วอนรัก ฉบับวายร้าย

วอนรัก ฉบับวายร้าย

LadyDarkSidE

5.0
ความคิดเห็น
258
ชม
15
บท

ไผ่หลิว.. ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ไร้พิษสง ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่เหตุไฉนถึงต้องมาขึ้นเวทีมวยด้วยเล่า!!! ก็นึกอยู่ว่ามันต้องมีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คาดฝันว่าตัวเองจะได้ขึ้น เวทีมวย! ย้ำนะว่ามันคือ เวทีมวย! สรุป! โทษทัณฑ์ที่จะต้องได้รับคือการได้มาเป็นกระสอบทรายของไอ้เสี่ยเวร!

บทที่ 1 อยู่ดีๆ ก็งานเข้า Part 1

เคยไหม.. มันจะมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งที่ชอบเอาความเดือนร้อนมาให้ตลอด..

ฟังจากเสียงเคาะประตูที่รัวขนาดนี้ มีเรื่องมาอีกแน่แบบไม่ต้องฟันธงด้วย

“เออๆๆ รู้แล้วๆ มึงจะเคาะทำไมนักหนา กูได้ยินแล้ว เดี๋ยวข้างห้องเขาก็ออกมาด่าหน้ากูอีกหรอก”

ไผ่หลิว สาวร่างเล็กที่เพื่อนสนิทและคนรู้จักมักจะเรียกว่า ไอ้เตี้ย! เปิดประตูห้องด้วยความหงุดหงิดใจ นึกรู้ทันทีเลยว่าคนที่มาเคาะประตูห้องแบบนี้มีอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น และทันทีที่เปิดออกก็ต่อว่าอีกฝ่ายทันที

“เออออ.. ขอโทษๆ ก็กูรีบ หลบหน่อยๆ”

น้ำหวาน เพื่อนสนิทที่ไม่ค่อยอยากสนิทด้วยสักเท่าไหร่ เพราะแม่งชอบสร้างแต่ปัญหาให้ แต่อย่างว่า ถ้าไม่คบมัน ตัวมันก็ไม่รู้จะไปคบใครเขาได้แล้ว แต่ข้อดีของมันก็คือความสวยแซ่บ ส่วนข้อเสียน่ะหรอ.. ก็คือทุกอย่างที่มันมีนั่นล่ะ!

ความสวยของมัน ก็คือภัยธรรมชาติดีๆนี่แหล่ะ

“อะไรของมึง อย่าบอกนะ ว่ามีเรื่องมาอีกแล้วอ่ะ”

ไผ่หลิวทำหน้าเครียด เมื่อเห็นเพื่อนสาวทำท่าลุกลี้ลุกลน จนคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายไปมีเรื่องราวมาแน่ๆเพราะทุกครั้งที่เป็นแบบนี้มันก็เป็นแบบนั้นมาตลอดไง!

“กูขอโทษ กูขอหลบอยู่กับมึงสักพักนะ”

“อีกและ คราวนี้ไปสร้างเรื่องกับใครมาอีกล่ะ”

“เสี่ยวอน!”

“ห๊ะ! อีเวร มีเรื่องกับผัวมา แล้วมาหลบอยู่กับกูเนี่ยนะ มึงคิดอะไรของมึงกันแน่เนี่ย ก็รู้อยู่ว่าผัวมึงเป็นคนยังไง แล้วที่สำคัญคือกูเกลียดขี้หน้าผัวมึงแค่ไหน”

ไผ่หลิวโวยลั่น เพราะคนที่เพื่อนมีปัญหาด้วยดันเป็นไอ้เสี่ยหน้าตายจอมกวนบาทานั่น เธอล่ะอยากจะหยุมหัวอีเพื่อนเวรนี่จริงๆ หาแต่เรื่องมาให้ แล้วเป็นใครใครก็ไม่เป็นด้วยนะ ดันมาเป็นไอ้เสี่ยเวรนี่ และแม่งก็ชอบมึนใส่ด้วยนะ

“ก็กูไม่รู้จะไปไหนนี่หว่า อีกอย่างมึงเป็นเพื่อนรักกูอ่ะ ไม่มาหามึงแล้วจะให้กูไปหาใคร”

“อย่ามา.. อย่าบอกว่ากูเป็นเพื่อนรักมึง เวลามึงแฮปปี้ ชีวิตดี๊ดีไม่เห็นจะนึกถึงกู ทีเอาตัวไม่รอดก็แรดมาหากูแบบด่วนทันใจเลยนะมึง”

“โห่ เลิกด่ากูสักทีเถอะ กูสำนึกไม่ทันหรอก”

“ใช่! กูก็นึกคำด่ามึงไม่ทันเหมือนกัน”

“ไผ่.. กูขอโทษ กูขออยู่กับมึงสักพักนะ นะเพื่อนรัก”

“เออๆ แต่อย่าเอาเรื่องเดือดร้อนมาให้กูเด็ดขาดเลยนะ กูบอกไว้ซะก่อน ไม่อย่างนั้นกูเนี่ยแหล่ะจะไปบอกผัวมึงเอง ว่ามึงหนีมาอยู่กับกู”

“อีโหดร้าย”

“ร้ายๆ อย่างมึงก็ต้องโดนซะบ้าง กูไม่เข้าข้างหรอก”

“แล้ววันนี้ ไม่ไปทำงานหรอ มึงไปไหนไหมอ่ะ” น้ำหวานถามเสียงอ่อย

“วันนี้หยุด แต่กูต้องไปซื้อของเข้าห้อง มึงจะเอาอะไรไหมล่ะ”

“เอา แหะๆ”

“ไม่ต้องมาแหะๆกับกู จะฝากซื้อก็เอาตังค์มา”

ไผ่หลิวยื่นมือออกไป มาอยู่กับเธอและหวังจะให้เธอเลี้ยง.. ไม่มีทางเสียหรอก ยิ่งใจดีกับมัน เดี๋ยวมันยิ่งได้ใจ

“ใจร้าย” น้ำหวานแกล้งบ่น

“เออ คราวหลังจะได้ไม่มาอยู่กับกูไง แล้วอยู่นี่ก็ทำตัวดีๆ ไม่ต้องเปิดต้อนรับแขกล่ะ”

“จ้า ไปดีมาดีนะเพื่อนรัก”

น้ำหวานยิ้มทะเล้น ถึงไผ่หลิวจะปากร้ายและชอบพูดตรงๆ แต่ก็ไม่เคยนิ่งเฉยใส่เธอเวลาที่เดือดร้อนมาเลยสักครั้ง

“กูขอโทษนะไผ่”

น้ำหวานเอ่ยออกมาในขณะที่มองตามหลังเพื่อนที่กำลังเดินออกไป เพราะมีความจริงบางอย่างที่เธอไม่กล้าบอกกับไผ่หลิว เพราะถ้าบอกตรงๆ อีกฝ่ายก็จะต้องโกรธเธอมากแน่ๆ เธอยอมให้เพื่อนด่าดีกว่าให้เพื่อนโกรธจนเลิกคบ

แต่ก็ยอมรับว่าเธอหนักใจเรื่องเสี่ยวอนไม่น้อย เพราะอีกฝ่ายไม่หยุดตามล่าหาตัวเธอแน่ๆ ทางที่ดีจะต้องรีบหาหนทางไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ก่อนที่เสี่ยวอนจะหาตัวเธอเจอ และจะทำให้ไผ่หลิวก็ต้องพลอยเดือนร้อนไปด้วย

ไผ่หลิวกลับมาจากซื้อของเข้าห้อง ในขณะที่กำลังจะเดินเข้าหอพัก จู่ๆก็มีผู้ชายสองคนท่าทางนักเลงเดินเข้ามาดักข้างหน้า ไม่พอยังจะมีอีกสองที่มาประกบข้างหลังอีกด้วย

ทีแรกเธอก็นึกกลัว แต่พอเห็นผู้ชายอีกคนเดินหน้านิ่งเข้ามา ก็นึกรู้ทันทีว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไร

“ชิบหายแล้วไหมล่ะ” บ่นพึมพำออกมาเบาๆกับตัวเอง ในขณะที่ดวงตากลมโตก็จ้องมองผู้ชายหน้านิ่งมาดเยอะคนนั้นแบบไม่กล้ากระพริบตาเลยล่ะ

ไอ้เสี่ยวอน หรือ ไอ้คุณวรยศ ลูกท่านหลานเธอคนดีคนดังแห่งเมืองบางแสน ผู้ที่ชอบทำตัวเป็นมาเฟียในท้องถิ่น ที่ใครๆก็ไม่อยากจะมีเรื่องด้วย

ถึงมันจะหล่อ ทรงอย่างแบด แต่มันก็เถื่อนค่ะ!

ธุรกิจที่ทำก็มีทั้งร้านเหล้าและค่ายมวย ใครๆก็รู้ ว่าวันดีคืนดีมันก็ชอบหิ้วคนที่มันไม่ชอบหน้าขึ้นไปชกบนสังเวียน ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้เต็มใจไปกับมันเลยสักนิด ทำนองว่าอยากชกคนแต่ทำให้มันถูกกฎหมาย เลยจับขึ้นสังเวียนแบบเนียนๆไป

แล้วไหนจะเรื่องผู้หญิงอีก เปลี่ยนเป็นว่าเล่น แต่มันก็เปย์ไม่อั้นเหมือนกัน อย่างน้ำหวานเพื่อนเธอไง ทั้งสวย ทั้งขี้อ้อนและเอาใจเก่ง ก็ยังจับมันอยู่หมัด แต่จากตอนนี้ที่มันหนีหัวซุกหัวซุนมาหาเธอ ดูท่าว่าคงไปทำให้มันโกรธมาก หรือไม่ก็ละเมิดไปทำผิดอะไรสักอย่างแน่ๆ

“เสี่ย..” เธอเรียกเขาเสียงอ่อนแล้วยิ้มบางๆให้ ในใจก็ตื่นเต้นระทึกไปหมด กลัวว่าอีกฝ่ายจะจับพิรุธของเธอได้

“อีหวานอยู่ไหน?”

ไผ่หลิวยิ้มค้างแบบสะดุดทันที เมื่อเจอคำถามที่ตัวเองก็เดาออกได้ตั้งแต่แรกกระแทกใส่หน้า

ทว่าด้วยความที่มีไหวพริบดี เธอเลยแสร้งทำเป็นตกใจ พร้อมทั้งถามกลับราวกับไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาถาม

“ห๊ะ! อยู่ๆ เสี่ยมาถามหามันกับหนู แล้วหนูจะรู้ไหมอ่ะ”

“มึงอย่ามาตอแหล กูรู้ว่ามันมามุดหัวอยู่กับมึง”

“อ้าวเสี่ย พูดดีๆดิ หนูอุตส่าห์พูดดีๆกับเสี่ยนะ”

ลองพูดไม่ดีกับมันสิ โดนมันตบคว่ำเหมือนครั้งแรกที่เจอกันแน่ เพราะตอนนั้นเธอพูดจามึงๆกูๆกับมันเนี่ยล่ะ ผลปรากฎว่ามันไม่ชอบ เลยโดนมันตบหัวซะหน้าเกือบทิ่ม

ไผ่หลิวหุบปากหลังจากที่อิเสี่ยมันไม่ตอบกลับอะไรเลย.. ดูท่ามันคงจะไม่เล่นด้วยแน่ๆ

แต่คือมันก็เอาแต่จ้องมอง จนไม่รู้ว่ามันจะมองอะไรนักหนา แต่ท้ายที่สุดด้วยความอึดอัดที่อีกฝ่ายเอาแต่เงียบเธอก็เลยพูดออกไป

“จริงๆเสี่ย วันนี้หนูยังไม่เจอมันเลย แล้วก็ไม่อยากเจอมันด้วย เพราะเจอมันทีไรก็มีแต่เรื่องทุกที”

“กูถามมึงหรอ”

ไผ่หลิวรีบหุบปากทันทีที่ไอ้เสี่ยมันพูดแบบนั้น

หนอยยย.. ไอ้เสี่ยเวร! เดี๋ยวมึงได้เจอกูปั่นแน่

ลับหลังเธอไม่เคยเรียกมันดีๆสักครั้ง จากไอ้วอนก็เป็นไอ้เวรเนี่ยล่ะ เหมาะกับมันที่สุดแล้ว

“กูจะขึ้นไปดูที่ห้องมึง”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เจ้านายคนไหน ใครรู้บอกที

เจ้านายคนไหน ใครรู้บอกที

Lloyd Perold
4.9

"เขาลือกันว่าคู่หมั้นของคุณฮั่วเป็นคนบ้านนอก ไม่มีการศึกษาและแถมยังหน้าตาขี้เหร่ซะอีก"เมื่อซูฉิงปรากฏตัวอยู่ ในงานเลี้ยง ทุกคนในงานล้วนตกตะลึงไปหมด! "พระเจ้า ขี้เหร่ซะทีไหน!" "ได้ข่าวว่าราชาภาพยนตร์เป็นน้องของเธอด้วย" "พ่อของเธอเป็นมหาเศรษฐีที่รวยเป็นอันดับแรกของโลกเลยนะ" "leo นักออกแบบหญิงที่ลึกลับคนนั้นก็คือเธอ!" เมื่อตัวจริงของเธอค่อย ๆ ถูกเปิดเผย ทุกคนพากันตกตะลึงไปหมด แต่แล้วก็เป็นเป็นไง ฮั่วหยุนเฉิงไม่ได้รักเธอสักหน่อย ในวันเดียวกัน ฮั่วซื่อ กรุ๊ปก็โพสต์ข้อความหนึ่งในทวิตเตอร์ว่า"เราสองคนรักกันมาก และกำลังเตรียมจะแต่งงาน" คนภายนอก:"......!!!"

บังเอิญหรือพรหมลิขิต

บังเอิญหรือพรหมลิขิต

Irita Sarkar
5.0

เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.5

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

เธอพลาดที่ทิ้งฉัน

เธอพลาดที่ทิ้งฉัน

Moritz Hearsum
5.0

ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ