่หว่านซีอึ้งไปเล็กน้อย “ซิ่วเหอ ดูเหมือนชิงจู๋จะกลับมาแล้ว”
สีหน้าซิ่วเหอพลันเปลี่ยนไปในทันที เหตุใดชิงจู๋ถึงได้กลับมาเอาตอนนี้ ต้องห้ามมิให้นางทำลายแผนการใหญ่ของคุณหนูรองจะดีที่สุด ซิ่วเหอรีบวิ่งออกไปทันที เพื่อขวางชิงจู๋เอาไว้ก่อนที่มู่หว่านซีจะมาเจอเข้า
แต่พวกนางดูถูกชิงจู๋เกินไปแล้ว แม้นางจะเป็นเพียงสตรี ทว่ากลับมีเรี่ยวแรงมหาศาล นางสามารถผลักแม่นมสองคนที่เข้ามาขวางทางล้มลงไปกองกับพื้นได้ ก่อนจะพุ่งพรวดเข้ามาในห้อง
“ขวางนางไว้!” ซิ่วเหอตวาดสั่งการลั่น
แต่หากชิงจู๋อยากจะพุ่งไปข้างหน้า มีหรือที่สองคนนี้จะขวางนางไว้ได้ มู่หว่านซีเดินออกมาจากห้องด้านในด้วยความสงสัย “นี่พวกเจ้ากำลังทำอะไรกัน?”
“พระชายาเพคะ แย่แล้วเพคะ เกิดเรื่องแล้ว” ชิงจู๋เห็นมู่หว่านซีเดินออกมาจึงร้องตะโกนลั่นด้วยความร้อนรนใจ
“ฝ่าบาททรงมีราชโองการ ให้สำเร็จโทษนักโทษจากจวนกั๋วกงวันนี้ ท่านกั๋วกงผู้เฒ่ากับคนทั้งตระกูลต้องถูกประหาร กระทั่งทารกที่เพิ่งเกิดก็ไม่ละเว้น” นัยน์ตาทั้งสองข้างของชิงจู๋แดงก่ำ ต้องการที่จะบอกเล่าสถานการณ์ของจวนกั๋วกงให้มู่หว่านซีได้รู้ ทว่าจู่ ๆ มู่หว่านซีที่ประคองครรภ์ของตัวเองอยู่นั้นมีใบหน้าซีดเผือด คาดไม่ถึงว่านางจะตื่นตกใจจนกระเทือนไปถึงครรภ์
“พระชายาเพคะ” ชิงจู๋ก้าวยาว ๆ เพียงไม่กี่ก้าวก็เข้าไปถึงข้างกายมู่หว่านซี นางเข้าไปพยุงมู่หว่านซีไว้ “พระชายา ทรงเป็นอย่างไรบ้างเพคะ?”
มู่หว่านซีคว้าแขนชิงจู๋ไว้ สีหน้านางย่ำแย่นัก “เจ้าบอกว่า บอกว่าท่านตากับคนที่จวนเป็นอย่างไรนะ?”
“ถูกสั่งประหารทั้งตระกูลเพคะ” ชิงจู๋อดไม่ได้ จึงพูดออกไปในที่สุด เดิมทีนางคิดจะกลับมาแจ้งข่าวตั้งนานแล้ว แต่เพราะคุณหนูรองขังนางไว้ในห้องเก็บฟืน ไม่ง่ายเลยกว่าที่นางจะหนีออกมาได้
ทันใดนั้นเอง มู่หว่านซีก็พลันปวดท้องขึ้นมา โลหิตสีแดงฉานพลันไหลออกมา ชิงจู๋เห็นเข้าก็หน้าซีดเผือด “เร็ว เร็วเข้า ใครก็ได้ รีบไปเรียกหมอตำแยมาที พระชายาจะคลอดแล้ว”
ซิ่วเหอนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง แต่ชิงจู๋มิได้สนใจนาง แล้วชิงจู๋ก็ประคองมู่หว่านซีไปนั่งลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง “พระชายา อย่าทรงเป็นอะไรไปนะเพคะ ท่านจะต้องคลอดองค์ชายน้อยออกมาให้ได้นะเพคะ” อนาคตของพระชายาจำต้องพึ่งองค์ชายน้อยแล้ว คุณหนูรองมิใช่คนดีอะไร นางยั่วยวนจวิ้นอ๋อง คิดจะเข้ามาแทนที่พระชายา หากพระชายาคลอดองค์ชายน้อยออกมาไม่ได้ ตำแหน่งพระชายาของท่านนั้นก็จะน่าเป็นห่วงยิ่งนัก
“ไปตามหมอตำแยกับท่านหมอมาเร็วสิ” ชิงจู๋ตวาดซิ่วเหอที่เอาแต่ทำหน้าบูดบึ้ง ซิ่วเหอคิดจะด่ากราดนางกลับไป ทว่าสุดท้ายก็อดกลั้นเอาไว้ แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป
“ชิงจู๋ ไปตามจวิ้นอ๋อง...” มู่หว่านซีเจ็บเสียจนหน้าซีดเผือด นางไม่เชื่อ จวิ้นอ๋องเคยพูดเอาไว้แล้วแท้ ๆ ว่าจะต้องช่วยคนที่จวนท่านตา แล้วเหตุใดเรื่องมันถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ไปได้
“พระชายา ท่านต้องรักษาตัวให้ดี ต้องคลอดองค์ชายน้อยออกมาอย่างปลอดภัยให้ได้เสียก่อนนะเพคะ” ชิงจู๋ร้องไห้น้ำตานองหน้า จวิ้นอ๋องไม่มีทางสนใจนาง เพราะยามนี้จวิ้นอ๋องกำลังกราบไหว้ฟ้าดินเพื่อเข้าพิธีแต่งงานกับคุณหนูรองอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้า แต่นางกลับไม่อาจบอกเรื่องนี้กับพระชายาได้ มิเช่นนั้นพระชายาอาจจะสะเทือนใจ และไม่แน่ว่าอาจจะสิ้นชีวิตกันไปทั้งแม่ทั้งลูก นางไหนเลยจะกล้าเสี่ยง
“อ๊า!” มู่หว่านซีเจ็บจนแทบสิ้นสติแล้ว
“หมอตำแยอยู่ไหนเล่า เหตุใดหมอตำแยถึงยังไม่มา” ชิงจู่ถลึงตามองลวี่อินที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง “รีบไปตามหมอตำแยมาเร็ว”
ลวี่อินกับชุ่ยฟูพลันสบตากัน แต่แล้วก็กลับพากันยืนนิ่งไม่ไหวติง ทั้งที่มู่หว่านซีเจ็บจนไม่ได้สติไปตั้งนานแล้ว และขณะที่ชิงจู๋คิดจะไปตามหมอตำแยด้วยตัวเองนั้น นางกลับเห็นซิ่วเหอถือยาถ้วยหนึ่งเข้ามา โดยมีซ่งอิงเจี๋ยกับมู่เสวี่ยโหรวที่อยู่ในชุดแต่งงานสีแดงเดินตามหลังมาด้วย
“จวิ้นอ๋อง...” ชิงจู๋เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนักขึ้นมาในใจ
ซ่งอิงเจี๋ยก้าวยาว ๆ เข้าไปหานาง มู่หว่านซีเห็นซ่งอิงเจี๋ยเดินเข้ามา ก็ใช้เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่น้อยนิดเอื้อมมือออกไปหาเขา “จวิ้นอ๋อง ท่าน... ท่านรับปากหม่อมฉันแล้ว...”