คุณหมอร้ายหวงแหนรัก

คุณหมอร้ายหวงแหนรัก

นศามณี

5.0
ความคิดเห็น
127.9K
ชม
70
บท

"ทำไม นอนกับผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคุณถึงได้กลัวว่าผมจะทำอะไรคุณอีก ผมรุนแรงกับคุณหรือยังไง งั้นผมคงต้องรีบทำใหม่เพื่อแก้ตัว" "คุณหมอ!" เมรีญาหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับตำหนิเขาในใจที่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาอย่างหน้าไม่อาย "ว่าไง ตอบมาสิว่าผมทำให้คุณไม่ประทับใจหรอถึงต้องตั้งเงื่อนไขบ้าๆ นี้ขึ้นมา" เวทัสถามด้วยค วามโมโห ถ้าเป็นสองข้อแรกเขาพอเข้าใจและรับได้ แต่สำหรับข้อสามต่อให้เขารับปากเธอตอนนี้ในอนาคตเขารู้ตัวดีว่าคนอย่างเขาต้องผิดสัญญาแน่นอน เขาไม่มีทางห้ามใจตัวเองไม่ให้ยุ่งกับเธอได้! "ทำไมคุณมันเข้าใจอะไรยากแบบนี้ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นอีก" หญิงสาวพยายามอธิบายกับชายหนุ่มด้วยเหตุผล แม้จะรู้ดีว่าคนข้างๆ เริ่มไม่มีเหตุผลกับเธอแล้ว "ผมไม่สัญญา" เวทัสตอบกลับทันทีพร้อมกับสต๊าทรถออกจากโรงแรมด้วยความไม่พอใจ

บทที่ 1 1

“อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าที่แบบนี้ มันดีขนาดไหนกันเชียว”

หญิงสาวในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้น บ่งบอกให้รู้ว่าไม่ได้เตรียมตัวที่จะเข้าไปเที่ยวใน ‘บาร์ลับ’ ชื่อดัง ที่แม้ชื่อจะลงท้ายว่า ‘ลับ’ แต่ด้วยเอกลักษณ์ต่างๆ ของที่นี่เลยทำให้เหล่าเซเลบหรือนักรีวิวต่างพากันไปเที่ยวสังสรรค์ จนทำให้สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ ‘ความลับ’ อีกต่อไป…

‘ข้าวหอม’ เมรีญา บุญสว่าง เดินเข้าไปในบาร์ลับดังกล่าวด้วยใจที่หวาดหวั่น จริงอยู่ที่อายุอานามก็ปาเข้าไปยี่สิบห้าปีแล้ว แต่ใครจะเชื่อว่าสาวอย่างเธอไม่เคยเที่ยวสถานที่บันเทิงเลยสักครั้ง! แต่นั่นไม่ใช่เพราะว่ารังเกียจสถานที่แบบนี้หรอกนะ แต่เหตุผลหลักเป็นเพราะว่าสถานะทางบ้านไม่ดีต่างหาก ทำให้หญิงสาวไม่คิดที่จะผลาญเงินไปกับความฟุ่มเฟือยเหล่านี้ ลำพังพ่อก็มากเกินทน!

หญิงสาวอยู่ในชุดแต่งกายธรรมดา ปล่อยผมยาวสลวยน้ำตาลทองถึงกลางหลัง ใบหน้าขาวใสไร้เครื่องสำอางตบแต่งใดๆ แต่ก็ยังดูสวยเป็นธรรมชาติ ปกติแล้ว เมรีญาไม่ใช่ผู้หญิงปล่อยตัว ด้วยหน้าที่การงานที่เป็นถึงประชาสัมพันธ์ให้กับโรงแรมในเมือง ทำให้ต้องคอยดูแลเรื่องบุคลิกและภาพลักษณ์เสมอ แต่ค่ำคืนนี้ เธอมีเรื่องทุกข์ใจชนิดที่แทบไม่มีเรี่ยวแรงจะแต่งหน้าแต่งตาให้ดูดี และจุดประสงค์ที่มาบาร์ลับแห่งนี้จะเรียกว่าประชดชีวิตก็คงได้!

“มากี่ที่ครับ” การ์ดหน้าร้านเอ่ยถามหญิงสาว เมื่อเห็นว่าเธอเดินมาคนเดียวโดยไม่มีเพื่อนมาด้วย

“ฉันมาคนเดียวค่ะ” เมรีญาตอบนิ่งๆ แต่ในใจกลับหวาดหวั่น เมื่อมองเห็นหนุ่มสาวแต่ละคนที่มาเที่ยวที่นี่จัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผม จนเธอนึกอายอยากกลับไปเปลี่ยนชุดทันที

“หน้าตาสวยๆ แบบนี้มาคนเดียวระวังจะอันตรายนะครับ”

การ์ดร่างใหญ่เอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงเป็นใยแกมทีเล่นทีจริง เมรีญาเองก็ไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขั้นไม่รู้ว่านั่นเป็นเพียงการกล่าวแซวกันเท่านั้น

“เฮ้ย อย่าไปแซวลูกค้าสิ เดี๋ยวลูกค้าก็หนีหรอก ฮ่าๆ”

จังหวะนั้น การ์ดอีกคนก็เข้ามาพูดจาสมทบด้วย ยิ่งทำให้เมรีญาหวาดหวั่นหนักเข้าไปอีก ว่าตนเองทำถูกหรือไม่ที่ตัดสินใจมาเที่ยวที่นี่

“พวกพี่แค่แซวเล่นนะน้อง เชิญครับ ถ้ามีใครมาวอแวก็เรียกการ์ดได้เสมอนะ เจ้าของที่นี่ เขาเคร่งมาก ไม่อยากให้มีเรื่องลวนลามหรือทะเลาะวิวาทกันในบาร์” หนึ่งในการ์ดเหล่านั้นพูดขึ้น พอจะช่วยทำให้เมรีญาเบาใจขึ้นหน่อย

หญิงสาวตัดสินใจเดินเข้าบาร์มาอย่างกล้าๆ กลัวๆ วินาทีที่เธอได้เห็นแสงสีเสียงอย่างที่เคยเห็นในอินเทอร์เน็ต สิ่งแรกที่ผุดขึ้นในสมองคือคำว่า ‘ก็ไม่เลว’ อย่างที่เคยคิดไว้ อาจเพราะที่นี่เป็นบาร์ลับ และจากที่เคยอ่านเจอจากอินเทอร์เน็ตคือ เจ้าของที่นี่ไม่อยากให้บาร์ของตนเองเป็นที่นั่งดื่ม หรือออกแนวคล้ายผับ แต่เขาอยากให้ที่นี่เป็นเหมือนที่พักผ่อนหย่อนใจ หรือเป็นที่บรรเทาความทุกข์ให้กับลูกค้าเสียมากกว่า และใช่…เมรีญาก็เป็นหนึ่งในลูกค้าที่ต้องการมาที่นี่เพื่อคลายความทุกข์ของตัวเองเช่นกัน

หญิงสาวก้าวเข้ามาในบาร์อย่างงุนงง ด้วยความที่ไม่เคยเที่ยวทำให้ไม่รู้ว่าจะไปนั่งที่ตรงไหนได้ โต๊ะในร้านยังเหลืออีกไม่มาก ส่วนโต๊ะที่เหลือส่วนใหญ่ก็คือโต๊ะสำหรับนั่งกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ แต่เธอมาคนเดียวจึงไม่เหมาะนัก

เมรีญาหันไปมองที่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์บาร์ที่ใช้สำหรับให้บาร์เทนเดอร์ชงเครื่องดื่มให้แขก พบว่ามีที่นั่งเหลืออยู่หนึ่งที่พอดี จึงไม่รอช้ารีบเข้าไปนั่งเก้าอี้ดังกล่าว

“เอ่อ นั่งตรงนี้ไมได้นะคะ คนที่จะนั่งตรงนี้ได้ต้องจองมาก่อนค่ะ”

ไม่ทันที่ร่างบางสวยจะได้นั่งลงก็ถูกพนักงานสาวสวยของร้านเข้ามาห้ามเสียก่อน พร้อมทั้งยังมองการแต่งกายของเมรีญาอย่างประเมินอีกด้วย

“ขอโทษค่ะ”

เมรีญารู้ดีว่าเถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ และหญิงสาวเป็นคนมีมารยาทพอ หากที่ตรงนี้มีไว้สำหรับคนที่จองเข้ามา หรือต้องเป็นคนที่มีเงินหนามือ เธอเองก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปนั่งอยู่ดี

“ให้เธอนั่งเถอะคุณแพรว”

ก่อนที่เมรีญาจะเดินจากไป ทันใดนั้นก็มีเสียงราบเรียบของชายแปลกหน้าดังขึ้น ทำให้เธอต้องเหลียวหลังกลับไปมองเขาทันที

ชายหนุ่มรูปร่างสูงราวหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ผิวขาวสะอาดแบบคนเจ้าสำอาง แต่กลับดูขัดกับสายตาคมกริบที่เมื่อเผลอไปสบตาต้องรู้สึกหวาดหวั่นได้อย่างง่ายดาย จมูกคมเป็นสัน ริมฝีปากบางรับกับรูปหน้าคม สวมชุดสูทสำหรับ ‘บาร์เทนเดอร์’ ด้วยรูปร่างที่ดีจนแทบจะเหมือนนายแบบทำให้เขากลายเป็นชายหนุ่มที่ดูดีและมีเสน่ห์เหลือล้นจนเมรีญาดเผลอจ้องอย่างลืมตัว

“เอ่อ คือว่า...”

พนักงานสาวที่ชื่อ ‘แพรว’ ทำท่าทีกระอักกระอ่วน ก่อนที่บาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อคนนั้นจะยิ้มให้บางๆ ให้

“ค่ะ ได้ค่ะ” แล้วเจ้าหล่อนก็เดินกลับไปประจำจุดทำงานเดิมของตัวเอง

เมรีญาได้สติ จึงหันไปยิ้มรับให้กับบาร์เทนเดอร์หนุ่มเพื่อเป็นการขอบคุณทันที

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ นศามณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
อุบายร้ายพ่ายเสน่หา

อุบายร้ายพ่ายเสน่หา

โรแมนติก

5.0

เพราะโรงแรมและร้านขนมบุษบาพาฝัน ของเธอกำลังย่ำแย่หากไม่มีเงินไปปรับปรุงคงต้องเลิกกิจการของครอบครัวชลลัมพีจึงยัดเยียดข้อเสนอให้เธอพิจรณา เงิน 10 ล้านบาท แลกกับการแต่งงานเพียง 1 ปี แล้วจากนั้นก็ทางใครทางมัน ชลลัมพีกระหยิ่มยิ้มย่องกับแผนการของตนแต่เหตุไฉนยัยมนุษย์ป้าหน้าป่วยกลายเป็นสาวสวยเป๊ะเวอร์พร้อมกับเสน่ห์เหลือร้ายขนาดกลายเป็นที่ต้องตาของคอลัมนิสต์ชื่อดังลูกครึ่งไทย – อิตาลี่ ‘อเล็กซานโดร อบาเต้’ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นลูกชายมาเฟียมากอิทธิพลแห่งกรุงโรม อิตาลี่ ชลลัมพีจะทำยังไงเมื่อยิ่งอยู่ใกล้ใจยิ่งแกว่ง ที่ออกตัวเอาไว้แรงแต่แรกว่าเขาไม่เคยอยากเห็นขาอ่อนเธอแม้แต่น้อย เวลานี้เขาอยากจะเห็น อยากจะจับ อยากจะรวบรัด มัด บุษบาบัณ เอาไว้ที่ข้างเตียงและ อยากจะใช้สิทธ์คำว่าสามีเสียเต็มที่แล้ว

หนังสือที่คุณอาจชอบ

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

หัวใจร่วงโรย

หัวใจร่วงโรย

Evelyn Hart
5.0

ลู่หลีเคยได้รับการช่วยชีวิตจากสามีของเธอ แต่หลังจากเขาสูญเสียความทรงจำ เขากลับลืมเธอเสียสนิท สามปีหลังจากแต่งงาน เพ่ยซือหานถึงกับนอกใจต่อหน้าผู้คน ทำให้เธอรู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก ลู่หลีรู้สึกผิดหวังมาก จากนั้นก็เซ็นเอกสารหย่าทันที ตั้งแต่นั้นมา เธอได้กลับมาเป็นหญิงสาวที่มีอำนาจอีกครั้ง หมอผีที่มีชื่อเสียงโด่งดังคือเธอ ตำนานนักแข่งรถคือเธอ แฮกเกอร์ระดับโลกคือเธอ และนักออกแบบอัจฉริยะก็เป็นเธอเช่นกัน ต่อมา เพ่ยซือหานไม่เพียงแต่เสียใจจนสุดขีด แต่ยังฟื้นความทรงจำได้อีกด้วย เขาถึงกับบุกเข้าไปในงานแต่งงาน “เสี่ยวหลี ขอร้องเถอะ ให้โอกาสผมอีกครั้ง!” แต่เอวของลู่หลีถูกโอบกอดไว้โดยใครอีกคนหนึ่งที่มีอำนาจ เขาหัวเราะในลำคอว่า “ที่รัก มีคนที่กำลังเล่นกับไฟ”

กับดักรักดวงใจชีค

กับดักรักดวงใจชีค

pimchan publication
5.0

ชีคซาอิดถือจอกน้ำผึ้งหวานมานั่งที่ริมขอบเตียง เขาจะจ่อมันที่ปากของคนหลับอยู่ แต่ก็เปลี่ยนใจยกจอกนั้นมาดื่มแทนแล้วก้มลงมอบจุมพิตหวานให้หล่อน เพื่อถ่ายเทน้ำหวานเชื่อมในอุ้งปากป้อนหล่อน... ไอยวรินทร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับน้ำหวานๆ ในปาก ริมฝีปากหนาที่บดจูบอยู่บนนั้นไม่เปิดโอกาสให้หล่อนได้คลายจังหวะการหายใจ ทำให้หล่อนกลืนน้ำผึ้งหวานกลิ่นลาเวนเดอร์ลงคอ... แต่ยังไม่ทันที่หล่อนจะเคลิ้มกับรสจูบ ความรู้สึกที่รับรู้ได้ว่าหน้าอกของตัวเองกำลังถูกสัมผัสอย่างจาบจ้วงก็ทำให้หล่อนผลักเขาออกสุดกำลัง แม้ขนาดตอนที่เขาจะก้มลงมาจูบใหม่ หล่อนก็ยังสะบัดตบเขาหน้าหันถึงสองรอบ “พอมีแรงขึ้นมาก็เอาเรื่องทีเดียวนะ...” เขาคำรามใส่หล่อน “รู้ไหมว่าการที่เธอตบหน้าฉัน อาจจะทำให้เธอหัวขาดได้ง่ายๆ... อย่าเก่งกับฉันให้มาก ทำอะไรเท่าที่ควร” สิ้นคำพูดของเขา มือเล็กหากน้ำหนักมากก็ฟาดที่ปากของเขาจนเลือดซึมซิบๆ “ชอบแบบนี้ก็ไม่บอก” เขาคำราม ก่อนจะช้อนอุ้มร่างหล่อน ไม่สนว่าหล่อนจะดิ้นพล่านสักแค่ไหน เขาจับหล่อนโยนลงสระน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำอยู่เต็มแลดูใสสะอาด ไอยวรินทร์โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำแล้วร้องด่าเขาเป็นพัลวัน และก็ต้องว่ายน้ำหนีเมื่อเขากระโดดตามลงมา... พอกระโดดพ้นไปเกาะที่อีกฝั่ง มือหนาก็รั้งสะโพกหล่อนเอาไว้ได้ ทำให้ปีนขึ้นสระจากไม่ได้และตกลงมาในสระอีกครั้ง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ