Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
4
ชม
52
บท

เขาเห็นเธอเป็นเพียงของตายไม่ว่าเขาจะไปทำอะไรที่ไหน กลับมาทีไรก็ยังคงเจอเธอเสมอ เมื่อแรกรักอะไรก็ดี แต่ทำไมตอนนี้ทุกอย่างถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ มันเพราะเขาหมดรักเธอแล้วหรือเพราะเธอเป็นเพียงของที่เขาจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ เธอเจ็บซ้ำๆ มากขนาดนี้ เธอโง่และไม่เห็นคุณค่าของตัวเองมากขนาดนี้ ควรจะพอได้แล้วใช่ไหม เธอเจ็บพอหรือยัง? เธอยังควรให้โอกาสเขาอยู่ไหม?

บทที่ 1 บทนำ

มหาลัย A [11.28 น.]

"ใครมีคำถามอะไรไหม"

"ไม่มีนะ โอเค รายงานส่งวันศุกร์หน้าก่อนเข้าคาบเรียน วันนี้เลิกเรียนได้ค่ะ"

เสียงอาจารย์สาววัยกลางคนพูดขึ้นปล่อยคาบเรียน ฉันรีบหันไปหาลลินกับโรสลินเพื่อนรักของฉันที่นั่งอยู่ด้วยกันเราทั้งสามคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง หลังจากที่เราทั้งสามคนเก็บของเรียบร้อยก็เดินออกมาหน้าห้องเรียนเพื่อจะออกไปกินข้าวแล้วกลับมาเข้าเรียนอีกหนึ่งวิชาที่เหลือ ฉันล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายข้างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาแฟนของฉัน

[วาคีน]

ตืด~ ตืด~ ตืด~

รอสายอยู่นานวาคีนก็ไม่รับ ฉันก็กดต่อสายไปใหม่เขาก็ยังไม่รับสายฉันเหมือนเดิม ฉันกับวาคีนเราคบกันมาหลายปีแล้วเราเรียนที่เดียวกันตั้งแต่อยู่ มอ.ปลาย ฉันกับเขาคบกันตั้งแต่อยู่ มอ.ห้า จนตอนนี้เราทั้งคู่ก็มาเรียนที่มหาลัยเดียวกัน เพียงแต่เรียนคนละคณะเท่านั้น

"โทรหาวาคีนเหรอ"

ลลินถามขึ้นเพราะว่านี่เป็นสิ่งที่ฉันทำทุกวันแม้ฉันกับวาคีนเราจะอยู่ด้วยกันแล้วโดยที่ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝั่งรับรู้ เวลาที่มาเรียนฉันกับวาคีนมาด้วยกันหากวันไหนพักเที่ยงตรงกันฉันก็อยากจะกินข้าวกับเขาเหมือนอย่างสมัยก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายวิ่งมารับฉันไปกินข้าวเอง

"ไม่เบื่อบ้างเหรอ ที่ต้องคอยตามอยู่ฝ่ายเดียวน่ะ"

โรสลินก็อีกคนฉันรู้นะว่าทั้งสองคนเป็นห่วงฉันมาก เพราะฉันกับวาคีนเราทะเลาะกันค่อนข้างบ่อย เขาไม่ใส่ใจฉันเหมือนเดิมเขาจะดีกับฉันแค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น เฮ้อ... ก็ฉันรักวาคีนนี่คะฉันจะทำอะไรได้ละ

"ฉันว่าแกไม่ต้องโทรแล้วละเฟิร์น"

ฉันหันไปหาเพื่อนทั้งสองคนที่พูดขึ้น พลางมองไปตามสายตาของเพื่อนทั้งสอง ในร้านข้าวขาหมูร้านหนึ่งหน้ามหาลัยฉันเห็นคนที่ฉันโทรหานั่งกินข้าวอยู่กับผู้หญิงหุ่นสวย หัวใจฉันสั่น แขนฉันสั่น ขาฉันสั่น มือยังกำโทรศัพท์มือถือเอาไว้แน่น จ้องมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่ปวดร้าว วาคีนของฉันกับผู้หญิงคนนั้นนั่งด้วยกันอย่างใกล้ชิดสนิทสนมราวกับจะสิงกันอยู่แล้ว

ฉันหายใจไม่ค่อยออก เหมือนหัวใจฉันเต้นแรงเกินกว่าจะควบคุมได้ กดโทรศัพท์หาวาคีนอีกครั้งมองดูว่าเขาจะรับสายของฉันไหม ขณะที่รอสายน้ำตาของฉันเริ่มคลอเบ้าตาสวยอย่างห้ามไม่ได้ และ...

(ฮัลโหล) เขารับสายฉัน แถมยังจ้องหน้ากับผู้หญิงคนนั้นอมยิ้มอย่างมีความสุขอยู่ด้วยทั้งๆ ที่ฉันอยู่ในสาย

"อยู่ไหนวาคีน"

(กินข้าวอยู่ มีไร) เขาตอบฉันน้ำเสียงห้วน

"เฟิร์นถามว่าอยู่ไหน"

(กูบอกว่ากินข้าวอยู่ไง มึงพูดไม่รู้เรื่องเหรอ)

ฉันเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรออกไป มันจุกอยู่ที่อกจนพูดแทบไม่ออก ฉันกดตัดสายยังจ้องมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่ร้าวราน ด้วยความที่ฉันกับเขาเรารุ่นเดียวกัน อาจจะเพราะเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนตั้งหนึ่งเทอมมันเลยทำให้เขาชินที่จะพูดกับฉันแบบนี้ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ

"ไปเถอะเฟิร์น"

ลลินเรียกสติฉันให้กลับมา ในขณะที่ฉันกำลังจะเดินไปสายตาของฉันกับวาคีนก็ประสานกันอย่างไม่ตั้งใจ เขามองฉันมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย ส่วนฉันก็น้ำตาร่วงแหมะลงมาที่พื้นถนน ฉันเดินออกมาจากจุดนั้น ไม่นานนักก็ได้ยินเสียง

ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ

เท้าหนักของใครบางคนวิ่งเข้ามาใกล้ คว้าแขนเรียวของฉันเอาไว้ด้วยน้ำหนักมือที่คุ้นเคย กลิ่นหอมที่คุ้นเคยทำให้ฉันรู้ทันทีว่าใครเป็นคนวิ่งมาคว้าแขนของฉัน

"มึงจะไปไหน"

"กินข้าวอร่อยไหมวาคีน"

ฉันถามวาคีนทั้งน้ำตา เขาก็จ้องฉันอยู่อย่างนั้นด้วยอาการเหนื่อยหอบเพราะวิ่งมา ไม่นานนักผู้หญิงคนนั้นก็เดินมายกมือขึ้นไหว้ฉัน แต่รอยยิ้มนั่นมันแปลกๆ

"สวัสดีค่ะพี่ใบเฟิร์น หนูชื่อต้นอ้อนะคะเป็น..."

"เพื่อนพี่ไม่ได้อยากรู้หรอกค่ะ ว่าน้องเป็นอะไร" โรสลินพูดแทรก

"เพราะไม่บอกก็รู้ว่าคงเป็นผู้หญิงหน้าด้าน ที่จ้องแต่จะแย่งผัวชาวบ้าน" ลลินพูดต่อ ทั้งสามคนจ้องหน้ากันนิ่งโดยที่วาคีนไม่ได้ทำอะไรเลย เขาลากฉันออกมาจากตรงนั้น พาฉันไปที่ซอยเล็กๆ ข้างมหาลัยแล้วพูดขึ้น

"เป็นอะไร"

"ทำไมวาคีนไม่รับสายเฟิร์น" ฉันถามออกไปทั้งน้ำตา เขาก็ตอบฉันกลับมาน้ำเสียงเรียบๆ

"ก็ไม่ว่าง กินข้าวอยู่"

"กับใครเหรอ"

"น้อง" น้องไหนล่ะ ตอนนี้เป็นน้อง แล้วอนาคตจะเป็นอะไรละ

"น้องงั้นเหรอ น้องไหนละ เรียนคณะไหน คณะเดียวกันรึไง"

วาคีนไม่ตอบฉัน เอาแต่ยืนนิ่งจับแขนฉันอยู่อย่างนั้น เขาชักสีหน้าเล็กน้อยราวกับรำคาญที่ฉันถามเขามากมายขนาดนี้ ก่อนจะกุมมือฉันแล้วดึงฉันเข้าไปกอด พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเหมือนเดิม

"มันไม่มีอะไร น้องมันอาสาช่วยกูทำรายงาน"

เพียงแค่ใบหน้าของฉันสัมผัสเข้าที่อกอุ่นของเขาที่ฉันคุ้นเคย ฉันก็ปล่อยหยาดน้ำตาออกมามากมายจนเปียกเสื้อเชิ้ตสีขาวของวาคีน ร่างกายของฉันราวกับไม่มีแรงเลยแม้แต่น้อย ยืนร้องไห้ที่อกอุ่นของวาคีนอยู่นานสองนานจนรู้สึกดีขึ้น

"ทำไมต้องให้เขาช่วยด้วยละ"

"ก็มันอาสา มึงอย่าคิดมากเลยมันไม่มีอะไร"

"วาคีน เฟิร์นรักวาคีนมากนะไม่รู้เหรอ" ฉันบอกวาคีนตอนที่เขาจับมือของฉันเอาไว้ แล้วเรากำลังจะเดินออกไปจากซอยเล็กๆ ตรงนี้

"กูก็รักมึง มึงไม่รู้เหรอ"

ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันก็รู้ แต่ตอนนี้ฉันไม่แน่ใจฉันมองตามแผ่นหลังกว้างของวาคีนแม้ว่ามือของเราจะจับประสานกันอยู่แน่น แต่ฉันกลับรู้สึกหนาวขึ้นมาที่หัวใจ เราใกล้กันถึงขนาดนี้ แต่ฉันเหมือนกับคนที่อยู่ห่างไกลกับเขานับพันไมล์

"หิวไหม กูพาไปกินข้าว"

"หิว แต่กินไม่ลง"

วาคีนยิ้มกว้างให้ฉัน หันมาลูบหัวฉันนิดหน่อยแล้วก้มลงหอมแก้มของฉัน เขาพาฉันเดินออกไปจากซอยเล็กๆ นี้ เลี้ยวไปทางซ้ายเดินตรงไปอีกสองซอยก็ถึงร้านข้าวต้มโต้รุ่งที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

"กินอะไร สั่งสิ"

"ไม่อยากกิน" ฉันพูดออกไป วาคีนก็ไม่ได้ว่าอะไรหยิบเอาเมนูออกมาแล้วสั่งเองทุกอย่าง รอไม่นานอาหารที่วาคีนสั่งก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ

"ยังไม่หายคิดมากอีกเหรอ กูรักมึงคนเดียวเข้าใจบ้างดิ"

"รักเฟิร์นแล้วไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นทำไม"

"กูไม่ได้คิดอะไรกับมัน กูแค่เลี้ยงข้าวที่มันช่วยกูทำรายงาน" ฉันพยักหน้าตอบรับ แต่ใจของฉันเหมือนกับมีรอยร้าวฉันไม่ได้โง่ถึงกับขนาดไม่รู้ว่าคำพูดพวกนั้นเป็นเรื่องโกหก แต่เพราะฉันรักวาคีนมากจนเกินไปฉันเลยยอมเงียบและเชื่อฟัง

"รีบกิน เดี๋ยวหมดเวลาพักกูไม่ไปส่งที่ห้องเรียนนะ"

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ นังหมูปีศาจ

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

Elsworth Underwood
5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

คำสาปรักท่านชายแวมไพร์

คำสาปรักท่านชายแวมไพร์

Minseoltang
5.0

'เจ้าเป็นว่าที่ชายาของข้า จะต้องให้บอกอีกกี่ครั้ง หรือต้องให้ข้าเสกทายาทเข้าท้องเสียก่อน’ ใครจะไปคิด ว่าการบังเอิญไปเก็บดอกไม้ที่ใครบางคนเผลอทำตกเอาไว้จะมีแวมไพร์มา 'จองรัก' จองผลาญไปตลอดกาล หากกล่าวถึงกุหลาบ หลายคนอาจนึกถึงเรื่องราวโรแมนติกประหนึ่งนิยายหวานซึ้งเพียงเท่านั้น แต่สำหรับหญิงสาวอย่าง ลินิน การได้มาพบกุหลาบดอกหนึ่งเข้าโดยบังเอิญกลับทำให้ชีวิตของเธอพลิกผันไปตลอดกาล เมื่อมันนำพาเธอไปพานพบกับเจย์เดน แวมไพร์ ที่มีอยู่มานานหลายศตวรรษ นอกจากนี้ เขายังหวงของรักมากเสียด้วยสิ แต่การมาของเขานั้นก็นำคำสาปรักมาสู่เธอด้วย

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
Move On ใจหมดรัก
1

บทที่ 1 บทนำ

05/06/2025

2

บทที่ 2 หวงก้าง

05/06/2025

3

บทที่ 3 สังเกต

05/06/2025

4

บทที่ 4 แฟนอีกคน

05/06/2025

5

บทที่ 5 รักภาษาอะไร

05/06/2025

6

บทที่ 6 ที่ของฉัน

05/06/2025

7

บทที่ 7 คนโง่

05/06/2025

8

บทที่ 8 พอดีกว่าไหม

05/06/2025

9

บทที่ 9 กลัวอะไร

05/06/2025

10

บทที่ 10 คนที่ช่วยได้

05/06/2025

11

บทที่ 11 เกม

05/06/2025

12

บทที่ 12 เผื่อมึงลืม

05/06/2025

13

บทที่ 13 ไม่มากเท่าเดิม NC+++

05/06/2025

14

บทที่ 14 เหนื่อย

05/06/2025

15

บทที่ 15 ทำไมทำอย่างนี้

05/06/2025

16

บทที่ 16 กูไม่เลิก

05/06/2025

17

บทที่ 17 ใจอ่อน

05/06/2025

18

บทที่ 18 ใจอ่อน

05/06/2025

19

บทที่ 19 ไปโดนอะไรมาคะ

05/06/2025

20

บทที่ 20 เนื้อของกู

05/06/2025

21

บทที่ 21 เจ็บก็จำ

05/06/2025

22

บทที่ 22 อย่าดื้อกับกู [NC+++]

05/06/2025

23

บทที่ 23 อยู่คนเดียว

05/06/2025

24

บทที่ 24 กูขอ

05/06/2025

25

บทที่ 25 ฝันดีเหลือเกิน

05/06/2025

26

บทที่ 26 โง่

05/06/2025

27

บทที่ 27 แอบเสียดาย

05/06/2025

28

บทที่ 28 เช็ก [NC+++]

05/06/2025

29

บทที่ 29 ความสัมพันธ์ดีขึ้น

05/06/2025

30

บทที่ 30 ถลำ

05/06/2025

31

บทที่ 31 เบอร์ที่ไม่รู้จัก

05/06/2025

32

บทที่ 32 รู้ตัวเมื่อเกือบสาย

05/06/2025

33

บทที่ 33 เคลียร์

05/06/2025

34

บทที่ 34 หมดแล้ว

05/06/2025

35

บทที่ 35 พัง

05/06/2025

36

บทที่ 36 ผู้ชายก็ร้องได้

05/06/2025

37

บทที่ 37 แตกละเอียด

05/06/2025

38

บทที่ 38 แผลสด

05/06/2025

39

บทที่ 39 คนที่ดีกับคนที่รักมันต่างกัน

05/06/2025

40

บทที่ 40 Move On เร็ว

05/06/2025