Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
วอนรัก ฉบับวายร้าย

วอนรัก ฉบับวายร้าย

LadyDarkSidE

5.0
ความคิดเห็น
254
ชม
15
บท

ไผ่หลิว.. ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ไร้พิษสง ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่เหตุไฉนถึงต้องมาขึ้นเวทีมวยด้วยเล่า!!! ก็นึกอยู่ว่ามันต้องมีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่คาดฝันว่าตัวเองจะได้ขึ้น เวทีมวย! ย้ำนะว่ามันคือ เวทีมวย! สรุป! โทษทัณฑ์ที่จะต้องได้รับคือการได้มาเป็นกระสอบทรายของไอ้เสี่ยเวร!

บทที่ 1 อยู่ดีๆ ก็งานเข้า Part 1

เคยไหม.. มันจะมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งที่ชอบเอาความเดือนร้อนมาให้ตลอด..

ฟังจากเสียงเคาะประตูที่รัวขนาดนี้ มีเรื่องมาอีกแน่แบบไม่ต้องฟันธงด้วย

“เออๆๆ รู้แล้วๆ มึงจะเคาะทำไมนักหนา กูได้ยินแล้ว เดี๋ยวข้างห้องเขาก็ออกมาด่าหน้ากูอีกหรอก”

ไผ่หลิว สาวร่างเล็กที่เพื่อนสนิทและคนรู้จักมักจะเรียกว่า ไอ้เตี้ย! เปิดประตูห้องด้วยความหงุดหงิดใจ นึกรู้ทันทีเลยว่าคนที่มาเคาะประตูห้องแบบนี้มีอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น และทันทีที่เปิดออกก็ต่อว่าอีกฝ่ายทันที

“เออออ.. ขอโทษๆ ก็กูรีบ หลบหน่อยๆ”

น้ำหวาน เพื่อนสนิทที่ไม่ค่อยอยากสนิทด้วยสักเท่าไหร่ เพราะแม่งชอบสร้างแต่ปัญหาให้ แต่อย่างว่า ถ้าไม่คบมัน ตัวมันก็ไม่รู้จะไปคบใครเขาได้แล้ว แต่ข้อดีของมันก็คือความสวยแซ่บ ส่วนข้อเสียน่ะหรอ.. ก็คือทุกอย่างที่มันมีนั่นล่ะ!

ความสวยของมัน ก็คือภัยธรรมชาติดีๆนี่แหล่ะ

“อะไรของมึง อย่าบอกนะ ว่ามีเรื่องมาอีกแล้วอ่ะ”

ไผ่หลิวทำหน้าเครียด เมื่อเห็นเพื่อนสาวทำท่าลุกลี้ลุกลน จนคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายไปมีเรื่องราวมาแน่ๆเพราะทุกครั้งที่เป็นแบบนี้มันก็เป็นแบบนั้นมาตลอดไง!

“กูขอโทษ กูขอหลบอยู่กับมึงสักพักนะ”

“อีกและ คราวนี้ไปสร้างเรื่องกับใครมาอีกล่ะ”

“เสี่ยวอน!”

“ห๊ะ! อีเวร มีเรื่องกับผัวมา แล้วมาหลบอยู่กับกูเนี่ยนะ มึงคิดอะไรของมึงกันแน่เนี่ย ก็รู้อยู่ว่าผัวมึงเป็นคนยังไง แล้วที่สำคัญคือกูเกลียดขี้หน้าผัวมึงแค่ไหน”

ไผ่หลิวโวยลั่น เพราะคนที่เพื่อนมีปัญหาด้วยดันเป็นไอ้เสี่ยหน้าตายจอมกวนบาทานั่น เธอล่ะอยากจะหยุมหัวอีเพื่อนเวรนี่จริงๆ หาแต่เรื่องมาให้ แล้วเป็นใครใครก็ไม่เป็นด้วยนะ ดันมาเป็นไอ้เสี่ยเวรนี่ และแม่งก็ชอบมึนใส่ด้วยนะ

“ก็กูไม่รู้จะไปไหนนี่หว่า อีกอย่างมึงเป็นเพื่อนรักกูอ่ะ ไม่มาหามึงแล้วจะให้กูไปหาใคร”

“อย่ามา.. อย่าบอกว่ากูเป็นเพื่อนรักมึง เวลามึงแฮปปี้ ชีวิตดี๊ดีไม่เห็นจะนึกถึงกู ทีเอาตัวไม่รอดก็แรดมาหากูแบบด่วนทันใจเลยนะมึง”

“โห่ เลิกด่ากูสักทีเถอะ กูสำนึกไม่ทันหรอก”

“ใช่! กูก็นึกคำด่ามึงไม่ทันเหมือนกัน”

“ไผ่.. กูขอโทษ กูขออยู่กับมึงสักพักนะ นะเพื่อนรัก”

“เออๆ แต่อย่าเอาเรื่องเดือดร้อนมาให้กูเด็ดขาดเลยนะ กูบอกไว้ซะก่อน ไม่อย่างนั้นกูเนี่ยแหล่ะจะไปบอกผัวมึงเอง ว่ามึงหนีมาอยู่กับกู”

“อีโหดร้าย”

“ร้ายๆ อย่างมึงก็ต้องโดนซะบ้าง กูไม่เข้าข้างหรอก”

“แล้ววันนี้ ไม่ไปทำงานหรอ มึงไปไหนไหมอ่ะ” น้ำหวานถามเสียงอ่อย

“วันนี้หยุด แต่กูต้องไปซื้อของเข้าห้อง มึงจะเอาอะไรไหมล่ะ”

“เอา แหะๆ”

“ไม่ต้องมาแหะๆกับกู จะฝากซื้อก็เอาตังค์มา”

ไผ่หลิวยื่นมือออกไป มาอยู่กับเธอและหวังจะให้เธอเลี้ยง.. ไม่มีทางเสียหรอก ยิ่งใจดีกับมัน เดี๋ยวมันยิ่งได้ใจ

“ใจร้าย” น้ำหวานแกล้งบ่น

“เออ คราวหลังจะได้ไม่มาอยู่กับกูไง แล้วอยู่นี่ก็ทำตัวดีๆ ไม่ต้องเปิดต้อนรับแขกล่ะ”

“จ้า ไปดีมาดีนะเพื่อนรัก”

น้ำหวานยิ้มทะเล้น ถึงไผ่หลิวจะปากร้ายและชอบพูดตรงๆ แต่ก็ไม่เคยนิ่งเฉยใส่เธอเวลาที่เดือดร้อนมาเลยสักครั้ง

“กูขอโทษนะไผ่”

น้ำหวานเอ่ยออกมาในขณะที่มองตามหลังเพื่อนที่กำลังเดินออกไป เพราะมีความจริงบางอย่างที่เธอไม่กล้าบอกกับไผ่หลิว เพราะถ้าบอกตรงๆ อีกฝ่ายก็จะต้องโกรธเธอมากแน่ๆ เธอยอมให้เพื่อนด่าดีกว่าให้เพื่อนโกรธจนเลิกคบ

แต่ก็ยอมรับว่าเธอหนักใจเรื่องเสี่ยวอนไม่น้อย เพราะอีกฝ่ายไม่หยุดตามล่าหาตัวเธอแน่ๆ ทางที่ดีจะต้องรีบหาหนทางไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ก่อนที่เสี่ยวอนจะหาตัวเธอเจอ และจะทำให้ไผ่หลิวก็ต้องพลอยเดือนร้อนไปด้วย

ไผ่หลิวกลับมาจากซื้อของเข้าห้อง ในขณะที่กำลังจะเดินเข้าหอพัก จู่ๆก็มีผู้ชายสองคนท่าทางนักเลงเดินเข้ามาดักข้างหน้า ไม่พอยังจะมีอีกสองที่มาประกบข้างหลังอีกด้วย

ทีแรกเธอก็นึกกลัว แต่พอเห็นผู้ชายอีกคนเดินหน้านิ่งเข้ามา ก็นึกรู้ทันทีว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไร

“ชิบหายแล้วไหมล่ะ” บ่นพึมพำออกมาเบาๆกับตัวเอง ในขณะที่ดวงตากลมโตก็จ้องมองผู้ชายหน้านิ่งมาดเยอะคนนั้นแบบไม่กล้ากระพริบตาเลยล่ะ

ไอ้เสี่ยวอน หรือ ไอ้คุณวรยศ ลูกท่านหลานเธอคนดีคนดังแห่งเมืองบางแสน ผู้ที่ชอบทำตัวเป็นมาเฟียในท้องถิ่น ที่ใครๆก็ไม่อยากจะมีเรื่องด้วย

ถึงมันจะหล่อ ทรงอย่างแบด แต่มันก็เถื่อนค่ะ!

ธุรกิจที่ทำก็มีทั้งร้านเหล้าและค่ายมวย ใครๆก็รู้ ว่าวันดีคืนดีมันก็ชอบหิ้วคนที่มันไม่ชอบหน้าขึ้นไปชกบนสังเวียน ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้เต็มใจไปกับมันเลยสักนิด ทำนองว่าอยากชกคนแต่ทำให้มันถูกกฎหมาย เลยจับขึ้นสังเวียนแบบเนียนๆไป

แล้วไหนจะเรื่องผู้หญิงอีก เปลี่ยนเป็นว่าเล่น แต่มันก็เปย์ไม่อั้นเหมือนกัน อย่างน้ำหวานเพื่อนเธอไง ทั้งสวย ทั้งขี้อ้อนและเอาใจเก่ง ก็ยังจับมันอยู่หมัด แต่จากตอนนี้ที่มันหนีหัวซุกหัวซุนมาหาเธอ ดูท่าว่าคงไปทำให้มันโกรธมาก หรือไม่ก็ละเมิดไปทำผิดอะไรสักอย่างแน่ๆ

“เสี่ย..” เธอเรียกเขาเสียงอ่อนแล้วยิ้มบางๆให้ ในใจก็ตื่นเต้นระทึกไปหมด กลัวว่าอีกฝ่ายจะจับพิรุธของเธอได้

“อีหวานอยู่ไหน?”

ไผ่หลิวยิ้มค้างแบบสะดุดทันที เมื่อเจอคำถามที่ตัวเองก็เดาออกได้ตั้งแต่แรกกระแทกใส่หน้า

ทว่าด้วยความที่มีไหวพริบดี เธอเลยแสร้งทำเป็นตกใจ พร้อมทั้งถามกลับราวกับไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาถาม

“ห๊ะ! อยู่ๆ เสี่ยมาถามหามันกับหนู แล้วหนูจะรู้ไหมอ่ะ”

“มึงอย่ามาตอแหล กูรู้ว่ามันมามุดหัวอยู่กับมึง”

“อ้าวเสี่ย พูดดีๆดิ หนูอุตส่าห์พูดดีๆกับเสี่ยนะ”

ลองพูดไม่ดีกับมันสิ โดนมันตบคว่ำเหมือนครั้งแรกที่เจอกันแน่ เพราะตอนนั้นเธอพูดจามึงๆกูๆกับมันเนี่ยล่ะ ผลปรากฎว่ามันไม่ชอบ เลยโดนมันตบหัวซะหน้าเกือบทิ่ม

ไผ่หลิวหุบปากหลังจากที่อิเสี่ยมันไม่ตอบกลับอะไรเลย.. ดูท่ามันคงจะไม่เล่นด้วยแน่ๆ

แต่คือมันก็เอาแต่จ้องมอง จนไม่รู้ว่ามันจะมองอะไรนักหนา แต่ท้ายที่สุดด้วยความอึดอัดที่อีกฝ่ายเอาแต่เงียบเธอก็เลยพูดออกไป

“จริงๆเสี่ย วันนี้หนูยังไม่เจอมันเลย แล้วก็ไม่อยากเจอมันด้วย เพราะเจอมันทีไรก็มีแต่เรื่องทุกที”

“กูถามมึงหรอ”

ไผ่หลิวรีบหุบปากทันทีที่ไอ้เสี่ยมันพูดแบบนั้น

หนอยยย.. ไอ้เสี่ยเวร! เดี๋ยวมึงได้เจอกูปั่นแน่

ลับหลังเธอไม่เคยเรียกมันดีๆสักครั้ง จากไอ้วอนก็เป็นไอ้เวรเนี่ยล่ะ เหมาะกับมันที่สุดแล้ว

“กูจะขึ้นไปดูที่ห้องมึง”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ LadyDarkSidE

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

ห้ามหย่า

ห้ามหย่า

Bronson Heiss
5.0

ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป

Happy ที่โสดอีกครั้ง

Happy ที่โสดอีกครั้ง

STARMOON PTE. LTD.
4.9

แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ