อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก

อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก

Abner Oglesby

5.0
ความคิดเห็น
976.2K
ชม
366
บท

เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง

บทที่ 1 เกิดใหม่เป็นพระชายาผู้บ้าคลั่ง (ภาค 1)

“พระชายาคังงดงามถึงเพียงนั้น น่าเสียดายยิ่งนักที่นางต้องตายไปเช่นนี้ สู้ให้พวกเราได้เล่นสนุกกันเสียก่อนที่นางจะตาย จะได้เบิกบานใจสักหน่อย”

“ฮ่า ๆ…… เจ้าพูดถูก อย่างไรก็กำลังจะตายอยู่แล้ว ถึงพวกเราจะเล่นสนุกกับนาง แล้วจะมีผู้ใดรู้ได้กันเล่า”

“นั่นสิ ท่านอ๋องคังกำลังจะอภิเษกกับพระชายารองอยู่แล้ว เขาจะเอาเวลาที่ไหนมาสนใจความเป็นความตายของนางกันเล่า บางทีเขาอาจแทบจะรอไม่ไหวอยากให้นางตายไปโดยเร็วก็เป็นได้”

……

ทันทีที่ฉินเซิงฟื้นคืนสติ นางก็เห็นว่ามีบุรุษสองคนกำลังเดินเข้ามาใกล้นางด้วยสีหน้าหื่นกาม อีกทั้งยังพูดจาต่ำช้าออกมาอีกด้วย

นางจึงทำการดึงปิ่นด้ามหนึ่งออกมา ระหว่างที่พวกเขากำลังเดินเข้ามา นางก็กระโดดขึ้นและนำปิ่นแทงเข้าไปในดวงตาของบุรุษหนึ่งในนั้นทันที จากนั้นก็ดึงออกและเสียบเข้าไปที่คอของเขาอีกครั้ง

“โอ๊ย!”

ชายคนนั้นเอามือกุมตาและคอเอาไว้ มีเลือดไหลออกมาจากระหว่างนิ้วของเขาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อชายอีกคนเห็นคนที่หายใจโรยรินใกล้ตายจู่ ๆ ก็แสดงอารมณ์โกรธแค้นลุกขึ้นมาฆ่าคนเช่นนี้ เขาก็ตกใจมากจนรีบหันหลังเพื่อจะวิ่งหนีไปทันที แต่ฉินเซิงจะยอมให้เขามีโอกาสนั้นได้อย่างไร นางรีบวิ่งปรี่เข้าไปคว้าคอเสื้อด้านหลังของเขาเอาไว้ จากนั้นก็พลิกมืออย่างแรง มีแสงอันเย็นยะเยือกเปล่งประกายออกมาจากปิ่นแวบหนึ่ง แล้วมันก็ปาดไปที่คอของชายผู้นั้น หลังจากที่ปล่อยมือออกแล้ว ชายผู้นั้นก็ล้มลงไปกับพื้นทันที

หลังจากที่กำจัดบุรุษสองคนนี้ไปได้แล้ว ฉินเซิงก็เซถอยหลังไปสองก้าวและพิงกำแพงพลางหายใจหอบอยู่อย่างนั้น ใบหน้าของนางไม่ได้ดูประหลาดใจกับการได้กลับมาเกิดใหม่เลย มีเพียงความสับสนและเห็นอกเห็นใจเท่านั้น

เจ้าของร่างเดิมเป็นเด็กกำพร้าแห่งจวนท่านแม่ทัพ ด้วยความที่ฮ่องเต้ทรงสงสารนาง พระองค์จึงมีรับสั่งพระราชทานงานแต่งให้นางไปเป็นพระชายาของหวี่เหวินอี้ซึ่งก็คือท่านอ๋องคัง แต่น่าเสียดายที่เขามีหญิงสาวที่ตนเองหมายปองอยู่แล้ว ซึ่งก็คือซางหลี ลูกสาวของมหาราชครูนั่นเอง

เพื่อให้ได้แต่งงานกับคนที่ตนเองรัก หวี่เหวินอี้จึงกักขังเจ้าของร่างเดิมไว้ที่สำนักหนานซาน ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ในการกักขังคนบ้าโดยเฉพาะ โดยให้เหตุผลว่านางเป็นบ้า

ระหว่างที่อยู่ในสำนักหนานซาน เจ้าของร่างเดิมต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส นางสามารถอดทนมาได้จนถึงตอนนี้โดยที่ยังไม่ตาย เพราะความรู้สึกโกรธแค้นและไม่พอใจที่มีอยู่ ตอนนี้พอฉินเซิงเข้ามาอยู่ในร่างแล้ว ความโกรธแค้นนั้นจึงสื่อออกมาด้วย

ก่อนเสียชีวิตในภพชาติที่แล้ว ฉินเซิงเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งมีฉายาว่าราชินีแห่งยาพิษ นางเชี่ยวชาญในการใช้ยาพิษเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่ดอกไม้หรือหญ้าธรรมดาริมถนนเพียงแค่ต้นเดียว หากมาอยู่ในมือของนางแล้วมันก็อาจกลายเป็นพิษที่ร้ายแรงถึงชีวิตได้

ซึ่งแน่นอนว่าทักษะทางการแพทย์และยาพิษเป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้อยู่แล้ว นางจึงเก่งกาจในเรื่องทักษะทางการแพทย์มากเช่นกัน

นางเคยทำภารกิจมาเยอะแยะมากจนรู้สึกว่ามันน่าเบื่อเกินไป ดังนั้นนางจึงอยากที่จะค่อย ๆ วางมือแล้ว แต่น่าเสียดายที่ลูกค้าประจำของนางไม่ยินยอม เกรงว่านางจะแฉความลับของพวกเขา ดังนั้นทุกคนจึงร่วมมือกันค้นหาฐานลับของนางแล้ววางระเบิด ระเบิดเพียงลูกเดียวก็ทำให้นางและฐานลับทั้งหมดกลายเป็นผุยผงภายในชั่วพริบตา จากนั้นนางก็ได้มาเกิดใหม่ในราชวงศ์ที่แปลกประหลาดนี้

ฉินเซิงเป็นคนที่แยกแยะระหว่างความรักและความเกลียดชังได้อย่างชัดเจน ในเมื่อนางได้มาครอบครองร่างของคนผู้นี้แล้ว นางก็ต้องแก้แค้นให้เจ้าของร่าง

เมื่อนึกถึงบทสนทนาของบุรุษทั้งสองเมื่อสักครู่นี้ที่ว่า วันนี้ท่านอ๋องคังกำลังจะอภิเษกสมรสกับพระชายารองแล้ว หากเป็นเช่นนั้น การที่นางผู้ซึ่งเป็นพระชายาเอกไม่ไปปรากฏตัว เกรงว่าอาจจะเป็นการเสียมารยาทเอาได้

ฉินเซิงใช้แขนเสื้อเช็ดเลือดออกจากปิ่น แล้วก็ปักกลับไปบนหัวใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็เดินออกไปด้านนอก

สำนักหนานซานตั้งอยู่บนยอดเขาลูกหนึ่งในเขตชานเมืองของเมืองจิง มีทหารยามจำนวนมากคอยเฝ้าอยู่ที่ทางลงเขา แต่สำหรับฉินเซิงแล้ว ทุกที่ล้วนแล้วแต่เป็นทางลงเขาได้หมด ดังนั้นนางจึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เส้นทางนั้น

สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากเมืองจิงถึงหนึ่งร้อยกว่าลี้ ซึ่งหากอาศัยการเดินเท้าไปที่นั่น งานอภิเษกสมรสของหวี่เหวินอี้และซางหลีน่าจะจบลงไปแล้ว

นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วก็เห็นรถม้าคันหนึ่งกำลังวิ่งมาทางนี้ ฉินเซิงที่ยืนอยู่ข้างถนนจึงยกแขนขึ้น เตรียมจะโบกรถม้าเพื่ออาศัยกลับไปยังเมืองจิง

“นายท่าน มีคนมาขวางทางอยู่ข้างหน้าขอรับ เป็นสตรีสวมเสื้อผ้ามอมแมมนางหนึ่งพะยะค่ะ”

หลังจากที่หมิงเยว่ที่เป็นคนขับรถม้าเห็นฉินเซิง เขาก็รายงานไปยังผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารของรถม้า หลังจากนั้นผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารรถก็ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉยเมยและเกียจคร้านว่า

“มิต้องไปสนใจ”

หมิงเยว่มองไปข้างหน้าครู่หนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นมาด้วยความลำบากใจว่า

“แต่สตรีนางนั้นยืนอยู่กลางถนนเลยนะพะยะค่ะ”

บุรุษผู้นั้นไม่ได้เงยหน้าขึ้นแต่อย่างใด น้ำเสียงของเขายังคงเย็นชาและเรียบเฉยเหมือนเช่นเคย

“มิต้องไปสนใจ”

เอาล่ะ!

หมิงเยว่ที่ได้รับคำสั่งมาดังนั้นจึงไม่ได้ชะลอความเร็วลง เขาพุ่งตรงเข้าไปหาฉินเซิงด้วยความเร็วทันที

เมื่อฉินเซิงเห็นเช่นนี้ รูม่านตาของนางก็หดตัวลง นางรีบถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว ขืนนางช้ากว่านี้เพียงแค่นิดเดียว รถม้าอาจจะทับตัวนางไปแล้วก็เป็นได้

ความอดทนของนางถึงขีดจำกัดแล้ว

ฉินเซิงดึงปิ่นบนหัวออก แล้วก็กระโดดขึ้นไปด้านหลังรถม้าและปีนเข้าหน้าต่างไป จากนั้นก็นำปลายแหลมของปิ่นจี้ไปที่คอของบุรุษในรถม้า แล้วก็ข่มขู่ขึ้นมาเบา ๆ ว่า

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

สามีข้าช่างน่าแกล้ง เล่ม 2 (จบ)

สามีข้าช่างน่าแกล้ง เล่ม 2 (จบ)

Ocean Books
5.0

สูงศักดิ์ดั่งจักรพรรดิ หรือสามัญชนเช่นบัณฑิต ล้วนถูกพิชิตด้วยภรรยาตัวน้อย สามีจวนอื่นข้านั้นไม่รู้ แต่สองอาหลานราชวงศ์จิ่งล้วนถูกภรรยากลั่นแกล้ง ชุนเสี่ยวป๋าย จะให้ทำอย่างไรได้เล่า บัณฑิตเฒ่าผู้นั้นมิเคยมีท่าทีพึงใจในสตรีนางใด หากชุนเสี่ยวป้ายเฝ้ารอให้เขาเข้ามาทำความรู้จักนางเองแล้วนั้นคงไม่มีวันได้ครองรักกันแน่ ดังนั้นนางจึงต้องบอกกล่าวด้วยตัวเองเสียเลย บัณฑิตเฒ่าผู้แสนหล่อเหลาเจ้าคะ ข้าจะไปเกี้ยวท่านเอง... อู่ซุนต้าเอ้อร์ นางถูกเขาจับพลิกแพลงตะแคงคว่ำอยู่นาน เขาก็ยังมิยอมสงบ พายุรักโหมกระหน่ำดูดแรงกายของอู่ซุนต้าเอ่อร์จนแทบหมดสิ้น ทนแทบมิไหว พลั่ก!! โครม!! รู้ตัวอีกทีทั้งห้องก็เงียบสงัดไร้เสียงหอบกระเส่าและครวญครางเหมือนเมื่อครู่ ร่างเปลือยเปล่าล่อนจ้อนของจักรพรรดิน้อยลงไปกองอยู่ข้างตั่งเตียงโดยมีปลายเท้าของนางยื่นออกไป เหลียนไช่ บัณฑิตเหลียนไช่ซุกไซร้ลำคอขาวของภรรยา เขาสูดดมและขบเม้ม ไล้มือไปทั่วกายนุ่มของนางอย่างหลงใหล มิไหวแล้ว... เขามิอาจทนความน่ารักของชุนเสี่ยวป๋ายได้อีกแล้ว.... “ข้าพลาดแล้วจริงๆ ที่สัญญาว่าจะอ่อนโยนกับเจ้า” จิ่งซานหวง “มิใช่ว่าหม่อมฉันต้องปรนนิบัติพระองค์เหมือนสามีภรรยาหรอกหรือเพคะองค์จักรพรรดิ” “ก็มิใช่ว่าข้าให้เจ้าปรนนิบัติอยู่หรอกหรือ” เขาว่าพลางหลับตาลงไม่อยากมองหน้าสนมโจว นางจึงต้องจำใจอ่านตำราให้เขาฟังอย่างเสียมิได้ คิดมิถึงว่าจักรพรรดิน้อยจะหาทางหลบเลี่ยงการร่วมเตียงกับนางจนได้ ล่วงรู้ไปถึงไหนอับอายไปถึงนั่น ท่ามกลางความซ่านเสียวอู่ซุนต้าเอ่อร์ก็อดถอนใจให้กับตนเองมิได้ คราแรกคิดว่าคืนนี้นางจะได้นอนสบายมิต้องโดนเขาเคี่ยวกรำอยู่แล้วแท้ ๆ แล้วเหตุใดนางจึงยังถูกเขาจับกินได้อีกเล่า!!

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก
1

บทที่ 1 เกิดใหม่เป็นพระชายาผู้บ้าคลั่ง (ภาค 1)

27/02/2025

2

บทที่ 2 เกิดใหม่เป็นพระชายาผู้บ้าคลั่ง (ภาค 2)

27/02/2025

3

บทที่ 3 ใครกล้าแตะต้องข้า (ภาค 1)

27/02/2025

4

บทที่ 4 ใครกล้าแตะต้องข้า (ภาค 2)

27/02/2025

5

บทที่ 5 หากพวกเราจะกินทั้งที ย่อมต้องกินของดี ๆ หน่อยสิ (ภาค 1)

27/02/2025

6

บทที่ 6 หากพวกเราจะกินทั้งที ย่อมต้องกินของดี ๆ หน่อยสิ (ภาค 2)

27/02/2025

7

บทที่ 7 แย่แล้ว ท่านอ๋องมาเแล้ว (ภาค 1)

27/02/2025

8

บทที่ 8 แย่แล้ว ท่านอ๋องมาเแล้ว (ภาค 2)

27/02/2025

9

บทที่ 9 เจ้าคิดว่าข้าทำสิ่งใดเจ้ามิได้จริง ๆ เยี่ยงนั้นหรือ

27/02/2025

10

บทที่ 10 ช่างต่ำทรามสิ้นดี! (ภาค 1)

27/02/2025

11

บทที่ 11 ช่างต่ำทรามสิ้นดี! (ภาค 2)

27/02/2025

12

บทที่ 12 ไม่ได้เรื่องเสียจิง (ภาค 1)

27/02/2025

13

บทที่ 13 ไม่ได้เรื่องเสียจิง (ภาค 2)

27/02/2025

14

บทที่ 14 เจ้าไปถ่ายท้องเสียให้พอเถิด (ภาค 1)

27/02/2025

15

บทที่ 15 เจ้าไปถ่ายท้องเสียให้พอเถิด (ภาค 2)

27/02/2025

16

บทที่ 16 เตือนแบบเปิดเผย (ภาค 1)

27/02/2025

17

บทที่ 17 เตือนแบบเปิดเผย (ภาค 2)

27/02/2025

18

บทที่ 18 ตรวจสอบบัญชี (ภาค 1)

27/02/2025

19

บทที่ 19 ตรวจสอบบัญชี (ภาค 2)

27/02/2025

20

บทที่ 20 ยุ่งยากเกินไป (ภาค 1)

27/02/2025

21

บทที่ 21 ยุ่งยากเกินไป (ภาค 2)

27/02/2025

22

บทที่ 22 บัดนี้ควรจะยอมฟังหม่อมฉันพูดดี ๆ ได้หรือยัง (ภาค 1)

27/02/2025

23

บทที่ 23 บัดนี้ควรจะยอมฟังหม่อมฉันพูดดี ๆ ได้หรือยัง (ภาค 2)

27/02/2025

24

บทที่ 24 เพียงแค่ท่านอ๋องได้ดูก็จะเข้าใจ (ภาค 1)

27/02/2025

25

บทที่ 25 เพียงแค่ท่านอ๋องได้ดูก็จะเข้าใจ (ภาค 2)

27/02/2025

26

บทที่ 26 บุตรีของเจิ้นกั๋วกง (ภาค 1)

27/02/2025

27

บทที่ 27 บุตรีของเจิ้นกั๋วกง (ภาค 2)

27/02/2025

28

บทที่ 28 ทุกอย่างแล้วแต่ท่านพี่สะใภ้ (ภาค 1)

27/02/2025

29

บทที่ 29 ทุกอย่างแล้วแต่ท่านพี่สะใภ้ (ภาค 2)

27/02/2025

30

บทที่ 30 แก้พิษ (ภาค 1)

27/02/2025

31

บทที่ 31 แก้พิษ (ภาค 2)

27/02/2025

32

บทที่ 32 ท่านอ๋องจิ้นช่างเอาใจใส่ดีเสียจริง (ภาค 1)

27/02/2025

33

บทที่ 33 ท่านอ๋องจิ้นช่างเอาใจใส่ดีเสียจริง (ภาค 2)

27/02/2025

34

บทที่ 34 หน้าของท่านเป็นอันใดไป (ภาค 1)

27/02/2025

35

บทที่ 35 หน้าของท่านเป็นอันใดไป (ภาค 2)

27/02/2025

36

บทที่ 36 เช่นนี้น่าจะพิสูจน์ได้แล้วใช่หรือไม่ (ภาค 1)

27/02/2025

37

บทที่ 37 เช่นนี้น่าจะพิสูจน์ได้แล้วใช่หรือไม่ (ภาค 2)

27/02/2025

38

บทที่ 38 เจ้าคิดจะทำอันใด (ภาค 1)

27/02/2025

39

บทที่ 39 เจ้าคิดจะทำอันใด (ภาค 2)

28/02/2025

40

บทที่ 40 ยังคิดจะหนีอยู่อีกหรือไม่ (ภาค 1)

01/03/2025