Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ของเพื่อน
5.0
ความคิดเห็น
1K
ชม
21
บท

“จูบอีกครั้งเดียว ครั้งเดียวนะคะ”

บทที่ 1 ของขวัญจากแฟนเพื่อน

“พี่ซาน!”

“…”

“ไม่ตกใจเหรอคะ” ร่างเล็กเดินตรงไปทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นถนนคอนกรีตข้างมาเฟียหนุ่มที่กำลังจดจ้องไปยังเหล่าลูกน้องที่กำลังขนศพของผู้เสียชีวิตจากการปะทะกับศัตรูเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน

“มาทำไม”

“มือพี่…” ไม่สนใจคำถามของเขาเพียงแต่จับมือหนาข้างที่มีเลือดไหลออกมาจากบริเวณหลังมือที่มีบาดแผลจากการถูกของมีคมเฉือนเป็นแนวยาว

“ไม่เป็นไร” เขาบอกพลางดึงมือตัวเองกลับไป ร่างเล็กลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปยังรถตู้ของเขาค้นหาสิ่งที่ต้องการอย่างอุปกรณ์ทำแผลแล้วเดินกลับมานั่งข้างเขา

“หนูทำแผลให้”

“ทำเป็น?” แม้จะถามแบบนั้นแต่ก็ยอมยื่นมือให้แฟนเพื่อนที่กำลังหยิบอุปกรณ์สำหรับทำแผลออกมาจากกล่อง

“แค่ล้างแผลกับพันผ้าก๊อชไว้ค่อยให้พี่ไปหาหมออีกที”

“มาที่นี่ทำไม” ถามอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้รับคำตอบ

“ไม่ได้ตั้งใจมาที่นี่ แต่ตั้งใจมาหาพี่ค่ะรู้ว่าอยู่ที่นี่เลยต้องมาที่นี่”

“…”

“พี่เลย์ให้เอาของมาให้ แต่เดี๋ยวทำแผลให้เสร็จก่อนนะคะ”

“เธอไม่กลัวบ้างเหรอ”

“กลัวอะไรคะ มีพี่ทั้งคน” บอกด้วยรอยยิ้มขณะที่สายตากำลังจดจ้องอยู่กับบาดแผลของเขา

“คนตาย”

“ก็กลัว แต่ตายไปแล้วนี่คะ”

“…”

“ทำไมถึงมีบาดแผลได้ล่ะคะ แล้วมานั่งทำไมตรงนี้ทำไมไม่ไปหาหมอก่อนคะ” ถามอย่างสงสัยกับการที่เขามานั่งให้เลือดไหลอยู่ตรงนี้ทั้งที่ควรจะไปหาหมอก่อน

“เพิ่งจบเรื่องก่อนเธอจะมา”

“อ่อ พวกเขาจะมาทำร้ายพี่เหรอคะ” หันไปมองยังสนามหญ้าหน้าโกดังร้างที่มีลูกน้องของเขากำลังขนย้ายศพไปทางด้านหลังเพื่อทำการฝังศพ

“อืม”

“พอๆ กับพี่เลย์เลยนะ” เลเจนแฟนหนุ่มที่คบกันมาเกือบสามปีและกำลังจะเข้าประตูวิวาห์ในเดือนหน้า ส่วนโรซานเขาเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของเลเจนที่เธอสนิทที่สุดกว่าใคร

“อะไร”

“มีศัตรูเยอะ ต้องหนีตายอยู่บ่อยครั้ง พี่ซาน…”

“หืม?”

“เดือนหน้าหนูจะแต่งงานกับเขาแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมหนูถึงไม่ดีใจเลย กลับกันหนูรู้สึกว่าไม่อยากแต่งงานแล้ว”

“ทำไม”

“หนูอธิบายไม่ถูก หนูรักเขานะรักมากจริงๆ”

“ถ้ารักแล้วยังมีเหตุผลที่ไม่อยากแต่งงานกับมันอีกเหรอ” ถามพลางมองหน้าคนข้างกายที่รู้จักกันมาเกือบสิบปีแล้ว เพียงแต่สามปีมานี้เขาได้มารู้จักเธอใหม่ในฐานะแฟนเพื่อน

“มีสิ ถ้าหนูบอกว่าเขาไม่ใช่ความสบายใจของหนูล่ะ มันเป็นเหตุผลได้มั้ย”

“ก็คงได้ แต่เพราะอะไรมันถึงไม่ใช่ความสบายใจของเธอล่ะ”

“เขารักหนูมากเกินไป และยังมีอีกหลายๆ เรื่อง”

“มันรักเธอ แล้วไม่ดีเหรอ?”

“ก็คงดีสำหรับคนอื่น แต่ไม่ใช่สำหรับหนู” สโนว์ตอบพร้อมถอนหายใจออกมา เธอหันไปมองหน้าคนข้างกายที่กำลังจ้องเธออยู่และเขาก็ไม่ได้หลบสายตาของเธอ

“แล้วเธอสบายใจเวลาอยู่กับใครล่ะ?”

“พี่”

“หืม?”

“หนูสบายใจเวลาอยู่กับพี่”

“เธอชอบคนดุ?” หากเทียบเขากับเลเจนเขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างดุและเย็นชากับเธอ ส่วนเลเจนจะอ่อนโยนพูดจาไพเราะและให้เกียรติเธอในหลายๆ เรื่อง

“หนูไม่ชอบคนดุ และพี่ไม่ได้ดุหนูสักหน่อย” แค่เอ็ดเวลาเธอดื้อเท่านั้น แถมไม่ได้เอ็ดเหมือนเลเจนที่หากได้รับบทคนโหดจะตะคอกเธอเสียงดังเลยล่ะ

“ยังไงซะก็จะแต่งงานกับมันแล้วก็ควรจะเปิดใจคุยกันให้ดีนะ”

“พี่ซาน”

“…”

“อืม ถ้าหนูแต่งงานกับเขาแล้วพี่จะยังมาเที่ยวหาพี่เลย์กับหนูอยู่มั้ย หรือว่าจะห่างกันออกไปเลย” ถามพลางจับมือหนาข้างที่ไม่เจ็บมาวางบนหน้าตักตัวเองโดยที่มาเฟียหนุ่มก็ไม่ได้ดึงมันกลับ

“ว่างก็จะไปหา”

“อ่อ แล้วเมื่อไหร่พี่จะมีแฟนคะ?” โรซานเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของเลเจน เขามีอายุมากกว่าแฟนเธอถึงห้าปี เลเจนอายุ29ปี ส่วนโรซานนั้น34ปี และตัวเธอเพียงแค่23ปี ทว่าเธอยังไม่เคยเห็นแฟนของโรซานเลยสักคน

“ไม่รู้สิ”

“พี่เคยมีแฟนมั้ยคะ” คิดว่าเขาก็คงมีแหละ แต่อาจจะไม่ได้เปิดตัวกับใครก็ได้

“ไม่เคย”

“หนูไม่เชื่อ คนหล่อๆ แบบพี่เนี่ยน่ะเหรอไม่เคยมีแฟน”

“ในชีวิตเธอ เคยรออะไรสักอย่างมั้ย?”

“เคยสิคะ หนูเคยรอว่าสักวันหนูจะเก่งมากกว่านี้ คิกคิก~”

“…”

“แล้วพี่ล่ะคะ รออะไร?”

“รอคนคนนึง”

“ใครคะ?” ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างกับรอว่าคำตอบนั้นของเขาจะเป็นเธอไปได้ “หนูรู้จักหรือเปล่า” ถามต่อเมื่อถูกเขาจ้องหน้าด้วยแววตานิ่งๆ

“เธอไม่รู้จัก”

“อ่อ…” ความหวังลมๆ แล้งๆ เมื่อสักครู่หดหายไปในทันที สโนว์หยัดกายลุกขึ้นยืนบิดตัวก่อนจะยื่นมือไปให้โรซานที่ก็ยอมจับมือเธอลุกขึ้นยืน

“หวังอะไรอยู่เหรอ?” เขาถามเสียงราบเรียบ สายตายังไม่ละจากใบหน้าเรียวสวยที่ก่อนหน้านี้แวตาเธอเต็มไปด้วยความหวังและผิดหวังในเวลาต่อมา

“พี่รู้อยู่แล้วนี่”

“…”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Thararintr

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณหมอขอรักนะคะ

คุณหมอขอรักนะคะ

โรแมนติก

5.0

เมื่ออาจารย์หมอรูปหล่อว่าที่สามีในอนาคตกำลังจะถูกจับแต่งงาน เธอซึ่งเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงมานานจึงต้องแสดงตัว กลเม็ด หรือน้ำมันพราย เธอไม่เกี่ยง ขอเพียงแค่ให้ได้คุณหมอสุดหล่อมาเป็นสามีก็พอแล้ว “ท่อนชายถูกไถไถลไปมากับร่องชุ่ม เม็ดสวาทถูกหัวเอ็นบดขยี้หลายครั้งจนนิวารินร้องไม่เป็นภาษา และวินาทีที่รอคอยก็เดินทางมาถึง ท่อนชายพุ่งทะยานเข้ามาสุดแรง และมิดด้าม “อ๊ะ... ซี๊ดดดด” “โอ้วววว... แน่นมากนิว... แน่นที่สุด โอ้วววว” “ขยับค่ะพี่หมอ.... ขยับนะคะ นิว... นิวอยากเสร็จกับท่อนพี่หมอ... อ๊า... อา... ซี๊ดดด” “ร้อนแรงเหลือเกินคนสวยของพี่... อืมมม” บั้นเอวของวชิรวิชญ์ขยับเคลื่อนไหวแรงระรัว ครั้งแล้วครั้งเล่าที่กระแทกกระทั้นเข้าสู่โพรงหวาน จนกระทั่งสวรรค์ทั้งผืนถล่มลงมาใส่ เสียงครางเสียวซ่านของนิวารินถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอแกร่งจนเหลือแต่เสียงอู้อี้ ก่อนที่พายุสวาทจะผ่านพ้นไป

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

โรแมนติก

3.5

เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน “คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม”

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

เมืองแฟนตาซี

5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ