Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
คืนเดียวชั่วนิรันดร์

คืนเดียวชั่วนิรันดร์

อัณณากานต์

5.0
ความคิดเห็น
210
ชม
13
บท

เพียงคืนเดียวในห้องนั้นเปลี่ยนชีวิตของเธอไปชั่วนิรันดร์

บทที่ 1 ตอนที่ 1 แรกพบ

“น่ารักจังเลยเจ้าตัวเล็ก” โจเซฟอุ้มทารกตัวน้อยมากอดอย่างแสนรักแม่หนูช่างน่าฟัดเหลือเกิน พวงแก้มแดงระเรื่อนุ่มนิ่มอดไม่ได้ที่จะเขี่ยเล่นเบาๆ แม้อยากหอมให้ชื่นใจแต่ก็ต้องอดใจไว้เพราะเด็กทารกยังไม่มีภูมิคุ้มกัน

“น้ำนี่คือวอเตอร์ใช่ไหม” เขาหันไปถามคุณพ่อป้ายแดงซึ่งก็คือเพื่อนของเขานั่นเอง

“ใช่แล้ว ตั้งให้เข้ากับลูกพี่ลูกน้อง มีดาวแล้ว มีภูผาแล้ว” บรูโน่ตอบ

“แล้วถ้าคนที่สองล่ะ จะตั้งชื่ออะไร”

“ถ้าผู้หญิงก็ฟ้า ถ้าผู้ชายก็เมฆ” อุษาสวรรค์บอกด้วยเสียงสดใส

“อยากมีเจ้าตัวเล็กมาเข้าแก๊งด้วยจัง” โจเซฟพูดด้วยเสียงหงอยๆ แล้วทั้งห้องก็เงียบไป

โจเซฟ แพทเทอร์สันหอบหัวใจบอบช้ำมารักษาที่เมืองไทย เขาวางแผนเซอร์ไพรส์แฟนสาวที่คบกันมาหลายปีด้วยพิธีหมั้นสุดโรแมนติกมีนักเล่นไวโอลินระดับแนวหน้า กุหลาบแดง แชมเปญและที่สำคัญแหวนเพชรเม็ดงามแต่พอเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนกลับเซอร์ไพรส์กว่าเพราะแฟนสาวกำลังทำท่าหมากับผู้ชายอีกคน

“ขอโทษนะคะ หนูไม่คิดว่ามีแขก” ทะเลจันทร์ขออภัยเมื่อเข้ามาในห้องพักฟื้นคนไข้ที่หรูหราไม่ต่างกับโรงแรม เธอคิดว่ามีแค่เจ้านายกับเจ้าตัวเล็ก เธออุตส่าห์กินข้าวให้เร็วที่สุดแล้วรีบมาโรงพยาบาลตอนช่วงพักกลางวันเพราะอยากมาเยี่ยมคนสำคัญในชีวิต

“เข้ามาสิจันทร์ไม่เป็นไรหรอก นี่โจเซฟเพื่อนโน่ คนกันเองทั้งนั้น” อุษาสวรรค์บอกพร้อมรอยยิ้ม

“พี่แพรให้หนูพักสองชั่วโมงครึ่งค่ะ หนูก็เลยแวบมา พี่แอ้มเป็นยังไงบ้างคะ อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะหนูจะไปซื้อให้” เด็กสาวไถ่ถามเจ้านายที่นับถือเหมือนพี่สาวด้วยความเป็นห่วง

“ของที่อยากกินมีหมดแล้วจ้ะขอบใจนะ มาหาหลานก็ต้องอยู่กับหลานสิ”

“คุณน้ำน่าชังจังเลยค่ะ” เธอรับทารกตัวน้อยมาจากชายหนุ่ม ถึงเขาจะยิ้มแต่แววตาดูเศร้าเหลือเกิน เขามีเรื่องอะไรไม่สบายใจงั้นหรือ ได้อยู่กับเพื่อนรักแถมยังบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาหลานอีก ควรจะสดชื่นมากกว่านี้สักหน่อยรึเปล่า ไม่น่าอมทุกข์แบบนี้เลย

“เรียกน้ำเฉยๆ ก็พอจ้ะ ไม่ต้องคุณหรอก พอโตพี่ก็ต้องเอามาทำงานด้วยก็ต้องพึ่งจันทร์และพนักงานทุกคนคอยช่วยอบรมดูแลไม่ให้เหลิงไม่ให้เสียคน” อุษาสวรรค์บอกกับทะเลจันทร์

“มือเล็กจังเลย” เป็นครั้งแรกที่ทะเลจันทร์ได้อุ้มและใกล้ชิดทารกขนาดนี้ มันน่าอัศจรรย์มากที่ทุกอย่างบนร่างกายเด็กแรกเกิดเล็กจิ๋วไปหมด

“น้องจันทร์เป็นพนักงานที่โรงแรม จะมาทำงานแทนแอ้มพักนึง” บรูโน่แนะนำทะเลจันทร์ให้เพื่อนรู้จัก

“อย่าเรียกว่าแทนเลยค่ะ หนูไม่เก่งเท่าพี่แอ้มเทียบไม่ได้สักนิด”

“เราก็เก่งในแบบของเราแหละจันทร์ นี่กินข้าวแล้วใช่ไหม”

“กินแล้วค่ะพี่แอ้ม แล้วพี่แอ้มกับพวกคุณๆ กินรึยังคะ”

“เรียบร้อยกันหมดแล้วจ้ะ แม่เป็นยังไงบ้างล่ะจันทร์”

“ก็ทรงๆ เหมือนเดิมค่ะ”

“คุณแม่ของเธอเป็นอะไรเหรอ” โจเซฟถาม

“จันทร์จะตอบเองหรือจะให้พี่ตอบ”

“หนูตอบเองก็ได้ค่ะ” ทะเลจันทร์อธิบายอาการป่วยของมารดาด้วยภาษาอังกฤษให้เพื่อนของเจ้านายฟัง เธอพยายามพูดให้ถูกหลักไวยากรณ์ เจ้านายทั้งสองจะได้ไม่เสียหน้าเพราะพนักงานของตัวเอง

“ผมเสียใจด้วยนะครับ” โจเซฟบอกจากใจจริง

“ขอบคุณค่ะ”

“พี่ต้องชมนะเนี่ย ภาษาดีขึ้นเยอะเลย สำเนียงก็ชัดกว่าแต่ก่อนมาก”

“หนูฟังคลิปภาษาอังกฤษทุกวันค่ะ ฟังตอนนั่งรถมาทำงานแล้วก็ก่อนนอนด้วยค่ะ”

อุษาสวรรค์รักและเอ็นดูทะเลจันทร์เหมือนน้องแท้ๆ เธอเป็นเด็กรักดีและใฝ่เรียน ถึงจะจบการศึกษาแค่ ปวช. แต่ก็ไม่เคยหยุดหาความรู้ใส่ตัวไม่ว่าโรงแรมจะส่งไปอบรมคอร์สอะไรจะมีชื่อของทะเลจันทร์อยู่ในนั้นเสมอ เด็กแบบนี้ควรส่งเสริมและสนับสนุนเต็มที่

“เราให้สาวๆ คุยกันไปก่อนดีไหม” โจเซฟหันมาชวนบรูโน่เพราะดูท่าทางเด็กสาวอีกคนจะอึดอัดที่มีคนแปลกหน้ารวมอยู่ด้วยซึ่งเขาไม่โกรธเลย คนไม่รู้จักกันแถมเป็นเพื่อนเจ้านายอีก เธอต้องเกรงใจเป็นธรรมดา

“เดี๋ยวมานะครับที่รัก” บรูโน่บอกลาภรรยาแล้วเดินออกไปพร้อมเพื่อน

“ลืมเลย อยู่กับเด็กอ่อนไม่ควรสูบสิเนอะ” โจเซฟหยิบบุหรี่ขึ้นมาแล้วเก็บเข้าที่เดิม ถึงจะออกมาสูบข้างนอกแต่กลิ่นของมันก็ยังติดตัวอยู่ดี

“เลิกได้ก็เลิกเถอะโจ”

“ก็พยายามอยู่แต่ไม่มีอะไรจูงใจ ยิ่งช่วงนี้ยิ่งหนัก” หนุ่มหล่อผมสีน้ำตาลเข้มบอกแล้วถอนใจเบาๆ ถึงจะหนีมาไกลแสนไกลแต่มันก็ไม่ช่วยอะไร ต่อให้ย้ายไปอยู่นอกโลกความเจ็บปวดก็ยังตามมาหลอกหลอนอยู่ดี โจเซฟได้แต่ถามตัวเองว่ามีอะไรที่เขาผิดพลาดหรือด้อยไปแต่ก็ไม่มีคำตอบเพราะไม่ได้ถามแฟนสาวที่นอกใจไปนอนกับผู้ชายคนอื่น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นใครเพราะไม่คุ้นหน้าเลย

“แล้วมันจะผ่านไป อย่าแบกไว้นาน” บรูโน่ตบไหล่เพื่อนเพื่อบอกว่าถึงเรื่องมันจะหนักหนาแค่ไหนแต่ก็อย่าปล่อยให้มันมาทำลายชีวิตที่เหลือ เจ็บได้แต่ก็ต้องก้าวต่อไป

“เด็กคนนั้นน่ารักดีนะ ถูกกฎหมายแล้วเหรอ” แม้เพิ่งเคยพบกันแต่ทะเลจันทร์ก็สร้างความประทับใจได้ไม่ยาก อย่างแรกเธอน่ารักแค่มองก็เห็นชัดไม่ต้องวิเคราะห์ให้มากความ เมื่อได้เห็นท่าทางการเดินการพูดก็ยิ่งประทับใจ เธอเป็นเด็กที่นอบน้อมและอ่อนโยนไม่แปลกใจที่เพื่อนชื่นชมให้ฟังอยู่บ่อยๆ

“ถูกกฎหมาย ยังไงโจ”

“ก็ยังเด็กอยู่เลย อายุถึงสิบแปดแล้วเหรอ ประเทศนายต้องคนอายุเท่าไหร่ถึงทำงานได้”

“ก็สิบแปดถึงทำงานที่โรงแรมได้หมายถึงเป็นพนักงานประจำ ส่วนน้องจันทร์อายุยี่สิบแล้ว”

“เหรอ! ไม่น่าเชื่อนะ นึกว่าสิบห้าสิบหก”

“น่าสงสารอยู่กับแม่สองคนแม่ก็ไม่สบายแล้วก็ไม่อยากพูดให้น้องใจเสีย เราว่าแม่คงอยู่ได้อีกไม่นาน เรากับพี่วินพี่แพรแล้วก็แอ้มช่วยทุกอย่างแต่น้องจันทร์ก็เกรงใจบ่ายเบี่ยงตลอด ไม่อยากคิดเลยถ้าแม่จากไปน้องจันทร์จะอยู่ยังไง” บรูโน่ปรับทุกข์กับเพื่อน ถ้าเป็นพนักงานคนอื่นเขาจะไม่ห่วงเท่านี้เพราะโตและมีวุฒิภาวะมากกว่าแต่ทะเลจันทร์เป็นแค่เด็กสาวอ่อนต่อโลกมีแค่เพียงมารดามาทั้งชีวิตเธอต้องเคว้งแน่นอนถ้าวันนั้นมาถึง

“ชีวิตมักจะสร้างบททดสอบยากๆ ให้เราเสมอ” โจเซฟหมายถึงทะเลจันทร์แต่แล้วก็คิดได้ว่าชีวิตตัวเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เขาก็กำลังโดนทดสอบว่าจะผ่านความปวดร้าวครั้งนี้ไปได้ยังไงหรือในสภาพไหน

เขาไม่เคยพบเจอความเจ็บปวดแบบนี้มาก่อน ความรัก ความเชื่อใจ อนาคต ที่สร้างมาแรมปีพังลงภายในพริบตา

“ป่ะ กลับกันเถอะ” ออกมายืนรับลมพักใหญ่ก็ชวนกันกลับไปที่ห้องพักฟื้นเพราะโจเซฟไม่อยากคุยเรื่องแฟนเก่าอีกแล้ว กลับไปหาหลานดีกว่าจะได้หายฟุ้งซ่าน

“หนูกลับก่อนนะคะพี่แอ้ม แล้วเจอกันที่ทำงานนะคะ” ทะเลจันทร์ยกมือไหว้อุษาสวรรค์เพราะต้องกลับไปทำงานถึงแม้จะอยากอยู่ที่นี่ทั้งวันทั้งคืนก็ตาม

“อ้าว! กลับแล้วเหรอน้องจันทร์” บรูโน่เปิดประตูเข้ามาก็เจอทะเลจันทร์พอดี อีกนิดเดียวก็จะชนกันแล้ว

“ค่ะ คุณโน่ หนูขอตัวนะคะ สวัสดีค่ะคุณโจเซฟ”

“กลับด้วยกันไหมครับ ผมก็จะกลับพอดี” โจเซฟชวน ทั้งที่ความจริงไม่ได้คิดเรื่องกลับโรงแรมเลยสักนิดแต่เขาอยากอยู่กับเธอให้นานกว่านี้จะเพื่ออะไรก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ที่รู้ก็คืออยากรู้จักเธอให้มากขึ้น ชีวิตของเธอน่าสงสารและน่าสนใจในคราวเดียวกัน

“เอ่อ…คือ” ทะเลจันทร์อึกอักเธอไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง

“ไปกับโจเถอะจันทร์ ไหนๆ ก็ไปที่เดียวกันอยู่แล้ว” อุษาสวรรค์บอก

“ค่ะ หนูขอรบกวนด้วยนะคะ”

รถยนต์คันงามของโจเซฟที่เช่าไว้เคลื่อนออกจากลานจอดรถช้าๆ เขามองซ้ายมองขวาจนแน่ใจถึงค่อยออกรถ ทะเลจันทร์ค่อนข้างประหลาดใจที่เขาสุขุมรอบคอบผิดกับลุคแบดบอยเซอร์ๆ เป็นที่สุด

“ทำงานเป็นยังไงบ้างครับ” โจเซฟชวนคุยเพื่อทำลายความเงียบ

“ดีค่ะ ทุกคนใจดีกับหนูมากๆ ค่ะ ครอบครัวคุณวินคุณโน่ก็ประเสริฐที่สุด ไม่มีวันที่หนูจะชดใช้บุญคุณให้พวกเขาหมดแน่ๆ” ทะเลจันทร์บอกจากใจจริง ไม่ได้ต้องการประจบหรือพูดให้ตัวเองดูดี

“ผมว่าเพราะคุณเป็นคนดีต่างหาก พวกเขาถึงดีกับคุณ”

“ถึงหนูจะเป็นคนดีแต่ถ้าพวกเขาไม่ให้โอกาสหนูก็แย่ค่ะ” ทะเลจันทร์ตอบไปตามที่คิดเพราะสังคมสมัยนี้การเป็นคนดีไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันว่าจะได้สิ่งดีๆ ตอบแทน คนแย่ๆ ทำเรื่องร้ายๆ ได้ดิบได้ดีก็เห็นเยอะแยะ

“คุณนี่มองโลกแง่ดีจังเลยนะ” โจเซฟประหลาดใจที่คนแบบเธอยังมองโลกได้แบบนี้

“หนูไม่อยากเพิ่มความทุกข์ให้ตัวเองแค่เรื่องแม่เรื่องเดียวก็พอแล้วค่ะ”

“ท่านเป็นยังไงบ้างครับ”

“อาการทรงๆ ค่ะไม่แย่ลงแต่ก็ไม่ดีขึ้น”

“เคยคิดไหมถ้าแม่ไม่อยู่แล้วจะทำยังไง”

“คิดค่ะ คิดทุกวัน หนูรู้ว่าแม่อยู่ได้อีกไม่นานหรอกแต่หนูก็พยายามดูแลแม่ให้ดีที่สุด”

“แล้วคิดว่าอะไรครับ”

“คิดว่าถ้าแม่ไม่อยู่ก็จะทำงานตอบแทนพระคุณตระกูลดัวร์ต้าให้เต็มที่ค่ะ พวกเขาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่ทั้งหมดแถมเวลาหนูลางานหรือมาสายก็ไม่เคยว่าหนูสักครั้ง ที่หนูมาสายเพราะบางคืนก็ไม่ได้นอนค่ะบางครั้งแม่จะไอหรือไม่ก็อาเจียนหรือมีไข้ทั้งคืนหนูต้องคอยดูแล”

“คุณเป็นเด็กดีมากทะเลจันทร์” โจเซฟพูดได้แค่นั้นจริงๆ เพราะไม่มีคำไหนที่จะเหมาะกับเธอไปมากกว่านี้

ทะเลจันทร์คิดว่าจะอึดอัดหรือนั่งเงียบกันตลอดทางเพราะเธอกับเขาเป็นคนแปลกหน้าต่อกันแต่ไม่ใช่เลย เขาชวนคุยถามไถ่อย่างเป็นกันเอง ผู้คนรอบตัวที่เธอนับถือส่วนใหญ่จะรวยและเหนือกว่าทั้งนั้นแต่พวกเขาไม่เคยข่มหรือทำให้เธอรู้สึกต่ำต้อยสักครั้ง

ผู้ชายคนนี้ก็เช่นกัน

เธอเชื่อมาเสมอว่าคนแบบเดียวกันจะคบหาหรืออยู่ด้วยกันได้ยาวนาน คุณโจเซฟคงไม่ต่างจากคุณบรูโน่ เขาดูเป็นคนเจ้าชู้แต่ความจริงถ้าได้รักใครก็คงจะรักคนเดียวไม่นอกลู่นอกทาง เธอเห็นตัวอย่างชัดเจนมาเป็นปีที่คุณบรูโน่ถนอมรักเทิดทูนภรรยายิ่งกว่าสิ่งใด

“เจ็บมากไหมครับ” บรูโน่เหยียบเบรกเต็มแรงเมื่อรถคันหน้าปาดเข้ามาเกือบชนกัน ทะเลจันทร์หน้าคะมำแต่เพราะความตกใจหรือสติดีมากก็ไม่รู้ เธอจึงนำมือไปรองไว้ที่หน้าผากตัวเองทำให้หน้าผากไม่โขกกับแผงหน้ารถ

“ไม่ค่ะ คุณล่ะคะ เจ็บตรงไหนรึเปล่า”

“ไม่เจ็บครับ ผมต้องลงไปคุยกับเขาหน่อย คุณรอข้างในดีกว่า”

“ขับรถยังไง ตาบอดเหรอ ก็เห็นอยู่ว่าจะขอเข้าเลนส์ เร่งเครื่องหาเรื่องกูเหรอ” อีกฝ่ายรัวภาษาไทยใส่เป็นชุด โจเซฟฟังไม่ออกแต่จากท่าทางและน้ำเสียงที่ใช้ต้องไม่ใช่การชื่นชมหรือเป็นคำพูดดีๆ แน่นอน

“ใจเย็นก่อนครับ” โจเซฟลองพูดคำสั้นๆ ในภาษาอังกฤษเพื่อดูท่าทีคู่กรณี

“ไอ้พวกหัวทอง คิดว่ามีเงินจะทำอะไรก็ได้ ถุย !”

“เฮ้ ! ทำแบบนี้ …” โจเซฟไม่พอใจมากที่โดนถ่มน้ำลายใส่แม้จะไม่โดนตัวแต่มันไม่สุภาพเป็นการกระทำที่หยาบคายมาก

“คุณไม่ได้เปิดไฟขอทางนะคะ อยู่ๆ ก็แทรกเข้ามา ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ชนกัน” ทะเลจันทร์ทนไม่ไหวจึงออกมาช่วยเจรจา

“อ้อๆ ! เมียฝรั่งสินะ”

“ฉันไม่ใช่เมีย เขาเป็นลูกค้า”

“ฮ่าๆๆ ไม่แปลกใจหรอก เหมาๆ รายวันรึไง”

“ไม่ใช่เรื่องของคุณ รถคุณก็ไม่ได้เสียหาย แยกย้ายกันเลยไหมคะ”

“แต่มันเกือบจะชนกูเลยนะเว้ย ไอ้หัวทองนี่ต้องจ่ายค่าทำขวัญให้กูหน่อยไหม”

“ได้ค่ะแต่ไปจ่ายที่สถานีตำรวจนะคะ สะดวกไหม”

“เฮ้ย ! จ่ายตรงนี้ก็ได้ จะไป สน. ทำไมให้วุ่นวาย”

“ไม่ได้หรอกค่ะ ต้องลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน จะไปไหมคะ”

“กูไม่เสียเวลากับพวกเมียฝรั่งหรอก ถุย !”

“ช่างเขาเถอะค่ะ” ทะเลจันทร์ต้องฉุดโจเซฟไว้เพราะเขาทำท่าจะกระโจนใส่ไอ้หนุ่มหัวร้อน

“มันพูดว่าอะไรบ้าง” โจเซฟโมโหจนหน้าแดง มันต้องพูดเลวๆ แน่นอนแถมยังถ่มน้ำลายใส่ทะเลจันทร์อีก

“เขาจะเอาค่าทำขวัญค่ะ หนูบอกว่าให้ไปตกลงกันที่สถานีตำรวจ เขาไม่ไปค่ะ”

“แล้วอะไรอีก” โจเซฟเห็นสายตาที่มันมองหยามเหยียดทะเลจันทร์แต่ไม่เข้าใจว่ามันมองแบบนั้นทำไมเพราะเธอไม่เกี่ยวด้วยสักหน่อย

“แค่นี้แหละค่ะ เขาพูดวกไปวนมา น่าจะเมาด้วย กลิ่นเหล้าหึ่งเชียว”

“จริงเหรอ มันไม่ได้ว่าอะไรคุณใช่ไหม”

“ไม่ได้ว่าค่ะ ไปกันเถอะ หนูต้องกลับไปทำงาน” ทะเลจันทร์ไม่อยากเอาเรื่องไร้สาระไปเพิ่มให้โจเซฟปวดหัว แค่เรื่องของเขาเองก็คงวุ่นวายพอแล้ว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัณณากานต์

ข้อมูลเพิ่มเติม
แม่บ้านวัยกระเตาะ

แม่บ้านวัยกระเตาะ

มหาเศรษฐี

5.0

♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

พระชายาของข้าคนเดียว

พระชายาของข้าคนเดียว

Daryl Tudge
5.0

เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี

สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี

ฺBorbee
5.0

สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี เขียน บ.บี ภาพปก AhriMu ผลท้อสวรรค์สูญหาย นางเซียนน้อยจึงถูกลงโทษให้ลงมาอยู่บนโลกมนุษย์ แต่นางดันพกเมล็ดพันธ์ผลท้อติดมือมาด้วยนี่สิ!! เหล่าเซียนว่างงานที่หมายปองผลท้อรีบขันอาสาลงมาแดนมนุษย์เพื่อตามหาผลท้อที่ตนต้องการอีกเป็นขโยง และหนึ่งในนั้นก็มีเซียนหนุ่มผู้ฝึกฝนเคล็ดวิชาสายเทพมังกรซึ่งควรเป็นผู้ครอบครองผลท้อสวรรค์ตั้งแต่เริ่มรวมอยู่ด้วย แต่เป้าหมายหลักของเขากลับเป็นความท้าทายในการมีชีวิตในฐานะมนุษย์มากกว่าและยังตั้งใจจะยับยั้งการปลูกท้อสวรรค์ในแดนมนุษย์อีกด้วย สุดท้ายแล้วเซียนน้อยของเราจะปลูกท้อสวรรค์ในแดนมนุษย์สำเร็จหรือไม่? เจ้าของผลท้อที่แท้จริงจะยับยั้งนางไว้ทันเวลาหรือไม่? เหล่าเซียนผู้แอบแฝงจะยึดครองอำนาจในแดนมนุษย์สำเร็จหรือไม่? ร่วมลุ้นและเอาใจช่วยสาวน้อยผู้มีดีในการปลูกต้นท้อเพียงอย่างเดียวของเราไปด้วยกันนะคะ แนะนำตัวละคร มู่เหยาจี เซียนน้อยเหยาจีผู้มีพลังวิญญาณแห่งเทพพฤกษา นางมีความสามารถในการเพาะปลูกและได้เป็นผู้ดูแลสวนท้อสวรรค์เพียงหนึ่งเดียว มู่สี่เสิน ผีเสื้อเกล็ดแก้วหนุ่มน้อยทูตสวรรค์ผู้ซื่อสัตย์ เขายอมรับโทษพร้อมกับเหยาจี ติดตามเหยาจีลงมาแดนมนุษย์ในฐานะพี่ชายแท้ๆ หลวนหลง เซียนหนุ่มผู้บ่มเพาะพลังเทพมังกร ผู้โชคดีที่จะได้รับผลท้อสวรรค์คนสุดท้ายในรอบ 3,000 ปี แต่เขาต้องพลาดโอกาสงาม เพราะท้อสวรรค์ของเขาถูกช่วงชิงไปโดยเซียนน้อยเหยาจี มหาเทพฮ่าวเทียน หนึ่งในสามมหาเทพผู้ปกครองสูงสุดบนแดนสวรรค์ ดูแลสรรพสิ่ง ดิน น้ำ ลม ไฟ สุริยัน จันทรา มหาเทพมู่ซี หนึ่งในสามมหาเทพผู้ปกครอง ดูแลเหล่ามวลพฤกษานานาพรรณ มหาเทพสิงเทียน หนึ่งในสามมหาเทพผู้ปกครอง ดูแลสรรพสัตว์และสิ่งมีชีวิตทั้งปวง

กู๊ดบาย นายสุดที่รัก

กู๊ดบาย นายสุดที่รัก

Glad Rarus
5.0

หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ