เธอ...ที่ไม่โปรดปราน

เธอ...ที่ไม่โปรดปราน

BVMEOW

5.0
ความคิดเห็น
84.3K
ชม
79
บท

เขาคิดว่าตัวเองแน่ แต่กลับเอาชนะ 'เธอ' ไม่ได้สักครั้ง

บทที่ 1 1

ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำมาในยามค่ำคืน มีใครบางคนยืนทอดสายตามองหยดน้ำด้วยความเจ็บปวด ฝนมาพร้อมกับความทรงจำอันเลวร้ายที่ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ไม่อาจลบมันออกจากจิตใจได้ ทว่ามีแต่ยิ่งตอกย้ำให้นึกถึงเรื่องราวที่ยากจะลืมเลือน แต่รวดร้าวที่จะจดจำ

หญิงสาวหันหลังกลับเนื่องด้วยไม่มีความกล้าพอที่จะขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่าห่าฝนไปได้ หล่อนกลัวเหลือเกินว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ภายในร้านอาหารที่บัดนี้มีเพียงเพื่อนพนักงานด้วยกันคอยเก็บร้านตามหน้าที่เท่านั้น ตนเป็นเพียงพนักงานเสิร์ฟอาหาร เมื่อร้านปิดจึงไม่มีหน้าที่อื่นที่ต้องทำอีก และเหนือสิ่งอื่นใดเธอเองก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานๆ หากเวลาเลิกงานมาถึง เพราะต้องไปทำงานอีกที่หนึ่ง ซึ่งตอนนี้การไปที่นั่นก็ติดอุปสรรคคือฝน

เวลาเดินหน้าไปเรื่อยๆ จวนจะถึงเวลาที่ควรออกไปจากที่แห่งนี้ได้แล้ว แต่ฝนไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตกเลย ซ้ำยังโหมกระหน่ำมากกว่าเมื่อครู่ เป็นเหตุให้เจ้าตัวเริ่มกังวลว่าอาจจะเข้างานสาย เท่าที่อีกฝ่ายยอมให้เธอได้ทำงานก็ถือว่าเมตตามากแล้ว จึงไม่อยากทำให้ใครต้องเดือดร้อน แต่เธอก็เอาชนะการฝ่าฝนไม่ได้ เพียงแค่คิด มือไม้ก็สั่น

ชีวิตเธออาจไม่ได้ดีนัก แต่มั่นใจได้ว่าไม่พร้อมจะตายไปในตอนนี้แน่ๆ

พนักงานหญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องครัวก่อนจะเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าคนที่ไม่ควรอยู่ที่นี่ ณ เวลานี้ยังนั่งอยู่ “อ้าว ยังไม่ไปที่ร้านอีกเหรออัส มันจะสองทุ่มครึ่งแล้วนะ”

คนถูกทักหันกลับไปมองตามเสียงก็เห็นว่าเป็นสุวพิชชา เนื่องจากอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอและยังพูดจาถูกคอ จึงมีสถานะต่างกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น เพราะหล่อนเป็นคนที่เธอสามารถเรียกได้เต็มปากว่าเป็นเพื่อน

อัสมาส่ายหน้าให้คนถาม ใบหน้าปนเปไปด้วยความเหนื่อยล้าและวิตก “ฝนตกหนักเกิน ไม่กล้าไป”

ได้ฟังเช่นนั้นสุวพิชชาก็ไม่ถามอะไรต่อ เพราะเข้าใจถึงเหตุผลของเพื่อนดี “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราวนไปส่งที่ร้านก็ได้ แล้วเสร็จงานก็วนกลับมาเอารถเอง โอเคไหม”

เพราะไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ หากรอให้ฝนหยุดตกก็ไม่รู้ว่าจะต้องรอไปอีกนานแค่ไหน สุดท้ายเธอจึงขึ้นรถของเพื่อนแล้วตรงไปยังร้านเหล้าซึ่งเป็นที่ทำงานช่วงกลางคืนของตน ที่นั่นอัสมามีหน้าที่เป็นนักร้อง ด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะจึงทำให้ได้งานนี้ ทว่ามันไม่ได้ดีจนสามารถเป็นนักร้องมืออาชีพได้ น่าเสียดายทีเดียว เธออยากหาเงินได้เยอะๆ และอาชีพนั้นก็น่าจะตอบโจทย์ แต่ในเมื่อเป็นได้แค่นี้หล่อนก็ไม่เกี่ยง อะไรที่ขึ้นชื่อว่างาน อัสมาทำหมด

ไม่เลือกงานไม่ยากจน...ไม่จริง เธอทำงานเจ็ดวันต่อสัปดาห์ ทำตั้งแต่เช้าจนดึกดื่น เวลาพักมีไม่ถึงห้าชั่วโมง โหมงานหนักเช่นนี้มาสี่เดือนเต็มๆ แต่ไม่เคยเฉียดคำว่ารวย อันที่จริงเธอหนีคำว่าจนไม่ได้ด้วยซ้ำ สภาพร่างกายก็ซูบผอมไปปริยายเนื่องจากไม่ค่อยมีอะไรดีๆ ตกถึงท้อง วันหนึ่งได้กินข้าวแค่หนึ่งถึงสองมื้อ บางวันเครียดจนกินอะไรไม่ลง น้ำหนักจากห้าสิบเศษๆ ในวันนั้น วันนี้เหลือแค่สี่สิบต้นๆ เธอไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนี้ แต่ชีวิตก็บีบเสียทุกทาง

อัสมาก้มมองหน้าจอมือถือที่มีข้อความจากผู้จัดการของร้าน ก่อนจะตอบไปสั้นๆ ว่าใกล้ถึงแล้ว หลังจากนั้นก็ปิดเปลือกตาลงเพื่อพักผ่อน แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่การได้พักถือเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต

“งีบไปเถอะ แต่ฝนไม่ตกทุกวันหรอก”

อัสมาไม่ได้ตอบอะไร แต่โลกก็ไม่อนุญาตให้เธอได้พักนานขนาดนั้น ให้หลังเพียงสิบนาทีก็มาถึงที่หมาย ผนวกกับใกล้ถึงเวลาเข้างาน เธอจึงตรงดิ่งไปด้านในทันทีหลังกล่าวคำขอบคุณกับเพื่อนเป็นที่เรียบร้อย นักร้องสาววัยยี่สิบหกรีบจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมให้ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นกว่าเดิมก่อนจะรีบขึ้นไปบนเวทีที่บัดนี้ทุกคนอยู่ประจำตำแหน่งกันหมดแล้ว คนเด็กกว่าก้มหัวให้สมาชิกในวงอย่างนอบน้อมและได้รับรอยยิ้มตอบกลับมา

ทุกคนล้วนรักและเอ็นดูอัสมาเหมือนน้องสาวด้วยรู้ว่าชีวิตของเธอต้องเจอกับเรื่องอะไรมาบ้าง อีกอย่างเจ้าตัวก็เป็นคนน่ารัก นิสัยดี มีหรือใครที่ได้รู้จักแล้วจะไม่รัก

“ยังคิดอยู่เลยว่าจะมาได้ไหม เพราะฝนตกหนักมาก” หนุ่มมือกลองเอ่ยถามขึ้น

“หนูติดรถวาดมาค่ะ”

“แล้วมอ’ไซค์เราล่ะ”

“อยู่ที่ร้าน เดี๋ยวเสร็จตรงนี้ค่อยกลับไปเอาค่ะ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น หนุ่มมือกลองก็อาสาที่จะพาน้องสาวนอกไส้ย้อนกลับไปที่ร้านอาหาร ด้านอัสมาที่คิดว่าจะต้องรบกวนใครสักคนอยู่แล้วจึงไม่ปฏิเสธ แต่เลือกที่จะก้มหัวพร้อมเอ่ยคำขอบคุณอย่างมีมารยาท “ขอบคุณนะคะพี่หล้า”

เพลงที่อัสมานำมาร้องก็มักจะเป็นเพลงที่ทุกๆ คนต่างคุ้นหู หลายๆ คนจึงร้องคลอไปด้วยได้ บ้างก็ร้องเพลงตามใจลูกค้า ไม่ว่าขอเพลงไหนมาก็จัดให้ไม่เคยเกี่ยง เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำตัวให้ถูกใจทุกคน เพื่อที่จะได้มีงานทำ หากลูกค้าชื่นชอบในเสียงและนิสัยใจคอของเธอ ก็จะมีลูกค้ามาที่ร้านเยอะขึ้น เธอเองก็จะได้มีงานทำไปตลอดรอดฝั่ง

ประมาณสี่ทุ่มครึ่งก็ถึงเวลาเลิกงาน อัสมาได้รับเงินจากการร้องเพลงเป็นรายวัน วันละหนึ่งพันไม่รวมทิปจากลูกค้า ส่วนทิปวันนี้ได้มาสี่ร้อย ถือว่าเป็นงานที่เงินดีมากทีเดียว น่าเสียดายที่หามาได้เท่าไรก็ไม่เคยพอกับรายจ่าย เพราะเช่นนั้นถึงหาเงินได้เยอะก็ไม่เคยตกถึงท้อง ตัวเธอถึงได้เหลือแค่นี้ บางทีลมพัดก็จะปลิวไปกับลมอยู่แล้ว

อัคภัทรไปส่งอัสมาที่ร้านอาหารอย่างที่ได้รับปากไว้ ฝนหยุดตกแล้ว หยุดไปตั้งแต่ช่วงสามทุ่ม การกลับบ้านของเธอจึงไม่มีอุปสรรคใดอีก และดีที่ร้านอาหารกับบ้านอยู่ไม่ไกลกันนักจึงใช้เวลาไม่นาน อันที่จริงเธอเลือกทำงานที่นี่เพราะระยะทาง ใช่ความชื่นชอบ แต่นาทีนี้ความชื่นชอบมาทีหลัง เธอแค่ต้องการงานเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวก็เท่านั้น

เป็นเวลาห้าทุ่มเศษๆ แต่ไฟในบ้านยังสว่างเป็นบางดวง เมื่อเปิดประตูเข้าไปในบ้านชั้นเดียวสภาพกลางเก่ากลางใหม่ก็เห็นว่าป้าติ๋มกำลังช่วยพลิกตัวให้แม่ที่นอนป่วยติดเตียงอยู่ เห็นดังนั้นเท้าของอัสมาก็ก้าวเข้าไปช่วยอย่างไม่ลังเล

“แม่ตื่นกลางดึกเหรอคะ”

ผู้มีหน้าที่ดูแลคนป่วยโดยการจ้างวานของอัสมาก็พยักหน้ารับ “มันเต็ม ป้าเพิ่งเปลี่ยนแพมเพิสให้เสร็จ ก็เลยพลิกตัวให้แก”

เธอพยักหน้ารับก่อนจะหันไปพูดคุยกับผู้เป็นแม่ แม้ว่าแม่จะไม่อาจตอบคำถามของเธอได้ มีแค่สายตาที่ทอดมองกันและกันเท่านั้น เธอคุยกับมารดาอยู่ฝ่ายเดียว ยิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง ทำทีเป็นว่าชีวิตนี้มันเต็มไปด้วยความสนุก ก่อนจะส่งแม่เข้านอนแล้วตัวเองก็เข้าไปอาบน้ำเพื่อนอนพักผ่อนหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน และเมื่อได้อยู่คนเดียว ความเครียด ความเหนื่อยและความกดดันที่ได้แบกไว้ก็พังทลายลงมาเป็นน้ำตาจนเหมือนทำนบแตก ทว่ากลับไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาเพราะเธอกลั้นไว้สุดความสามารถ

จุดเปลี่ยนของชีวิตมันเริ่มจากวันนั้น วันที่ฝนตกหนัก พ่อและแม่เดินทางกลับจากไปทำธุระที่ต่างจังหวัด แต่เพราะถนนลื่นจึงพุ่งไปชนกับรถคันอื่นจนมีผู้เสียชีวิตถึงสามคน และเจ็บสาหัสอีกหนึ่ง นั่นคือแม่ของเธอที่ปัจจุบันนอนป่วยติดเตียงอยู่ หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือพ่อของเธอ อีกสองเป็นคู่กรณี และอุบัติเหตุครั้งนี้พ่อของเธอเป็นฝ่ายผิด การสูญเสียครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก

เธอที่ทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศอยู่กรุงเทพฯ จึงต้องบึ่งกลับบ้านเกิดทันทีที่มีสายโทร. เข้าจากทางอาสากู้ภัย เธอยังจำเสียงนั้นได้เหมือนอีกฝ่ายพูดกรอกหูอยู่ทุกวัน ประโยคที่บอกกับเธอว่าได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับพ่อและแม่ และแม้จะตกใจ แต่ด้วยเป็นพี่สาวคนโตจึงต้องประคองสติแล้วนั่งรถกลับบ้าน พยายามทำใจให้นิ่งที่สุดแล้วโทร. ไปแจ้งข่าวร้ายกับน้องสาวฝาแฝดอีกสองคนที่เรียนอยู่ที่พะเยา โอนเงินค่าเดินทางให้ทั้งสองกลับมายังนครนายกเพื่อมาช่วยกันจัดการเรื่องที่เกิดขึ้น

ค่าเสียหายทุกอย่างอยู่ในความรับผิดชอบของอัสมาในวัยเพียงยี่สิบห้าย่างยี่สิบหก ทั้งฝั่งตัวเองที่ต้องจัดการเรื่องงานศพของพ่อ และดูแลแม่ที่อาการสาหัส รวมถึงฝั่งคู่กรณีที่เธอต้องรับผิดชอบทุกอย่าง หลังขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นที่เรียบร้อยก็ได้ข้อสรุปว่าต้องจ่ายให้อีกฝ่ายเดือนละสองหมื่นบาทเป็นระยะเวลาสิบปี เพราะหากให้หาเงินก้อนเป็นล้านๆ มาจ่ายทีเดียว เธอก็อับจนหนทาง ไหนยังต้องจ่ายค่าจ้างให้คนดูแลแม่ที่นอนป่วยติดเตียงอีกเดือนละหนึ่งหมื่นแปด เพราะเงินถึง เขาถึงได้ย้ายมาอยู่ในบ้านเพื่อดูแลแม่ เธอจึงได้ปลีกตัวออกไปทำงาน ไม่เช่นนั้นแล้วก็คิดไม่ออก ยังไม่รวมค่าเทอมค่ากินค่าอยู่ของน้องสาวฝาแฝด ไหนยังค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก

ชีวิตที่เจอปัญหาหนักขนาดนี้จะไม่ให้เธอเครียดก็กระไรอยู่

หลังจากร้องจนหมดน้ำตาก็สำนึกได้ว่าควรรีบอาบน้ำและรีบเข้านอน เพราะหากยังลีลาสวมบทเป็นนางเอกเอ็มวีพรุ่งนี้เธอได้เป็นหมีแพนด้าแน่นอน ทุกวันนี้สภาพก็ดูไม่ค่อยดีอยู่แล้ว อย่าได้ทำร้ายตัวเองไปมากกว่านี้เลยยายอัสมาเอ๊ย!

✿✿✿✿✿✿✿

นิยายชุด ‘เธอ...’ ที่เกี่ยวข้องกัน

➊ เธอ...ที่ไม่น่าไปหลงรัก (จัด X ผักกาด)

↬Status :: จบแล้ว

➋ เธอ...ที่ไม่โปรดปราน (โปรด X อัสมา)

↬Status :: จบแล้ว

➌ เธอ...ที่ไม่เข้าตา (เฉื่อย X ก้าน)

↬Status :: จบแล้ว

➍ เธอ...ที่ไม่คิดจะรัก (อาร์ม X ตี้)

↬Status :: จบแล้ว *มี EBOOK*

➎ เธอ...ที่ใจมิใฝ่หา (ดิน X มิ้ม)

↬Status :: จบแล้ว *มี EBOOK*

➏ เธอ...ที่ต้องสงสัยว่าจะไม่ถูกรัก (ใบ X เอื้อ)

↬Status :: จบแล้ว *มี EBOOK*

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ BVMEOW

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

Gilbert Soysal
5.0

"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ