กลร้ายทรายเสน่หา

กลร้ายทรายเสน่หา

ศิรารัย

5.0
ความคิดเห็น
106.3K
ชม
118
บท

นิยายแนว...ทะเลทรายสวีต...ที่ยิ่งอ่านยิ่งสนุกของนักเขียนเล่มนี้ ได้พานางเอกไปผจญภัยร้ายท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุจากโจรทะเลทรายตัวปลอมและโจรทะเลทรายตัวจริงที่กักขฬะด้วยการเอาคืนของพระเอกที่ถูกนางเอกใส่ร้ายให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและทำให้รู้ความจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำด้วยความเข้าใจผิด แต่การเดินทางที่ใกล้ชิดทำให้ความรู้สึกของทั้งสองเปลี่ยนจากคู่กัดเป็นคู่ที่ถูกตาต้องใจกัน เกล็ดทรายอันร้อนระอุจากแสงแดดแผดเผาจึงกลายเป็นเกล็ดน้ำตาล ...***...“นายก็พูดได้สิ ลองมาเป็นฉันดูบ้าง จะได้รู้ว่าต้องกระตือรือร้นไปทำไม" เธอย้อนอย่างโมโห “เลิกอยากรู้อยากเห็นเสียที แล้วฟังฉัน ระหว่างพักอยู่ที่นี่ทุกคนต้องมีหน้าที่ หล่อนก็ต้องทำงานเหมือนกัน" เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติที่เธอไม่ค่อยจะได้ยินนัก “นี่นายโจร ฉันไม่ใช่ลูกน้องหรือคนรับใช้ของนายนะ นายเป็นคนจับตัวฉันมา ก็ต้องเลี้ยงดูให้ฉันอยู่สุขสบาย จะมาใช้งานกินแรงกันไม่ได้นะ" เธอโวยลั่น “ฉันไม่สน ถ้าไม่ทำก็ไม่ต้องกิน อาหารมีไว้ให้คนที่ต้องออกแรงทำงานเท่านั้น" เขาข่มขวัญ คงคิดว่าเธอกลัวอดตายแล้วจะยอมทำตามทุกอย่างละสิ...ฝันไปเถอะ...เธอเชิดหน้าใส่ “แต่ไม่ใช่ฉัน ดูปากฉันนะ..." เธอชี้ที่ปากตัวเองอย่างที่น้องณัชชาลูกสาวพี่บ๊อบชอบทำ “ฉัน...ไม่...ทำงาน...อะไร...ทั้งนั้น..." เธอเน้นทุกถ้อยคำให้เขาฟังก่อนจะหันหลังเดินจากมาพร้อมไฟโกรธลุกท่วมตัว ...ตาบ๊องเอ๊ย...จิตสำนึกเข่นเขี้ยวเหมือนอยากจะเคี้ยวเขาให้แหลกคาปาก เธอไม่ได้เป็นฝ่ายร้องตามเขามาถึงจะต้องยอมทำทุกอย่างที่เขา...สั่ง...สั่ง...สั่ง... โดยเฉพาะการทำงานแลกข้าวน้ำประทังชีวิต...เขาสิต้องรับผิดชอบหาข้าวหาปลามาเลี้ยงดูให้อิ่มหนำสำราญ หากเขาต้องการใช้ประโยชน์จาก ตัวเธอ... “งานแรก..." เขาพูดต่ออย่างไม่สนใจ “หล่อนต้องซักเสื้อผ้าให้ฉัน งานอย่างที่สอง-ต้องทำความสะอาดกระโจมที่เราพักด้วยกันทุกเช้ากลางวันเย็น เก็บที่นอน ปูที่นอน กวาดพื้น ถูพื้น และปัดฝุ่นทำความสะอาดตากเครื่องนอนทุกชิ้นทุกวัน อย่างที่ สาม-ต้องนำอาหารมาเสิร์ฟให้ฉันทุกมื้อ เสร็จงานแล้วหล่อนจึงจะได้อาหารกิน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้กิน เข้าใจไหม” มิลินยืนอ้าปากค้าง อยากจะกรี๊ดให้ลั่น เขามันจอมบงการสิ้นดี แล้วถือดีอย่างไรมาใช้งานเธอเยี่ยงนางทาสีประจำตัวแบบนี้ เธอยืนกำหมัดแน่น อยากจะแล่นเข้าข่วนหน้ารกเคราของเขาให้สาสมกับความโกรธที่ถูกโยนตำแหน่งทาสรับใช้ใส่แล้วเดินหนีไปซึ่งๆหน้า ...ตาบ้า...ตาบ๊อง...ตาบื้อ...ตา...ขี้เก๊ก...เธอก่นว่าเป็นชุด สุดจะทนพฤติการณ์แบบเจ้าใหญ่นายโต...สั่ง...สั่ง...สั่ง...โดยไม่ฟังเสียงใคร คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่มาจากไหนกัน...ฮึ...***... **************************************************** นิยายเรื่องนี้เป็นความคิดสร้างสรรค์ของนักเขียนอย่างแท้จริง สงวนลิขสิทธิ์โดย : ศิรารัย-ศิรารัยนิยายรัก ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์คอมพิวเตอร์และสิ่งพิมพ์ ห้ามลอกเลียนทุกส่วนของหนังสือเล่มนี้ ห้ามเผยแพร่-จำหน่าย-ดัดแปลง-ทำซ้ำ-จัดพิมพ์ หรือห้ามกระทำการใดๆทุกประการกับนิยายเรื่องนี้ ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เขียน **************************************************

บทที่ 1 บทนำ1-รอเหยื่อ

ทะเลทรายเป็นถิ่นเกิดอันงดงามยามค่ำคืนและรุ่งอรุณที่บรรพบุรุษผู้กล้าหาญของชนเผ่าทะเลทรายครอบครองมานานหลายร้อยปี แม้ทุกตารางนิ้วจะมีเพียงเกร็ดทรายเม็ดเล็กๆหรือฝุ่นผงดุจเถ้าธุลี ผู้เป็นลูกหลานสืบเชื้อสายก็มีความภาคภูมิใจที่ได้กำเนิดและเติบโตในพื้นที่อันมีมนต์ขลังยามอาทิตย์อัสดงที่ผืนทรายจะกลายเป็นพรมธรรมชาติสีเหลืองทองอร่ามงดงามทั่วแผ่นดิน

ความภาคภูมิใจของเจ้าชายทราวิส บิน ฮัสซาน มุนายันห์อัล-อักรา(Prins Thavis Bin Hassan Munnayanh Al-Akra) มิได้อยู่ที่ชาติตระกูลอันสูงส่งเพียงอย่างเดียว แต่ความเป็นชาติบุรุษสมชายชาตรี (ผู้มีศิลปะหรือฝีไม้ลายมือในการต่อสู้)และสุภาพบุรุษ(ชายผู้ดี-ชายผู้มีเกียรติ)อันเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เขามีมากกว่าบุรุษหลายคนในราชสกุลเดียวกัน

หากเมื่อห้าเดือนก่อนเขาไม่ได้ถูกสตรีนางหนึ่งหยามเกียรติด้วยการยัดเหยียดข้อหาผู้บุกรุกเข้าปลุกปล้ำนางระบำ ณ ตำหนักฝ่ายในที่พำนักเฉพาะสตรีเขาคงไม่ต้องมารอนแรมอยู่กลางทะเลทรายอันร้อนระอุยามกลางวันนานหลายเดือนด้วยโทษทัณฑ์ถูกขับออกจากพระราชวังในการสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงแก่ราชสกุลอย่างที่ผู้คนทั่วไปรับรู้ต่าง จากความจริงที่ว่าเขาออกจากพระราชวังมาเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษปราบปรามผู้ก่อการร้ายและโจรทะเลทรายในบ้านเมืองที่เขาจะต้องทำให้สำเร็จลุล่วงภายในหกเดือนเป็นอย่างน้อยหรือภายในหนึ่งปี

ในสัปดาห์นี้เขามีภารกิจสำคัญต้องทำให้ลุล่วง โดยต้องเดินทางรอนแรมออกทะเลทรายทางตะวันออกของประเทศเพื่อวางแผนล่อจับโจรทะเลทรายกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับโจรก่อการร้ายแถบชายแดนตะวันออก และค่ำวันนี้เขาจะได้ตัวสตรีผู้เป็นต้นเหตุแห่งการเสื่อมเสียเกียรติชาติบุรุษและศักดิ์ศรีชายชาตรีของเขามาทวงแค้น

“อัสวาส่งข่าวว่าพาเหยื่อออกจากสนามบินมาแล้วพระเจ้าข้า”

คำกล่าวของฟาฮีมองครักษ์หนึ่งในบรรดาเหล่าผู้ถูกกำหนดให้เข้าร่วมชะตากรรมหลายสิบคนที่ต้องละทิ้งความสุขสบายใจกลางมหานครติดตามมารอนแรมอยู่กลางทะเลทรายร้อนแดดตามคำบัญชาของรัฐมนตรีกลาโหมพระอนุชาองค์ประมุขผู้นำประเทศ เพื่อร่วมทำภารกิจสำคัญอันเป็นความลับระดับชาติมาห้าเดือนสามารถทำให้พระเนตรเย็นชากลับมาเต้นระริกมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

“บอกทุกคนเก็บกระโจมออกเดินทาง เราต้องไปถึงจุดนัดพบก่อนอัสวาจะพาเหยื่อมาถึง จะได้ไม่มีใครมาพบเห็นก่อนได้ตัวเหยื่อ”

น้ำเสียงเคร่งขรึมแฝงความเฉียบขาดอย่างชาติบุรุษสูงศักดิ์เป็นคำบัญชาให้กลุ่มชายหนุ่มสิบห้านายแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดพื้นเมืองสีอ่อนกับเสื้อคลุมผ้าคลุมหน้าสีเข้มที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วแยกย้ายกันทำงานอย่างว่องไว

พวกเขาออกเดินทางจากที่พำนักชั่วคราวพาอูฐตัวงามทรงพละกำลังวิ่งตัดเนินทรายสูงต่ำทอดยาวไกลไปข้างหน้ามุ่งสู่ถนนลาดยางสายยาวกว่าสามร้อยกิโลเมตรที่ตัดจากมหานครหรือเมืองหลวงถึงไลย์วาโอเอซิสสถานท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศ เพื่อรอเหยื่อที่พวกเขาตั้งกระโจมรอคอยมาสองวัน

“โชคดีที่อัสวาทำได้สำเร็จ”

บุรุษร่างกำยำอย่างนักรบโบราณอีกหนึ่งองครักษ์คนสนิทผู้รับบทเป็นผู้นำการเดินทางประจำกองโจรปรารภขึ้นด้วยน้ำเสียงมึนตึง เขาค่อนข้างจะกังวลต่อการปฏิบัติงานนอกภารกิจตามคำบัญชาผู้บัญชาการกองงานพิเศษหน่วยลาดตระเวนชายแดนหรือเจ้าชายทราวิส บิน ฮัสซาน มุนายันห์ อัล-อักราที่มีรับสั่งให้ปฏิบัติก่อนเดินทางไปเริ่มภารกิจพิเศษอันสำคัญนั้น

แผนการปลอมตัวเป็นโจรลักพาตัวหญิงสาวต่างชาติคู่กรณีเก่าที่เคยสร้างเรื่องปรักปรำพระองค์ในวันนี้ เป็นเรื่องที่เขากับเพื่อนองครักษ์รู้เพียงว่าผู้บัญชาการต้องการนำตัวเธอร่วมเดินทางไปด้วย

“ต้องสำเร็จสิ เขาต้องใช้ตำแหน่งงานตัวเองเป็นเดิมพัน”

ซาลิคนายทหารหนุ่มร่างเพรียวสันทัดผู้ถูกกล่าวขานในหมู่องครักษ์คู่ใจว่าเป็นหมอยาฝีมือดีจากสถาบันแพทยศาสตร์อันดับต้นของประเทศเยอรมนีที่ต้องรับบทบาทเป็นนายผู้รักษาประจำกองกองโจรตอบรับด้วยรอยยิ้มเปิดกว้าง อันเป็นบุคลิกประจำตัวที่ได้รับฉายาจากเพื่อนร่วมกองว่า...ไอ้หมอยิ้ม...เพราะไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดหรือเลวร้ายขนาดไหน เขาจะยังยิ้มได้เสมอ

ซาลิคเป็นสหายรุ่นน้องผู้จงรักภักดีที่เติบโตมากับเจ้าชายทราวิสจึงทรงไว้วางพระทัยที่จะปรารภถึงเรื่องส่วนพระองค์มากกว่าคนอื่น เพราะวิสัยซาลิคขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เก็บความลับได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเรื่องสำคัญเกี่ยวกับตัวพระองค์

แผนการวางกลลวงเป็นกับดักในภารกิจพิเศษครั้งนี้ นอกจากซาลิคที่รูรายละเอียดจากคำรับสั่งก็ยังมีฟาฮีมนายทหารรุ่นพี่ที่มากประสบการณ์ด้านการรบและการต่อสู้พอจะคาดเดาออกว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ในพระดำริของเจ้าชายทราวิสคืออะไร

แม้ฟาฮีมนายทหารรองหัวหน้าองครักษ์จะไม่เห็นด้วยต่อสิ่งที่คาดเดาออกแต่เขาก็ไม่บังอาจจะทักท้วงหรือปฏิเสธในพระดำริปราดเปรื่อง อันเป็นกลลวงแยบยลที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จต่อภารกิจพิเศษที่ต้องปฏิบัติให้ทันในช่วงเวลาจำกัดนี้

“ใช่...อัสวาต้องใช้ตำแหน่งสายลับมือหนึ่งระดับชาติเป็นเดิมพันกับงานชิ้นนี้”

ดวงตาคมเข้มบ่งบอกสถานะผู้สืบเชื้อสายแห่งราชสกุลเก่าแก่ชนชาติทะเลทรายเปล่งประกายกล้าจากความมุ่งมั่นเจ้าของพระพักตร์คมสันงดงามตามชนชาติบรรพบุรุษเปอร์เซียอาหรับใต้หนวดเครารกครึ้มที่ไม่ผ่านการโกนตัดแต่งมานานต่อความคาดหวังที่รอคอยมาหลายเดือน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ศิรารัย

ข้อมูลเพิ่มเติม
เล่ห์รักในรอยทราย

เล่ห์รักในรอยทราย

โรแมนติก

5.0

เธอเดินทางกลับจากเยี่ยมน้องชายกระทันหันจากการถูกเรียกตัวมาเข้าร่วมสัมมนาที่วิชาการพิเศษจากต่างประเทศมาให้ความรู้ แต่เข้านอนยังไม่ทันหลับดีก็มีวัตถุหนักอืึ้งล้มทับลงกลางตัว และจากที่นอนปิดไฟมืดเธอต้องตกใจสุดขีดเมื่อรู้ว่ามีผู้บุกรุกและคว้าปืนขึ้นมาป้องกันตัว แต่กลายกลับว่า...บุรุษผู้นั้นเป็นแขกพิเศษของโรงแรม...และจากวันนี้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง **************************************** เขาคือผู้บุกรุก ที่เธอคิดว่าเป็นโจรย่ามใจเข้ามาปล้นสวาท เธอคือสาวงาม ที่เขาคิดว่าเป็นของแถมเข้ามานอนรออยู่ในห้อง เขาคือจอมโอหัง ที่บังอาจกอดจูบเธอโดยไม่ไถ่ถามความสมัครใจ เธอคือสาวสวย ที่สามารถปลุกความรู้สึกด้านชาของหัวใจให้เต้นระทึก เขาวางแผน พาเธอมายังบ้านเมืองเพื่อพิสูจน์รักแท้ในหัวใจ เธอถูกลักพาตัว เพื่อฆ่าทิ้งกลางทะเลทราย มาลุ้นกันว่า...เจ้าชายคริสตินกับมินทราภา จะผ่านพ้นภัยร้ายน่าระทึกใจได้ครองรักกันหรือไม่... **************************

จอมขวัญเจ้าบัลลังก์ทราย

จอมขวัญเจ้าบัลลังก์ทราย

โรแมนติก

5.0

นิยายแนวทะเลทรายเรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เชิญชวนให้อ่าน เพราะเป็นนิยายที่มีหลากหลายอารมณ์ในเรื่องเดียวกัน นักเขียนได้พาผู้อ่านไปสัมผัสกับชีวิตนางเอกที่ต้องเผชิญภัยจากผู้ปองร้ายโดยมีพระสวามีคอยปกป้องด้วยความรักห่วงใยต่างจากนิยายแนวทะเลทรายอื่นๆที่ให้ความสุขใจกับผู้อ่านอีกรูปแบบหนึ่ง *****...มกุฎราชกุมารีพระธิดาสุลต่านองค์ประมุขแห่งสหราชอาณาจักรต้องเข้าพิธีอภิเษกโดยไม่รู้ตัวและเดินทางสู่พระราชวังของพระสวามีเพื่อลี้ภัยจากผู้ปองร้าย แต่กลับต้องมาเจอศึกรักจากความริษยาของเหล่านางห้ามในพระราชวังและแผนร้ายของพระญาติฝ่ายพระสวามีกับผู้ปองร้ายหมายชิงบัลลังก์ร่วมมือกันวางแผนปลิดชีวิต...ชีวิตรักของพระ-นางคู่นี้จะเป็นอย่างไรไปติดตามด้วยกัน ...**** **********************

เสน่ห์รักข้ามศตวรรษ

เสน่ห์รักข้ามศตวรรษ

โรแมนติก

5.0

นิยายเรื่องนี้เป็นงานเขียนล่าสุดของศิรารัยที่สร้างเรื่องราวความรักจากปัจจุบันสู่อดีตและกลับมาจบสมบูรณ์ในยุคปัจจุบันที่อยากให้ผู้อ่านได้เปลี่ยนบรรยากาศที่เคยอ่านนิยายไทย-ไทย ไทย-อาหรับ ไทย-จีน มาเป็นนิยายไทย-อินเดียดูบ้าง โดยสร้างคู่พระนางให้นางเอกเดินทางไปประเทศอินเดียและได้ไปพบพระเอกในอดีตเพื่อช่วยเหลือให้ได้ขึ้นครองราชย์ แต่ความรักของคนในโลกอดีตกับคนในโลกปัจจุบันจะสมหวังได้ก็เกินความเป็นจริงจึงต้องทำให้นางเอกมาสมหวังในความรักกับพระเอกในโลกปัจจุบันที่สืบเชื้อสายมาจากเขาผู้นั้น และนักเขียนเชื่อว่า...ถ้าเพื่อนนักอ่านเปิดใจอ่านนิยายเรื่องนี้ จะได้รับทั้งความสนุกสนานและความซาบซึ้งใจในความรักของคนในโลกอดีตและคนในโลกปัจจุบัน... ************************************* เพียงสบตาในอุราก็หวั่นไหว เลือดเนื้อกายร้อนรุมดังสุมไข้ ยิ่งใกล้ชิดยิ่งขัดเขินสะเทิ้นอายใยไพ ใจหนอใจทำไมสั่นไหวเช่นนี้เอย *************************************** ความรัก... ไม่ใช่นํ้าหมึกจากปลายปากกา ที่ผ่านวันเวลา ไม่นานก็เจือจาง ความรัก... ไม่ใช่นํ้าหอมที่กลิ่นจางหายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ความรัก... ไม่ใช่เสื้อผ้าอาภรณ์หรือข้าวของเครื่องใช้ ที่เก่า แล้วก็เปลี่ยนใหม่ ความรัก... ไม่ใช่อาหารที่กินหลายมื้อก็เบื่อหน่าย ฯลฯ ************************************** ''เธอเป็นใครถึงจะมาสอนสั่งว่าฉันกินอะไรได้หรือกินอะไรไม่ได้ เป็นแม่ครัวก็ควรทำหน้าที่แม่ครัวของเธอ ไม่ต้องมาวิจารณ์คนกิน ไป ไปทำอาหารที่ฉันต้องการมา ต่อไปไม่ต้องเอาผักหญ้าพวกนี้มาให้ฉันกินอีก” อาหารจานหนึ่งถูกโยนแตกเพล้งตรงหน้าผู้ที่ถูกเรียกว่า...แม่ครัว...สลัดผักธัญพืชและนํ้าสลัดที่วัสสิกาต้องใช้เวลาคำนวณแคลอรี่ว่าต้องมีผักธัญพืชมากน้อยเท่าไรและสรรหาผักสดๆใหม่ๆมาทำอย่างประณีตหกกระจายเกลื่อนอยู่ตรงหน้าเหมือนเศษขยะ ที่วัสสิกาแทบจะร้องกรี๊ดออกมาด้วยความโมโห เพราะเจ้าชายจอมยโสไม่ได้ทำลายแค่อาหารจานสองจานแต่ได้ทำลายความตั้งใจดีของเธอจนหมดสิ้น “ตาหมีอ้วน" วัสสิการ้องว่าในใจ ความโกรธวิ่งจี๊ดขึ้นสมองวัสสิกาแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต เธอไม่เคยโกรธใครมากมายอย่างนี้ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าโกรธทำไม่นักหนา แต่ตอบโต้ออกมาได้เพียงกรีดเสียงอยู่ในความนึกคิด..ตาหมีอ้วน ฉันอุตส่าห์ตั้งใจทำมาให้กิน ยังจะมาว่ามาทำแบบนี้อีก...เพราะสิ่งที่เจ้าชายอาทิตยสุเรนทรากระทำ...โยนจานอาหารใส่หน้า...เป็นการทำร้ายจิตใจแบบที่ไม่เคยมีใครทำกับเธอมาก่อน วัสสิกาหมดความอดทนต่อผู้สูงศักดิ์ จึงโต้กลับทันควัน ฯลฯ ********************************

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

เด็กน้อยคว้าฝัน
4.8

เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”

ฉันแต่งงานกับศัตรูของอดีตสามี

ฉันแต่งงานกับศัตรูของอดีตสามี

Alvis Lane
4.9

เจียงเหว่ยยี่ และ กู้เหยียนอันเป็นคู่รักในวัยเด็กมา 12 ปีแล้ว และคบกันมา 3 ปีแล้ว การแต่งงานระหว่างตระกูลเจียง และตระกูลกู้นั้นยิ่งใหญ่มากจนผู้หญิงทุกคนในเมืองเอต่างก็อิจฉา ในวันแต่งงาน สถานที่จัดงานเลี้ยงเต็มไปด้วยแขกและเพื่อนต่างๆ แต่แล้วเมื่อมีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาทำให้กู้เหยียนอันละทิ้งเจียงเหว่ยยี่ ซึ่งแต่งตัวอย่างหรูหราสวยงามแล้ว การหลบหนีจากงานแต่งงานของกู้เหยียนอันทำให้เจียงเหว่ยยี่ดลายเป็นตัวตลกของเมืองเอ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่คนในเมืองเหล่านั้นได้หัวเราะเยาะเท่าไร ก็เห็นเจียงเหว่ยยี่โพสต์ใบทะเบียนสมรสระหว่างเธอกับเสิ่นจินโจว: "แต่งงานแล้ว" จากนั้นไม่นาน เสิ่นจินโจวที่ไม่ได้โพสต์ข้อความมาหลายปีก็โพสต์ว่า "อ่านแล้ว" บางคนบอกว่าครั้งนี้เจียงเหว่ยยี่โชคเข้าข้าง และสูญเสียของเล็กน้อยไป แต่กลับได้ของมีค่ามากกลับมา เพราะกู้เหยียนอันเทียบไม่ติดเสิ่นจินโจวแม้แต่นิดเลย เมื่อเผชิญกับคำพูดที่เต็มไปด้วยความอิจฉาเหล่านี้ เจียงเหว่ยยี่ก็ตอบเห็นด้วยทุกครั้งอย่างตรงไปตรงมา จนกระทั่งวันหนึ่ง นักข่าวการเงินตัวกล้าถามเสิ่นจินโจวว่าเขาคิดอย่างไรกับการแต่งงานของเขา เมื่อทุกคนคิดว่าเสิ่นจินโจวจะเยาะเย้ยเจียงเหว่ยยี่อย่างหยิ่งผยอง แต่เขากลับพูดอย่างใจเย็นว่า: "ผมสมหวังแล้ว"

ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ

ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ

ปูริดา
5.0

ก็ไม่ได้คิดหรอกนะว่าวันหนึ่งจะพบเจอกับเรื่องแปลก ๆ แต่เมื่ออยู่แล้วไร้ความหมายไม่มีคนที่รักและรักเรา เขาจึงเลือกที่จะแลกทั้งที่ไม่ได้มั่นใจเลยว่าจะได้พบกับคนที่รักจริงหรือเปล่า แต่ก็ตัดสินใจเลือกไปแล้ว... “อาซวงเป็นของข้าใช่หรือไม่” ก็มิค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่และคิดว่ามิน่าจะมีอะไรมากมาย เก้าเทียนรุ่ยจึงพยักหน้ารับ “ขอรับ” “ถึงเราจะมิได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขเช่นที่ท่านมีกับสหายที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ นอนกลางดินกินกลางทรายมาด้วยกันมาอย่างชิงชวนหรือคนอื่น ๆ หากนับตั้งแต่ที่เราได้พบรวมถึงอยู่ด้วยกัน ข้าก็คิดว่าเราผ่านอะไรมามากมายพอที่จะทำให้ข้ารู้ถึงความรู้สึกที่ตนเองมีต่อท่าน” เก้าเทียนรุ่ยมองสบสายตาเสวียนลิ่วหลางที่มองเขาด้วยความงุนงง ในดวงตามีความสับสนระคนมิแน่ใจ คล้ายจะมีคำถามตามติดมาด้วย ทำให้เขาเผลอยิ้มหวานออกไป เสวียนลิ่วหลางได้แต่ยิ้มด้วยความเขินอาย “ข้าก็มิรู้ว่าจะวางตัวเช่นไรดี พึงพอใจอยากให้เจ้าอยู่ชิดใกล้...หากก็มิอยากบังคับหากเจ้ามิเต็มใจ” “แต่ก็มิอาจทำใจได้หากจะต้องปล่อยมือ” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยอย่างเข้าใจ “เมื่อยังต้องรอให้อาซวงรู้สึกเช่นเดียวกัน นอกจากข้าจะทำให้ผู้อื่นรับรู้แล้วว่าคนนี้...” เสวียนลิ่วหลางจับมือเก้าเทียนรุ่ยมาจูบขณะมองสบเข้าไปในดวงตากลมใสก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มหากเต็มไปด้วยความหนักแน่น “ข้าจอง” “ตะเกียบยังต้องอยู่เป็นคู่ถึงจะใช้กินอาหารได้ หยินก็ยังคู่หยางถึงจะสมดุล เมื่อข้าพบคนที่ใช่ เหตุใดถึงต้องปล่อยมือเล่า”

สยบ(รัก)คุณป๋า

สยบ(รัก)คุณป๋า

RICHES.
5.0

วันวิวาห์ ตกหลุมรักผู้อุปการะของเธอตั้งแต่แรกพบ หญิงสาวพยายามทำทุกอย่างให้เขาภาคภูมิใจ แต่ดูเหมือนว่าสายตาคู่นั้นจะมองเห็นแค่เพียงเด็กที่ก่อปัญหาวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน... เธอ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อก้าวข้ามเส้นบางๆ ระหว่างความสัมพันธ์ รามิล นักธุรกิจเจ้าของโรงแรมหรูอย่าง A.W.HOTEL ถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับวันละหลายรอบ เมื่อเด็กที่เขาอุปการะไว้เจ็ดปีก่อนกลับมาเยือนแผ่นดินเกิดอีกครั้ง... เขา พยายามรักษาระยะห่าง แต่เธอดันชอบเข้ามาในระยะประชิด กระทั่งวันที่ทั้งสอง ตื่นขึ้นมาบนเตียงเดียวกันครั้งแล้วครั้งเล่า... สิ่งเดียวที่เธอต้องการจากเขาคือ ความรัก แต่สิ่งเดียวที่เขาต้องการจากเธอคือ  ความลับ สุดท้ายแล้วความรักที่มาพร้อมความลับมันจะลงเอยแบบไหนกัน?

รัชทายาทไร้ใจ กับ นางในแสนงาม ชุด ทัณฑ์ทราย

รัชทายาทไร้ใจ กับ นางในแสนงาม ชุด ทัณฑ์ทราย

เนื้อนวล
5.0

จะดีแค่ไหน หากหล่อนได้ตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของเขาทุกเช้า... ตั้งแต่จำความได้ ชมพูนุชก็หายใจเป็นชื่อของเขาเรื่อยมา องค์รัชทายาทรูปงามแห่งซาเรีย เขาคือความสุขเดียวในชีวิตของหล่อน แต่ความสุขนั้นกลับไม่จีรังดั่งใจหวัง เมื่อหญิงเดียวในดวงใจของเขาหนีหน้าหายไปพร้อมกับพี่ชายของหล่อน ความผิดบาปทุกอย่างจึงถูกขว้างใส่หน้า เขาเรียกร้องให้ครอบครัวของหล่อนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับตราหน้าผู้หญิงที่เฝ้าภักดีกับเขาอย่างหล่อนว่า ‘นังแพศยา’ “หน้าที่หนึ่งเดียวสำหรับเธอ บนเตียงของฉันก็คือ... นางบำเรอ” องค์รัชทายาทรูปงามหยิบกางเกงขึ้นมาสวมใส่ นัยน์ตาสีทองตวัดจ้องมองมายังร่างเปลือยเปล่าบอบช้ำของหล่อนอย่างดูแคลน “จำเอาไว้ ถ้าฉันเรียก เธอก็ต้องมา ถ้ามาช้า ฉันจะสั่งโบยพ่อ หรือไม่ก็ แม่ของเธอ” “อย่านะเพคะ...” ริมฝีปากหยักสวยคลี่ยิ้มหยัน “ถ้าไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น เธอควรจะรู้หน้าที่ของตนเอง...” มือใหญ่ตบลงบนเตียงนอนนุ่ม ราวกับต้องการย้ำเตือนหน้าที่อันทรงเกียรติของหญิงสาว

เรือนนี้ผีไม่หลอก

เรือนนี้ผีไม่หลอก

ฺBorbee
5.0

เรือนนี้ผีไม่หลอก : นามปากกา บ.บี อู่หลิงเยว่หญิงสาววัย 17 ปี ตายเพราะแผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 21 แต่ยังไม่ทันได้ผุดได้เกิด กลับตื่นขึ้นในร่างหญิงโบราณที่ชื่อแซ่เดียวกันท่ามกลางภาวะสงคราม โลกใหม่ที่นางมาเยือนคือแคว้นเหยียน ดินแดนที่เพิ่งถูกตีแตกและกำลังจะล่มสลาย นางไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน ไม่มีครอบครัวหลงเหลือ มีเพียง “ห้างสรรพสินค้าส่วนตัว” พร้อมระบบแลกแต้มที่ยังไม่เสถียร และกฎเหล็กข้อเดียว: จะใช้ของในห้างสรรพสินค้าได้ ต้องทำความดีเพื่อสะสมแต้ม! แต่ในยุคที่ผู้คนกำลังอดอยากและถูกไล่ล่าจากศัตรู หากนางเผลอหยิบเอาอาหารออกมาจากอากาศแล้วมีคนพบเห็นเข้า นางคงถูกตีตราว่าเป็นแม่มดนอกรีตเป็นแน่ เพื่อเอาตัวรอด อู่หลิงเยว่หนีเข้าเรือนร้างเก่าแก่ของตระกูลเกา เรือนที่คนทั้งหมู่บ้านร่ำลือว่ามีผีเฮี้ยน เพราะเจ้าของเรือนกับบ่าวไพร่สิบสองชีวิต เคยถูกฆ่าตายยกหลังในคืนเดียว นางจึง "แกล้งเป็นผี" แจกจ่ายข้าวของกลับไปเป็นข้าว ยา และของใช้ ชาวบ้านได้ของกินนางได้แต้ม ระบบได้ทำงาน วิน วิน!!! แต่เรื่องกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด... แม่ทัพเซี่ยโม่เหวิน นำทหารสามร้อยนายเข้ามาตั้งค่ายในหมู่บ้านหานเฉิง เพื่อดูแลชาวบ้านและทหารหนีตายจากทั่วสารทิศ เมื่อเขาค้นพบว่าองค์ชายแห่งแคว้นยังมีชีวิตอยู่พร้อมกองกำลังขนาดใหญ่ที่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการกอบกู้บ้านเมือง เขาจึงวางแผนพาชาวบ้านและทหารที่เหลือทั้งหมดไปรวมกำลังกับองค์ชาย ทว่า..ชาวบ้านกลับปฏิเสธ พวกเขาไม่เชื่อในกองทัพ แต่กลับเชื่อมั่นใน "ผีเรือนร้าง" ผีที่ไม่เคยหลอกใคร แต่แจกข้าว แจกยา และความหวัง เมื่อทางเลือกหมดลง..เซี่ยโม่เหวินจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีแม่ทัพคนใดเคยคิดจะทำมาก่อน เขาจะไปเชิญ “ผี” ร่วมเดินทางไปด้วย และสิ่งที่เขาได้พบในเรือนร้าง จะเปลี่ยนทุกอย่างที่เขาเคยเชื่อไปตลอดกาล

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
กลร้ายทรายเสน่หา
1

บทที่ 1 บทนำ1-รอเหยื่อ

21/02/2023

2

บทที่ 2 บทนำ2-รอเหยื่อ

21/02/2023

3

บทที่ 3 รถเสีย

21/02/2023

4

บทที่ 4 การปล้น

21/02/2023

5

บทที่ 5 วิ่ง วิ่ง วิ่ง

21/02/2023

6

บทที่ 6 เป็นสินค้า

21/02/2023

7

บทที่ 7 ตกอูฐ

21/02/2023

8

บทที่ 8 แขกมุง

21/02/2023

9

บทที่ 9 พายุทราย

21/02/2023

10

บทที่ 10 จูบโจร

21/02/2023

11

บทที่ 11 นึกถึงอีกคน

21/02/2023

12

บทที่ 12 ต่อปากต่อคำ

21/02/2023

13

บทที่ 13 น้ำราดหัว

21/02/2023

14

บทที่ 14 เก็บดอกไม้

21/02/2023

15

บทที่ 15 เจอดี

21/02/2023

16

บทที่ 16 หลับฝัน

21/02/2023

17

บทที่ 17 โจรกลุ่มใหม่

21/02/2023

18

บทที่ 18 สกปรก-กักขฬะ

21/02/2023

19

บทที่ 19 นายผู้รักษา

21/02/2023

20

บทที่ 20 หวงหรือห่วง

21/02/2023

21

บทที่ 21 แมงป่อง

21/02/2023

22

บทที่ 22 เดี๋ยวก็ชิน

21/02/2023

23

บทที่ 23 จะเอาสินค้า

21/02/2023

24

บทที่ 24 ตกหลุมพราง

21/02/2023

25

บทที่ 25 ตกหลุมพราง2

21/02/2023

26

บทที่ 26 ก้างขวางคอ

21/02/2023

27

บทที่ 27 จ๊ะเอ๋(NC)

21/02/2023

28

บทที่ 28 รางวัล

21/02/2023

29

บทที่ 29 ตื่นก็เจอดี

21/02/2023

30

บทที่ 30 วิธีเอาตัวรอด

21/02/2023

31

บทที่ 31 พวกเขายังอยู่

21/02/2023

32

บทที่ 32 ต้องกลับไป

21/02/2023

33

บทที่ 33 อาบน้ำวาบหวาม

21/02/2023

34

บทที่ 34 อาบน้ำวาบหวาม2

21/02/2023

35

บทที่ 35 อาบน้ำวาบหวาม3

21/02/2023

36

บทที่ 36 งานเลี้ยงโจร

21/02/2023

37

บทที่ 37 ท้าปะลอง

21/02/2023

38

บทที่ 38 ถล่มชุมโจร

21/02/2023

39

บทที่ 39 ช่องทางหนี

21/02/2023

40

บทที่ 40 เหยื่อสำคัญ

21/02/2023