Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
closeIcon

เปิดรับโบนัส

เปิด

วรนิษฐา / Miss sexy

หนังสือที่ตีพิมพ์ 46 เล่ม

หนังสือและนิยายทั้งหมดของวรนิษฐา / Miss sexy

ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

มหาเศรษฐี
5.0
เธอคือ....นางโจร ส่วนเขาคือนายตำรวจ...มือหนึ่ง แต่พรหมลิขิตกลับชักพาให้นางโจรอย่างเธอปล้นความรักไปจากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่าง...เขา +++++ “ผมบอกไปหรือยังว่าผมรักคุณ” “ยังค่ะ” มีนาเอ่ยตอบด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อคืนเหมือนเธอจะได้ยินเมฆาบอกรัก แต่มันก็แผ่วเบาเสียจนคิดว่าเธอคงฝันหรือไม่ก็เพ้อไปเองคนเดียว “โอเค...ผมรักคุณ” เมฆาบอกรักคนในอ้อมกอด มันคือคำว่ารักที่แสนเรียบง่ายแต่ทว่ากลับตราตรึงอยู่ในความรู้สึก ทั้งจากคนพูดและคนที่ได้ยิน เพราะหากไม่แน่ใจว่ารักเมฆาหรือจะพูดคำนี้ออกมา “ผู้ชายเขาบอกรักกันง่ายๆ แบบนี้เหรอคะ” “ใครบอกว่าง่าย เมื่อคืนกว่าผมจะบอกรักคุณมีนด้วยภาษากายได้ก็ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเชียวนะ” “ทะลึ่ง” มีนามองค้อนมาให้ นั่นเพราะรู้ความหมายที่เมฆาเอ่ยว่าคืออะไร “ผมพูดเรื่องจริง” “แต่ฉันเป็นโจรที่เคยยกเค้าบ้านคุณนะคะ ถูกแจ้งจับอีก แบบนี้คุณยังจะรักฉันอย่างนั้นเหรอ” “มีกฎหมายข้อไหน ห้ามไม่ให้ตำรวจรักกับโจรบ้าง” “ก็...” คนฟังแย้งไม่ออก “ผมว่าความรักมันไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว รักก็คือรัก” “แต่เราต่างกันเกินไป ฉันคิดว่า...” “โลกนี้ไม่มีคำว่าต่าง ต่อให้มีเราก็ค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากันก็ได้นี่ครับ ผมขอแค่โอกาส” “ฉัน...” “ผมรักคุณมีน ต่อให้จะนอนคิดนั่งคิดหรือตีลังกาคิดก็ยังรัก” เมฆาเอ่ยคำว่ารักให้คนในอ้อมกอดได้ยินและได้รับรู้ถึงความรู้สึกของเขาอีกครั้ง “แล้วถ้าฉันปฏิเสธละคะ คุณจะว่ายังไง” “ผมคงเสียใจหนักมากแน่” เมฆาเสียใจจริงๆ แต่เขาคงไม่ถอดในจากเธอด้วยเรื่องแค่นี้แน่ แต่ทว่าคำพูดหลังจากนั้นของมีนากลับทำให้คนฟังยิ้มกว้างออกมา “แต่ฉันไม่อยากเห็นคุณเสียใจ” “งั้นก็รับรักผม ได้ไหม” “เฮ้อ! ไหนๆ ฉันก็ได้คุณแล้วก็คงต้องแมนๆ รับผิดชอบ ฉันรับรักคุณก็ได้อะ คุณจะได้ไม่ร้องไห้เสียใจเพราะฉัน” มีนาพูดติดตลก นั่นเพราะไม่อยากให้บรรยากาศตอนนี้อึดอัด คำพูดของเธอทำให้เมฆาถึงกับหัวเราะ ก่อนจะรั้งผ้าห่มขึ้นมาห่มคลุมโปงทั้งเธอและเขา แล้วเริ่มปฏิบัติการยืนยันว่าแท้จริงแล้วใครได้ใครกันแน่ และใครต้องรับผิดชอบใคร
แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

มนุษย์หมาป่า
5.0
‘เขาเป็นแวมไพร์ที่ปฏิเสธการดื่มเลือด แต่กลับไม่ปฏิเสธหากจะได้กลืนกินเธอ’ ------------ “วันนี้นายริทเป็นอะไร ดูเหม่อๆ” “นั่นนะสิ” คนงานอีกคนเห็นด้วย ก่อนจะหยุดการสนทนาใดๆ แล้วตัดดอกไม้ต่ออย่างขะมักเขม้น ส่วนคนที่พวกเขาเอ่ยถึงนั้น ตอนนี้ก็กำลังง่วนอยู่กับงานตรงหน้าเช่นเดียวกัน กระทั่งได้ดอกไม้ครบตามจำนวน เชโรมจึงเดินไปยังรถที่ตอนนี้มีดอกไม้แสนสวยอยู่ท้ายกระบะเต็มไปหมด แต่จังหวะนั้น สายตาของเชโรมกลับมองไปเห็นกระต่ายสีขาวที่เขาเลี้ยงไว้หลุดออกมาจากกรง จึงเดินไปอุ้มมันขึ้น ท่าทางเขาดูอ่อนโยนเสียจนมาศิตาที่ผ่านมาเห็น คิดว่าตัวเองตาฝาด จนต้องขยี้ตาแรงๆ สามสี่ครั้ง “ผู้ชายหน้าโหดกับกระต่ายสีขาว ดูยังไงก็ไม่เห็นจะเข้ากันสักนิด สงสัยจะเลี้ยงกระต่ายไว้กินแน่ๆ” “เลี้ยงไว้ดูจ้ะ นายริทชอบกระต่ายสีขาว ตรงนู่นเป็นกรงกระต่าย มีหลายสิบตัว” คนงานสาวคนหนึ่งเอ่ยแย้งให้ผู้เป็นเจ้านาย “ชีวิตดูมุ้งมิ้งกิงก่องแก้วขัดแย้งกับหน้าตาสุดๆ แวมไพร์ตนอื่นๆ มีแต่จะเลี้ยงกระต่ายไว้ดื่มเลือด นี่อะไร เลี้ยงไว้ดูเล่น โอ๊ย! พ่อมังสวิรัติ” มาศิตาบ่นคนเดียวอีกตามเคย ตามมาด้วยอีกประโยค “สอนแวมไพร์ให้ดื่มเลือด มันจะเหมือนสอนจระเข้ว่ายน้ำปะวะเนี่ย ของมันเป็น มันอยู่ในสายเลือด จะให้เรามาสอนเขาทำไม หืม” คนข้างๆ ที่เผลอได้ยินทั้งสองประโยคนี้เข้า กลับมีสีหน้างุนงงอย่างเห็นได้ชัด พอจะถามมาศิตาก็เดินตัวปลิวไปเสียแล้ว “ใครเป็นแวมไพร์หว่า หรือเราจะหูฝาดไป” คนงานสาวที่เพิ่งจะเอ่ยแก้ต่างเรื่องกระต่ายให้เชโรมไปเมื่อครู่ถึงกับคิ้วขมวด พูดกับตัวเองตามมาศิตาไปอีกคน ------------------ “แต่ศิตาไม่ยอมให้พี่ริทตายเด็ดขาด เพราะศิตารักพี่ริท” เอ่ยจบก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรม จูบที่ต่างฝ่ายต่างต้องการจากกันและกันมาโดยตลอด จูบที่ฝันว่าครั้งแรกมันต้องโรแมนติกและน่าจดจำ ไม่ใช่จูบที่ได้กลิ่นคาวเลือดจากริมฝีปากเขาเช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด เลือด! ใช่…เลือด คำๆ นี้ทำให้มาศิตานึกอะไรขึ้นมาได้ เธอคือผู้พิทักษ์ เลือดของเธอแวมไพร์ที่ยืนจ้องอยู่ตรงนั้นยังต้องการ แล้วทำไมเธอถึงไม่ให้เชโรมชิงดื่มเลือดของเธอเสีย ไม่แน่ว่า หากเขาได้ดื่มเลือดมนุษย์จริงๆ เชโรมอาจมีพลังขึ้นมาก็เป็นได้ มาศิตาถอนจูบออก แล้วแสร้งโอบกอดเชโรม ก่อนจะกระซิบให้เขาฝังคมเขี้ยวลงไปบนลำคอเพื่อจะได้ดื่มเลือดเธอ แต่เหมือนเชโรมกลับส่ายหน้าปฏิเสธกับแผนนี้ กระทั่งมาศิตาชิงลงมือก่อน เธอกัดริมฝีปากตัวเองสุดแรงจนเลือดไหล แม้จะเจ็บแต่ก็ยอมทน จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรมอีกครั้ง ทันทีที่ได้สัมผัสเลือดของผู้พิทักษ์ นั่นทำให้เลือดในกายของแวมไพร์หนุ่ม ผู้ที่ไม่เคยลิ้มรสชาติของเลือดใดๆ มาก่อน พลันพลุ่งพล่านราวกับเปลวไฟ “เจ้าทำอะไร” แดนเองก็ได้กลิ่นเลือดของมาศิตาเช่นเดียวกัน รวมทั้งจ้องมองความผิดปกติของเชโรมอย่างไม่กะพริบตา เลือดเพียงหนึ่งหยด กลับทำให้นัยน์ตาที่เคยเป็นสีน้ำตาลอ่อนแปรเปลี่ยนมาเป็นสีแดงเพลิงในทันที ร่างกายที่เคยเจ็บปวดกลับค่อยๆ หาย และรู้สึกถึงพลังที่ไม่เคยสัมผัสได้มาก่อนวิ่งพล่านไปทั่วร่าง “แววตาแบบนั้น เจ้าเป็นใครกัน หรือว่า…”
เล่ห์รักฉบับ CEO

เล่ห์รักฉบับ CEO

มหาเศรษฐี
5.0
จูบแรกก็เป็นของเขา จูบครั้งที่สอง สาม สี่ ก็ยังคงเป็นของเขา แบบนี้โสภิตาจะหนีจาก CEO หนุ่มที่เธอบังเอิญผ่านไปช่วยชีวิตเขาไว้ได้อย่างไร ++++++++++++++++ **โปรย 1 “เท่าที่ได้คุยกันฉันว่านายเชนคนนี้นิสัยก็ใช้ได้” “อึนๆ มึนๆ นี่เหรอใช้ได้” โสภิตาอยากจะบอกเหลือเกินว่าบางครั้งราเชนก็กวนตีนเธอ “อื้อ...นายเชนเขาให้ความพิเศษกับแกนะ ขนาดปลายังแกะก้างออกให้ นี่ถามจริงๆ แกไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ” “ก็...” โสภิตาอ้ำๆ อึ้งๆ เธอนั้นไม่มีประสบการณ์เรื่องความรัก เรียกได้ว่าชั่วโมงบินน้อยมากๆ ใครมาดีหรือมาร้ายบางครั้งก็มองไม่ออกอย่างทะลุปรุโปร่ง อาศัยเพียงแค่สัญชาตญาณของตัวเองซึ่งบางครั้งมันอาจผิดพลาด “หรือคิดมากเรื่องฐานะที่นายเชนมีน้อยกว่าแก” “ไม่ใช่เรื่องนั้น ถามว่าฉันรู้สึกดีกับเขาไหมก็...อื้ม บางครั้งเวลาฉันอยู่กับเขาแล้วเหมือนตัวเองเป็นง่อย จากที่ทำอะไรได้เองก็เริ่มอยากให้เขาทำให้ อยากให้เขาช่วย” นั่นคือความเปลี่ยนแปลงที่โสภิตารู้ตัวเองดี “ไม่แปลกหรอก เพราะผู้หญิงเราต่อให้แข็งแกร่งยังไงลึกๆ ในหัวใจก็อยากมีใครสักคนมาดูแล” “แกก็เป็นเหรอ” “เป็นสิ บางครั้งฉันยังงอแงให้บอสจับแมลงสาบเลย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเห็นตอนไหนฉันกระโดดกระทืบตอนนั้น” คำพูดของรติชาทำให้โสภิตาหัวเราะออกมาเพราะนึกภาพออกทันที เวลานั้นปิลันธน์คงทั้งกลัวทั้งอยากกำจัดให้คนรักส่วนรติชาก็คงหัวเราะชอบใจแน่ๆ “นึกว่าฉันเป็นอยู่คนเดียว” “แกนะเข้มแข็งมากนะหวาน เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นหัวหน้าคนงาน รับผิดชอบเรื่องนั้นเรื่องนี้มากมาย ที่ผ่านมาอาจเพราะแกยังไม่เจอใครที่สามารถฝากชีวิตเอาไว้ได้แกเลยไม่เปิดใจ แต่ถ้าตอนนี้แกเจอคนคนนั้นแล้วฉันแนะนำว่าแกควรฟังเสียงหัวใจของตัวเองให้มาก ว่าอยากอยู่แบบที่ผ่านๆ มาหรืออยากจับมือกับใครสักคนไปจนวันตาย” นั่นคือคำแนะนำจากใจของรติชาเพราะเธอเคยลังเลแบบนี้มาแล้ว หากเวลานั้นตัดสินใจผิดตอนนี้เธออาจโกนหัวบวชชีที่วัดป่าที่ไหนสักแห่ง “ฉันอยากจับมือใครสักคน” ++++++++++++++++ ***โปรย 2 “ฉันเกลียดที่สุดคือคนโกหก ที่ผ่านมาฉันรู้สึกดีกับนายเพราะเข้าใจมาตลอดมานั่นคือนาย แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นใครกันแน่ นายจะโกหกอะไรฉันอีกไหม ฉันต้องโง่ไปอีกกี่ครั้ง” น้ำเสียงของโสภิตานั้นสั่นเครือ “ผมสัญญาว่าจะไม่โกหกอะไรคุณอีกแล้ว สาบานให้ตาย...” จังหวะที่ราเชนกำลังจะสาบานให้ตัวเองตาย โสภิตาก็ยกมือขึ้นมาปิดปากของเขาไว้เสียก่อน “ลองตายดูสิ ฉันจะลากตัวนายขึ้นมาแล้วสับๆ” ราเชนอึ้งกับประโยคที่ได้ยินก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าโสภิตาไม่ยอมให้เขาตายง่ายๆ สินะ “โอเคๆ ผมไม่ตายแล้วก็ได้ ยกโทษให้ผมเถอะนะคุณหวาน ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” “นายนี่มัน ทำฉันทั้งสุขทั้งทุกข์เหมือนคนเป็นไบโพลาร์แบบนี้ได้ยังไง รับผิดชอบสติฉันมาเลย” “ถ้าผมรับผิดชอบจริงๆ คุณหวานจะตอบตกลงไหมครับ” “อื้อ” “จริงๆ นะ” ราเชนถามย้ำ ส่วนคนที่ตามความเจ้าเล่ห์ของเขาไม่ทันก็ไม่ได้เอะใจอะไรแม้แต่น้อยเช่นกัน “จะรับผิดชอบอะไรว่ามา” “แต่งงานกันไหม”
รักร้อนซ่อนใจรัก

รักร้อนซ่อนใจรัก

โรแมนติก
5.0
เขาคือพระเอกดาวค้างฟ้า เล่นละครเรื่องไหนเรตติ้งพุ่งแรงเสมอ ในขณะที่เธอก็เป็นแค่เอ็กตร้าในกองถ่าย ที่เอ๋อๆ เด๋อๆ เพราะไม่ได้เป็นแฟนคลับของเขาเธอจึงไม่ได้แสดงออกว่าปลื้ม แต่ยิ่งเธอเฉยเขายิ่งสนใจ กระทั่งมีเหตุการณ์ให้ทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกัน จูบแรกของทั้งคู่เกิดขึ้นก็เพราะงาน แต่หัวใจของเธอกลับถูกริมฝีปากนุ่มและแสนร้ายกาจของพระเอกกระชากจนหลุดลอยและมันมักจะลอยไปหาเขาโดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน ของขวัญวันเกิดปีนี้ของเธอก็ยังเป็นจูบจากเขา จูบที่ทำให้ใจสาวหวั่นไหวและยากจะต้านทาน หัวใจเธอถูกเขาไล่ต้อนจนมุม ทางเดียวที่จะรับมือคือพุ่งเข้าชนแล้วเอาหัวใจเป็นเดิมพัน
หัวใจแพ้ทางรัก

หัวใจแพ้ทางรัก

โรแมนติก
5.0
ถึงอาดิน เรารู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้วนะคะ เป็นสิบปีที่มิลค์มีความสุขมาก ตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักจนถึงวันนี้ ไม่มีวันไหนที่มิลค์จะหยุดรักอาดินได้เลย นอกจากจะหยุดรักไม่ได้แล้ว ยังรักมากขึ้นๆ ทุกๆ วัน สิบปีมานี้มิลค์ได้บอกรักอาดินไปหลายครั้ง ทุกๆ ครั้งที่บอกไปมิลค์มีความสุขมากค่ะ ถึงแม้อาดินจะไม่ตอบรับมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่มิลค์ก็ยังพยายามต่อ เพราะหวังว่าสักวันอาดินจะหันมามองเห็นความรักที่มิลค์มีให้และรับมันไป แต่ว่า...มันคงไม่มีวันนั้นแล้วจริงๆ มิลค์ขอโทษนะคะที่เอาแต่ใจ ที่ตามกวนใจอาดิน หลังจากนี้เราคงไม่ได้เจอกันสักพัก มิลค์ขอให้อาดินเจอคนที่ใช่ คนที่อาดินรัก ส่วนมิลค์จะขอเฝ้ามองอาดินอยู่ห่างๆ แทน ลาก่อนค่ะ มิลค์
พ่ายสวาท

พ่ายสวาท

มหาเศรษฐี
5.0
รักแรก! ย่อมร้อนแรง รักแรก! ย่อมเร่าร้อน รักแรก! ย่อมปรารถนา แต่เมื่อรักแรกพังทลาย! สิ่งที่หลงเหลือไว้คือบาดแผลแห่งน้ำตา จากวันผ่านเป็นเดือนกลายเป็นปี กระทั่งเขากับเธอได้หวนหลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง แต่ทว่าเวลานี้…. เขา…คือพี่เขย! ส่วนเธอ…คือน้องเมีย! ------------------------------------------------------- “หลงรักพี่เขยตัวเอง น่าสมเพชจริงๆ” ดารันส่ายหน้าให้ตัวเอง นั่นเพราะต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หรือตัวจะอยู่ห่างไกลกันสักเท่าไหร่ เธอก็ไม่อาจตัดใจจากโฮมได้สักครั้ง ครั้งแรกที่ได้พบกันคือวันแรกที่ชายหนุ่มย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังข้างๆ ส่วนเธอนั้นคือเพื่อนบ้านที่ย้ายเข้ามาอาศัยก่อนเพียงสองเดือน ในขณะที่ตอนนั้นดารินยังทำงานอยู่ต่างประเทศ แต่ก็มีกำหนดกลับในอีกไม่ช้า เพราะเป็นเพื่อนบ้านกันทำให้เธอกับโฮมค่อนข้างที่จะสนิทกันตามไปด้วย ทั้งๆ ที่บ้านหลังข้างๆ ซึ่งก็เป็นหนุ่มโสดเธอกลับไม่รู้สึกอยากสนิทสนมด้วยสักนิด ที่เป็นแบบนั้นเพราะเธอแอบชอบโฮมอยู่นั่นเอง ชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าเวลาอยู่ใกล้เขาทำให้เธออบอุ่นและปลอดภัย แม้เขาจะอายุมากกว่าเธอถึงสิบสามปีก็ตาม ซึ่งดารันใช้เรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างในการขอความช่วยเหลือต่างๆ เพื่อหาโอกาสได้ใกล้ชิด ทั้งขอให้เขาสอนขับรถให้บ้างหรือแม้กระทั่งเปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมท่อน้ำ ตัดหญ้าตัดต้นไม้ ล้างบ่อปลาเธอก็ไหว้วานเขาหมดทุกอย่าง นี่ถ้ายังเรียนอยู่คงให้โฮมมาช่วยติวหนังสือให้แน่ๆ แต่ติดที่ว่าเธอเพิ่งสอบวิชาสุดท้ายสำหรับการเป็นนิสิตปริญญาตรีไปหมาดๆ เธอกับเขาเข้านอกออกในบ้านของอีกฝ่ายได้ทุกเวลา ประหนึ่งนั่นคือบ้านอีกหลังของกันและกัน บางครั้งก็ทำอาหารมานั่งกินด้วยกันหรือแบ่งอาหารที่ต่างฝ่ายต่างทำให้กัน โดยส่งผ่านมาทางกำแพงข้างบ้าน จนมารู้ตัวอีกทีคือวันที่เธอขาดเขาไม่ได้เสียแล้ว กระทั่งวันหนึ่งเธอเปรยๆ ขึ้นว่าอยากทุบกำแพงทิ้ง แต่สุดท้ายคนที่ทุบมันคือดาริน พี่สาวของเธอ พี่สาวที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่และตอนที่ไม่อยู่!
ที่รักของคนเถื่อน

ที่รักของคนเถื่อน

โรแมนติก
5.0
‘เพราะอุบัติเหตุในครั้งนั้น ทำให้เขาสูญเสียคู่หมั้นที่รักหมดหัวใจ และ...เธอคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบ’ โปรยปราย เรียกน้ำย่อย “จะไปไหน” “ขอโทษนะคะ ฉันว่าเราไม่เคยรู้จักกัน” เพราะพยายามมองแล้วแต่ชายตรงหน้าไม่คุ้นตาเลย ทำให้ตันหยงพยายามเดินเลี่ยงออกมา แต่ก็ถูกชายคนนั้นตามเข้ามาขวางเอาไว้อีกครั้ง “แน่ใจเหรอว่าเราไม่เคยรู้จักกัน” เอ่ยจบทิวาก็สบตาตันหยงตรงๆ และนั่นก็ทำให้เธอตกใจที่รู้ว่าคือเขา ไม่คิดว่าระยะเวลาเกือบสามเดือนที่ไม่ได้เจอหน้ากัน ทิวาจะเปลี่ยนไปได้มากถึงขนาดนี้ “คุณทิวา!” “ฉันถามว่าเธอจะไปไหน” เสียงห้วนเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง ทั้งๆ ที่เขารู้คำตอบดีอยู่แล้ว คำถามจากเขาทำให้ตันหยงอึกๆ อักๆ ขึ้นมา “คือว่าฉัน...” “จะหนีไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่ไหนไม่ทราบ” “ฉันไม่ได้หนีค่ะ ฉันแค่จะไป...” ยังไม่ทันที่ตันหยงจะเอ่ยบอกว่าเธอแค่จะตามไปดูแลพี่สาว ทิวาก็เอ่ยแทรกขึ้นเสียก่อน “ลืมไปแล้วหรือไงว่าเธอสัญญาอะไรกับฉันไว้” “ฉันไม่เคยลืมว่าจะไถ่โทษเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณ” นี่คือสิ่งที่ตันหยงตั้งใจจะทำตั้งแต่แรก “ไม่ลืมก็ไปกับฉัน” เอ่ยจบทิวาก็คว้าเข้าที่ข้อมือของตันหยง แล้วออกแรงรั้งให้เธอเดินตามมา แต่เพราะยังไม่รู้ว่าเขานั้นจะพาเธอไปที่ไหน ตันหยงจึงยื้อไว้ “จะไปไหนคะ” “เธอมีสิทธิ์ถามด้วยเหรอ”
 สัญญา(ยั่ว)สวาท

สัญญา(ยั่ว)สวาท

มหาเศรษฐี
5.0
เวลานี้เธอกำลังสบตากับอคิน ชายหนุ่มเองก็สบตาเธอกลับมาเช่นกัน แววตาของเขาดูอบอุ่น ลมหายใจของเขาที่เธอสัมผัสได้ในตอนนี้ก็เช่นกัน นั่นทำให้หัวใจของ กรวีย์เต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว ยุบหนอพองหนอใช้ไม่ได้ผล ยิ่งสบตากับเขาหัวใจของกรวีย์ก็ยิ่งประท้วง จูบเขาสิ จูบเขา ไม่ได้ จูบไม่ได้ ต้องได้ จูบเขา ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ เธอทำได้กรวีย์ นั่นคือเสียงของนางฟ้าและซาตานที่โต้แย้งกันอยู่ภายในจิตใจของกรวีย์ เธอขบเม้มริมฝีปากอวบอิ่มของตัวเองเพราะกำลังใช้ความคิดและเผลอหลุบตามองต่ำมาที่ริมฝีปากของชายหนุ่มเข้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ “อยากจูบกับผมไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถาม กรวีย์ยังคงขบเม้มริมฝีปากของตัวเองอย่างชั่งใจ
รักเทิร์นโปร

รักเทิร์นโปร

โรแมนติก
5.0
มื่อผู้หญิงคนหนึ่งหลงชอบผู้ชายปริศนา เธอไม่เคยรู้จักเขา ไม่เคยคุย ไม่เคยแม้กระทั่งได้สบตา รู้แค่ว่าเขาตรงสเปคและตัวก็หอมมาก จนอยากคิดเทิร์นโปร จากคนแปลกหน้าไปเป็น...เมีย *****โปรย***** “ถ้าผมเลิกบุหรี่ได้ อิ้งจะให้อะไร” “คุณเดย์ขอรางวัลจากอิ้งเหรอ” “ใช่...รางวัลจากอิ้ง” เสียงทุ้มดังขึ้น ก่อนที่อิงฟ้าจะสะดุดกับชื่อตัวเองที่ภูวิศเอ่ยออกมา นี่เขาเรียกชื่อเธอจริงๆ ใช่ไหม “อืม...คุณเดย์อยากได้อะไรละคะ” แม้จะดีใจที่ภูวิศเอ่ยชื่อเธอ แต่อิงฟ้าก็ต้องตั้งสติเพื่อโฟกัสสิ่งที่ชายหนุ่มเอ่ยเมื่อครู่ แต่ดูเหมือนเธอจะพลาดเสียแล้ว “อิ้งเป็นคนถามผมเองนะ” “ค่ะ...ขอแค่อย่าแพงนักก็พอ เพราะอิ้งไม่ค่อยมีเงิน” “สิ่งที่ผมจะขอ อิ้งไม่ต้องใช้เงินซื้อแม้แต่บาทเดียว” “มีด้วยเหรอคะ ของที่อิ้งไม่ต้องใช้เงินซื้อ” “มี...เพราะผมต้องการแค่ริมฝีปากของ...อิ้ง” เอ่ยจบภูวิศก็เดินเข้ามาประชิดตัวอิงฟ้า ซึ่งระหว่างนั้นเธอมัวแต่ทบทวนประโยคที่ได้ยินไปเมื่อครู่ จึงไม่ทันได้ขยับหนี “ตอนนี้ผมยังเลิกมันไม่ได้ แต่ทุกครั้งที่ผมต้องการจะมัน ผมจะไปหาอิ้ง” “ตะ...แต่ว่า” ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมา ภูวิศก็อยู่ใกล้เกินกว่าที่ อิงฟ้าคาดคิด และเขาก็ใช้จังหวะนั้นรวบเอาบางของเธอไว้ “ถ้าอิ้งไม่ตกลง ผมก็จะสูบบุหรี่เดี๋ยวนี้แล้วก็จะเข้าไปหา น้ำขิง” “ทำแบบนั้นไม่ได้นะคะ เดี๋ยวน้ำขิงก็ได้กลิ่นบุหรี่จากตัว คุณเดย์ คราวนี้แกอาจไม่สบายเข้าจริงๆ” แม้จะตกใจแต่อิงฟ้าก็รีบห้าม “งั้นอิ้งก็ให้คำตอบผมมาสิ ว่าได้หรือไม่ได้” “เอ่อ...” “ได้หรือไม่ได้” น้ำเสียงของภูวิศกำลังทำให้อิงฟ้าสะท้าน ไหนจะแววตารวมไปถึงวงแขนของเขาที่โอบรอบเอวของเธออยู่ในตอนนี้อีก “คุณเดย์ กำลังมัดมือชกอิ้งอยู่นะ” “ใช่” “คุณเดย์” คำตอบของภูวิศทำเอาอิงฟ้าอึ้ง ตอนนี้เธอสับสนจริงๆ ว่าชายหนุ่มเป็นอะไรของเขากันแน่ “ทำยังไงดี ตอนนี้ผมอยากสูบบุหรี่อีกแล้วสิ” “ตะ...ตอนนี้เหรอคะ” อิงฟ้าตกใจจนเผลอเงยหน้าขึ้นมอง ภูวิศอีกครั้ง ถึงได้รู้ว่าเวลานี้เขากำลังยิ้มและรอยยิ้มของเขาก็เจ้าเล่ห์มากด้วย “ใช่....ตอนนี้” เอ่ยจบภูวิศก็ช้อนปลายคางของอิงฟ้าขึ้น จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงมาเพื่อมอบจูบให้เธอ จูบแรกสัมผัสแรกจากเขาทำให้อิงฟ้าใจเต้นรัว ร่างบอบบางร้อนรุ่มราวกับกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ วิ่งผ่าน หูอื้อตาลายและรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลอย ในขณะที่ภูวิศเองก็กำลังดื่มด่ำกับรสจูบที่แสนหวานจาก อิงฟ้าเช่นเดียวกัน ริมฝีปากนุ่มๆ ของเธอทำให้เขาหลงใหล จนหัวใจจากที่เคยด้านชากลับมาเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะอย่างเช่นในตอนนี้ได้ นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกดีกับการจูบเช่นในตอนนี้ นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่เคยโหยหาใครเท่าอิงฟ้ามาก่อน นานแค่ไหนที่เขาไม่เคยตกหลุมรักใคร กระทั่งได้มาเจอ...เธอ ภูวิศตัดใจถอนจูบแรกออกอย่างอ้อยอิ่ง นั่นก็เพื่อสบตากับอิงฟ้า จะได้มองเข้าไปในดวงตาของเธอว่าคิดเช่นเดียวกับเขาไหม และคำตอบที่เขาได้คือ...ใช่ จูบครั้งที่สองจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง คราวนี้อิงฟ้าปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปช้าๆ แต่ก็วาบหวามด้วยสัมผัสที่ภูวิศมอบให้ ริมฝีปากเขาช่างร้ายกาจ เพราะมันอ่อนหวานและเร่าร้อนจนเธอเกือบทำให้เธอหมดลมหายใจ และนี่คือวิธีหยุดตัวเอง เพื่อไม่ให้สูบบุหรี่ในแบบเฉพาะของเขา
ทาสรักจอมโจร

ทาสรักจอมโจร

มหาเศรษฐี
5.0
เพราะความดื้อรั้นทำให้เธอต้องพบกับอันตราย เพราะความดื้อรั้นครั้งนั้น…ทำให้เธอพบหัวใจอีกครึ่งดวง ---------- “ทำได้ดีมากทะเล” เซบาสเตียนเอ่ยชมลูกน้อง งานนี้สำเร็จอย่างสวยงาม แม้จะใช้คนน้อยไม่ถึงห้าคนด้วยซ้ำแต่ก็ลุล่วงและคล่องตัวได้มาก ส่วนคนอื่นๆ ตอนนี้คงกระจายกันไปตามแผนและคงไปรวมกันอีกครั้งบนเกาะ “ครับ” ทะเลยิ้มแห้งๆ รับคำชมนั้น เพราะรู้ว่างานนี้ตนทำพลาดไปบางอย่างแล้วนั่นเอง แต่ท่าทางแบบนี้มีหรือจะรอดพ้นสายตาของเซบาสเตียนไปได้ “เป็นอะไร” “คือว่าผม” ทะเลอ้ำๆ อึ้งๆ ก่อนที่เซบาสเตียนจะคิ้วขมวดเมื่อได้ยินเสียงดังเล็ดลอดออกมาจากท้ายรถ ชายหนุ่มจึงเดินอ้อมไปดูโดยมีทะเลตามมาติดๆ “อื้อ...อ่อย อ้านนนน (อื้อ...ปล่อยฉัน)” เซบาสเตียนเปิดท้ายรถออกดูก็พบว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ฝนทิพย์ที่ตอนนี้ถูกมัดมือ มัดเท้าและยังมีผ้าปิดปากดิ้นรนเพื่อช่วยเหลือตัวเอง ชายหนุ่มยืนเท้าสะเอวมองคนที่ไม่ต้องการ ก่อนจะหันไปมองทะเลด้วยแววตาไม่พอใจ ทำเอาทะเลสะดุ้ง “เอ็งทำอะไรทะเล” “คือตอนที่ผมจะกลับ บังเอิญเจอผู้หญิงคนนี้เข้า เธอเห็นผมกับของก็เลยจับมาด้วยครับ” คำตอบของทะเลทำให้เซบาสเตียนลอบถอนหายใจออกมาหนักๆ เรื่องยุ่งๆ คงตามมาในอีกไม่ช้าแน่ เขาไม่รู้เลยว่าทะเลจะจับฝนทิพย์มาด้วย กระทั่งถึงเฮลิคอปเตอร์ที่จอดรับเพื่อเดินทางไปยังเกาะ “ผมขอโทษครับนาย ตอนนั้นผมคิดอะไรไม่ออกก็เลยพาเธอมา ยังไงเราปล่อยเธอไปตอนนี้ก็ได้นะครับ” “ไม่ได้ เอ็งจัดการฆ่าทิ้งซะ จะได้จบๆ” คำสั่งของเซบาสเตียนทำเอาทะเลหน้าซีดเป็นไก่ต้ม “อ้ายยยย (ไม่)” ดวงตาของฝนทิพย์เบิกกว้างทันทีที่ได้ยินคำว่าฆ่าทิ้ง ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงได้เลือดเย็นและโหดเหี้ยมแบบนี้ ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะเขาเป็นโจรที่ขโมยเพชรมาไม่ใช่เหรอ เซบาสเตียนกำลังคิด เขาพูดว่าฆ่าแต่ไม่ได้ต้องการฆ่าแค่ทำให้ส่วนเกินเกิดความกลัวเท่านั้น ซึ่งก็ได้ผล เพราะตอนนี้เธอนิ่งเป็นหุ่นไปแล้ว ฝนทิพย์ต้องตั้งสติ ถ้าเธอเกิดต้องตายในหน้าที่ขึ้นมาจริงๆ ทุกคนต้องภาคภูมิใจในตัวเธอแน่
หวามรักเจ้าพ่อคาสิโน

หวามรักเจ้าพ่อคาสิโน

มหาเศรษฐี
4.9
เพราะคำว่า ‘หนี้’ ทำให้ชีวิตของนิลยาพลิกผัน คำๆ นี้มันร้ายแรงถึงขั้นทำให้ครอบครัวเธอแตกแยก แถมเธอยังถูกพี่ชายต่างพ่อ มอมยาแล้วนำมาขายราวกับสินค้าไร้ราคา ++++++++++++++ “อยากได้เงินมากขนาดนั้นเลยหรือไง” “ใช่...ฉันอยากได้เงิน เพราะเงินมันทำให้ฉันไปจากที่นี่ได้” เพราะโกรธที่ราเชนทำกับเธอย่างไม่มีเหตุผล ทำให้นิลยาตอบกลับมาด้วยอารมณ์ ทั้งๆ ที่พึ่งขอบคุณในใจไปหยกๆ ที่เขาเข้าไปช่วยให้รอดพ้นจากไพรวัลย์ “ถ้างั้นฉันจะให้เธอเอง” เอ่ยจบ ราเชนก็เดินกลับมาที่โต๊ะทำงาน จากนั้นก็เปิดลิ้นชักออกแล้วคว้าเงินปึกใหญ่หลายปึกมาถือไว้ เสร็จก็เดินกลับหานิลยาพร้อมโยนเงินปึกแรกให้เธอ “หนึ่งแสนสำหรับเสื้อตัวนั้น ถอดออกสิ” ประโยคที่ได้ยินจากราเชน ทำให้นิลยาหน้าชาอย่างบอกไม่ถูก หรือว่าที่ผ่านมาเธอมองผู้ชายตรงหน้าผิดไป เขาคงเหมือนผู้ชายเลวๆ คนอื่น ที่คิดว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง นิลยาจ้องมองราเชนด้วยแววตาผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด แววตานั้นทำให้ราเชนชะงักไปนิดหน่อยและรู้สึกผิดที่ทำเช่นนี้ แต่เพราะอยากสอนให้เธอรู้ว่าโลกใบนี้ไม่ได้สวยงามไปเสียหมด ราเชนก็จำต้องใจร้าย “แล้วนี่ก็อีกหนึ่งแสนสำหรับกระโปรงตัวนั้นของตัวเธอ อยากได้เงินมากไม่ใช่เหรอ ถ้าใช่ก็รีบถอดเสื้อกับประโปรงออกมาแลก” นิลยาไม่เอ่ยอะไร แต่ทว่าเธอกลับทำตามที่ราเชนบอก ด้วยการถอดเสื้อและกระโปรงออกทันที ราเชนมองเห็นความกลัวจากแววตาของนิลยาได้ รวมถึงร่างกายบอบบางที่กำลังสั่นเทานั่นก็ด้วย แต่เขากลับมองเธอด้วยความเฉยชา กระทั่งนิลยาถอดเสื้อและกระโปรงพ้นไปจากตัว เรือนร่างกึ่งเปลือยของนิลยานั้นชวนมองไม่น้อย แต่ราเชนก็จำต้องใจแข็ง “สองแสนสำหรับบราเซียกับบิกินี่” เอ่ยจบราเชนก็โยนเงินลงไปบนโต๊ะตรงหน้านิลยา เธอยืนกำหมัดเล็กๆ ของตัวเองไว้แน่น พร้อมพยายามหยุดน้ำตาที่ค่อยๆ เอ่อออกมา นิลยากัดฟันไว้แน่น จากนั้นก็ปลดสายบราเซียออกจากหัวไหล่ข้างซ้ายก่อนตามด้วยข้างขวา แต่จังหวะที่เธอเอื้อมมือไปด้านหลังเพื่อปลดตะขอ ราเชนกลับทนดูไม่ไหวเสียเอง “หยุด พอแค่นั้นแหละ” “แต่ฉันอยากได้เงินเพิ่ม ส่วนคุณก็พร้อมจะจ่ายอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” นิลยาเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมจ้องมองราเชนอย่างถือดี ชายหนุ่มก้าวเพียงหนึ่งก้าวก็เข้ามาประชิดตัวนิลยาได้แล้ว ก่อนจะโยนเงินทั้งหมดในมือลงไปบนโซฟา แล้วล็อคใบหน้าของเธอไว้ด้วยมือหนาทั้งสองข้าง จากนั้นก็บดขยี้จูบหนักๆ ลงไปบนริมฝีปากอิ่มของเธออย่างจาบจ้วง
หลงรักเจ้าสาวผิดคิว

หลงรักเจ้าสาวผิดคิว

มหาเศรษฐี
5.0
เธอ...คือเจ้าสาวที่ฟ้าส่งมาโปรด ให้เจ้าบ่าวใกล้ตายที่ถูกเทงานแต่งงานอย่าง...เขา ++++++++ “เราขอโทษที่ไม่ได้บอกแกเรื่องพี่ปุณณ์จะแต่งงาน เราแค่ไม่อยากเห็นแกอกหักน้ำตานอง แต่เอ๊ะ...ทำไมแกพูดเหมือนกับว่ารู้จักเจ้าสาว” “อื้อ...พอดีเราเป็นญาติกัน คงเหมือนแกกับพี่ปุณณ์นั่นแหละ” “โลกแม่งก็กลม” เอ่ยจบเพียงดาวก็ถอนหายใจออกมา ตอนนี้เธอมืดแปดด้านไปหมดแล้ว ไม่รู้จะแก้ไขปัญหานี้ได้ยังไง “แล้วแบบนี้งานแต่งงานจะเอาไงต่อ” “ป้าเรา แม่พี่ปุณณ์นะ ยื่นคำขาดให้ญาติเจ้าสาวหาทางแก้ไขอยู่” “จะหาทางแก้ไขยังไงเล่า ในเมื่อเจ้าสาวไม่อยู่แบบนี้แล้ว” ดรินทร์คิ้วขมวดอีกคน “ก็ใช่ไง อีกอย่างเราเห็นบรรดาพ่อแม่ญาติพี่น้องเจ้าสาวพากันหนีขึ้นรถแล้วขับออกไปจากโรงแรมตะกี้นี้ คงเทงานแต่งงานเหมือนเจ้าสาวแล้วแน่นอน เราฟันธงได้” “หา” เสียงอุทานด้วยความตกใจดังมาจากดรินทร์อีกครั้ง “เอาไงดีอะแก ช่วยกันคิดหน่อยสิ” “จะไปคิดอะไรให้ยุ่งยาก ในเมื่อไม่มีเจ้าสาวแล้วก็ยกเลิกงานแต่งไปสิแก จะจัดต่อทำไม” “หรือไม่ก็แก้ผ้าเอาหน้ารอด ด้วยการหาผู้หญิงสักคนมาเป็นเจ้าสาว” ขณะพูดเพียงดาวก็มองตรงมายังดรินทร์ โดยที่คนถูกมองนั้นไม่รู้ตัวสักนิด ว่าเพื่อนกำลังวางแผนอะไรอยู่ในใจ “บ้า...ผู้หญิงสติดีที่ไหนจะยอมแต่งงานกับใครง่ายๆ ขนาดนั้นกัน” “แกไง” “เราเนี่ยเหรอ”คราวนี้ดรินทร์ตกใจจนตาโตเป็นไข่นกกระจอกเทศ ก่อนจะชี้นิ้วมาที่ตัวเองแล้วทำตาปริบๆ มองมายังเพียงดาว ส่วนคนพูดนั้นกลับส่งยิ้มหวานมาให้
หนี้รักจำเลยปรารถนา

หนี้รักจำเลยปรารถนา

มหาเศรษฐี
5.0
เขา...คือรักแรกและเป็นรักเดียว แต่...ทว่ารักครั้งนี้กลับถูกขอให้เสียสละโดยพี่สาวฝาแฝด เธอ.....จะทำอย่างไร จะนิ่งเฉย....หรือจะปล่อยมือ --------- “พี่ติณมองซอให้ชัดๆ ว่าคนที่พี่เห็นตอนนี้คือใคร ซอหรือพี่พิณ” น้ำเสียงห้วนๆ เอ่ยขึ้น ชื่อที่ได้ยินทำให้ติณณ์ผงะไปเล็กน้อย ทำไมธัญชยาถึงได้แทนตัวเองว่าเป็นณัฐชยาถึงสองครั้งแบบนี้ นั่นทำให้ชายหนุ่มเพ่งสายตามองคนตรงหน้าให้ชัดๆ แม้จะตกอยู่ในฤทธิ์ยา แต่ณัฐชยาก็มั่นใจว่าติณณ์สามารถแยกออกระหว่างเธอกับพี่สาวว่าใครเป็นใคร และก็จริง เพราะแววตาของติณณ์เปลี่ยนไป ชายหนุ่มถึงกับชะงัก เพราะเขามั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้คือณัฐชยาไม่ใช่ธัญชยาแน่นอน แม้สองคนจะเป็นฝาแฝดที่เหมือนกันราวกับแกะ แต่ติณณ์คือหนึ่งคนที่แยกออกว่าคนไหนคือณัฐชยา คนไหนคือธัญชยา “ซอ!” น้ำเสียงที่เปล่งชื่อณัฐชยาออกมานั้นช่างเต็มไปด้วยความตกใจและแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเธอ “ผิดหวังเหรอคะที่เป็นซอ ไม่ใช่พี่พิณ” คำพูดประชดประชันถูกเอ่ยออกมาจากปากอิ่ม ดวงตาแดงก่ำเพราะความน้อยใจ ------------