แค่คู่นอนไม่หึงนะคะ

แค่คู่นอนไม่หึงนะคะ

จินต์พิชา

5.0
ความคิดเห็น
102K
ชม
40
บท

ชายหนุ่มนกเขาไม่ขัน แต่พอได้อ่านนิยายของเธอนกเขามันก็พร้อมรบ ส่วนเธอกำลังประสบปัญญากับการเขียนนิยายอีโรติก ทั้งสองตกลงเป็นคู่นอนแต่แล้วเขากลับอยากได้เธอมาเป็นคู่ชีวิต

บทที่ 1 ความจริงที่เจ็บปวด

“พี่ขอพูดตรงๆ นะพราว”

“ได้ค่ะพี่ดา”

“ทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบทั้งพล็อต เนื้อหา ปมต่างๆ รวมไปถึงการบรรยาย พราวทำได้ดี”

“แต่...” เพราะคุ้นเคยกันมาหลายปี พราวหรือพราวรวีจึงรู้ว่าต่อจากนี้สิ่งที่ญาดาหรือพี่ดาเพื่อนรุ่นพี่ ซึ่งตอนนี้ควบตำแหน่งบรรณาธิการของสำนักพิมพ์แห่งนี้ต้องมีอะไรพูดต่อจากนั้นแน่ๆ

“เฮ้อ! เอาตรงๆ นะพราว ถ้าคนอ่านเพิ่งมาติดตามอ่านผลงานของพราวตอนนี้ก็คงชอบ เพราะมันสนุกและน่าตื่นเต้น แต่ถ้าคนที่ตามผลงานมาตั้งแต่หลายปีก่อน พวกเขาก็คงจะเริ่มเบื่อกันบ้าง”

“เบื่อเหรอคะ”

“อือ เพราะพี่สนิทกับพราวก็เลยพูดตรงๆ แบบนี้ โดยเพราะช่วงอีโรติก พี่ว่ามันไม่ค่อยถึงอารมณ์เท่าไหร่ คนอ่านเริ่มจับทางได้แล้ว”

“พราวต้องทำยังไงคะ ต้องแก้ใหม่ทั้งหมดเลยไหมคะพี่ดา”

“ไม่ขนาดนั้นหรอกนะพราว แค่ปรับตรงอารมณ์ของตัวละครช่วงอีโรติกก็พอ ใส่อารมณ์ความรู้สึกเพิ่มเข้าไปอีกนิด”

“งานยากเลยนะคะพี่ดา เฮ้อ..” พราวรวีถอนหายใจ

“พี่ว่าหาแฟนสักคนสิพราว ประสบการณ์ตรงอาจช่วยได้คุณชวินทร์เขาก็สนใจพราวอยู่เหมือนกันนะ”

“พราวยังไม่อยากหาสำนักพิมพ์ใหม่ตอนนี้ค่ะพี่ดา”

พราวรวีรู้ว่าคุณชวินทร์ลูกชายของคูณวศินเจ้าของสำนักพิมพ์นั้นสนใจตัวเองอยู่ แต่ที่เธอต้องรีบปฏิเสธเพราะเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนั้น อีกทั้งเท่าที่รู้มาคุณชวินทร์ก็ควงผู้หญิงแทบไม่ซ้ำหน้า ถ้าขืนเธอเข้าไปร่วมวงด้วยอีกคนคงได้วุ่นวายกันน่าดู

“หรือถ้ายังไม่มีคนที่ถูกใจจะให้พี่ช่วยติดต่อให้ก็ได้นะ พี่มีคนรู้จักเยอะเลย โสดๆ ทั้งนั้น”

“อย่าเลยค่ะพี่ดา พราวอยู่แบบนี้สบายดีอยู่แล้ว”

“งั้นก็ตามใจจ้ะ แต่ถ้าเปลี่ยนใจก็บอกพี่ได้ ส่วนเรื่องงานพราวแก้ไขเนื้อหาเสร็จแล้วค่อยเอามาให้พี่ดูอีกทีนะ”

“กำหนดเมื่อไหร่คะพี่”

“พี่ให้เวลาหนึ่งเดือน ถ้าช้ากว่านั้นจะไม่ทันออกงานสัปดาห์หนังสือ”

“เร็วขนาดนั้นเลยเหรอคะ สงสัยงานนี้พราวแย่แน่เลยค่ะ”

“อย่าเพิ่งท้อสิ พี่ว่าพราวทำได้อยู่แล้ว ปรับปรุงแค่ช่วงอีโรติกเท่านั้น ส่วนอื่นมันดีอยู่แล้ว”

“จะพยายามนะคะ”

“พี่เชื่อใจนะ มีอีกอย่างที่จะบอกพราว แต่เรื่องนี้ห้ามบอกใครนะ” ญาดายื่นใบหน้ามา ส่วนพราวรวีก็ยื่นหน้าของตัวเองออกไปอย่างตั้งใจฟัง

“ได้ยินคุณวศินบอกว่าถ้างานพราวออกมาทัน เขาจะพิมพ์หนังสือเรื่องก่อนหน้าของพราวอีกครั้ง จะได้ดึงยอดขายในงานหนังสือ น่าจะสักสามหรือสี่เล่มนี่แหละ”

“จริงเหรอคะพี่ดา” เธอดีใจจนเก็บอาการแทบไม่อยู่

“จริงสิ พี่ถึงอยากให้พราวทำเรื่องนี้ออกมาดีที่สุด”

“ขอบคุณนะคะที่แอบบอก งั้นพราวขอตัวก่อนนะคะ”

“สู้ๆ นะน้องรัก”

“ค่ะพี่ดา”

หญิงสาวหันมายิ้มให้กับรุ่นพี่ก่อนที่จะรีบเปิดประตูออกไป

ใบหน้าสวยรูปไข่กับแพขนตางอนงามยิ้มอย่างมีความสุข เพราะถ้าหนังสือได้วางขายในงานสัปดาห์หนังสือนั่นก็หมายความว่าเธอจะได้เงินเพิ่มอีกมาก

แต่แล้วก็ต้องหุบยิ้มเมื่อนึกได้ว่างานที่ต้องแก้ไขนั้นมันยากแค่ไหน

พราวรวีเป็นนักเขียนแนวอีโรติกเธอมีผลงานตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์แห่งนี้มาสิบกว่าเล่ม เริ่มตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาปี 2 พอเรียนจบก็หันมาเอาดีทางด้านแต่งนิยายอย่างจริงจัง นอกจากงานเขียนนิยายแล้วพราวรวียังรับแปลนิยายทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน

ไม่ใช่แค่งานเขียนแต่พราวรวียังมีร้านขายเครื่องเขียนของตัวเองหนึ่งร้านโดยใช้พื้นที่ชั้นล่างสุดของหอพักขนาด 4 คูหาซึ่งตอนนี้ด้านบนมีผู้เช่าอยู่เต็มทุกห้อง

เดิมทีด้านล่างหอพักเป็นร้านเกมที่บิดาและมารดาเป็นคนดูแล แต่พอท่านทั้งสองเสียชีวิตลงพราวรวีก็เลยขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหมดแล้วเปิดเป็นร้านเครื่องเขียน เพราะเธอไม่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์อีกทั้งเครื่องก็เริ่มตกรุ่น หญิงสาวจึงขายทุกอย่างแล้วนำเงินมาลงทุนเปิดร้านเครื่องเขียนและกิ๊ฟช็อปเนื่องจากเป็นคนชอบเข้าร้านแนวนี้อยู่เป็นประจำ

หลังจากออกจากสำนักพิมพ์แล้วก็แวะที่ร้านเพราะเป็นทางผ่านก่อนกลับบ้านของเธอ

“พี่พราวคะ หวานฝากร้านแป๊บหนึ่งได้ไหมคะ หวานจะไปเข้าห้องน้ำ”

“จ้ะ ไปเถอะ”

น้ำหวานเป็นเด็กที่พราวรวีจ้างมาเฝ้าร้านให้ส่วนตัวเธอเองจะเข้ามาที่นี่เป็นบางครั้ง เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงานที่บ้านของตัวเองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านมากนัก

“อ้าว คุณพราว มาพอดีเลยวันนี้น้าได้ส้มมาหลายกิโลเลย ว่าจะเอาไปให้ที่บ้าน รอน้าเดี๋ยวนะคะเดี๋ยวไปเอามาให้”

“ไม่ต้องรีบหรอกค่ะ พราวยังไม่รีบกลับ แล้วน้าทำความสะอาดหอเสร็จแล้วเหรอคะ”

“ยังเหลือชั้นบนอีกชั้นค่ะ พอดีเด็กๆ กำลังอ่านหนังสือกันอยู่น้าเลยไม่อยากรบกวน นี่ก็ว่าจะมาช่วยน้ำหวานเฝ้าร้าน” น้าแก้วตาบอกกับหญิงสาวผู้เป็นนายจ้าง เธอทำงานที่หอพักแห่งนี้มาได้หลายปีแล้ว หน้าที่ก็คือดูแลความสะอาดทั่วไป หญิงวัยกลางคนพักอยู่ชั้นล่างสุดของหอพักซึ่งพราวรวีไม่ได้คิดค่าเช่าเพราะถือว่าเป็นการเฝ้าหอพักให้เธอไปในตัว

“น้าแก้วไปพักก่อนก็ได้นะคะ ก่อนกลับพราวจะแวะไปเอาส้มเองค่ะ”

“คุณพราวไม่มีธุระไปที่ไหนใช่ไหมคะ”

“ไม่มีค่ะ”

พอแก้วตาออกไปไม่นานน้ำหวานก็กลับมาที่ร้าน เด็กสาวถือส้มมาสองถุงขนาดย่อม

“น้าแก้วกลัวพี่พราวลืมแวะไปเอาส้มค่ะ เลยฝากน้ำหวานเอามาให้”

“ขอบใจจ้ะ พี่กลับก่อนนะ วันพุธคงไม่เข้ามาแล้ว”

“ค่ะพี่พราว”

พอออกจากร้านของตัวเองมาได้นิดหน่อยพราวรวีก็แวะที่ร้านอาหารเจ้าประจำที่อยู่หน้าปากซอยเข้าหมู่บ้าน

“พี่เจนนี่คะ ของพราวได้ยังคะ” เพราะโทรมาสั่งตั้งแต่อยู่ที่ร้านเครื่องเขียนพอมาถึงก็เลยรีบทวงเนื่องจากใกล้เวลาพักเที่ยงลูกค้าของพี่เจนนี่จะเยอะเป็นพิเศษ

“เรียบร้อยแล้วค่ะ แกงเขียวหวานไก่กับผัดผักรวมพี่แถมกุนเชียงทอดให้ด้วยนะคะ”

“ขอบคุณค่ะ พี่เจนนี่ใจดีตลอดเลย”

“พี่มีข้อแม้นะคะ”

“อะไรคะ”

“เรื่องต่อไปพี่ขอแบบจัดหนักได้ไหม พอพระเอกหล่อรวยๆ”

“มันแน่อยู่แล้วค่ะ พระเอกของพราวต้องหล่อรวย ขืนเอาแบบธรรมดาที่เจอทั่วๆ ก็ไม่ฟินสิคะ”

“น้องพราวคะ ขอเพิ่มอีกนิดไหมคะ

“ได้เลยค่ะ สำหรับพี่เจนนี่พราวจัดให้ ว่าแต่ขออะไรคะ”

“ขอแบบเอวดุๆ ได้ไหมคะ เหมือนเรื่องแรกๆ ที่น้องพราวแต่งมันแซ่บถึงใจมากเลยค่ะ ไม่เอาแบบที่ตัดเข้าโคมไฟแล้วนะคะ”

“ได้เลยค่ะ พราวจัดให้ตามคำขอเลยค่ะ”

“พี่หยอดกระปุกไว้เยอะเลยหนังสือน้องพราวออกเมื่อไหร่พี่จะรีบไปซื้อเลยนะคะ แต่บอกก่อนนะคะถ้าไม่แซ่บ เอวไม่ดุพี่โกรธจริงๆ ด้วย”

“พี่เจนนี้รอเลยนะคะ ครั้งนี้พราวจัดให้แบบถึงใจเลยค่ะ”

“มันต้องอย่างนั้นสิคะ”

พราวรวีถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยกว่าของวัน หญิงสาวเอาผลงานตีพิมพ์เรื่องแรกของตัวเองมาอ่านอีกรอบ ยอมรับว่าตอนนั้นตัวเองเขียนฉากอีโรติกออกมาได้อย่างดี แม้จะไม่มีประสบการณ์ แต่อาศัยว่าตัวเองอ่านมาเยอะและดูมาเยอะ แต่มาเล่มหลังๆ ความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจก็หายไป

ไม่รู้เพราะตัวเองไม่เคยมีความรักหรือเพราะไม่เคยได้ทำแบบนั้นในชีวิตจริงกันแน่ฉากวาบหวิวพวกนั้นเลยดูไร้อารมณ์ตามไปด้วย

บางทีพราวรวีก็รู้สึกผิดต่อนักอ่าน เพราะเรื่องที่เธอแต่งขึ้นส่วนใหญ่ก็อาศัยถามเพื่อนบ้าง ดูหนังโป๊บ้าง แม้จะดูเป็นสาวเปรี้ยวมั่นใจในตัวเอง แต่ในชีวิตจริงเธอก็มีแฟนกับเขาแค่คนเดียวแต่ก็ไม่เคยมีอะไรกับแฟนมาก่อน เพราะตอนนั้นยังเรียนไม่จบ และนั้นก็เป็นเหตุผลให้แฟนหนุ่มของเธอบอกเลิก เธอร้องไห้เสียใจกับรักแรกอยู่สองวัน จากนั้นก็ลืมทุกอย่างจนถึงตอนนี้ก็นานหลายปีแล้วที่หัวใจของเธอมันแห้งเหี่ยวและไม่เคยมีใครได้เข้ามาเยี่ยมเยือนเลยแม้แต่คนเดียว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จินต์พิชา

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

พระชายาสารพัดพิษ

พระชายาสารพัดพิษ

เกาะครีต
5.0

"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
แค่คู่นอนไม่หึงนะคะ
1

บทที่ 1 ความจริงที่เจ็บปวด

31/10/2023

2

บทที่ 2 ปัญหาระดับชาติ

31/10/2023

3

บทที่ 3 ความพยายาม

31/10/2023

4

บทที่ 4 Onenight สักครั้งก็ดีเหมือนกันนะ

31/10/2023

5

บทที่ 5 สิ่งที่สัมผัสได้ nc

31/10/2023

6

บทที่ 6 ช่วยแบบฟรีๆ

31/10/2023

7

บทที่ 7 มันแค่เศษเสี้ยว

31/10/2023

8

บทที่ 8 ผลประโยชน์ร่วม

31/10/2023

9

บทที่ 9 ในมุมมืด nc

31/10/2023

10

บทที่ 10 แปลกแต่ดี

31/10/2023

11

บทที่ 11 อยากกินคุณมากกว่า

31/10/2023

12

บทที่ 12 ฉันไม่ได้บังคับนะคะ

31/10/2023

13

บทที่ 13 อดเปรี้ยวไว้กินเผ็ด nc

31/10/2023

14

บทที่ 14 วันเสาร์เราสอง nc25++

31/10/2023

15

บทที่ 15 เพื่อนคุณดูดีนะ

31/10/2023

16

บทที่ 16 ไม่รู้สึกอะไร

31/10/2023

17

บทที่ 17 เพื่อนใหม่ค่ะ

31/10/2023

18

บทที่ 18 อยู่ด้วยแล้วรู้สึกดี

31/10/2023

19

บทที่ 19 เป็นแฟนกันนะ nc25++

31/10/2023

20

บทที่ 20 แค่ผมคนเดียวไม่พอใช่ไหม

31/10/2023

21

บทที่ 21 เหมือนเดิม แต่ไม่เหมือนเดิม

31/10/2023

22

บทที่ 22 ขอแค่คืนนี้ nc25+

31/10/2023

23

บทที่ 23 คนใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม

31/10/2023

24

บทที่ 24 ชีวิตที่ไม่มีเธอ

31/10/2023

25

บทที่ 25 คนเห็นแก่ตัว

31/10/2023

26

บทที่ 26 ที่ปัดน้ำฝน nc25++

31/10/2023

27

บทที่ 27 อยากให้อ้อน

31/10/2023

28

บทที่ 28 แต่งงานกันนะ nc

31/10/2023

29

บทที่ 29 ว่าที่ลูกสะใภ้

31/10/2023

30

บทที่ 30 ว่าที่คู่หมั้น

31/10/2023

31

บทที่ 31 ต้องดีใจใช่ไหม nc

31/10/2023

32

บทที่ 32 ทำไมต้องใกล้ชิดขนาดนั้น

31/10/2023

33

บทที่ 33 มันยากที่จะเข้าใจ

31/10/2023

34

บทที่ 34 แล้วแต่แม่เลยครับ

31/10/2023

35

บทที่ 35 มีอีกหลายอย่างที่เรายังไม่ได้ทำด้วยกัน

31/10/2023

36

บทที่ 36 ยังไม่ถึงครึ่ง nc

31/10/2023

37

บทที่ 37 จนกว่าจะไม่ไหว nc

31/10/2023

38

บทที่ 38 คนเจ้าเล่ห์

31/10/2023

39

บทที่ 39 ถ้าต้องเลือก

31/10/2023

40

บทที่ 40 บ้านของเรา nc (จบ)

31/10/2023