หล่ออะ!!...รวยอะ!!...เท่อะ!!...ทำไงได้...ถ้าจะมีใครอยากจูบไม่เว้นแต่ละวัน ก็คนมันป๊อปปูลาร์ เดินไปไหนมาไหน สาว ๆ ก็รุมกรี๊ดรุมทึ้ง ทั้งของขวัญ ของฝาก ทั้งขนม น้ำดื่ม จะเอาอะไรก็มีแต่คนประเคนให้...แต่!!...เพราะความหล่อเป็นเหตุ เทสที่สร้างกับร่างที่เป็น จึงแตกต่างกันคนละขั้ว ภายในใจลึก ๆ แล้ว เคนโซ ออกจะเบื่อหน่ายกับความป๊อปปูลาร์ของตัวเองเสียด้วยซ้ำ เขาไร้ซึ่งความเป็นตัวของตัวเอง อยากแคะขี้ฟันต่อหน้าคนเยอะ ๆ ก็ทำไม่ได้ อยากตดเสียงดัง ๆ ก็ทำไม่ได้ อยากใส่เสื้อผ้าธรรมาด๊าธรรมดาก็ใส่ไม่ได้ อยากกินข้าวข้างทางก็กินไม่ได้ และทุกคนที่เข้ามาก็ล้วนหาความจริงใจไม่ได้เช่นเดียวกัน...เบื่อเน๊อะว่ามะ!! ที่ต้องดูดีและตีสองหน้าตลอดเวลา... แต่!!...ใครจะไปคิดล่ะว่า เอวาน หนุ่มน้อยหน้าละอ่อนจะช้อนหัวใจรุ่นพี่ปีสี่อย่าง เคนโซ ไปได้...ถ้าเทสเราไม่ตรงกันมันจะไปด้วยกันได้อย่างไร...ถ้าจะคบกัน ต้องนั่งรถเมล์ได้ กินต้มอึ่งไชโยได้ ใส่เสื้อผ้าร่วมกันได้ นอนเตียงเดียวกันได้ อาบน้ำด้วยกันได้ ตดใส่หน้ากันได้ เรอใส่หน้ากันได้ และสำคัญที่สุด...นายกล้าจูบเราต่อหน้าคนเยอะ ๆ มั๊ยล่ะ!!...ถ้ากล้า เราก็พร้อมจะบ้าไปกับนายนะ...หึหึ...ได้สิ!! เพราะจูบนี้จะเป็นจูบสุดท้ายที่พี่จะเอาจริง...รักแหละ ดูออก...เขินมั๊ย เอาดี ๆ
โดย : ซัมพอ
====================
...ตึก!!...
“อะ!! สำหรับเธอ กุชชี่ใบเดียวก็น่าจะปิดปากเธอได้นะ”
“ขอบคุณมากค่ะรุ่นพี่”
พูดจบ หญิงสาวกำลังจะโน้มคอของเคนโซลงไปหอมแก้ม เพื่อเป็นการขอบคุณด้วยความดีใจ แต่กลับโดนเขาเอามือสกัดห้ามไว้ก่อน ทำให้เธอถึงกับหน้าเสียและชะงักทันที
“หยุดนะ เธอไม่มีสิทธิ์แตะต้องตัวฉันอีกแล้ว ไปได้แล้ว”
“ค่ะ ค่ะ”
หลังจากได้รับกระเป๋ากุชชี่ราคาเรือนแสน ที่ถูกเคนโซโยนใส่ตัวขณะกำลังนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงนอนหนานุ่มขนาด 6 ฟุต กลางห้องสูทขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ใช้ระบบสัมผัสและเสียงในการสั่งการเกือบทั้งหมด หญิงสาวก็รีบคว้ากระเป๋ากุชชี่ใบสวยและเร่งเดินออกจากห้องไปทันที โดยที่ไม่สนใจใยดีกับพรหมจรรย์ที่เพิ่งเสียให้กับเขาไปเลยสักนิด
“เปลี่ยนชุดผ้าปูที่นอนและเตียงนอนใหม่ยกชุด”
“ได้ค่ะคุณหนู”
หลังจากหญิงสาวออกจากห้องไปพร้อมกับกระเป๋ากุชชี่ เคนโซก็สั่งแม่บ้านให้เปลี่ยนชุดที่นอนใหม่ทั้งหมด เพราะเขาไม่อยากให้หญิงสาวคนใหม่ที่จะมาหาในเดือนหน้า ต้องนอนทับรอยหญิงสาวคนเก่าอีก และทุกครั้งมันก็จะเป็นเช่นนี้เสมอ จนทุกคนภายในบ้านรู้สึกชินกับการกระทำดังกล่าว โดยเฉพาะพ่อของเขา ที่มักจะเห็นลูกชายพาหญิงสาวมานอนค้างที่บ้านไม่ซ้ำหน้าสักราย
“พรุ่งนี้ตื่นไปเรียนด้วยล่ะ และเมื่อไหร่แกจะเลิกพาผู้หญิงพวกนั้นมานอนบ้านเสียที บ้านฉันไม่ใช่โรงแรมม่านรูดนะ”
ผู้เป็นพ่อพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด หลังจากที่เห็นหญิงสาวถือกระเป๋ากุชชี่เดินออกจากบ้านไปด้วยความดีใจ และคณะแม่บ้านต่างก็หอบหิ้วและขนชุดที่นอนออกไปทิ้งตามคำสั่งของลูกชาย
“หรือพ่อจะให้ผมพาผู้ชายเข้ามานอนในบ้านแทนละครับ”
เคนโซ ตอบกลับผู้เป็นพ่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย ขณะเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านพร้อมกับสวมชุดคลุมอาบน้ำเพียงตัวเดียว
เขาและพ่อไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่ หลังจากที่แม่เสียไปเมื่อ 10 ปีก่อน ด้วยอาการป่วยเรื้อรังจากการตรอมใจ ที่เห็นพ่อแอบซุกบ้านเล็กบ้านน้อยไว้ทั่วไปหมด ถ้าบ้านน้อยหลังไหนอยู่เป็นแม่ก็จะไม่ว่าอะไร แต่พ่อดันมีบ้านน้อยที่เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้ม แถมยังปล่อยให้มารุกรานแม่ถึงที่บ้าน แม่ทำใจยอมรับไม่ได้ที่พ่อหยามศักดิ์ศรีเกินไป จึงทิ้งเขาในขณะที่อายุได้เพียงแค่ 10 ขวบเท่านั้น
เคนโซ ใช้ชีวิตด้วยการเลี้ยงดูจากป้าเจน ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของพ่อ และก็เงินของพ่อที่มีอยู่หลายพันล้าน เด็กหนุ่มกลายเป็นคนที่มีจิตใจแข็งกระด้าง ไม่รู้จักการมอบความรักให้กับใคร เขาแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยเงิน แม้กระทั่งการใช้เงินซื้อเพื่อน และก็ซื้อความรัก เพราะเขารู้ดีว่าหญิงสาวพวกนั้น ต้องการแค่เพียงข้าวของราคาแพง ๆ จากเขาก็เท่านั้นแหละ ไม่มีใครรักและจริงใจกับเขาสักคนหรอก “เงินเท่านั้นที่ Knock Everything” ...ก็แค่เด็กผู้ชายที่ขาดความรักความอบอุ่นอะเน๊อะ ชอบใช้เงินแก้ปัญหา...ก็รวยอะ...จะทำไม
++++++
...กรี๊ดดดดดดดด!! รุ่นพี่เคนโซ...หล่อมว๊ากคร่า...
“ไปแกตามไปเร็ว ๆ อร๊ายยยย!! ฉันจะละลายอยู่แล้วแกรรร!!”
“รุ่นพี่เคนโซ น้ำไหมคะ ขนมก็มีนะคะ”
“อันนี้ดีกว่าค่ะ ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่สำหรับรุ่นพี่เคนโซโดยเฉพาะเลยนะคะ”
“แกรรร...จี...มันจีมว๊ากกกก...อร๊ายยยย!!”
สาว ๆ ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดดังสนั่นลั่นมหาวิทยาลัยเคนโซ ตั้งแต่ปากประตูทางเข้า ตามอาคารทุกชั้น เรื่อยไปจนถึงทางหมาลอดท้ายมหาวิทยาลัยก็ยังไม่เว้น ...ถ้าจะขนาดนี้ มึงพากันปิดมหาวิทยาลัย แล้วจัดคอนเสิร์ตกันเลยดีกว่ามั๊ย!!...
จะไม่ให้ตื่นเต้นกรี๊ดกร๊าดกันได้ไง ก็ในเมื่อหนุ่มฮอตสุดป๊อปปูลาร์ หล่อเท่สมาร์ทบาดใจ นามว่า “เคนโซ เกตส์” นักศึกษาชั้นปีที่สี่ เอกภาพยนตร์ เขาเป็นทั้งดารา นักร้อง นายแบบ ศิลปิน พระเอกซีรีย์ รวมทั้งเป็นลูกเจ้าของมหาวิทยาลัยเคนโซ มหาวิทยาลัยนานาชาติเก่าแก่อันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ตั้งมาแล้วมากกว่า 100 ปี รองรับนักศึกษาทั่วทุกสารทิศจากทั่วทุกมุมโลกมาร่ำเรียน...ถ้าเงินไม่หนา อย่าคิดจะแหยมเข้ามาเรียนเป็นอันขาดนะ...เพราะที่นี่แหล่งรวมลูกคุณหนูมีตังค์ ถ้าบ้านไม่เท่าวัง ก็ต้องมีธุรกิจใหญ่โต...ก็นะ...รวยอะ...จะทำไม...
เคนโซ ค่อย ๆ ก้าวเท้าลงจากรถสปอร์ตแลมโบกีนีคันหรูสีแดงเลือดนก เขาเพิ่งขับเข้ามาจอดหน้าอาคารเรียนด้วยตัวเอง โดยมีเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัยที่อยู่ในชุดทักซิโด้สีดำ คอยเปิดประตูให้ ก่อนที่จะเดินอย่างสง่าเข้าไปภายในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเดียวกันกับเขา เพราะผู้เป็นพ่อตั้งใจเอาไว้ว่า หากได้ลูกชายจะตั้งชื่อเหมือนกันกับชื่อมหาวิทยาลัยของต้นตระกูล และนี่จึงเป็นที่มาของชื่อ...เคนโซ...
วันนี้ เคนโซ มาในชุดเสื้อคอเต่าสีเทาเข้ม สวมทับด้วยเสื้อโค้ทตัวยาวคุลมเข่าสีดำอีกชั้น ซึ่งมันก็เข้ากันได้ดีกับกางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำ และรองเท้าบูตหนังสีดำขัดมันเงาวับ สำหรับพวกแอคเซสเซอรี่ เขาสวมสร้อยคอเงินแท้พร้อมกับจี้ทรงกลมคล้ายแหวน ล้อมรอบด้วยเพชรประกายแวววาว ภายในสลักคำว่า เอวา ซึ่งเป็นชื่อของแม่ ที่ตอนนี้ได้จากเขาไปแล้ว ตั้งแต่เขายังเด็ก และสร้อยเส้นนี้ก็เป็นเพียงความทรงจำเดียวที่แม่ได้ทิ้งเอาไว้ให้ เขามักจะใส่ติดตัวเสมอ นอกจากนี้ก็ยังมีต่างหูเงินฝั่งเพชรหนึ่งข้าง เสริมให้ใบหน้าที่หล่อคมชัด ดูละมุนหวานมากยิ่งขึ้น
เคนโซ เกตส์ เป็นลูกผสมหลายเชื้อชาติที่ได้ทั้งจากฝั่งพ่อและฝั่งแม่ ทั้งจีน ญี่ปุ่น อิตาลี ฝรั่งเศส ปากีสถาน และไทย จึงทำให้เขาได้เปรียบในเรื่องของหน้าตาและรูปร่างที่สูงโปร่ง ตัวไม่หนาล่ำแต่ก็ไม่บางเกินไป มีกล้ามนิดๆ ซิกแพคหน่อย ๆ ช่วยให้เขาสวมใส่เสื้อผ้าอะไรก็ดูดีไปเสียหมด จนไปเตะตาแมวมองมือหนึ่งด้านแฟชั่น จึงได้ชักชวนให้เขาเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุได้เพียงแค่ 15 ปี เท่านั้น
เคนโซ เริ่มต้นจากการเดินแบบแฟชั่นเสื้อผ้าในคลอเลกชันของพี่แมวมองที่ชักชวน พร้อมทั้งถ่ายแบบ ถ่ายแฟชั่น และแอคเซสเซอรี่ต่าง ๆ กระทั่งถูกปั้นเป็นศิลปินของค่ายใหญ่ค่ายหนึ่งจนโด่งดังไปทั่วเอเชีย เท่านั้นยังไม่พอ เคนโซ ยังถูกรับเลือกให้เล่นเป็นพระเอกซีรีย์ คู่กับนางเอกวัยรุ่นเบอร์ต้นของค่ายเดียวกันอีกด้วย ความหล่อ ความรวย บวกกับความดัง จึงทำให้สาว ๆ ต่างก็อยากผลีกายและเสียจูบแรกให้กับเขาทั้งนั้น...คันกีกันเสียจริงจริ้ง สาว ๆ พวกนี้...
ขายาว ๆ ค่อย ๆ ก้าวเดินอย่างช้า ๆ เหมือนรอให้สาว ๆ ได้ส่งเสียงกรี๊ดอย่างเต็มที่ เคนโซไม่ได้รู้สึกเคอะเขินหรือประหม่าใด ๆ เพราะทุกครั้งที่เขา On Stage เขาก็จะเจอเสียงกรี๊ดแบบนี้เสมอ เขายกมือขึ้นหยิบแว่นสายตาที่ใส่อยู่ พร้อมกับนำออกไปเหน็บไว้ที่กระเป๋าเสื้อโค้ท สายลมพัดโชยปลิวสยายผมลอนหยักศกสีน้ำตาลเข้ม เผยให้เห็นใบหน้าอย่างชัดเจน กรามชัด โหนกแก้มชัด จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนานุ่มเรียวได้รูป ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเป็นประกาย รับกันเป็นอย่างดีกับคิ้วหนาเรียงเส้นดกดำ แต่ความหล่อนี้กลับถูกบดบังด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงออกจะหยิ่งยโส และไม่ฉีกยิ้มให้กับเสียงกรี๊ดของสาว ๆ เลยเสียด้วยซ้ำ
“แกรรรร!! นี่มันเทพบุตรชัดๆ หล่อ หน้าคม สูง ขาว ตี๋ สเปคนีที่สุด”
“คุณพระ!! ขอยาดมหน่อย แม่จะเป็นลม”
“กลิ่นตัวรุ่นพี่หอมขนาดนี้ ขนาดอยู่บนชั้นสองกลิ่นยังโชยมาถึง จะมาเป็นลมอะไรก่อนสาว ฉันอยากจะเอาจมูกไปซุกจั๊กแร้เขาแกรร”
“ห๊ะ!! นี่เข้าใจอะไรยากปะ ฉันหมายถึงความหล่อระดับพระเอกซีรีย์ จนทำให้นีอย่างพวกเราอยากจะเป็นลมในอ้อมกอดของพี่เขาต่างหาก”
“อ๊ะ!! ล้อเลงน่า...อร๊ายยยยยย!! ฉันอยากได้เขาอะแกรร”
“หยุดเพ้อฝันสาว เห้อ!! เขามีสาวในดวงใจแล้วดิแกรร”
“เย้ย!! จริงดิ”
“ไปอยู่ดาวไหนมาคะสาว ตอนนี้รุ่นพี่เคนโซเขากำลังคบอยู่กับ...”
......
“...อุ้ย!! นี่ไงแกคนนี้แหละ คนนี้แหละ...”
ก่อนที่เพื่อนสาวจะเม้าท์มอยกันจบ ก็มีเสียงซุบซิบดังขึ้นจากทางด้านหลังด้วยความตื่นเต้น พวกเธอจึงรีบหันกลับไปดูอย่างรวดเร็ว
“อะ...เอ่อ...นี่แหละ นี่แหละ คนนี้แหละ ใช่เลย”
เธอพยายามใช้มือสะกิดเพื่อนสาว ที่ยังคงให้ความสนใจอยู่กับความหล่อของรุ่นพี่เคนโซ เพื่อให้หันกลับมามองหญิงสาว ที่กำลังเดินเข้ามาภายในมหาวิทยาลัยไล่หลังเคนโซไม่กี่นาที
“อะไรของแก ดูดิรุ่นพี่เคนโซหายเข้าไปในอาคารแหละ”
“คนนี้ไงที่มีข่าวว่ากำลังคบอยู่กับรุ่นพี่เคนโซ”
“ห๊ะ!! ใครมันช่างกล้ามาแย่งแฟนของฉัน”
“ตบปากตัวเองหนึ่งที ถ้ายังไม่สวยได้เท่าขี้เล็บเขา”
“เห้ย!! นั่นมันพี่เฟรยานี่ จริงอะที่ว่าทั้งคู่กำลังคะ...คบกัน”
“เหมาะสมกันไหมล่ะ เธอเลิกฝันลม ๆ แล้ง ๆ ได้แล้ว”
“เศร้าวะแกรร”
พูดจบ ทั้งคู่ก็หันมองหน้ากัน แล้วทำท่าทางเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ พร้อมกับยกมือขึ้นมาทาบอกและยกไหล่ขึ้นลงด้วยความเสียดาย
++++++
...ตุ๊บ!!...ซ่า!!...
“เอวาน...แกรร...มึงง...ทำน้ำหกหล่นใส่รุ่นพี่คะ...เคนโซ เปียกหมดเลยแกรร”
“หือ!! ตะ...ตายห่าละมึง...ระ...เราควรทำอย่างไรดี”
เอวาน รุกรี้รุกรนตื่นตระหนกจนลนลานทำอะไรไม่ถูก หลังจากที่ปัดมือไปโดนแก้วน้ำ ที่วางเอาไว้ขอบระเบียงหน้าห้องเรียน จนล่วงหล่นตกลงไปใส่ เคนโซ รุ่นพี่สุดฮอต ที่กำลังนั่งเล่นกับกลุ่มเพื่อน ๆ อยู่ข้างล่าง จนเปียกปอนเป็นลูกหมาตกน้ำ
“ใคร...ใครทำน้ำหกใส่ฉัน”
เคนโซ ตะโกนเสียงดังด้วยความหงุดหงิดและโมโหสุดขีด เขากัดฟันกรามแน่นพร้อมกับมองหาคนทำน้ำหล่นใส่ชุดเท่ราคาแสนแพง ที่ใส่มาเรียนในวันนี้จนเปียกปอน
ทั้งอาจารย์และนักศึกษา ต่างพากันหยุดการเรียนการสอน และออกมาส่องดูเหตุการณ์ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเคนโซจากด้านล่างอาคารเรียน
“คะ...คุณหนู ใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ ดะ...เดี๋ยว อะ...อธิการบดี จะตามหาคนทำมาลงโทษให้ได้ นะครับ”
อธิการบดีถึงกับต้องเดินเข้ามาพูดคุยด้วยตัวเอง เพื่อปลอบใจให้เคนโซใจเย็นลง หลังจากที่เห็นสีหน้าท่าทางของเขา เหมือนจะเอาเรื่องคนก่อเหตุในครั้งนี้ให้ถึงตาย
“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันจัดการเอง ท่านอธิการบดีไม่ต้องยุ่ง อยู่นิ่ง ๆ ไม่พูดมากเป็นพอ”
เคนโซ เดินเข้าไปตบไหล่อธิการบดีเบา ๆ เพื่อเป็นการบ่งบอกให้รู้ว่า ถ้าอยากจะอยู่ที่นี่นาน ๆ ก็หุบปากเงียบเสีย อย่าได้นำเรื่องวันนี้ไปรายงานพ่อของเขาเป็นอันขาด ถ้าไม่เช่นนั้นจะหาว่าไม่เตือนนะ
เคนโซ เงยหน้ามองขึ้นไปบนอาคารเรียนอีกครั้ง เขามองเห็นหลังไว ๆ ของใครบางคน กำลังทรุดตัวลงนั่ง เพื่อแอบกับกำแพงระเบียงหน้าห้องอย่างช้า ๆ ...ตายแน่ ๆ คราวนี้...
หนังสืออื่นๆ ของ ซัมพอ
ข้อมูลเพิ่มเติม