Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose

4.9
ความคิดเห็น
10.3M
ชม
431
บท

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

บทที่ 1 ลูกของพวกเขา

“คุณเวิน ผลการตรวจพบว่า คุณมีผนังมดลูกบางมาตั้งแต่กำเนิด ทารกในครรภ์จึงไม่แข็งแรงดี คุณควรระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายให้มากขึ้นนะครับ”

แพทย์สั่งยาพร้อมกับให้คำแนะนำ แล้วก็ส่งบัตรใบหนึ่งมาให้ “นี่ครับ เชิญไปเอายาได้ครับ”

“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ” เวินเหลี่ยงรับบัตรมา แล้วก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน

ทันใดนั้นหมอก็เตือนขึ้นมาอีกครั้งว่า “ต้องระมัดระวังหน่อยนะครับ อย่าประมาทเด็ดขาด!”

ผนังมดลูกบางทำให้มีแนวโน้มที่จะแท้งบุตรได้ง่าย สตรีมีครรภ์จำนวนมากไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก หลังจากที่เคยแท้งไปแล้ว

“ขอบคุณค่ะคุณหมอ ฉันจะระวังให้มาก ๆ ค่ะ” เวินเหลี่ยงยิ้ม และพยักหน้า

หลังจากแต่งงานมาได้สามปี ไม่มีใครรอคอยการมาถึงของเด็กคนนี้มากไปกว่าเธออีกแล้ว ดังนั้นเธอจะต้องปกป้องเขาอย่างดีที่สุด

หลังจากไปเอายาเสร็จ เวินเหลี่ยงก็ออกมาจากคลินิกผู้ป่วยนอก และกลับไปที่รถ

คนขับสตาร์ทรถ และมองดูเธอในกระจกมองหลังพลางถามขึ้นว่า “คุณผู้หญิงครับ เที่ยวบินของคุณผู้ชายจะมาถึงเวลาบ่ายสามโมง ตอนนี้ยังมีเวลาอีกยี่สิบนาที คุณอยากจะไปที่สนามบินเลยไหมครับ?”

“ไปเลยก็ได้”

เมื่อคิดว่าอีกยี่สิบนาทีก็จะได้เจอเขาแล้ว ใบหน้าของเวินเหลี่ยงก็เผยรอยยิ้มอันแสนหวานขึ้นมาทันที เธอแทบจะอดใจรอไม่ไหวอยู่แล้ว

ฟู่เจิ้งเดินทางไปทำธุระนอกพื้นที่มาเกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว เธอคิดถึงเขามาก

ระหว่างทาง เธออดไม่ได้ที่จะหยิบใบตรวจครรภ์ออกมาจากกระเป๋าขึ้นมาดูอยู่หลายรอบมาก แล้วก็เอามือวางลงบนท้องน้อยเบา ๆ

นี่คือลูกของเธอกับฟู่เจิ้ง อีกแปดเดือน ลูกก็จะคลอดออกมาแล้ว

เธออยากจะบอกข่าวดีเรื่องนี้กับฟู่เจิ้งจนแทบจะทนไม่ไหว

เมื่อไปถึงสนามบิน คนขับก็จอดรถไว้ในที่ที่เห็นได้อย่างชัดเจน แล้วก็พูดว่า “คุณผู้หญิงครับ ทำไมคุณถึงไม่โทรหาคุณผู้ชายล่ะครับ?”

เวินเหลี่ยงเหลือบมองเวลา ตอนนี้ฟู่เจิ้งน่าจะลงจากเครื่องบินมาแล้ว เธอจึงกดโทรออกไป แต่กลับมีเสียงคอลเซ็นเตอร์บอกว่าไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้

“เครื่องบินอาจจะดีเลย์ล่ะมั้ง งั้นก็รอสักพักหนึ่งก่อนก็แล้วกัน” เวินเหลี่ยงกล่าว

หลังจากผ่านไปสักพัก ฟู่เจิ้งก็ยังไม่ออกมาสักที

เวินเหลี่ยงจึงโทรไปอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้เช่นเดิม

“รอก่อนแล้วกัน”

หากเที่ยวบินจะดีเลย์ก็เป็นเรื่องปกติ บางครั้งดีเลย์ไปหนึ่งชั่วโมงหรือสองชั่วโมงเลยก็มี

สองชั่วโมงต่อมา

เวินเหลี่ยงกดโทรออกไปหาฟู่เจิ้งอีกครั้ง ในที่สุดก็ไม่มีเสียงแจ้งเตือนที่เย็นชาดังขึ้นมา ไม่นานปลายสายก็มีคนรับ “อาเจิ้ง คุณลงจากเครื่องบินแล้วรึยัง?”

ปลายสายเงียบไป จากนั้นก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นมา “ขอโทษทีนะคะ พอดีอาเจิ้งไปเข้าห้องน้ำ ไว้เดี๋ยวถ้าเขากลับมาแล้วจะบอกให้เขาโทรกลับหาคุณอีกทีนะคะ”

ก่อนที่เวินเหลี่ยงจะทันได้พูดอะไร เสียงสายไม่ว่างก็ดังมาจากในโทรศัพท์เสียแล้ว

เธอมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ แล้วก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

เธอจำได้ว่า ที่ฟู่เจิ้งไปทำงานครั้งนี้ เขาไม่ได้พาเลขาผู้หญิงไปด้วยหนิ

เวินเหลี่ยงจ้องไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ปิดอยู่ เธอกำลังรอให้ฟู่เจิ้งโทรกลับมา

ไม่นาน เวลาก็ผ่านไปสิบนาที

แต่ฟู่เจิ้งก็ยังไม่ได้โทรกลับมาแต่อย่างใด

หลังจากเวินเหลี่ยงรออีกห้านาที เธอก็ทนไม่ไหว โทรกลับไปหาฟู่เจิ้งอีกครั้ง

หลังจากโทรออกไป และรออยู่นาน ตอนที่สายกำลังจะตัดโดยอัตโนมัติแล้ว จู่ ๆ ก็มีคนรับสาย แล้วก็มีเสียงผู้ชายที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากในโทรศัพท์ เสียงของเขามีความเคร่งขรึม และทุ้มมาก “ฮัลโหล เวินเหลี่ยงเหรอ?”

“อาเจิ้ง คุณอยู่ไหนคะ? ฉันกับคนขับรถอยู่ที่ลานจอดรถเขตดีของอาคารผู้โดยสารแล้ว คุณมาที่นี่ได้เลย”

เสียงของอีกฝั่งเงียบไปชั่วขณะ แล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า “ขอโทษทีนะ พอดีลงจากเครื่องบินมาแล้วผมลืมเปิดเครื่องน่ะ ตอนนี้ผมออกจากสนามบินมาแล้วล่ะ”

รอยยิ้มของเวินเหลี่ยงหายไปในทันที

“งั้น ฉันจะกลับบ้านไปรอคุณนะ?” เวินเหลี่ยงกัดริมฝีปาก “ฉันมีเรื่องจะบอกคุณด้วย”

“โอเค ผมก็มีเรื่องจะบอกคุณเหมือนกัน”

“งั้นอาหารเย็น เดี๋ยวฉันให้อาอี๋เตรียมอาหารที่คุณชอบกินเอาไว้...…”

“คุณกินเลย ผมยังมีธุระอีก คงกลับไปช้าหน่อย”

เวินเหลี่ยงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย “งั้นก็ได้”

ขณะที่เธอกำลังจะวางสาย ทางฝั่งของฟู่เจิ้งก็มีเสียงผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง “อาเจิ้ง ฉันขอโทษ เมื่อกี้นี้เวินเหลี่ยงโทรมาหาคุณน่ะ ฉันลืมบอกไปเลย.....”

หัวใจของเวินเหลี่ยงจมดิ่งลงไปทันที เธอเริ่มขมวดคิ้วขึ้นมาแล้ว ขณะที่เธอกำลังจะถามฟู่เจิ้งว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร สายก็ตัดไปเสียก่อน

เธอมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ แล้วก็เม้มริมฝีปาก จากนั้นก็พูดกับคนขับว่า “กลับบ้านเถอะ”

คนขับเดาอะไรบางอย่างจากคำพูดได้ แล้วเขาก็ขับออกจากสนามบินไป

สำหรับมื้อเย็น เวินเหลี่ยงไม่มีความอยากอาหารเลยสักนิด แต่เป็นเพราะเห็นแก่เด็กที่อยู่ในท้อง เธอจึงต้องกินอะไรบ้าง

ทีวีในห้องนั่งเล่นถูกเปิดเอาไว้

เธอนั่งกอดหมอนอยู่บนโซฟา คอยมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือครั้งแล้วครั้งเล่า ความจริงเธอไม่ได้มีกระจิตกระใจที่จะดูสิ่งที่กำลังถ่ายทอดอยู่ในทีวีเลยสักนิด

ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว

เวินเหลี่ยงหาว แล้วก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว

ในขณะที่เธอกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นี้ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าตัวเบา ๆ ราวกับว่ามีใครอุ้มเธอขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น

เวินเหลี่ยงที่กำลังสะลึมสะลือ รู้สึกเหมือนจะได้กลิ่นที่คุ้นเคยและกลิ่นแอลกอฮอล์อ่อน ๆ เธอจึงพึมพำขึ้นมาว่า “อาเจิ้งเหรอ?”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

Gilbert Soysal
5.0

"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

ต้องมนต์บุปผา

ต้องมนต์บุปผา

ซีไซต์
5.0

หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
คุณนายยอมหย่าแล้ว
1

บทที่ 1 ลูกของพวกเขา

16/10/2023

2

บทที่ 2 หย่ากันเถอะ

16/10/2023

3

บทที่ 3 จากภรรยากลายเป็นน้องสาว?

16/10/2023

4

บทที่ 4 รักแรกของเขา

16/10/2023

5

บทที่ 5 ไม่หย่าได้ไหม?

16/10/2023

6

บทที่ 6 ฉันจะสอนบทเรียนให้เธอเอง

16/10/2023

7

บทที่ 7 ผมจะไม่ปล่อยให้เขาเกิดมาเด็ดขาด

16/10/2023

8

บทที่ 8 ช่างใจกว้างจริง ๆ

16/10/2023

9

บทที่ 9 ตื่นจากฝัน

16/10/2023

10

บทที่ 10 ความสัมพันธ์แบบพี่น้องบ้าบออะไร

16/10/2023

11

บทที่ 11 สร้างกระแส

16/10/2023

12

บทที่ 12 ใจของเขาลำเอียงตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว

16/10/2023

13

บทที่ 13 ให้มันจบไปแบบนี้แหละ

16/10/2023

14

บทที่ 14 บ้านต้นตระกูล

16/10/2023

15

บทที่ 15 เธอไม่อยากทนมันอีกต่อไปแล้ว

16/10/2023

16

บทที่ 16 เธอชอบมาสิบปีแล้ว

16/10/2023

17

บทที่ 17 จุดอ่อนของเธอ

16/10/2023

18

บทที่ 18 การโต้เถียง

16/10/2023

19

บทที่ 19 ฟู่เจิ้งไม่เชื่อเธอสักนิด

16/10/2023

20

บทที่ 20 คนรักของเธอ

16/10/2023

21

บทที่ 21 พวกคุณสองคนมีอะไรกันรึเปล่า?

16/10/2023

22

บทที่ 22 เห็นเธอเป็นของเล่นเพื่อความบันเทิงงั้นเหรอ?

17/10/2023

23

บทที่ 23 นำความอัปยศมาให้ตนเอง

18/10/2023

24

บทที่ 24 ช่วยลูกของฉันด้วยนะ

19/10/2023

25

บทที่ 25 ลูกเป็นยังไงบ้าง?

20/10/2023

26

บทที่ 26 เธอมีสิทธิ์อะไรล่ะ

21/10/2023

27

บทที่ 27 ฉันแค่อยากจะหนีตามเขาไป

22/10/2023

28

บทที่ 28 ฟู่เจิ้งเป็นประสาท!

23/10/2023

29

บทที่ 29 เธอกล้าเดิมพันไหมล่ะ

23/10/2023

30

บทที่ 30 ผมจะชดใช้ให้คุณเอง

23/10/2023

31

บทที่ 31 ถกเถียงเรื่องคู่จิ้น

23/10/2023

32

บทที่ 32 อาเหลี่ยงคงไม่ได้ท้องหรอกใช่ไหม

23/10/2023

33

บทที่ 33 คุณช่วยเบา ๆ หน่อยสิ

24/10/2023

34

บทที่ 34 กระทู้ชี้แจง

24/10/2023

35

บทที่ 35 ทำเรื่องน่าอาย แต่ไม่อยากให้ใครดูถูก

24/10/2023

36

บทที่ 36 คุณคิดว่าฉันไม่มีหัวใจรึไง?

24/10/2023

37

บทที่ 37 อยู่ห่างจากเขาหน่อย

24/10/2023

38

บทที่ 38 ไม่สามารถย้อนกลับไปได้แล้ว

24/10/2023

39

บทที่ 39 สงครามเย็น

24/10/2023

40

บทที่ 40 เป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่มีวันพบกันอีก

24/10/2023