พัณณ์พิศ (น.) ผู้เชี่ยวชาญด้านการพลิกวิกฤตให้เป็นวินาศสันตะโร
ภายในห้องทำงานหนึ่งของบริษัท CHERPAT INTERIOR มีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์มาราวๆ สี่ชั่วโมงโดยยังไม่ขยับตัวไปไหน แม้จะเลยเวลาเลิกงานมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วก็ตาม ทว่าประธานกรรมการบริษัทออกแบบและตกแต่งภายในอย่าง พัณณ์พิศ อำไพวุฒิ กลับไม่คิดลุกออกไปจากโต๊ะทำงานของตน
ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอสี่เหลี่ยมไม่เกี่ยวกับงานออกแบบแต่อย่างใด แต่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเธอโดยตรง มันถูกส่งมาเมื่อประมาณยี่สิบนาทีที่แล้วเห็นจะได้ ซึ่งเป็นยี่สิบนาทีที่ทำเอาอินทีเรียสาวขยับตัวไปไหนไม่ถูก
สายตาที่เต็มไปด้วยคำถามและความผิดหวังทอดมองไปยังหน้าจอสี่เหลี่ยม ก่อนจะเบือนหน้าไปยังป้ายชื่อที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ เธอแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างประชดประชันต่อโชคชะตา
หญิงสาวลุกขึ้นยืนในที่สุด ก่อนจะรวบผมดัดลอนสีเทาหม่นที่ ‘ใครบางคน’ บอกว่ามันเข้ากับเธอเป็นอย่างมากอย่างลวกๆ แล้วลงมือเก็บของที่คิดว่าอาจจะแสลงตาตัวเองทิ้ง ไม่รู้ว่าจะมีกี่ชิ้นกัน แต่ที่แน่ๆ คือป้ายชื่อที่ตั้งอยู่ตรงหน้า หากใครเกิดสงสัยว่ามันหายไปไหน ก็จะปั้นน้ำเป็นตัวว่ามันตกและพังไปเสียแล้ว
แต่ก็ไม่ถือว่าโกหกเสียทีเดียว เพราะสำหรับเธอมันได้พังลงไปแล้วจริงๆ
พังไปพร้อมกับหัวใจที่เคลื่อนไหวอยู่ในอกซ้าย
ของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ไม่ถือว่าสำคัญถูกโยนลงไปในถุงดำ หลังจากจัดการแล้วก็ไม่ลืมปิดคอมพิวเตอร์ เช็คความเรียบร้อยเสร็จสรรพก็พาตัวเองออกมานอกห้อง ที่นี่เป็นสำนักงานขนาดเล็กที่มีพนักงานหลักสิบ เนื่องจากไม่ใช่ธุรกิจหลักของครอบครัว กล่าวได้ว่า พวกเศรษฐีแค่เปิดเอาใจภรรยาเท่านั้น
หลังเรียนจบเธอง่วนอยู่กับการทำงานเพื่อสั่งสมประสบการณ์ ทำมาหลายปีก็ไม่ยักจะรวย ถึงได้ค้นพบความจริงว่าสถาปนิกที่รวยคือเด็กบ้านรวยที่มาเรียนสถาปัตย์ ส่วนเธอนั้นทำงานให้ตายก็ไส้แห้ง จนได้จับพลัดจับผลูมาเจอเข้ากับ เฌอพัฒน์ ซึ่งเป็นเพื่อนของรุ่นพี่ที่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน เธอดันไปต้องตาต้องใจคนรวยอย่างเขาเข้าอย่างจัง
แหม เธอก็ชอบคนรวยเสียด้วยสิ
ศึกษาดูใจกันเดือนนิดๆ ก็ตกลงคบหากับเขา ระหว่างคบกันมีสารพัดอุปสรรค แต่เพราะรักในตัวและเงินของเขา เธอจึงพยายามประคับประคองมันมาเรื่อยๆ ถึงหนึ่งปีครึ่ง ในที่สุดความพยายามก็ตอบแทนเธอด้วยแหวนเพชรราคาแพงและสินสอดที่ทำเอาคนหน้าเงินตาโตเท่าไข่ห่าน
ซ้ำอีกฝ่ายยังสนับสนุนภรรยาเช่นเธอเป็นอย่างดี บริษัทนี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะเงินลงทุนจากเขา
พัณณ์พิศเป็นเด็กที่เติบโตมาจากครอบครัวฐานะปานกลางค่อนไปทางต่ำ การเงินไม่คล่องมือเท่าไรนัก แต่ก็กัดฟันสู้หอบเงินเก็บอันน้อยนิดมาเรียนถึงกรุงเทพฯ ดีแค่ไหนที่เรียนจบ
แรกๆ เธอติดผู้ชายคนหนึ่งถึงขั้นโอนเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตให้เขาเอาไปใช้ พอไม่มีกินถึงได้รู้สัจธรรม ไม่มีผู้ชายยังอยู่ได้ แต่ไม่มีกินนี่สิ ตายจริง จึงเปลี่ยนแนวคิดจากติดผู้ชายมาเป็นให้ผู้ชายมาติด ใครให้เงินเธอก็ถือว่าคนนั้นเป็นคนดี แต่ที่ผ่านมามีดีอยู่สองคน คือพ่อ คนที่ส่งเธอเรียนจนจบ กับสามีที่สนับสนุนการเงินหลังแต่งงานอย่างไม่ขาดมือ
นึกไปถึงอดีตแล้วหันมามองปัจจุบันที่เธอไต่เต้า อันที่จริงใช้เต้าไต่ แต่จะด้วยเหตุใดก็ก้าวมายืนอยู่ตรงนี้ได้สำเร็จ เธอมีบ้าน มีรถ มีสามี มีงานทำ แต่ไม่ยักจะมีความสุขเอาเสียเลย
“อ้าว กลับแล้วเหรอพี่แพร” เสียงทักของหนึ่งในลูกน้องดังขึ้น นับว่าเป็นการปลุกให้เธอออกจากภวังค์ พร้อมกับปั้นหน้ายิ้มราวกับไม่มีเรื่องอะไรในใจ
“อื้อ นี่พี่ก็นึกว่าเรากลับกันแล้ว มันหกโมงแล้วนะ” ว่าจบก็สอดส่องสายตามองหาอีกสองคนที่เหลือ ซึ่งเป็นน้องในทีมที่เธอพอจะสนิทด้วย “ไอ้หมูทะเลกับลิปไปไหนซะแล้วล่ะ”
“กลับกันตั้งแต่ห้าโมงแล้วค่ะ”
คนฟังพยักหน้ารับ “เราก็กลับเถอะ งานของพรุ่งนี้ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้บ้าง” เมื่อรุ่นพี่ที่ควบตำแหน่งเจ้านายพูดเช่นนั้น อชิรญาจึงเก็บของใส่กระเป๋า เช็คความเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกไปจากสำนักงานพร้อมกับพัณณ์พิศ
การทำงานกับพัณณ์พิศนั้นแม้จะเป็นบริษัทเล็กๆ แต่พนักงานก็มีความสุข เพราะทำไปวันๆ บางทีพวกพนักงานยังคิดเลยว่าพัณณ์พิศว่างเกินไปจนมาเปิดบริษัทเพื่อเอาสังคม ไม่ก็แอบสืบคดีหรืออย่างไร แต่ก็อย่างว่า สามีรวยปานนั้น นอนอยู่บ้านเฉยๆ ทั้งปีทั้งชาติยังไม่อดตายเลย ถึงกระนั้นงานทุกงานที่ออกมาจากมันสมองของคนภายในบริษัทก็ถูกใจลูกค้าเสมอมา แถมยังได้เงินเดือนดีอีกด้วย
อชิรญาติดรถของเจ้านายเพื่อกลับบ้านอย่างทุกวัน เจ้านายของเธอเป็นคนเช่นนี้ เลี้ยงดูลูกน้องอย่างดี อยากลาก็ให้ลา ไม่ถามให้มากความว่าจะไปไหน ปวดประจำเดือนก็ลาได้ สวัสดิการแน่น เพราะฉะนั้นต่อให้ไล่ออกก็จะไม่ออก ออกแล้วจะหาบริษัทดีๆ แบบนี้ได้ที่ไหนอีกเล่า
“ตูหนา” เสียงเรียกของอีกฝ่ายทำให้คนอายุน้อยกว่าต้องเลิกคิ้วแล้วขานรับอย่างมีมารยาท “เปล่า ไม่มีอะไรหรอก แค่จะถามว่าหิวยัง หาอะไรกินกันไหม”
“พี่แพรไม่กลับไปกินข้าวกับพี่ฌอนเหรอคะ” เจ้าหล่อนถามกลับอย่างใสซื่อ ทว่ากลับได้รับเพียงรอยยิ้มบางๆ กลับมาเท่านั้น “แต่ถ้าพี่แพรอยากกิน ตูว่าไปกินหม่าล่ากันไหมคะ พูดแล้วก็อยาก”
พัณณ์พิศรีบพยักหน้าให้รุ่นน้อง เธอเองก็อยากทานเช่นกัน ทั้งๆ ที่เมื่อสี่วันก่อนเพิ่งไปกับเพื่อนสนิทอย่างเพียงขวัญ แต่พออชิรญาชวนก็รู้สึกอยากทานขึ้นมาดื้อๆ เธอจึงตอบตกลงอย่างไม่ลังเล อีกอย่างพักใหญ่มานี้สามีก็ไม่ค่อยว่างกลับมาทานข้าวด้วยกัน อ้างนู่นอ้างนี่ไปเรื่อย ชักแม่น้ำทั้งห้ามาให้เธอเชื่อว่าตนติดงาน แต่ก่อนใช่ว่าเธอไม่เชื่อ ก็เขาหาเงินได้เยอะเธอจึงไม่อยากค้าน อย่างไรเสียเงินที่หามาได้ก็ไหลเข้ากระเป๋าตัวเองอยู่ตลอด เรื่องนี้จึงหยวนๆ กันได้ แต่ต่อไปนี้เธอคงไม่เชื่อเหตุผลข้างๆ คูๆ ของเขาอีกแล้ว
“พี่แพรใกล้จะสามสิบหรือยังนะ”
คนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยส่ายหน้า “อีกสองปี แต่จริงๆ ไม่ถึงแล้วแหละ อีกปีกับไม่กี่เดือน ถามทำไมอะ”
“ก็พี่สะใภ้หนูเขาเพิ่งจะยี่สิบเจ็ดเอง แต่เดือนหน้าจะคลอดแล้ว เลยสงสัยว่าพี่ไม่คิดอยากมีลูกเหรอคะ ตอนนี้พี่ก็ดูมั่นคงมากเลยนะ แต่งงานมาก็ตั้งหลายเดือน น้องยังไม่มาอีกเหรอ”
เธอแค่นยิ้ม “ยังเลย แต่จริงๆ พี่ก็ยังไม่ค่อยพร้อมด้วยสิ”
อชิรญาเพียงแต่ไหวไหล่แล้วหันมาสนใจหน้าจอสมาร์ตโฟนของตน ด้านพัณณ์พิศก็ให้ความสนใจกับถนนเบื้องหน้า และบางครั้งในหัวของเธอก็เผลอนึกถึงใครบางคนที่อยู่ๆ ก็เปลี่ยนไป ข้อความที่คุยกันเริ่มไม่ค่อยหวาน การตอบก็ไม่สม่ำเสมอเหมือนเคย
เธอและสามีคุยกันน้อยลง เจอหน้ากันไม่มากเท่าเมื่อก่อน ความรักคล้ายจะจืดจางไปตามกาลเวลา
แรกๆ งานเขาก็หนักแบบนี้ แต่ไม่รู้ทำไมถึงมาเจอกันได้อย่างกับคนว่างงาน แต่ตอนนี้ทั้งชีวิตมีแต่งาน งาน และงาน ไม่รู้ว่าเอาเธอไปไว้ตรงไหน จนในที่สุดก็ได้รู้ เขาไม่ได้มีแต่งาน แค่ไม่มีเธอ และมีใครบางคนมาแทนที่เธอเข้าจนได้
น่าอายเสียจริง เกิดคนอื่นรู้เรื่องนี้ไปจะทำเช่นไร ลำพังเสียใจนั้นจัดการได้ แต่เสียหน้านี่เรื่องใหญ่เหลือเกิน
เธอสวยกว่าด้วยซ้ำ แพ้ได้อย่างไรกัน
พัณณ์พิศกลับมาถึงบ้านเกือบสามทุ่มเพราะเดินเที่ยวเล่นกับอชิรญาต่ออีกหน่อย ทว่าเมื่อมาถึงกลับไม่มีใครอยู่ภายในบ้านแม้แต่คนเดียว รู้ทั้งรู้ว่าเขาคงไม่ได้กระตือรือร้นที่จะกลับมาหากเธอโทร. หา แต่ก็ยั้งมือตัวเองไม่ทัน
รอสายอยู่นานกว่าอีกฝ่ายจะกดรับ (แพร วันนี้พี่น่าจะกลับดึก เรานอนก่อนได้เลย ไม่ต้องรอ)
“อ้อ”
(รักแพรนะ)
พัณณ์พิศกดวางสายก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียงทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อาบน้ำ เรี่ยวแรงที่มีมันหายไปไหนหมดก็ไม่อาจรู้ และไม่รู้ว่านอนมองเพดานไปนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีก็มีสายเรียกเข้าจากคนที่เธอจ้างให้ทำงานบางอย่างโทร. เข้ามา
(สวัสดีครับคุณแพร ผมส่งรูปไปให้แล้วแต่ไม่เห็นว่าคุณเปิดอ่าน เลยโทร. มาเช็คดูน่ะครับ)
“น่าจะเป็นไลน์ที่ออฟฟิศ รบกวนคุณนักสืบแอดเพื่อนจากเบอร์นี้ทีนะคะ แพรจะได้ดู”
ไม่นานก็มีรูปของสามีที่นั่งทานข้าวกับผู้หญิงคนหนึ่งถูกส่งมาให้ เป็นผู้หญิงคนเดียวกับที่เธอเห็นเมื่อตอนเย็น
หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง แต่พอคิดให้ดี ช่วงเวลาที่คบกันเขาก็มีปัญหานี้ นึกว่าจะแก้ได้แล้ว แต่ดูเหมือนการแก้สันดานไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น หลังจากระแคะระคายเธอจึงจ้างนักสืบเอกชนให้ตามดู ไม่นานก็ได้เรื่องว่าเขาคงมีผู้หญิงคนอื่นจริงๆ เธอไม่ร้องไห้สักหยด แต่ก็ไม่ได้เฉยชาจนไม่รู้สึกอะไร
ดีที่รู้ไว ไม่ถลำลึกไปมากกว่านี้ แม้ว่านี่จะลึกมากแล้วก็ตาม
พัณณ์พิศต่อสายหาแม่ของสามีซึ่งเป็นคนที่หลงใหลได้ปลื้มเธอเสียยิ่งกว่าตัวสามีเธอเสียอีก เธอน่ะได้ชื่อว่าเป็นลูกรักของอีกฝ่ายเลยก็ว่าได้
ไม่นานเสียงของหญิงวัยเกษียณก็ดังขึ้น ฟังดูอ่อนโยนเสียเหลือเกิน ชีวิตของเธอน่าอิจฉาจะตายชัก แต่งงานกับคนรวยไม่พอ แม่สามียังไม่ใช่คนใจยักษ์ใจมารอีกต่างหาก
(มีอะไรหรือเปล่าจ้ะหนูแพร)
“สวัสดีค่ะคุณแม่ พอดีหนูมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบน่ะค่ะ” เธอเกริ่น “ไม่ทราบว่าคุณแม่เองก็พอจะรู้ใช่ไหมคะว่าพี่ฌอนเป็นคนเจ้าชู้ในระดับหนึ่ง”
ปลายสายชะงักไปครู่สั้นๆ รู้สึกถึงลางไม่ดี (ตาฌอนสร้างเรื่องอะไรเหรอลูก บอกแม่มาเลย เดี๋ยวแม่จะจัดการให้)
หล่อนเลี้ยงลูกมาอย่างดี พยายามปลูกฝังสิ่งดีๆ ให้ ทว่าไม่รู้ทำไมลูกชายถึงมีนิสัยเจ้าชู้ประตูดิน เห็นว่าแต่งงานไปแล้วเลยชะล่าใจว่าเลิกนิสัยเช่นนั้นได้ แต่ดูท่าว่าจะแย่ยิ่งกว่าเดิม แต่งงานมีครอบครัวไปแล้วแท้ๆ แต่กลับทำตัวไม่รู้จักโต จึงได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอาทั้งๆ ที่อีกฝ่ายยังไม่ได้เล่าอะไรเลยสักอย่าง แต่ก็พอจะเดาได้
“ช่วงหลังมานี้มีอะไรหลายอย่างเปลี่ยนไป จนตอนนี้หนูรู้แล้วว่าเขามีคนอื่น”
(ตายจริง) ใช่ว่าหล่อนไม่เชื่อ แต่ไม่อยากให้ลูกชายต้องเตียงหักเลยพยายามพูดต่อ (หนูแน่ใจใช่ไหมลูก)
“ค่ะ เข้าโรงแรมด้วยกัน ออกพร้อมกัน ท่าทางกระหนุงกระหนิงมาก” พัณณ์พิศไม่ยอมให้ใครพูดแทรก “หนูแค่จะโทร. มาบอกคุณแม่ว่าจะขอหย่าค่ะ เพราะถ้าฟ้องหย่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต หนูไม่อยากอายชาวบ้านชาวช่องเขาน่ะค่ะ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วหนูก็ไม่ใช่คนที่ต้องมานั่งเป็นห่วงภาพลักษณ์อะไร หนูไม่ได้ผิดนี่คะ ขนาดคนที่ทำผิดมันยังไม่อายเลย”
(ใจเย็นๆ ก่อนนะหนูแพร เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่ไปหา แล้วแม่จะช่วยคุยให้ นะลูกนะ รอแม่ก่อน)
เธอยอมอ่อนข้อให้ผู้ใหญ่ แต่ใช่ว่าจะล้มเลิกเรื่องหย่า
คนสวยอย่างเธอไม่ควรต้องมานอนกอดทะเบียนสมรสมองดูสามีไประริกระรี้กับชู้ ถ้าจะได้ไป ต้องได้ไปทั้งคู่
แบบนี้มันไม่ยุติธรรม!
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆
นิยายชุด ‘เธอ...’ ที่เกี่ยวข้องกัน
➊ เธอ...ที่ไม่น่าไปหลงรัก (จัด X ผักกาด)
↬Status :: จบแล้ว
➋ เธอ...ที่ไม่โปรดปราน (โปรด X อัสมา)
↬Status :: จบแล้ว
➌ เธอ...ที่ไม่เข้าตา (เฉื่อย X ก้าน)
↬Status :: จบแล้ว
➍ เธอ...ที่ไม่คิดจะรัก (อาร์ม X ตี้)
↬Status :: จบแล้ว *มี EBOOK*
➎ เธอ...ที่ใจมิใฝ่หา (ดิน X มิ้ม)
↬Status :: จบแล้ว *มี EBOOK*
➏ เธอ...ที่ต้องสงสัยว่าจะไม่ถูกรัก (ใบ X เอื้อ)
↬Status :: จบแล้ว *มี EBOOK*
บทที่ 1 ไหลไปไม่ย้อนกลับ (1)
01/08/2024
หนังสืออื่นๆ ของ BVMEOW
ข้อมูลเพิ่มเติม