ชะตาลิขิต

ชะตาลิขิต

ชนกันต์ รัตนามิรา

โรแมนติก | 1  บท/วัน
4.9
ความคิดเห็น
398.1K
ชม
634
บท

การหมั้นหมายที่มีมานับศตวรรษระหว่างตระกูลหรงและตระกูลเหร่วน ทำให้เขาและเธอที่แตกต่างกันราวฟ้าและดินได้มีความผูกพันกันอย่างใกล้ชิด หรงเฮ่าชวน"เธอเป็นใคร? เเธอมีคุณสมบัติอะไรที่จะเป็นภรรยาของผม? ถ้าต้องการแต่งงานก็ให้ขุดปูทวดสองคนจากสุสานมาทำพิธีแต่งงานด้วยตนเองซะ!" เหร่วนฉิง "ต้องแต่งงานสิ ทำไมถึงไม่แต่งงานล่ะ? ตระกูลหรงมีทรัพย์สินนับหมื่นล้าน ถึงแม้จะหย่าร้างกันแล้ว ฉันก็จะได้รับทรัพย์สินสักนิดก็ยังไม่เสียเปรียบ!"

บทที่ 1 แรกพบ

ขณะที่หร่วนฉิงกำลังเอามือเท้าคางอย่างเบื่อหน่าย เธอมองเห็นหร่วนฟังผิงที่กำลังเก็บของกองโต เธอทำได้เพียงเงยหน้าขึ้นเเล้วถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

“ลูกถอนหายใจทำไม?” “ที่แม่ทำทั้งหมดก็เพื่อลูกนะ” พอพูดจบ ฟังผิงก็ค่อย ๆ เอาธูปเทียนเเละ กระดาษเงินกระดาษทองที่เตรียมไว้ใส่ลงในกระเป๋า แล้วไม่ลืมที่จะหันกลับมามองลูกสาวของเธอ

(*TN: กระดาษเงินกระดาษทอง คือแผ่นกระดาษที่นำมาเผาในพิธีไหว้บรรพบุรุษแบบจีนดั้งเดิมเป็นพิธีที่ทำในช่วงวันหยุดในโอกาสพิเศษ )

การกลับบ้านเกิดครั้งนี้ คงจะต้องค้างที่นั่นสักสองวัน หร่วนฉิงไม่อยากกลับไปพร้อมกับฟังผิง แต่เมื่อเห็นว่าแม่ของเธอเก็บของใกล้จะเสร็จแล้ว เธอก็เก็บโทรศัพท์มือถือและที่ชาร์จแบตยัดใส่ลงไปในกระเป๋าสีน้ำตาลอ่อนของเธออย่างยอมรับชะตากรรม

ในระหว่างทางที่กลับบ้านเกิด ขณะที่หร่วนฉิงมองวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างรถบัสอยู่นั้น แม่ของเธอก็พล่ามเกี่ยวกับการนัดเดทของเธอ

เนื่องจากคืนก่อนมีฝนตก จึงทำให้ถนนในหมู่บ้านค่อนข้างลื่น แม้ว่าหร่วนฉิงจะไม่ได้เต็มใจกลับมาบ้านเกิดกับแม่ แต่หลังจากที่พวกเขาลงจากรถบัส เธอก็ช่วยเเม่ถือกระเป๋าอีกมือหนึ่งก็ควงเเขนเเม่เอาไว้

“หร่วนฉิง แม่ขอโทษ ที่แม่ทำอย่างนี้ก็เพราะว่าแม่ไม่มีทางเลือก ลูกดูความรักของลูกสิ ไม่ว่าจะเป็นความรักในมหาวิทยาลัยหรือการนัทเดท มีครั้งไหนบ้างที่จบด้วยดี ลูกทำให้แม่ไม่กล้าสู้หน้าใครจริง ๆ ดูเหมือนว่าฟังผิงจะไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพูดเลย

ทุกครั้งที่ฟังผิงนึกถึงเรื่องราวความรักของลูกสาว เธอก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาทุกที มักจะมีคนนินทาลับหลังเธอเสมอ

เช่น “นั่นไง!แม่ของนางตัวซวยนั่น!”

สองปีที่ผ่านมา หร่วนฉิงมีนัดบอดอยู่หลายครั้ง เขาเคยคบกับผู้ชายดี ๆ ที่เธอใฝ่ฝันหลายคน แต่ทุกครั้งเมื่อความสัมพันธ์ของหร่วนฉิงเริ่มพัฒนาขึ้น ก็มีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับพวกเขา

มีผู้ชายสองคนประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน สองคนยางแตกกลางทาง ยังมีอีกสองคนพบว่าเป็นโรคร้ายแรงก่อนแต่งงาน

แม้ว่าความบังเอิญทำนองนี้อาจเกิดขึ้นกับคนอื่น ๆ เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าอุบัติเหตุเหล่านั้นได้เกิดขึ้นกับหร่วนฉิงเห็นจะบ่อยเกินไปจนผิดปกติ

หลังจากเห็นความโชคร้ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครกล้าที่จะเป็นแม่สื่อให้หร่วนฉิง เพราะทุกคนกลัวตัวเองจะเดือดร้อน

“แม่หยุดพูดเรื่องนี้ได้ไหมคะ? สังคมสมัยนี้ มีการนัดบอดหลาย ๆ ครั้งมันเป็นเรื่องปกติมากน่ะ บนโลกใบนี้ในทุก ๆ ชั่วโมง ทุก ๆ นาที และทุก ๆ วินาที มันสามารถเกิดอุบัติเหตุและโรคร้ายต่าง ๆ ขึ้นได้ จะมาโทษหนูอย่างนี้ไม่ได้นะคะ”

ความบังเอิญเหล่านี้ มันไม่ใช่เพราะเธอไม่มีวาสนาที่จะได้แต่งาน แต่นี่คือโชคชะตาของเธอ แต่อย่างไรก็ตาม เธอเชื่อว่าสักวันหนึ่งเธอจะเจอคนที่ใช่

ในขณะที่เหลือบมองหร่วนฉิง ฟังผิงก็คว้ากระเป๋าจากมือของเธอและพูดว่า “เด็กคนนี้นี่! ถ้าลูกไม่หาวิธีไล่ความโชคร้ายนี้ออกไป แม่ก็อาจโดนลูกสาบแช่งไปด้วยในเร็ว ๆ นี้

ขณะที่พูดอยู่นั้น พวกเขาก็เลี้ยวและมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังเก่าของพวกเขา

หร่วนฉิงยักไหล่แล้วเดินตามหลังแม่ของเธอไป เธอได้ยินเสียงรถที่ขับผ่านมา เมื่อหันมองกลับไป เธอก็เห็นรถเมย์บัคสีดำสุดหรูซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังเก่าที่อยู่ถัดจากบ้านของพวกเขาออกไป

“โอ้ พ่อหนุ่มไฮโซ รวยอะไรขนาดนี้!” “เขาขับรถหรูแบบนี้บนถนนที่เต็มไปด้วยโคลนได้ยังไง ไม่กลัวรถติดโคลนแล้วออกไม่ได้หรือไง?”

เธอบ่นงึมงำพลางมองรองเท้าที่เปื้อนโคลนของเธอ แล้วมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังเก่าของพวกเขา

หมู่บ้านเซียงหวยเป็นหมู่บ้านโบราณ มีประวัติศาสตร์มานานกว่าสามร้อยปี ที่นี่มีอาคารเก่าแก่หลายแห่งที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะวัดเก่าแก่แห่งนี้ ได้รับการทำนุบำรุงป็นอย่างดี และเต็มไปด้วยผู้แสวงบุญอยู่เสมอ ธูปเครื่องหอมสักการะภายในวัดไม่เคยดับลงจนถึงปัจจุบันนี้

“คุณเฮ่าชวน คุณรีบหน่อยได้ไหมคะ? คุณท่านรอนานแล้วค่ะ ท่านบอกว่า 9 โมงเช้า คือเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการถวายเครื่องหอม

หน้ากระจกกรอบทองแดงบานหนึ่ง ชายคนหนึ่งกำลังจัดเสื้อของเขาให้เรียบร้อย เขาขมวดคิ้วพลางมองไปที่แม่บ้านด้วยสายตาที่เย็นชา

นัยน์ตาสีเข้มของเขาคล้ายกับท้องฟ้าที่มืดมน เขากวาดสายตาที่แสนเย็นชาไปยังแม่บ้านแวบหนึ่ง ทำให้แม่บ้านหยุดพูดทันที เมื่อสบสายตากับเขา

“ผมไม่ชอบเนคไทนี้” “เอาเส้นอื่นมาให้ผม”

พอเขาพูดจบ เขาก็โยนเนคไททิ้งไป

แม่บ้านรีบทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็วโดยไม่รีรอ เขาหันกลับมาพร้อมยื่นเนคไทอีกเส้นให้เฮ่าชวน

“เข็มขัดเส้นนี้ก็ไม่เข้ากับเสื้อผ้าที่ผมใส่” “หาอันอื่นมาให้ผม” เฮ่าชวนดึงเข็มขัดหนังสีดำออกแล้วโยนทิ้งไป

แม่บ้านรีบไปคว้าเข็มขัดนั้นเอาไว้

หรงเฮ่าชวนมีนิสัยหรือสามารถเรียกอีกอย่างว่างานอดิเรกอย่างหนึ่ง ก็คือการชอบขว้างทิ้งสิ่งของ ตราบใดที่เขาไม่ชอบสิ่งนั้น

เขาจะโยนมันทิ้งทันทีโดยไม่ยั้งคิด

จนกระทั่งเลขาและผู้ช่วยของเขา ต้องแข็งแกร่งและว่องไวกันทุกคน พูดให้ดูเว่อร์ขึ้นมาหน่อยก็คือ ถ้ามีแมลงวันตัวหนึ่งกำลังบินหึ่งอยู่ พวกเขาก็สามารถจับมันได้ด้วยสองนิ้ว!

อีกด้านหนึ่งของประตู มีหญิงสง่างามคนหนึ่งที่กำลังจะรอต่อไปไม่ไหวแล้ว นั่นก็คือแม่ของเขา เธอเคาะประตูอย่างเร่งรัด เร่งให้ลูกชายของเธอรีบไป

“เฮ่าชวน” พิธีบูชาบรรพบุรุษประจำปีสำคัญกับโชคของตระกูลหรงของเราตลอดทั้งปีเลยนะ “จะประมาททำเป็นเล่นไม่ได้นะ!”

เมื่อมองตัวเองในกระจกกรอบทองแดงอีกครั้ง หรงเฮ่าชวนก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่บนโต๊ะไม้โบราณแล้วเดินไปที่ประตู

แม่บ้านถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรีบเปิดประตูให้เขา ขณะที่ฟางจิ้งห้วย แม่ของเฮ่าชวนกำลังรออยู่ข้างนอกอย่างใจจดใจจ่อ

ฟังผิงและหร่วนฉิงก้าวออกจากบ้านของพวกเขา ซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของตระกูลหรง แล้วพวกเขาก็เดินไปที่วัดเก่ากัน

ขณะที่เดินไปตามถนน ฟังผิงสอนลูกสาวเกี่ยวกับพิธีกรรมและวิธีปฏิบัติในวัดเก่า ฟังผิงเกรงว่าหร่วนฉิงจะประพรฤติไม่ถูกไม่ควรจนทำให้พระเจ้าโกรธ และทำให้เธอนั้นขึ้นคานไปตลอดชีวิต

หร่วนฉิงได้แต่กลอกตาไปมา ทุกครั้งก่อนไปวัด แม่มักจะเตือนซ้ำ ๆ ตลอดทาง

“แม่สุดที่รักของหนู เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ?” หนูเป็นลูกสาวของแม่ ไม่ใช่แม่ที่แก่ชราของแม่นะคะ “นี่แม่พูดเป็นร้อยครั้งแล้วนะ จนหนูท่องจำได้ทุกคำเลย!”

หร่วนฉิงมักชอบพูดเล่นไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่แบบนี้และฟังผิงก็ชินกับเรื่องนั้นแล้ว เธอมองลูกสาวด้วยรอยยิ้ม และช่วยจัดเสื้อผ้าของเธอให้เรียบขึ้น แล้วจึงพูดขึ้นว่า “แม่แค่อยากเตือนลูกอีกครั้ง”

ทั้งสองเข้าไปในวัดเก่า และเดินตรงเข้าไปในห้องโถงด้านหลัง มีกฎพิเศษเฉพาะผู้ที่พักอาศัยอยู่ในท้องถิ่นในหมู่บ้านเซียงหวย ซึ่งแตกต่างจากผู้ที่มาเยี่ยมชมทั่วไป

“เอาของพวกนี้ไปด้วย จำไว้ด้วยนะ เข้าห้องไปแล้วอย่ามองไปทั่ว จำทุกสิ่งที่แม่บอกลูกไว้ให้ขึ้นใจ” ฟังผิงพูดแนะนำ แล้วยื่นสิ่งของสองสามชิ้นให้หร่วนฉิง

มันเป็นประเพณีในหมู่บ้านเซียงหวย ผู้คนที่มาวัดเก่าต้องนำเครื่องบรรณาการและเทียนมาสักการะอย่างจริงใจ เพื่อให้ความปรารถนาของพวกเขาเป็นจริง

“เข้าใจแล้วค่ะ!” หร่วนฉิงรีบเดินไปที่ประตูห้องสวดมนต์ทันที ทันทีที่เธอมาถึงห้องนั้น ในที่สุดเธอก็สามารถมีช่วงเวลาของความสงบ

อีกด้านหนึ่ง...

ครอบครัวหรง เป็นครอบครัวแรกที่ร่ำรวยขึ้นในหมู่บ้านเซียงหวย จากนั้นพวกเขาก็บริจาคเงินเป็นจำนวนมากเพื่อบูรณะวัดเก่า ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับการรับรองเป็นพิเศษในหมู่บ้านเซียงหวย

ศิลาจารึกบรรพบุรุษของตระกูลหรงถูกจัดวางเคารพไว้ในห้องโถงข้างห้องสวดมนต์ ซึ่งได้รับการปกคลุมด้วยแสงของพระพุทธเจ้า

“เฮ่าชวน”ตอนนี้ลูกเป็นหัวหน้าตระกูลหรงแล้ว “ลูกควรเป็นประธานในพิธีด้วยตนเอง” จิ้งห้วยพูดอย่างอ่อนโยนพลางมองดูลูกชายที่ดูเด่นสง่าของเธอ

ตลอดชีวิตของเขา สิ่งที่เฮ่าชวนเกลียดที่สุดคือการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

แต่ไหนแต่ไรมา เขาเชื่อมั่นในตัวเองเท่านั้น

ถึงแม้ว่าเฮ่าชวนจะไม่ชอบ แต่เขาก็ยังทำตามคำแนะนำของแม่เป็นอย่างดี เฮ่าชวนได้รับการอบรมมาอย่างดี ไม่มีทางที่เขาจะแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาต่อหน้าแม่ของเขาอย่างแน่นอน เขาหยิบตะกร้าจากแม่ของเขาแล้วหันกลับไปพร้อมมุ่งหน้าไปยังห้องโถงบรรพบุรุษ

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ประธานหลี่ พอได้แล้วนะ จะง้อภรรยาก็เข้าคิวก่อน

ประธานหลี่ พอได้แล้วนะ จะง้อภรรยาก็เข้าคิวก่อน

Encore
5.0

แต่งงานซ่อนเงากับหลี่ เจวี๋เฉินมาได้สามปี เจียงวานเคยคิดว่าความรักของเธอจะทำให้หัวใจเขาอุ่นขึ้นได้ แต่สิ่งที่รอเธออยู่ กลับเป็นวันที่จู่ ๆ รักแรกของเขากลับมาจากต่างประเทศ แล้วเขาก็พูดเพียงประโยคเดียวว่า “พวกเราหย่ากันเถอะ” เจียงวานรู้ดีว่าคนที่หลี่ เจวี๋เฉินรักไม่ใช่เธอ เธอจึงกลบเก็บความรู้สึกทั้งหมดไว้ หยิบกระเป๋าแล้วเดินจากไปอย่างเด็ดขาด หลังหย่า ชีวิตของเจียงหว่านกลับพุ่งแรงราวติดปีก ทั้งงานทั้งโชคลาภหลั่งไหลไม่หยุด กลายเป็นสไตลิสต์ระดับท็อปของโลก ทั้งการงานและความรักล้วนรุ่งโรจน์ ส่วนอดีตสามีผู้มีตำแหน่ง บางคน นั้นวัน ๆ เอาแต่จ้องหน้าจอ คิดทุกวิถีทางว่าจะทำยังไงให้ได้แต่งงานกับเธออีกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตเจียงวานตอนยังเด็กกลับมาอีกครั้งหลี่ เจวี๋เฉินถึงกับอยู่เฉยไม่ไหวอีก “วานวาน แต่งงานกันอีกครั้งเถอะนะ ได้โปรด!” เจียงวานเพียงยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ“ไม่มีเวลาหรอก ไปหารักแรกของคุณเถอะ!” หลี่ เจวี๋เฉินควักแหวนออกมา คุกเข่าข้างเดียวแล้วเอ่ยว่า “ฉันไม่มีใครคนอื่นในใจ มีเพียงเธอเท่านั้น เธอคือคนที่ฉันรักมาตลอด ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นเธอ!” ตลอดสามปีที่อยู่ด้วยกันทั้งเช้าเย็น ทำให้ทั้งคู่ค่อย ๆ เกิดความรักและผูกพันต่อกัน เธอเข้าใจว่าเขายังรักแฟนเก่าอย่างสุดหัวใจ แต่เขากลับคิดว่าในใจเธอมีใครอีกคนอยู่แล้ว คนดื้อสองคนที่แอบรักกันอยู่ฝ่ายละมุม แต่กลับเข้าใจผิดเพราะมีคนอื่นเข้ามาอยู่รอบตัวจนคิดไปต่าง ๆ นานา ความรักครั้งนี้จะฝ่าหมอกแห่งความเข้าใจผิดไปจนถึงตอนจบที่งดงามได้หรือไม่?

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

เกิดใหม่อีกครากลายเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก

เกิดใหม่อีกครากลายเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก

ซีไซต์
3.5

ภารกิจสำคัญของนักเขียนที่ข้ามเวลามาเกิดใหม่ในยุคโบราณคือการเป็นผู้ช่วยมารดาหลบหนีจากบิดาไร้หัวใจ และพามารดาไปพบโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกลาเวนเดอร์อันงดงาม เมิ่งสืออีถูก ย่าและอนุของหานชางเหยียนผู้เป็นสามีรังแกจนเกือบจะต้องตายไปพร้อมกับลูก ในเวลานี้สามีที่จากไปรบที่ชายแดนกลับมาแล้ว หวังในใจว่าสามีที่กลับมาจะคอยปกป้องดูแล ทว่านางกลับได้รับความเจ็บช้ำที่มากยิ่งกว่าจนแทบทนไม่ไหวและคิดหนี กรุณาอ่านตัวอย่างก่อนกดซื้อ ซื้อหน้าเว็บถูกกว่าแอปเปิ้ลค่ะ กราบขอบพระคุณทุกท่านค่ะที่อุดหนุน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ชะตาลิขิต
1

บทที่ 1 แรกพบ

10/06/2022

2

บทที่ 2 การพบกันของเฮ่าชวนและหร่วนฉิง

10/06/2022

3

บทที่ 3 ความปรารถนาของบรรพบุรุษ

10/06/2022

4

บทที่ 4 บ้านตระกูลหรง

10/06/2022

5

บทที่ 5 เธอไม่คู่ควรที่จะแต่งงานกับเขา

10/06/2022

6

บทที่ 6 บนรถคันเดียวกัน

10/06/2022

7

บทที่ 7 เหตุบังเอิญ

10/06/2022

8

บทที่ 8 พรจากโชคร้าย

10/06/2022

9

บทที่ 9 สัญญาสองฉบับ

10/06/2022

10

บทที่ 10 แต่งก่อนหย่า

10/06/2022

11

บทที่ 11 ทำหน้าที่ภรรยา

10/06/2022

12

บทที่ 12 นัดใครไว้

10/06/2022

13

บทที่ 13 หยุดล้อเล่นสักที

10/06/2022

14

บทที่ 14 คืนที่นอนไม่หลับ

10/06/2022

15

บทที่ 15 แก้ผ้าวิ่งรอบห้าง

10/06/2022

16

บทที่ 16 ภัยของสระว่ายน้ำ

10/06/2022

17

บทที่ 17 หนุ่มหล่อ

10/06/2022

18

บทที่ 18 ภรรยาปลอม ๆ

10/06/2022

19

บทที่ 19 พบพ่อแม่สามี

10/06/2022

20

บทที่ 20 แม่สามีสุดประเสริฐ

10/06/2022

21

บทที่ 21 ครอบครัวตัวร้าย

10/06/2022

22

บทที่ 22 ความผิดพลาดของม่านโหรว

10/06/2022

23

บทที่ 23 ลักพาตัว

10/06/2022

24

บทที่ 24 แกนั่นเอง!

10/06/2022

25

บทที่ 25 แผนการช่วยเหลือ

10/06/2022

26

บทที่ 26 เขวี้ยงรองเท้า

10/06/2022

27

บทที่ 27 คุณจูบฉันทำไม

10/06/2022

28

บทที่ 28 ความสามารถของเธอ

10/06/2022

29

บทที่ 29 ฉันชอบชายหนุ่มรูปงาม

10/06/2022

30

บทที่ 30 แม่คุณหาภรรยามาให้คุณกี่คนแล้ว

10/06/2022

31

บทที่ 31 ฉันจะเซ็น

11/06/2022

32

บทที่ 32 ลูกบุญธรรม

12/06/2022

33

บทที่ 33 ตามสัญชาตญาณ

13/06/2022

34

บทที่ 34 ฉีกเสื้อผ้า

14/06/2022

35

บทที่ 35 มีลูกกับผม

15/06/2022

36

บทที่ 36 ให้เกียรติและทะนุถนอมเธอ

16/06/2022

37

บทที่ 37 อย่าลืมล็อกประตูห้องนอนของคุณ

17/06/2022

38

บทที่ 38 โรคติดต่อ

18/06/2022

39

บทที่ 39 ข่าวลือร้าย

19/06/2022

40

บทที่ 40 คำอธิบายที่น่าเชื่อ

20/06/2022