บนสุด
0
เติมเงิน
ประวัติการอ่าน
ออกจากระบบ
ดาวน์โหลดแอป
เฌอเลียร์
หนังสือของ เฌอเลียร์(27)
พรางกุหลาบ
โรแมนติก
5.0
ตั้งแต่ฉันได้กุหลาบสีม่วงมาอย่างบังเอิญ ฉันก็เริ่มฝันถึง อัศวินชุดดำ แม่มดในกระท่อม แมวดำ ความตายสีเพลิง ...และดวงตาสีฟ้าปริศนาที่ทำใจเต้นแรงคู่นั้น ++++++++++++++++++++++++ เราสบตากัน ดวงดาวสีฟ้าที่ฉันเคยใฝ่ฝัน ดวงดาวที่ฉันอยากเอื้อมให้ถึง "เจ้าเป็นเพื่อนที่ข้าไว้ใจที่สุด" เขาโกหกฉัน เหมือนที่ฉันก็โกหกเขา ตลอดมาฉันไม่เคยคิดว่าเขาเป็นเพียงเพื่อน ผู้คุมปลดโซ่ ทหารเข้ามาล้อมรอบตัวฉัน ผลักขึ้นสู่บันได ที่มีอีกคนยืนอยู่พร้อมขดเชือกหนา ร้อยรัดมัดร่างกายฉันไว้อย่างแน่นหนา ชายอ้วนเตี้ยพล่ามอะไรอีกแล้ว ฉันไม่ได้ยินเพราะเสียงร้องไห้ระงมของหลายคนบนเสาต้นข้าง ๆ บ้างก็ก่นด่า บ้างตะโกนบอกตนไม่ผิด ดวงดาวสีฟ้ายังส่องแสง ขณะในตาฉันกำลังเลือนรางด้วยน้ำสีแดง กลุ่มเส้นไหมสีทองซบลงที่ไหล่เขา ทันใดนั้นดวงดาวสีฟ้าก็กะพริบ หลุบมองเธอในชุดขาว "ประหารแม่มด" ท่านอาจารย์ที่รับเลี้ยงฉันเคยพูดไว้ หากแผลใดทำเราเจ็บมาก ถึงที่สุดแล้วมันจะชา กระทั่งไม่รู้สึกอะไรอีก "ไม่มีแผลใดที่ไม่มีวันหาย" ฉันยิ้ม นึกเยาะเย้ย อาจารย์โกหกเสียแล้ว ตอนนี้ฉันเจ็บมาก เจ็บปวดเหลือเกิน ทำไมยังไม่ชาอีกล่ะ +++++++++++++++++++++++++ ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์
สามีมาเฟียคนนี้เป็นของคุณนะ
โรแมนติก
5.0
ชารีญา เปรียบเสมือนเจ้าสาวที่กลัวฝน เธอหนีงานแต่งมาด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง ทว่าเมื่อหลบซ่อนอยู่ในโรงแรมเธอกลับได้มาพบกับเขา มาเฟียร้ายจอมไร้อารมณ์ เดเมียน จัสติน วินด์ทรอฟ ไม่มีอารมณ์ใครและปรารถนาต่อผู้หญิงคนไหนมาก่อน กระทั่งได้มาพบเธอ ผู้หญิงที่มีดวงตาที่เป็นประกายและช่วยปลุกไฟสวาทของเขาให้ตื่นขึ้นมา ค่ำคืนพลาดพลั้งของทั้งคู่ก่อเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อวันใหม่มาเยือน เธอคนนั้นก็หนีจากไป จนทำให้เขาต้องใช้ทุกวิธีเพื่อตามเธอกลับมา เขายอมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ มากด้วยแผนการ ยินยอมเป็นมาเฟียที่ชั่วร้ายในสายตาของเธอคนนั้น เพียงเพื่อกักขังเธอไว้ให้อยู่เคียงข้างเขาตลอดไป สถานที่ที่เธอคนนั้นละอยู่ได้บนโลกใบนี้มีเพียงข้างกายเขาเท่านั้น!
ภริยา(ไม่)รักของนายหัว
โรแมนติก
5.0
วัชรมัยเคยทิ้งไผท ทิ้งลูก แล้ววันนี้กลับมาร้องขอความเป็นแม่อีกครั้ง ไผทจะไม่มีวันให้อภัย! ++++++++++++++++++++++++++ “ฉันไม่รังเกียจหรอกนะ ถ้าเธอจะเคยนอนกับผู้ชายคนอื่น แต่ต้องไม่ใช่ตอนอยู่กับฉัน” ขายาว ๆ ย่างสุขุมเข้ามา หญิงสาวทำตัวลีบเล็ก กระทั่งหลังติดแนบหัวเตียง “ฉันไม่ใช้ผู้หญิงร่วมกับใคร!” “พี่ป้อ...” เอ่ยยังไม่ทันจบ ริมฝีปากซีดก็ถูกประกบด้วยอวัยวะชนิดเดี๋ยวกัน “อื้อ...” ไร้ซึ่งความอ่อนหวาน มีแต่การบังคับดุดัน ไผทดูดดึงริมฝีปากบางจนฮ้อเลือด “เห็นเธอป่วย ว่าจะใจดีให้พักเสียหน่อย แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถอดเสื้อผ้าออก ฉันจะเช็คของ!” เมื่อจุมพิตอย่างไม่เต็มใจจบลง เสียงทุ้มต่ำดังแหวกเสียงหรีดเรไรข้างนอก ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศหนาวเหน็บชวนขนลุก ไผทแสยะยิ้มร้ายกาจให้คนบนเตียง “ทำสิ ไม่งั้นก็ไสหัวไปออกจากบ้านฉัน ออกไปจากชีวิตลูก” วัชรมัยกลืนทุกความรู้สึกกลับไปในอก มือสั่นถอดเสื้อผ้าออก “จะได้อยู่กับลูก...จะได้อยู่กับปราบ” เสียงในสมองดังก้องสะกดจิตตนเอง เพื่อได้อยู่กับลูก ต่อให้ต้องลงนรกขุมไหนเธอก็จะทน! +++++++++++++++++++++++++++++
ภริยา(ไม่รัก)ของมาเฟีย
โรแมนติก
5.0
ภริยา(ไม่รัก)ของมาเฟีย +++++++++++++++++ “ถ้าฉันไม่มีลูก คุณก็จะไม่มาที่นี่ใช่ไหม” ในใจส่วนลึกคาดหวังคำตอบว่า...ไม่ใช่ เลโอนาร์ดเบนสายตามองเธอนิ่ง “คงจะอย่างนั้นแหละ” ประไพสุดาเม้มริมฝีปากแน่น กายสั่นเทิ้ม “เลโอนาร์ด เบลุซซี่ คุณออกไปจากที่นี่ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก เด็กในท้องนี่เป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น ถ้าอยากได้แกก็ฆ่าฉันเสียเถอะ” ดวงตาดำสนิทลุกวาว มองอดีตสามีดังจะสาปส่งให้สลายเป็นจุณ “ฉันเกลียดคุณ!” +++++++++++++
อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก
โรแมนติก
5.0
อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก ++++++++++++++++++ เมื่อคนอกหักมาวันไนต์แสตนด์กัน จากที่คิดว่าแค่วันไนต์ กลายเป็นมีภาคสอง หัวใจที่บอบซ้ำสองดวง จะเปลี่ยนไปอย่าไร ในเมื่อต่างฝ่ายต่างเข็ดกับความรัก ++++++++++++++++++++ "ลูกพี่ลูกน้องของคุณทำว่าที่สาวเจ้าของคุณท้องอย่างนั้นหรือคะ" สีหน้าของฤดีรัตน์ตกใจมาก ๆ เจ็บหัวใจแทนเขาเลย "ครับผม แต่ยังดีที่ยังไม่ได้ร่อนการ์ดเชิญ มันโคตรรู้สึกแย่เลยนะ สามเดือนมาแล้วนะ ทุกอย่างก็ยังไม่ดีขึ้นเลย รู้สึกเจ็บอยู่ข้างในเนี่ย" "ฉันเข้าใจคุณเลยค่ะ เพราะของฉันมากกว่าสามเดือน" "แล้วผมจะเป็นอย่างคุณไหม" "ไม่มั้งคะ เพราะคุณดูมีสติมากกว่าฉันเสียอีกค่ะ แค่หาคนใหม่" ชนิษฐากรอกหูเธอทุกวันเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ทำไม่ได้ แต่เอาคำปรึกษาของเพื่อนมาบอกเขา "หาคนใหม่ยังไง" คิ้วเรียวเลิกขึ้น "หนามยอกให้เอาหนามบ่งยังไงล่ะคะ" ฤดีรัตน์ทำเป็นยกมือป้องปากกระซิบ "ไม่เข้าใจครับ" "คุณก็แค่หาผู้หญิงคนใหม่ ไม่จำเป็นต้องคบก็ได้ค่ะ แค่มาคั่นกลางให้เรารู้สึกดีขึ้น" เธอยักไหล่ แสร้งทำเป็นช่ำชองเรื่องการหาคนใหม่มาดามใจ "แล้วทำไมคุณไม่ทำ" "ก็ฉันยังไม่ได้เจอคนที่ชอบนี่คะ อย่างน้อยก็ต้องชอบก่อน" "ถ้างั้นทฤษฎีนี้ก็ไม่ได้ผลนะ ที่จริงไม่ต้องชอบกันก็ได้มั้ง แค่รู้สึกไม่รังเกียจก็พอ" เขายกเบียร์ขึ้นจิบ ฉุนนิด ๆ ที่ต้องมาฟังทฤษฎีเพ้อเจ้อ "คุณรังเกียจฉันไหม" ฤดีรัตน์หรี่ตาปรือ "ถ้ารังเกียจผมจะให้คุณนั่งโต๊ะเดียวกันเหรอ" "ถ้าอย่างนั้นคืนนี้" หมอคชาจ้องหน้าเธอ "คืนนี้นอนกับฉันได้ไหมคะ วันไนท์สแตนด์ ไม่ผูกมัด ไม่ผูกพัน" +++++++++++++++++++++ มีตัวละครต่อเนื่องจากเรื่อง รักอย่า...หย่ารัก นะคะ อ่านแยกกันได้ค่ะ ไม่งง ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์
รักหย่า...อย่ารัก
โรแมนติก
5.0
ชนิษฐารักคณิศร แต่เขารักอีกคน อ้อมกอดเขามีให้เธอ แต่ในใจเขาคิดถึงใคร ทำดีสักเท่าไร สุดท้ายคณิสรมองชนิษฐาเป็นเพียงเครื่องมือผลิตลูก การแต่งงานอันหลอกลวงต้องจบลง ถึงเวลาแล้ว ที่เธอจะหย่า! +++++++++++++++++++++++++++++ ชนิษฐาช็อกกับภาพตรงหน้า "ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นได้คนผลิตลูก แม่วัวยังไงล่ะคะดิน แต่สำหรับหวาย หวายคือนางในดวงใจของดิน อ้า อะ อะ อะ..." คงจะเป็นสามีของชนิษฐาด้วยที่เด้งเอวตอบกลับการกระทำของสุธาวี เคล้ง... ข้าวของในมือของชนิษฐาร่วงหล่น คณิศรยกหัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สายตาของเขาสบต้องสายตากับชนิษฐา ที่ในเวลานี้น้ำตาที่ไหลลงมากลบม่านตา ยืนปากคอสั่น สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของชนิษฐาในตอนนี้ คือหนีไปให้ไกลแสนไกล เธอวิ่งออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ตรงไปที่รถของเธอ แล้วขับออกไป คณิศรผลักตัวของสุธาวี "ออกไป พอได้แล้วหวาย หยุดเถอะ คุณกำลังทำให้ชีวิตผมพัง" "หวายทำพังเหรอคะ พังเหรอคะ ดิน... เราสองคนกำลังมีความสุขด้วยกันต่างหาก ดินยอมรับความจริงเถอะค่ะว่าคุณน่ะขาดหวายไม่ได้" ++++++++++++++++++++++++++++++ ติ๊ง... ติ๊ง... มีข้อความเข้า และทุกวันนี้จะเป็นข้อความจากสินเป็นส่วนใหญ่ คณิศรหยิบมือถือขึ้นมา เมื่อเปิดเข้าไปดู รูปที่บาดตาบาดใจ บาดหัวใจ ผู้ชายคนนั้นเปิดประตูให้กับชนิษฐา เธอหันมายิ้มให้เขา และขึ้นไปนั่ง คณิศรถึงกับทิ้งมือถือ และหลับตาลงทันที เขาเศร้าหม่นในหัวใจมาก ทำไมเป็นแบบนี้ มันจะลงเอยแบบนี้ไม่ได้ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Bitter & Sweet ไม่สายที่จะรัก
โรแมนติก
5.0
Bitter & Sweet +++++++++++++++++++++ จากวันวานที่เคยปฏิเสธความรัก วันนี้ลลินทร์อยู่ในสภาพ...แห้ง ขาดรัก ก็ว่าจะไม่สนใจความรักแล้วเชียว แต่นักเขียนนิยายรักหนุ่มกลับมาป่วนให้ใจสะดุด งานนี้คนเกลียดนิยายรักอย่างเธอ...จะทำยังไงดีล่ะ +++++++++++++++++++++ “คุณนี่ไม่โรแมนติกเลย ไม่รู้จักกระทั่งรสหวานหรือขมของความรัก นิยายรักน่ะมีพื้นฐานมาจากเรื่องพวกนี้แหละ” เขาต่อว่ากันซึ่ง ๆ หน้า “คุณเคยรักใครบ้างไหมครับ รักมากจนเจ็บเมื่อเขาทรยศ จากกันเป็นสิบปี คิดว่าจะลืมเขาเสียแล้ว แต่แค่เจอหน้า ความรู้สึกเจ็บก็แล่นแปล๊บเข้าในอก” สาบานได้ว่าลลินทร์ได้ยินคำพูดนี้จากปากคน ไม่ใช่ตัวอักษรบนกระดาษ เขาช่างสมกับเป็นนักเขียนขายดีเสียจริงขนาด แค่พูดยังเป็นสำนวนสละสลวยถึงเพียงนี้ ดวงตาคมกริบมองเธอเรียบนิ่ง “ความรู้สึกทั้งโมโหที่เธอไม่สนใจ ทั้งเกลียดตัวเองที่ยังมองตามเธออยู่ได้ รู้สึกขมขื่นใจเมื่อคิดถึง” ชายหนุ่มกดปุ่มปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วพับหน้าจอลงเสีย วางมันไว้ใกล้ไอแพ็ด “บอกผมหน่อยสิคุณเคยรู้สึกอย่างนี้กับใครหรือเปล่า” เสียงที่เอ่ยมานั้นแปร่งปร่า จนสองสาวรู้สึกได้ “ตอบสิครับ คุณคนไม่โรแมนติก” สามครั้งภายในวันเดียวที่โดนเขาว่าเช่นนี้ โรแมนติกหรือไม่ ...อย่างไร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย จะมาจี้ถามเอาอะไรจากเธอ +++++++++++++++++++++++++ ขอให้อ่านสนุกและบุญรักษาค่ะ จโกระ
กุหลาบรัก นางบำเรอ
โรแมนติก
5.0
ปารวิชญ์ถอดสูทโยนไว้ในรถ เดินไปสั่งของอาหารสองสามอย่าง แล้วรินน้ำเปล่าจากขวดแก้วให้เธอ “คิดถึงสมัยยังเรียนเนอะ ถ้าอยู่คณะดึก ๆ พวกเราก็เฮโลกันมากินข้าวแบบนี้” เขาเล่าเรื่องเก่า สร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นหน่อย “ตอนนั้นสนุกที่สุดเลย” เธอเห็นด้วย แต่มันก็เป็นแค่อดีตที่มีไว้ให้แค่คิดถึง ตอนนี้มีเรื่องหนักอึ้งในหัวต้องคิด “วันงานเลี้ยงรุ่นเราไม่ได้คุยกันเลย” หญิงสาวเลิกคิ้ว ทำไมเขาถึงต้องมาคุยกับเธอกันล่ะ ปารวิชญ์เป็นจุดเด่นอยู่ท่ามกลางเพื่อน ขณะเธอหลบมุมกินดื่มไปเงียบ ๆ “บูมสบายดี ฉันก็สบายดี มันน่าจะโอเคแล้วนะ” เส้นทางชีวิตระหว่างเธอกับเขาเป็นคู่ขนาน โลกที่อยู่ก็ต่างกัน แค่เจอ ทักทายนิดหน่อย ยิ้มให้แล้วต่างคนต่างไปก็น่าจะพอ “ถ้าไม่อยากเป็นเด็กเสี่ยอ่าง มาเป็นเด็กฉันไหมล่ะ” เกวลีอ้าปากเหวอ ตาโตเหมือนเห็นผี “นี่คือจุดประสงค์ที่ฉันพาเธอมาคืนนี้”
เรื่องรัก นับสอง
โรแมนติก
5.0
เรื่องรักระหว่างสาวไม่อยากให้ชีวิตตัวเองจืดกับหนุ่มชาวไร่ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ “คุณโง่หรือเปล่า มีผู้หญิงสวยๆ มาอยู่อย่างนี้ยังไม่อยากทำอะไรอีก” นับสองส่งยิ้มที่คิดว่ายั่วยวนสุดออกไป ธาวิศเลิกคิ้ว เหมือนเห็นกระต่ายมีเขา เต่ามีหนวด “หรือว่าไม่ชอบผู้หญิง” หรือเขาอาจกลายเป็นเพื่อนสาวก็ได้ ใครจะรู้ “ผมชอบผู้หญิง” ดวงตาคมนั้นยอมรับตามที่พูด เพราะมันโลมไล้ทั่วแทบเปลื้องผ้าเธอออก “แต่ไม่อยากติดโรค” “ฉันปลอดภัย ไม่มีโรคติดต่อ” ยกเว้นเนื้องอกในสมองไว้อย่าง “ผมจะแน่ใจได้ยังไงนับหนึ่ง” นับสองหน้าหดเหลือสองนิ้ว ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เมื่อเวลาในชีวิตเหลือน้อย สาวจืดอย่างนับหนึ่งจึงขอเป็นสาวเปรี้ยวบ้าง ทำมาทำไป โดนหนุ่มหน้ายักษ์อย่างธาวิศหิ้วกลับไร่ แล้วชีวิตเธอจะเป็นยังไงต่อละเนี่ย ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ “ขอฉันไปด้วยสิ” เธอยังอยากได้ความชื่นรื่นรมย์นี้ต่อ คิ้วธาวิศกระตุก “นะคุณ” นับสองทอดเสียงอ่อน ส่งสายตาขอร้อง “ไม่ได้” “คุณมีครอบครัวแล้วเหรอ” เธอสังเกต นิ้วชี้ข้างซ้ายเอาไม่ได้สวมแหวน “ยัง เอ๊ย! นั่นไม่ใช่ประเด็น” “งั้นฉันขอไปด้วยสิ” นับสองเอียงคอน่ารัก เลียนแบบนับหนึ่งที่ชอบทำบ่อย “คุณเป็นสาวเป็นนางจะไปอยู่บ้านผู้ชายได้ไง” ธาวิศคุมกิริยาไม่ให้ลน ตื่นเต้นตามเสียงหัวใจ “ขอไปในฐานะเพื่อนก็ยังดีหรือคนซั่มชั่วคราวก็ได้” ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เดียร์ มายลอร์ด
ประวัติศาสตร์
5.0
‘เดียร์ มายลอร์ด’ เรื่องรักผ่านจดหมายระหว่างภรรยาคืนเดียวกับท่านดยุคผู้สูงศักดิ์ โปรย ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ มือสากล้วงเข้ามาในคอเสื้อ เธอดิ้นหนี เขาใช้ทั้งตัวทับตรึงเธอเอาไว้ ‘นายท่านปล่อยข้าไปเถอะ ได้โปรด...’ เสียงวอนหายไปในลำคอ เมื่อริมฝีปากเขาไล่เล็มเรื่อยลงมาถึงปทุมถัน จมูกซุกไซ้สำรวจ ‘อา...’ เฟรยาคราง อุณหภูมิในร่างสูงขึ้น กายบิดด้วยรสหวามตึงแน่นที่กลางปทุมด้วยฤทธิ์ลิ้นร้าย ก่อนที่จะหวีดร้องเมื่อมีการล่วงล้ำด้านล่าง แม้ดิ้นรนหนีแต่คนด้านบนก็รั้งไว้ สอดวงแขนโอบอุ้มดันให้เธอกอดตนไว้ จากนั้นก็สอดประสานบทเพลงแห่งกามารมณ์ระหว่างชายหญิง เธอครางเหมือนตกอยู่ในความฝัน บางสิ่งผ่านรวดเร็วจากส่วนล่างขึ้นสู่สมอง ความรู้สึกที่เหมือนมีพายุใหญ่แล่นผ่านกาย แขนบางของเฟรยาโอบรอบร่างแกร่งของเขา ยึดไว้จากความซ่านด้วยฤทธิ์แรงปรารถนาซ่อนเร้น ‘จงเชื่อฟังข้า เจ้าเป็นสิทธิ์ของข้าแล้ว เรียกข้าว่ามายลอร์ดสิ’ เขากระซิบขณะยังค้างคาอยู่ในตัวเธอ ‘ค่ะ มายลอร์ด’ ริมฝีปากเฟรยาสั่น แรงสะเทือนจากเขาส่งตรงสู่เธอเรื่อยราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ‘ดีแล้ว ข้าชอบคนเชื่อฟัง ชอบคนซื่อสัตย์ สาบานสิว่าเจ้าจะไม่ทรยศ’ ‘ข้า...’ ‘สาบานสิ! ว่าเจ้าจะจงรักภักดีกับข้าปานประหนึ่งทาสซื่อสัตย์ต่อผู้เป็นนาย’ เขาเร่งเร้าพร้อมกับการกระแทกที่หนักหน่วงขึ้น ‘ข้าสาบาน’ เขากัดฟันแน่นครางเมื่อการทาบทับครั้งสุดท้ายสู่ตัวเธอจบลง เชิดหน้าสูง ตัวสั่นเทิ้ม ก่อนทิ้งร่างนอนคว่ำลงข้างกายเฟรยา หอบหายใจแรง แขนพาดเอวเธอ ก่อนจะไปวนเวียนคลึงเคล้าหน้าอก เฟรยาไม่ขัดขืน เธอเหนื่อยมากแล้วในคราวแรก กลิ่นเหล้าคลุ้งปนกับเหงื่อของเขา อำนาจแห่งเพศรสให้ความสุขเช่นนี้เอง ++++++++++++++++++++++++++
รักหย่า อย่ารัก
โรแมนติก
5.0
ชนิษฐารักคณิศร แต่เขารักอีกคน อ้อมกอดเขามีให้เธอ แต่ในใจเขาคิดถึงใคร ทำดีสักเท่าไร สุดท้ายคณิสรมองชนิษฐาเป็นเพียงเครื่องมือผลิตลูก การแต่งงานอันหลอกลวงต้องจบลง ถึงเวลาแล้ว ที่เธอจะหย่า! +++++++++++++++++++++++++++++ ชนิษฐาช็อกกับภาพตรงหน้า “ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นได้คนผลิตลูก แม่วัวยังไงล่ะคะดิน แต่สำหรับหวาย หวายคือนางในดวงใจของดิน อ้า อะ อะ อะ...” คงจะเป็นสามีของชนิษฐาด้วยที่เด้งเอวตอบกลับการกระทำของสุธาวี เคล้ง... ข้าวของในมือของชนิษฐาร่วงหล่น คณิศรยกหัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สายตาของเขาสบต้องสายตากับชนิษฐา ที่ในเวลานี้น้ำตาที่ไหลลงมากลบม่านตา ยืนปากคอสั่น สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของชนิษฐาในตอนนี้ คือหนีไปให้ไกลแสนไกล เธอวิ่งออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ตรงไปที่รถของเธอ แล้วขับออกไป คณิศรผลักตัวของสุธาวี “ออกไป พอได้แล้วหวาย หยุดเถอะ คุณกำลังทำให้ชีวิตผมพัง” “หวายทำพังเหรอคะ พังเหรอคะ ดิน... เราสองคนกำลังมีความสุขด้วยกันต่างหาก ดินยอมรับความจริงเถอะค่ะว่าคุณน่ะขาดหวายไม่ได้” ++++++++++++++++++++++++++++++ ติ๊ง... ติ๊ง... มีข้อความเข้า และทุกวันนี้จะเป็นข้อความจากสินเป็นส่วนใหญ่ คณิศรหยิบมือถือขึ้นมา เมื่อเปิดเข้าไปดู รูปที่บาดตาบาดใจ บาดหัวใจ ผู้ชายคนนั้นเปิดประตูให้กับชนิษฐา เธอหันมายิ้มให้เขา และขึ้นไปนั่ง คณิศรถึงกับทิ้งมือถือ และหลับตาลงทันที เขาเศร้าหม่นในหัวใจมาก ‘ทำไมเป็นแบบนี้ มันจะลงเอยแบบนี้ไม่ได้’ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วิวาห์เลหลัง
โรแมนติก
5.0
เมื่อของเลหลังมาเจอกัน อีกคนเดี้ยงเพราะอุบัติเหตุ อีกคนก็ตกงาน ไร้คู่ ปฏิบัติการเก็บตก เพื่อให้เป็นวิวาห์เลหลังจึงเกิดขึ้น +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ “รอให้คุณเดินได้ก่อนไหมเราค่อยมีเซ็กซ์กัน” “เฮ้ย! ไม่ดี” สามีร้องเสียงหลง “ก็ถ้าเกิดมีเซ็กซ์กันแล้วฉันท้อง คุณเดินไม่ได้ ฉันต้องเลี้ยงลูกคนเดียวก็ลำบากแย่เลยสิ” เคยอ่านจากที่ไหนสักแห่งว่าคู่รักกันหากฝ่ายหญิงเอ่ยถึงลูก อีกคนจะหมดอารมณ์ใคร่ทันที น่าจะใช้กับเขาได้ “ฉันจะป้องกัน เธอก็ป้องกันด้วย เด็กไม่ได้เกิดกันง่าย ๆ ขนาดนั้นหรอก” “ไม่เอา ฉันกลัว การป้องกันไม่ให้เด็กเกิดมาที่ดีที่สุด คือเราต้องไม่มีเซ็กซ์กัน” มิเรียมแจง “โว้ย!” ภาษรคำราม ปล่อยมือจากร่างอ้อนแอ้นทั้งบนและล่าง “เธอคิดว่าฉันจะมีเมียเพื่อตั้งไว้บนหิ้งบูชาหรือยังไง” เสียงลมหายใจในความมืดของเขาฮึดฮัด “มันชักจะมากไปแล้วนะ” หญิงสาวนึกหน้าเขาออกเลย มันต้องบึ้งมากแน่ ๆ เรียกว่าแทบจะกินหัวเธอ “ฉันอธิบายความน่าจะเป็นต่างหาก ไม่ได้บอกว่าจะไม่มีอะไรกับคุณ แต่มันยังไม่ถึงเวลา” “ฉันต้องแข็งแรงขนาดไหนเธอถึงจะยอมมีเซ็กซ์ด้วย” +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เมียสวาทพันหัวใจ
โรแมนติก
5.0
“ลี...” เจตวัฒน์ครางพลางหอบเมื่อการขยับครั้งสุดท้ายจบลงพร้อมปลดปล่อยสายธารแห่งรักไว้ภายใน มัณฑลีบนเตียงในเวลานี้ยั่วยวนที่สุด ผมดำยาวสยายเต็มหมอน ดวงตาปรือฉ่ำ ใบหน้าแดงนิดๆ ริมฝีปากเอิบอิ่มเพราะฝีมือเขา “คุณยอดไปเลย” ความอัดอั้นสะสมที่ไม่กล้าแตะต้องเธอมานาน เพราะกลัวจะรบกวนคนป่วยแสดงออกมาเป็นความหนักหน่วงในคืนนี้ กายแกร่งยังดิ้นรนอยู่แม้จะอ่อนแรงแล้ว ราบกับดาบแกร่งที่สมัครใจจะอยู่ในฝักอันอบอุ่น “ออกไป” มัณฑลีไล่เจ้าของบ้านด้วยเสียงที่แหบโหย มือเปลี่ยนมาเป็นดันอกแข็งแรง หน้าแดงแต่ตาดุวาว “ใจร้ายจัง ... เสร็จแล้วก็ไล่เลยเหรอ บอกแล้วยังไงคืนนี้ผมก็ไม่นอนบนพื้นเด็ดขาด” เจตวัฒน์เรียกร้องทวงสิทธิ์ของเขาอีกครั้งแบบทบต้นดอก มัณฑลีเพลียจนหลับเปลือยซุกหน้ากับอกแกร่งนั้นก่อนตื่นเช้ามาอย่างเจ็บใจที่เสียทีซ้ำสอง ... ต้องมีวิธีสิน่า ที่เธอจะหนีให้พ้นจากสภาพนี้
เจ้าสาวหกเดือน
โรแมนติก
5.0
อมันต์กับจันทร์นิลแต่งงานกันเพราะถูกคลุมถุงชน เธอแอบรักเขา แต่อมันต์กลับทำร้ายจิตใจ จนเธอต้องหนีหายไปพร้อมกับอีกหนึ่งชีวิต และในวันนี้เขาจะมาตามลูกเมียกลับคืน! +++++++++++++++++++++++++++++++++++++ “ใครเหรอคะคุณแม่ ตัวซู้ง...สูง” พิณญาดาที่หลบหลังมารดาถาม ค่อยใจชื้นขึ้นหน่อย ที่เขาเรียกชื่อเล่นจันทร์นิล แสดงว่ารู้จักกัน “เขาเป็น...” หญิงสาวอึกอัก “คนรู้จักของแม่ค่ะ” อมันต์กับเธอมีสถานะแค่นั้น ไม่ว่าวันนี้หรือเมื่อสี่ปีก่อน... “คุณมาที่นี่ทำไม” ภายใต้หนวดเครารุงรังนั้น ชายหนุ่มกำลังขบฟันกรอด ๆ “เรามีเรื่องต้องคุยกัน” เขาก้าวเท้ามาหา หากเธอถอยหลังหนี “แมลงปอคะ ลุงเลี้ยงสเลอร์ปี้นะ ไปกดได้เลย” เด็กหญิงตาวาว เหลือบมองแม่เพื่อดูว่าเธอจะอนุญาตหรือไม่ “ลุงมีเรื่องต้องคุยกับแม่หนูนิดหน่อย” เป็นประโยคคำสั่งที่อมันต์ใช้มันกับเธอตลอดเหมือนครั้งอดีต ออกคำสั่งผ่านดวงตา ให้เชื่อฟังเขา แต่วันนี้จะไม่เป็นเช่นนั้น จันทร์นิลไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว “ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ” เธอคว้ามือลูก แต่เขาเร็วกว่า คว้าแขนเธอไว้ดึงจนร่างเปรียวชนกับอกแข็ง ๆ อย่างแรง “อยากพูดเรื่องของเราต่อหน้าเด็กหรือไง คิดสิ แกจะรู้สึกยังไง” จันทร์มองพิณญาดาที่กำลังจ้องแม่และลุงตัวสูงตาแป๋ว “ฉันคุยกับเธอไม่นานหรอกน่า” อมันต์สำทับ “แมลงปอไปกดสเลอร์ปี้รอแม่นะคะ” เธอฝืนยิ้มให้ลูก เด็กหญิงพนมมือไหว้อมันต์ ตามที่เธอสอนไว้ ผู้ใหญ่ให้อะไรต้องขอบคุณ “นั่นลูกฉันใช่ไหม” เขาปล่อยเธอเป็นอิสระ ตามองร่างตุ้ยนุ้ยที่กดเครื่องดื่มอย่างร่าเริง “คุณไม่มีสิทธิ์ในตัวแก เราหย่ากันแล้ว ลืมไปหรือไง”
เรื่องน่าอาย...ของเรา
โรแมนติก
5.0
เสียงสวบสาบระมัดระวัง ลมวูบพัดผ่านหน้า สาวเสื้อขาวกระโปรงดำเดินผ่านไป ศูรย์อารมณ์กรุ่นกลายเป็นเบื่อเผลอมองตามหลัง ตัวเล็ก ผมสีน้ำตาลรวบหลวมๆ ไว้เหนือศีรษะเป็นก้อนกลมเหมือนซาลาเปา ทำไมผู้หญิงชอบทำทรงนี้กัน ศูรย์เห็นไม่เรียบร้อยเลย ดูนั่นสิ ... ไรผมบางตกลุ่ยเคลียลำคอ แนบผิวนอกเสื้อขาวเหลืองนวล เธอหยุดยืนหน้าชั้นหนังสือ หันข้างให้เขา อ้อ! พี่เต้นไก่ย่างหน้าทะเล้นคนนั้นนั่นเอง วันนี้ไม่มีสีเลอะแล้ว หน้าผากเคยคาดผ้าขาวเขียนตัวอักษรตลกๆ ก็เกลี้ยงเกลา มือบางมีริสแบนด์และเชือกถักหลากสีสองสามเส้นบนข้อ สอดหนังสือคืนสู่ชั้น อาทิตย์บ่ายส่องลอดหน้าต่างเลยมาไล้ร่างที่ยืน กระจกกรองแสงสะท้อนต้องวงหน้าละมุน เรียวคิ้วเป็นระเบียบ ขนตาแพหลุบต่ำพินิจหนังสือ จมูกไม่โด่งมาก ริมฝีปากสีธรรมชาติเคลือบลิปมันขึ้นประกายนิดๆ ศูรย์เพลินมองเรื่อยจนถึงไรผมสีจาง ทอประกายเป็นเส้นสายใสน้ำตาลทอง ดังรูปวาดสีน้ำมันชิ้นเอกของจิตกร ... ภาพที่เหมือนไม่มีอยู่จริง เขาฝันทั้งลืมตาตื่นหรืออย่างไร “โทษทีที่ช้า” ตาวตบบ่า เป็นดังสัญญาณปลุก “อย่าทำหน้างี้ดิวะ มึงโกรธเหรอ เออ! เดี๋ยวกูเลี้ยงขนม” เพื่อนหน้าแหยกับสายตาจ้องเขม็ง ศูรย์ขมวดคิ้วเพื่อย้ำให้แน่ใจว่าตนไม่ได้ฝัน หันไปทางชั้นหนังสือ รุ่นพี่สาวผมทรงซาลาเปาหายตัวไปเสียแล้ว “ไปไป๊! อยากยืมหนังสืออะไรก็หอบไปเคาน์เตอร์บรรณารักษ์ กลับไปอ่านที่หอดีกว่า มีของเด็ดให้ดู” แล้วคนมาช้ากว่าเวลาก็ลากไป เขาคิดว่าภาพเมื่อครู่อาจเกิดจากตาลายอ่านหนังสือมากไป มองผู้หญิงธรรมดาๆ นอกสายตา ‘ดูดี’ เกินจริง
กลับมารักฉันอีกครั้งได้ไหม
โรแมนติก
5.0
ปารวียังไม่ได้แก่สักหน่อย เอาเป็นว่าอายุเกินวัยเบญจเพสมาปีสองปี แค่วันนี้ชื่อที่ติดอยู่ในความทรงจำเริ่มทำพิษนิดหน่อย เธอทำผิดต่อเขา เท่าๆ กับที่เขาทำผิดต่อเธอ ความผิดในวัยเยาว์ที่น่าจะเจ๊ากันไป แต่ก็สะดุดทุกครั้งที่ได้ยินชื่อนี้
ซาตานหัวในพยศ
โรแมนติก
5.0
สรวิชญ์กล่าวหาน้องชายปุณิกา ว่าพาน้องสาวเขาหนี จะแปลกอะไรถ้าเขาจะฉุุดเธอมา ตาต่อตาฟันต่อฟัน!
เทวัญขวัญรัก
โรแมนติก
5.0
++++++++++++++++++++++++++++++++ เรื่องของเทวัญเจ้าของอู่หนุ่มผู้ดิบเถื่อน กับขวัญรักผู้จำใจมาเป็นเมียของเขา จากการซื้อมาเพื่อเงิน เพื่อบำบัดความใคร่ เรื่องระหว่างเธอกับเขาจะกลายเป็นรักแท้หรือไม่ ต้องลองอ่านกันค่ะ +++++++++++++++++++++ ขวัญรักเม้มปาก สะกดกลั้นน้ำตา ...บอกตัวเองว่าอย่าร้องไห้ เธอตัดสินใจไปแล้ว แม้จะถูกเขาเหยียบย่ำ ดูถูกดูแคลนว่าเป็นผู้หญิงขายตัวขนาดไหนก็จะทนเพื่อครอบครัว ผู้ชายที่เธอเห็นเขาตัวโต สวมเสื้อยืดสีดำพอดีตัว อวดความกว้างของไหล่บึกบึน คิ้วยาวดำพาดเฉียง ดวงตาดำลึก จมูกโด่ง แนวกรามแข็งแกร่ง ปากสีเข้ม เขาคือคนที่ขวัญรักเจอหน้าห้องน้ำนั่นเอง แต่ทว่าก็ไม่อาจหยุดอาการประหม่าจนตัวสั่นของเธอลงได้ “ชื่ออะไร...” หนุ่มเสื้อยืดดำถาม แต่ฟังแล้วดุเหลือเกินในความคิดของเธอ “ขะ...ขวัญรักค่ะ” เธอรู้สึกเหมือนกลับเป็นเด็กอายุสามขวบ ยามที่ไปโรงเรียนอนุบาลวันแรก และต้องแนะนำตัวต่อหน้าเพื่อนทุกคน “มีชื่อเล่นไหม” เทวัญมองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า อยากรู้...ผมที่ถักเปียของเธอหากคลายออกจะยาวขนาดไหน อยากสัมผัส...จะนุ่มละมุนมือหรือเปล่าหนอ “กะ...กวางค่ะ” เรียวคิ้วดำขมวดไปครู่ ก่อนคลายออก นึกชมว่าพ่อแม่ตั้งชื่อสมตัว ท่าทางเธอเหมือนลูกกวางจริง ๆ นั่นแหละ และเขาก็เป็นเสือหิวที่ไม่ยอมปล่อยเหยื่อเนื้อหวานไปง่าย ๆ “ต้องทดลองของสักหน่อยแล้ว ขอยืมห้องหน่อยมึง” เทวัญแค่บอกเล่า ไม่สนใจว่าเจ้าของจะอนุญาตหรือไม่ อย่างไรเสียคืนนี้เขาต้องได้เล่นสนุกกับของราคาแพงที่ซื้อมา “เดี๋ยวก่อนค่ะ ยื่นหมูยื่นแมว ขอเงินก่อน รับโอนนะคะ” ++++++++++++++++++++++++++++++++
ในกรงกุหลาบซาตาน
โรแมนติก
5.0
ในอ้อมแขนซาตานซึ่งกลายเป็น... รักนิรันด์ +++++++++++++++++ นิยายรักเบาสมองของปัทมนต์ ที่ชีวิตนี้อยากอยู่เป็นโสด เก็บเงินขึ้นคานสวยๆ แต่กลับมาผู้ชายหลายคนเข้ามาวุ่นวายในชีวิต กว่าจะเจอรักแท้ก็มีอุปสรรคและบททดสอบนิดหน่อยพอให้นักอ่านลุ้นเอาใจช่วยพร้อม ๆ กันนะคะ ++++++++++++++++++ “ผมอยากฟังคำตอบ” เขายืนประจันหน้ากับเธอตรง ๆ ปัทมนต์กลืนน้ำลาย รู้สึกบรรยากาศในห้องช่างเย็นเยียบ “ขอ...ขอเวลาฉันอีกหน่อยได้ไหม อย่างที่คุณรู้ พี่สาวฉันอยู่โรงพยาบาล อะไรหลายอย่างยังวุ่น ๆ อยู่” เสียงตะกุกตะกัก หายใจไม่ทั่วท้อง เด็กสปาแอบไปยืนดูอยู่ห่าง ๆ ข้างตู้เย็น “ผมว่ามันเป็นปัจจัยที่ดีช่วยในการตัดสินใจ ว่ายังไงล่ะครับ เยสหรือโน” เร่งเร้าราวไม่รับรู้ความลำบากใจของอีกฝ่าย หญิงสาวสูดลมหายใจเชิดหน้าขึ้น “งั้นฉันตอบว่าโนะ...” “อ้อ อีกอย่าง ผมให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ” พูดยังไม่ทันจบเขาก็แทรกขึ้น “ค่ารักษาพยาบาลคุณปรียาภัทรยังไม่มีใครมาดูแล รู้หรือยังว่าทำไมพี่คุณถึงขึ้นแท็กซี่จากสนามบิน” ปัทมนต์ตาโตกับข้อข้องใจที่ชักเลือนไปแล้ว ด้วยมัวแต่ห่วงพี่สาวอยู่หน้าห้องไอซียู “เพราะภรรยาคุณไพรัชตามไปอาละวาด เธอรู้เรื่องแล้วไม่พอใจที่เขากำลังจะมีลูก อุบัติเหตุอาจมีผลกระทบกับเด็กเกินกว่าคาด ค่ารักษาคงหลายแสน สถานการณ์ยังไม่ค่อยดีนัก” “คุณรู้ได้ยังไง” “บอกแล้วไงครับ ถ้าเป็นเรื่องที่สนใจผมก็จะรู้ คำตอบล่ะ” ชายหนุ่มยื่นหน้ามาใกล้ยิ้มมุมปาก ปัทมนต์รู้สึกตนเป็นอีฟ และคนตรงหน้าเป็นซาตานในร่างงูเจ้าเล่ห์ กำลังยื่นแอปเปิลสีแดงสดให้ “เยสหรือโนครับ” เธอกำลังจะเป็นลม หายใจติดขัด แต่ความเข้มแข็งสุดท้ายร้องบอกให้ประคองสติไว้ ภาพปรียาภัทร สปา และไพรัช ผุดขึ้นมาในสมอง “เวลาผมมีไม่มากนะ” กลิ่นน้ำหอมชั้นดีลอยอ่อนจากกายสูงกระตุ้นภายในอกเต้นระรัว ให้รู้ว่าเหตุการณ์ต่อหน้านี้คือความจริงไม่ได้ฝัน ใบหน้าขาวซีด ไหล่หนักดังมีเหล็กทับไว้ “ตอบครับ” ซาตานที่กำลังเล่นสนุกกับชีวิตเธอและพี่เร่งเร้า “คำตอบคุณรู้อยู่แล้วนี่” การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อช่วยไพรัช แต่เป็นปรียาภัทร หญิงสาวกัดฟัน จ้องหน้าเขาราวจะแผดเผาให้ตายกันไปข้างหนึ่ง “ผมไม่ใช่ผู้วิเศษ เดาใจคนไม่ได้หรอกครับ โดยเฉพาะผู้หญิง” รุทระหัวเราะหึ ++++++++++++++++++++++++++++++
เจ้าบ่าวหลุดจอง
โรแมนติก
5.0
เจ้าบ่าวหลุดจองเป็นเรื่องของคุณกระทิงกับหมี่ที่ต้องตกกระไดพลอยโจนเป็นคู่บ่าวสาวกัน เหตุผลก็เพราะเงินตัวเดียว มาตามอ่านกันค่ะ ว่าการแต่งงานปลอมๆ จะนำรักแท้มาสู่ทั้งสองหรือไม่ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ มัญชุพรเลือกชุดไทยศิวาลัยสีงาช้าง ต่อมาคือชุดเจ้าสาว เว็ดดิ้งแพลนเนอร์แนะนำชุดแบบเรียบหรู ทิ้งชายหางปลานิด ๆ ไม่ฟูฟ่องมาก หญิงสาวใส่แล้วอึดอัดที่อกนิดหน่อย คิดว่าน่าจะพอดีกับอกน้องสาว “ลองเดินดูนะคะ” เธอถูกจูงมาจนถึงห้องโถง พงศพัศในชุดสูทยืนอยู่ตรงนั้น แม้เสื้อผ้าเรียบโก้ แต่ไม่อาจกลบความดุดันของเขาลงได้ มัญชุพรเห็นแล้วคิดว่าเขาเป็นเจ้าบ่าวที่ ‘แนว’ ใช้ได้ “มีชุดที่โชว์อกน้อยกว่านี้ไหม เห็นนมเจ้าสาวตั้งขนาดนี้ เดี๋ยวฉันใจแตก ไม่ได้เข้าหอกันพอดี” พงศพัศมีความสามารถพิเศษเรื่องปากเสียหรืออย่างไร เขาว่าจนทำหน้ามัญชุพรซับสีเลือด “เดี๋ยวแก้ตรงอกให้นะคะ” “เอาแบบคลุมยาวถึงคอหอยไปเลย” เขาเพิ่งรู้สึกสนุกก็ตอนนี้ เมื่อเห็นเธอตอบโต้อะไรไม่ได้ หนุ่มชาวไร่ค่อยอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย “ฉันเอาแบบนี้แหละค่ะ” ชักเข้าใจความรู้สึกอยากหนีของพรสรวงแล้ว นายตัวโตคนนี้ไม่เหมาะกับการเป็นเจ้าบ่าวใครเลย นอกจากหน้าดุแล้วยังไร้มารยาท “เปลี่ยนซะ ฉันไม่ชอบ” พงศพัศเห็นเธอเงียบหงิม ไม่คิดว่าจะแผลงฤทธิ์ได้ “เอาตัวนี้เลยค่ะ” “น้องสาวเธอเป็นคนใส่ในงานแต่งนะ ไม่ใช่เธอ เจ้าบ่าวอย่างฉันต้องออกความเห็นได้สิ” มัญชุพรสบตาคมดุ “มุกให้สิทธิ์ขาดฉันเลือกแทนแล้ว ชุดไหนที่ฉันชอบ น้องก็ต้องชอบด้วย ถ้าคุณไม่ชอบก็อย่ามองสิคะ” +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++