Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เกิดใหม่เป็นแม่เลี้ยงจำเป็นของนายน้อยสกุลถังในยุค80s

เกิดใหม่เป็นแม่เลี้ยงจำเป็นของนายน้อยสกุลถังในยุค80s

ซีไซต์

5.0
ความคิดเห็น
26K
ชม
41
บท

หลี่ซูซินได้ย้อนเวลามาเกิดในยุค80s ต้องดิ้นรนพาแม่ออกจากบ้านที่เอาแต่กดขี่และเยียบย่ำพวกเธอ ด้วยวิธีการแต่งงานกับถังหนิงอีนายพลหนุ่มผู้แสนเย่อหยิ่งเย็นชาที่ต้องการหาแม่เลี้ยงให้ลูกชายคนเดียวของเขา หลี่ซูซิน เชฟสาวจากอนาคต ที่ย้อนเวลามาอยู่ในยุค 80s และต้องดิ้นรนเอาตัวรอดเพื่อพาแม่ที่ป่วยออกจากสกุลหลี่ หลี่ซูซินได้พบว่าแม่ของเธอซึ่งเป็นลูกสะใภ้ใหญ่ของสกุลหลี่มีฐานะตกต่ำ เพราะพ่อของเธอได้ยกย่องเมียน้อยข่มเหงเมียหลวง และไม่สนใจว่าเธอกับแม่จะใช้ชีวิตลำบากในสกุลหลี่แค่ไหน ต่อมาถังหนิงอีได้ยื่นข้อเสนอให้เธอแต่งงานกับเขา ซึ่งเขาต้องการภรรยาที่สมบูรณ์เพื่อมาดูแลบุตรชายคนเดียวของเขาซึ่งเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็กนามถังหลง คำแนะนำ เรื่องนี้ปมไม่ซับซ้อน มีดราม่าแค่เริ่มต้นนะคะ เนื้อหาในช่วงต่อไปเป็นสุขนิยม มีฉากNC ในเรื่อง จบดี อ่านง่ายค่ะ ทั้งนี้เมืองหรือเนื้อหาในนิยายเป็นเพียงจินตนาการของไรต์ไม่ได้มีจริงนะคะ ขอบคุณค่ะ ซื้อในเว็บหรือแอนดรอยจะถูกกว่าแอปเปิ้ลนะคะ ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ

บทที่ 1 บทนำ

วันที่ สาม เดือนสิบสองช่วงปลายปีอันหนาวเหน็บ คนในตระกูลหลี่ก็อยู่กันพร้อมหน้าไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของคุณชายใหญ่ ครอบครัวคุณชายรอง และครอบครัวคุณชายสี่ นั่นเป็นเพราะว่าวันนี้คือวันสำคัญที่หลี่ซานบุตรชายคนที่สามของตระกูลหลี่จะกลับมา

หลี่ซูซินเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของนายหญิงสามกับคุณชายสามแห่งตระกูลหลี่ที่ดูเหมือนจะตื่นเต้นกว่าใคร เพราะในตอนนี้พ่อที่หายไปจากบ้านมานานกว่าสิบปีได้กลับมาแล้ว

แน่นอนว่าในใจของหลี่ซูซินต้องตื่นเต้น เพราะเธอไม่เคยเห็นพ่อคนนี้ตัวเป็น ๆ มาก่อน ที่ผ่านมาเธอได้แต่เห็นหน้าเขาจากรูปถ่ายใบเก่าของเขาเท่านั้น

ดังนั้นการได้เจอกันครั้งแรกกับพ่อที่เหินห่าง จึงทำให้เธอรู้สึกประหม่าอยู่ไม่น้อย

หลี่ซูซินหันไปมองแม่ของตัวเองก็เห็นใบหน้าสวยได้รูปของแม่มีสีหน้าเฝ้ารอคอย หลี่ซูซินเผยรอยยิ้มออกมา นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นสีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังแบบนี้

เธอรู้สึกประหลาดใจที่สีหน้าดีใจของคุณนายสามทำให้เธอพลอยรู้สึกมีความสุขไปด้วย หลี่ซูซินคิดว่า

เธอคงยอมรับผู้หญิงคนนี้ในฐานะแม่ของตัวเองเต็มหัวใจแล้วล่ะ!

หลี่ซูซินหวนคิดถึงวันที่ตัวเองในวัยยี่สิบแปดปีที่ไปฉลองแชมป์เชฟกระทะเหล็กและเมาหัวทิ่มจนต้องตายเพราะกินเหล้าเกินขนาด จนกระทั่งวิญญาณหลุดเข้ามาอยู่ในร่างของหลี่ซูซินในวัยสิบเจ็ดปีที่ยังทั้งสาว สวย และสด คนนี้

ให้ตายเถอะแค่กินเหล้าใครจะคิดว่าทำให้คนถึงตายได้กันล่ะ

และในตอนที่เธอตื่นขึ้นมาก็รู้ว่าวิญญาณของตัวเองเข้ามาอยู่ในร่างสาวน้อยหลี่ซูซินที่ฆ่าตัวตายเพราะย่าไม่ให้เรียนมหาวิทยาลัยต่อและยังบังคับให้แต่งงานกับเถ้าแก่ร้านขายผ้าที่อายุเกือบจะหกสิบปีแล้ว

หลี่ซูซินคนใหม่ย่อมไม่ยอมให้ย่าบีบบังคับตัวเองได้อีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงต่อปากต่อคำกับย่าโดยไม่เกรงกลัว

"คุณย่าไม่ต้องการให้หนูเรียนต่อหนูก็จะไม่เรียนค่ะ แต่ว่าหนูจะไม่แต่งงานกับคนแก่คนนั้นเด็ดขาด"

หญิงชราถึงกับปากสั่น ตั้งแต่หลี่ซูซินฟื้นขึ้นมาจากการฆ่าตัวตายเธอก็เปลี่ยนเป็นคนละคน ทั้งปากจัดและท่าทางแข็งกร้าวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หลี่ซูซินเปลี่ยนไปจนหญิงชราคิดว่า อาจมีวิญญาณร้ายเข้าสิงหลานสาวคนนี้จนได้เชิญหมอผีมาทำพิธีขับไล่วิญญาณ

แต่ในคราวนั้นหลี่ซูซินกลับพังพิธีและยังสาดน้ำไล่หมอผีให้จนกระเจิงออกจากบ้าน หลี่ซูซินยังแหกปากร้องไปทั่วว่าถูกย่ารังแกจนอับอายไปทั่ว

แน่นอนว่าคนที่ไม่กลัวหมอผีคนนั้นย่อมเป็นคนธรรมดาในที่สุดย่าของเธอก็ถอดใจไม่พาหมอผีที่ไหนมาขับไล่วิญญาณร้ายให้เป็นขี้ปากชาวบ้านอีก

ย่าของหลี่ซูซินชี้หน้าด่าหลานสาวว่า เนรคุณ จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงเข้มงวดทวงบุญคุณอย่างหน้าไม่อาย

"ฉันให้แกแต่งแกก็ต้องแต่ง แกกับแม่อยู่บ้านฉันใช้เงินหมดไปเท่าไหร่ กินข้าวบ้านฉันหมดไปกี่ถังแล้วคิดบ้างหรือเปล่า ฉันไม่ไล่พวกแกออกจากบ้านไปก็เป็นบุญคุณอันล้นพ้นแล้วยังไม่รู้จักสำนึกบุญคุณอีก"

หลี่ซูซินยกมือกอดอก หรี่ดวงตาคู่งามมองย่าท่าทางท้าทาย

"ที่คุณย่าไม่ไล่พวกเราไปก็ไม่ใช่เพราะว่าคุณย่าต้องคืนสินเดิมที่เอาของแม่ไปใช้จนหมดมาเหรอคะ เงินก้อนนั้นตามกฎหมายคุณย่าต้องคืนให้แม่ แต่คุณย่ากลับฮุบเอาไว้ทั้งหมด คงเพราะเสียดายเงินที่ต้องคืนใช่หรือเปล่า ก็เลยไม่กล้าไล่เสียที เอาสิคะรออะไร อยากไล่ก็เอาเงินมาหรือจะต้องให้หนูไปฟ้องนายอำเภอว่าย่าฮุบสินเดิมของแม่ไปจนหมด"

"หลี่ซูซินแกอยากตายใช่หรือเปล่า ฉัน ๆ ...."

ผู้เป็นย่าทั้งหน้าเขียวหน้าแดงสลับกัน หอบหายใจขึ้นลงเพราะรู้สึกหายใจไม่ทัน เมื่อเริ่มจะเถียงสู้หลานสาวคนนี้ไม่ได้ก็ได้แต่กำมือแน่นดวงตาเบิกกว้างมองสองแม่ลูกอย่างรังเกียจ

ป้าสะใภ้ใหญ่ของหลี่ซูซินเห็นท่าไม่ดี จึงรีบเข้ามาประคองย่าแล้วพูดเบา ๆ

"ซูซินยังเด็กค่ะไม่รู้อะไรควรไม่ควร เดี๋ยวหนูพูดกับซูซินเองนะคะ คุณแม่ใจเย็น ๆ ค่ะ"

ผู้เป็นย่าพยักหน้า ยังไงก็รู้ตัวว่าตนเองไม่สามารถเถียงไม่สู้เด็กสารเลวคนนั้นอยู่แล้วจึงต้องระงับอารมณ์ ถึงกับหันหลังให้หลี่ซูซิน เพราะกลัวว่าจะอดทนลงไม้ลงมือกับหลานคนนี้ไม่ได้

ถึงอย่างไรหลี่ซูซินก็ขายได้ราคา เถ้าแก่หวังยอมทุ่มสินสอดจำนวนมากเพื่อซื้อตัวหลานสาวคนนี้ ดังนั้นจะทำให้เกิดรอยแผลไม่ได้เด็ดขาด

ป้าสะใภ้ใหญ่ของหลี่ซูซินเริ่มกล่อมให้หลานสาวยอมรับ

"เถ้าแก่หวังถึงจะอายุมาก แต่ก็รูปร่างดีหน้าตาอ่อนเยาว์ ยังร่ำรวยมากถ้าหนูแต่งงานไปรับรองว่าหนูจะสบาย อีกอย่างคุณย่าก็เลือกผู้ชายให้หนูเป็นอย่างดี ทั้งรวย ทั้งใจดี แบบนั้นซูซินไม่ลำบากแน่ ๆ ต่อไปจะได้เป็นคุณนายใหญ่มีคนรับใช้มากมายไม่ดีหรือจ๊ะ"

หลี่ซูซินเผยรอยยิ้มกว้าง พูดเสียงอ่อนลงท่าทางเห็นด้วยกับคำพูดของป้าสะใภ้ใหญ่

"คุณย่าว่าเถ้าแก่หวังดีใช่หรือเปล่าคะ"

น้ำเสียงของหลี่ซูซินทำให้ผู้เป็นย่าหันกลับมา รีบตอบรับทันใด

"ดี ดีสิ เขาดีมากเลย ย่าเลือกให้หลานอย่างดีที่สุด เป็นผู้ชายที่ใช้ได้เหมาะสม ในเมืองนี้ย่าว่าเขาดีกว่าคนอื่นเลยล่ะ"

รอยยิ้มของหลี่ซูซินกว้างขึ้น จากนั้นก็มองผู้เป็นย่าด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

"ถ้าคุณย่าว่าดี ทำไมคุณย่าไม่แต่งเองละคะ คุณปู่ตายไปหลายปีแล้วคุณย่าก็เหงาไม่น้อย ผู้ชายคนนั้น ทั้งรวย ทั้งแก่ หนังเหี่ยว ยังเห็นแก่ตัว เหมือนคุณย่าไม่มีผิด เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก ถ้าอยากได้ก็แต่งเองก็แล้วกันค่ะต่อไปจะได้ไม่เหงาจนฟุ้งซ่านคิดขายหลานกินอีก!"

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ซีไซต์

ข้อมูลเพิ่มเติม
วุ่นรักมนตรา คำสาปบุปผา NC20+

วุ่นรักมนตรา คำสาปบุปผา NC20+

โรแมนติก

5.0

​ฝูจื่อหรงก้มหน้าวูบลงมาบดริมฝีปากกับโจวเจ้าเว่ยเบาๆ แต่เจ้าเว่ยต้องการมากกว่านั้น หญิงสาวแลบลิ้นออกมารอรับ นางเป็นฝ่ายสอดความอ่อนนุ่มเข้าไปภายในปากของเขาแทน แม้มือจะยังไม่มีแรงมากนักแต่การยึดเหนี่ยวใบหน้าเขาไว้กลับไม่เป็นปัญหา หญิงสาวบดริมฝีปากสามีอย่างเร่าร้อน "ถอดเสื้อผ้าให้ข้า จื่อหรงถอดให้ข้ามันร้อนเหลือเกิน" เจ้าเว่ยปากสั่นร้อนรนเพราะทนกับความรู้สึกเสียวซ่านที่รบกวนจนรู้สึกทรมานในทุกสัมผัสของเขา พรางนึกขัดใจตนเองที่สิ้นไร้เรี่ยวแรงแม้กระทั่งเสื้อผ้าของตนเองยังไม่มีปัญญาถอด "เจ้าเว่ยของข้าอย่าได้รีบร้อน เราจะค่อยๆสัมผัสและมีความสุขด้วยกัน" ฝูจื่อหรงจุมพิตปากบาง พลางถอดอาภรณ์ของนางอย่างทะนุถนอม "พี่เต้ข้าไม่เข้าใจ เจ้าหลีกเลี่ยงข้ามาตลอดเหตุใดถึงยอมโดยง่าย หากข้ามีแรงมากกว่านี้คงได้ปลุกปล้ำเจ้าไปหลายครั้งแล้ว" เจ้าเว่ยกล่าวพลางพยามยามใช้มือคว้ามังกรตัวใหญ่ไว้ในมือจนสำเร็จ อารมณ์ความต้องการเพิ่มทวีขึ้นโดยที่เจ้าเว่ยไม่อาจระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอกำความใหญ่แน่นแล้วลูบไล้ช้าๆ มันร้อนไปทั่วทั้งฝ่ามือ ภายใจร่างกายและจิตใจของเจ้าเว่ยสั่นระริกด้วยความร้อนและไฟปรารถนา ในที่สุดฝูจื่อหรงก็ถอดอาภรณ์ออกจากร่างบางได้สำเร็จ เจ้าเว่ยดูเหมือนจะมีแรงขึ้นมาเล็กน้อย นางยังกำมังกรยักษ์แน่นไม่ยอมปล่อย นางเลียริมฝีปากเมื่อมองร่างมันจนฝูจื่อหรงรู้สึกลำคอแห้งผาก รู้สึกอยากกดศีรษะของคนตัวเล็กลงแล้วยัดมังกรเข้าไปในโพรงปากให้นางได้สมปรารถนาเสียเดี่ยวนี้ "ปล่อยมันก่อนเจ้าเว่ย เจ้าต้องไปอาบน้ำ" เขากระซิบเสียงแหบพร่า พยายามแกะมือเล็กที่กอบกำมังกรของเขาอยู่ เจ้าเว่ยต้องปล่อยอย่างอดเสียดาย ใบหน้าของนางฟ้องความต้องการออกมาจนฝูจื่อหรงนึกขัน แนะนำตัวละคร เรื่องย่อ โจวเจ้าเว่ย องค์หญิงแห่งแคว้นเหลียง ทายาทของเผ่าบุปผาขึ้นชื่อว่าเป็นโฉมงามล่มเมือง คนของเผ่าบุปผาเป็นเผ่าที่ถือกำเนิดมาจากเทพเซียนรูปโฉมงดงามแต่ต้องคำสาปเรื่องของความรัก หากพวกเขามีความรักจะไม่สมหวังและตายอย่างอนาถด้วยความรักนั้น ฝูจื่อหรง ฮ่องเต้แคว้นชินที่มีเบื้องหลังการครองอำนาจโดยการสนับสนุนของมหาเสนาบดีฟางอี้จวิ้น รูปโฉมงดงามจนทำให้แข้งขาสตรีอ่อนระทวย เรื่องสตรีสำหรับเขาเป็นเพียงเพื่อมีไว้สนับสนุนบัลลังก์ให้มั่นคงเท่านั้น คนทั่วราชสำนักรู้ดีว่าเขาเป็นเพียงหุ่นเชิดของมหาเสนาบดีฟางอี้จวิ้น กระทั่งวันหนึ่งเขาต้องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับองค์หญิงผู้ลึกลับผู้หนึ่ง ที่เข้ามาพังทะลายกำแพงหัวใจที่เขาตั้งเอาไว้ และ นางผู้นั้นยังทำท่าคล้ายกับว่าไม่อาจอยู่กับเขาได้อีก สตรีผู้หนึ่งซึ่งมีความลับบางประการซ่อนอยู่ โจวเจี๋ยหลุน พี่ชายฝาแฝดขององค์หญิงโจวเจ้าเว่ยโจวเจ้าเว่ยองค์หญิงผู้สามารถเดินทางข้ามมิติได้โดยใช้ขลุ่ยเพรียกบุปผาซึ่งเป็นขลุ่ยวิเศษในการเดินทางข้ามมิติ โจวเจ้าเว่ยเป็นสตรีของเผ่าบุปผาอันลี้ลับ ต้องคำสาปที่ไม่สามารถมีความรักได้ หากนางมีความรักจำเป็นต้องเจ็บปวดจนถึงแก่ความตาย เพราะเหตุนี้โจวเจ้าเว่ย และ โจวเจี๋ยหลุน พี่ชายจึงต้องออกเดินทางเพื่อตามหาวิธีแก้คำสาปที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และ พวกเขาไม่อาจเปิดเผยความลับนี้ให้ ฝูจื่อหรงล่วงรู้ได้ (เรื่องนี้เป็นนิยายภาคต่อของต้องมนต์บุปผาค่ะ)

ผู้ช่วยมือหนึ่งของท่านพ่อ

ผู้ช่วยมือหนึ่งของท่านพ่อ

โรแมนติก

5.0

เหวินเฟยเทียนเป็นพ่อค้าหน้าเลือดที่เห็นแก่ตัวที่สุดโดยเขามีผู้ช่วยคนสำคัญก็คือเฉินลี่จู เด็กสาวที่เขาได้ช่วยเอาไว้จากหมู่บ้านขอทานเมื่อนานมาแล้ว เขาเพียงใช้นางเพื่อหวังผลประโยชน์ในขณะที่เฉินลี่จูกลับมอบหัวใจให้เขาจนหมดใจ กระทั่งวันหนึ่งก็ถึงจุดแตกหัก เมื่อเหวินเฟยเทียนไม่เห็นความสำคัญของนางอีกต่อไป เขากำลังจะแต่งงานกับคุณหนูซุนซื่อผู้มอบผลประโยชน์ให้เขาได้มากกว่านาง จนทำให้นางเสียใจและหนีเตลิด เพราะนางหนีจากเขาทำให้เหวินเฟยเทียนกินไม่ได้นอนไม่หลับใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น เขาตามหานางและสุดท้ายได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนามว่าหลี เด็กหญิงซึ่งมีใบหน้าคล้ายคลึงเขาราวกับถอดแบบออกมา! นิยายเรื่องนี้เป็น ประเภท ดราม่า และ มีเด็กในเรื่องค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฉันนี่แหละเศรษฐี

ฉันนี่แหละเศรษฐี

สมัยใหม่

5.0

ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

โรแมนติก

5.0

จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ขอโอกาสอีกครั้ง

ขอโอกาสอีกครั้ง

โรแมนติก

5.0

หลังจากเมา เธอก็ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ส่วนเขาหลงเสน่ห์รูปร่างที่ดีและความสวยงามของเธอ พอเวลาผ่านไป เธอก็ตระหนักได้ว่าเขามีคนอยู่ในใจแล้ว เมื่อรักแรกของเขากลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ละคืนเหวินม่านอยู่ในห้องว่างเปล่าด้วยคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เธอได้รับมาก็มีแต่เช็คใบหนึ่งและคำกล่าวลาเท่านั้น เดิมทีคิดว่าเธอจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คาดคิดว่าเธอหยิบใบเช็คแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล: "คุณฮั่ว ลาก่อน!"... พอพบกันอีกครั้ง เธอก็มีคนอยู่ข้างกายแล้ว เขาพูดด้วยตาแดงก่ำ: "เหวินม่าน ผมคบกับคุณมาก่อนนะ” เหวินม่านยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทนายฮั่ว คนที่บอกเลิก นั่นคือคุณเองนะ! ถ้าอยากจะเดทกับฉัน คุณต้องต่อคิว..." วันถัดมา เธอได้รับเงินโอนหนึ่งแสนล้านพร้อมแหวนเพชร ทนายฮั่วคุกเข่าข้างหนึ่ง: "คุณเหวิน ผมอยากจะแทรกคิว"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เกิดใหม่เป็นแม่เลี้ยงจำเป็นของนายน้อยสกุลถังในยุค80s
1

บทที่ 1 บทนำ

17/05/2024

2

บทที่ 2 พ่อกลับมาแล้ว

17/05/2024

3

บทที่ 3 คืนของมา

17/05/2024

4

บทที่ 4 ผู้ชายใจร้าย

17/05/2024

5

บทที่ 5 ความจำเป็น

17/05/2024

6

บทที่ 6 แย่แล้ว

17/05/2024

7

บทที่ 7 ตัดสินใจเพื่อลูกสาว

17/05/2024

8

บทที่ 8 พี่สาวคนสวย

17/05/2024

9

บทที่ 9 ส่งคืนคน

17/05/2024

10

บทที่ 10 หน้าซีดตัวสั่น

17/05/2024

11

บทที่ 11 ต่อรอง 1

17/05/2024

12

บทที่ 12 ต่อรอง 2

17/05/2024

13

บทที่ 13 ต้องการแม่จริง ๆ

17/05/2024

14

บทที่ 14 อย่ามาดูถูกฉัน

17/05/2024

15

บทที่ 15 ผู้หญิงที่น่าสงสัย

17/05/2024

16

บทที่ 16 คิดไม่ซื่อ

17/05/2024

17

บทที่ 17 น่ากลัวว่าจะหงอก

17/05/2024

18

บทที่ 18 เป็นความผิดของพ่อเอง

17/05/2024

19

บทที่ 19 ไม่คิดอะไรเลยจริง ๆ

17/05/2024

20

บทที่ 20 เป็นแม่ของผมนะครับ

17/05/2024

21

บทที่ 21 ฝากดูแล

17/05/2024

22

บทที่ 22 หัวใจเต้นแรง

17/05/2024

23

บทที่ 23 อาหารแสนอร่อย

17/05/2024

24

บทที่ 24 ถูกขัง

17/05/2024

25

บทที่ 25 เรื่องนอกเหนือความคาดหมาย

17/05/2024

26

บทที่ 26 แต่งงาน

17/05/2024

27

บทที่ 27 เร็วยิ่งกว่าสายฟ้า

17/05/2024

28

บทที่ 28 เอาเลย

17/05/2024

29

บทที่ 29 คืนอันเร่าร้อน

17/05/2024

30

บทที่ 30 พ่อผู้ชั่วร้าย

17/05/2024

31

บทที่ 31 ครอบครัวสุขสันต์

17/05/2024

32

บทที่ 32 ลักลอบ

17/05/2024

33

บทที่ 33 แหวนของแม่

17/05/2024

34

บทที่ 34 ซึ้งใจ

17/05/2024

35

บทที่ 35 เร่งทำลูก

17/05/2024

36

บทที่ 36 หัวใจกระชุ่มกระชวย

17/05/2024

37

บทที่ 37 แม่ฟื้นแล้ว

17/05/2024

38

บทที่ 38 ครอบครัวของเสี่ยวหลง

17/05/2024

39

บทที่ 39 จุดจบของคนเลว

17/05/2024

40

บทที่ 40 คนซื่อบื้อ

17/05/2024