ห้าปีเต็มที่ฉันสวมบทบาทแฟนสาวที่สมบูรณ์แบบ ฉันยืนหยัดเคียงข้างอคินในวันที่ครอบครัวของเขาล้มละลาย ช่วยเขาสร้างอาณาจักรเทคโนโลยีขึ้นมาจากศูนย์ ฉันเคยคิดว่าความรักของเราคือของจริง แต่คืนหนึ่ง ฉันได้ยินเขาครางชื่อผู้หญิงคนอื่นออกมาตอนละเมอ...แอน...แฟนเก่าที่ทิ้งเขาไปทันทีที่เงินหมด ฉันตระหนักได้อย่างชัดเจนจนน่าใจหายว่าฉันไม่ใช่คนที่เขารัก ฉันเป็นแค่คนคั่นเวลา ความโหดร้ายค่อยๆ กัดกินใจฉันช้าๆ จนกลายเป็นไฟนรกที่แผดเผา ตอนที่โคมไฟระย้าตกลงมาในงานเลี้ยง เขาพุ่งเข้าไปช่วยเธอตามสัญชาตญาณ ทิ้งให้ฉันเกือบโดนทับจนแหลกละเอียด เขาทิ้งฉันที่เลือดอาบอยู่ข้างถนนหลังรถชน เพื่อไปปลอบใจเธอ เขาเลือกเธอ ทุกครั้ง...ทุกครั้งจริงๆ เขาบอกว่ารักฉัน แต่การกระทำของเขากู่ร้องว่าฉันเป็นแค่ของตายที่ไม่มีค่า ความรักของเขาไม่ใช่บ้าน แต่เป็นกรงที่สร้างจากคำโกหกอันแสนสบาย หลังจากที่เขาทิ้งฉันไว้บนเรือยอชต์เพื่อไปช่วยแอนจากเรื่องดราม่าที่เธอจัดฉากขึ้นเอง ในที่สุดฉันก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ดังนั้นเมื่อน้องสาวของเขาอ้อนวอนให้ฉันช่วยเธอหนีจากการแต่งงานคลุมถุงชนกับอสูรกายอัปลักษณ์ที่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ฉันจึงมองเห็นทางหนีของตัวเอง ฉันส่งข้อความกลับไปหาเธอ "ไม่ต้องห่วง ฉันจะแต่งงานกับเขาเอง"
ห้าปีเต็มที่ฉันสวมบทบาทแฟนสาวที่สมบูรณ์แบบ ฉันยืนหยัดเคียงข้างอคินในวันที่ครอบครัวของเขาล้มละลาย ช่วยเขาสร้างอาณาจักรเทคโนโลยีขึ้นมาจากศูนย์ ฉันเคยคิดว่าความรักของเราคือของจริง
แต่คืนหนึ่ง ฉันได้ยินเขาครางชื่อผู้หญิงคนอื่นออกมาตอนละเมอ...แอน...แฟนเก่าที่ทิ้งเขาไปทันทีที่เงินหมด ฉันตระหนักได้อย่างชัดเจนจนน่าใจหายว่าฉันไม่ใช่คนที่เขารัก ฉันเป็นแค่คนคั่นเวลา
ความโหดร้ายค่อยๆ กัดกินใจฉันช้าๆ จนกลายเป็นไฟนรกที่แผดเผา ตอนที่โคมไฟระย้าตกลงมาในงานเลี้ยง เขาพุ่งเข้าไปช่วยเธอตามสัญชาตญาณ ทิ้งให้ฉันเกือบโดนทับจนแหลกละเอียด เขาทิ้งฉันที่เลือดอาบอยู่ข้างถนนหลังรถชน เพื่อไปปลอบใจเธอ
เขาเลือกเธอ ทุกครั้ง...ทุกครั้งจริงๆ เขาบอกว่ารักฉัน แต่การกระทำของเขากู่ร้องว่าฉันเป็นแค่ของตายที่ไม่มีค่า ความรักของเขาไม่ใช่บ้าน แต่เป็นกรงที่สร้างจากคำโกหกอันแสนสบาย
หลังจากที่เขาทิ้งฉันไว้บนเรือยอชต์เพื่อไปช่วยแอนจากเรื่องดราม่าที่เธอจัดฉากขึ้นเอง ในที่สุดฉันก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ดังนั้นเมื่อน้องสาวของเขาอ้อนวอนให้ฉันช่วยเธอหนีจากการแต่งงานคลุมถุงชนกับอสูรกายอัปลักษณ์ที่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ฉันจึงมองเห็นทางหนีของตัวเอง ฉันส่งข้อความกลับไปหาเธอ "ไม่ต้องห่วง ฉันจะแต่งงานกับเขาเอง"
บทที่ 1
สัญญาณแรกคืออาการสะดุ้งเฮือกของอคินที่นอนอยู่ข้างๆ
ฉันชะงัก มือที่วางอยู่บนแผ่นหลังของเขาหยุดนิ่ง "คุณเป็นอะไรรึเปล่า เป็นไข้เหรอ"
ผิวของเขาชื้นเหงื่อ แต่ก็ไม่ได้ตัวร้อน เขาแค่...เกร็ง กล้ามเนื้อทุกมัดในร่างกายของเขาขดแน่น เราคบกันมาห้าปี อยู่ด้วยกันมาสามปี ฉันรู้จักแผ่นหลังของเขาทุกตารางนิ้ว รู้จักทุกลมหายใจที่เปลี่ยนไปของเขา แต่นี่มันต่างออกไป
"ผมไม่เป็นไร" เขาพึมพำ เสียงแหบพร่า เขาไม่หันมามองฉัน "แค่เหนื่อยน่ะ ที่ออฟฟิศงานหนักมาทั้งอาทิตย์"
ฉันพยายามนวดคลึงไหล่ที่ตึงเครียดของเขา นิ้วมือไล่ไปตามปมกล้ามเนื้อ "เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้นะ หรือจะรับยาแก้ปวดหน่อยไหม" ในหัวฉันคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆ ความกดดันจากบริษัทของเขา วรโชติเทค มันมหาศาลมาก เขาพลิกฟื้นชื่อเสียงของตระกูลขึ้นมาจากเถ้าถ่านของเรื่องอื้อฉาวทางการเงินด้วยตัวคนเดียว สร้างอาณาจักรขึ้นมาจากความว่างเปล่า เขาแบกรับน้ำหนักของทุกอย่างไว้คนเดียว
"ไม่ พาย ไม่ต้อง" เขาพูดน้ำเสียงอ่อนโยนแต่หนักแน่น เขาขยับตัวหนีจากสัมผัสของฉัน "แค่...ให้ผมนอนเถอะ"
เขาหันหลังให้ฉันอย่างสมบูรณ์ ดึงผ้าห่มขึ้นมาจนถึงคาง ระยะห่างที่เขาสร้างขึ้นมันดูกว้างกว่าที่นอนไม่กี่นิ้วระหว่างเรา ฉันนอนนิ่งอยู่ในความมืด ฟังเสียงลมหายใจของเขาที่หอบกระเส่าเกินกว่าจะเรียกว่าหลับได้ ความรู้สึกเย็นเยียบก่อตัวขึ้นในท้องของฉัน มีบางอย่างผิดปกติ
ฉันรออยู่หนึ่งชั่วโมงก่อนจะค่อยๆ ลุกจากเตียง ฉันต้องทำข้อเสนอโปรเจกต์ออกแบบกราฟิกให้ลูกค้าให้เสร็จ และความอึดอัดในห้องนี้ก็ทำให้ข่มตาหลับไม่ลง ฉันเดินเท้าเปล่าออกไปที่ห้องนั่งเล่น หยิบแล็ปท็อปออกจากกระเป๋า แล้วนั่งลงบนโซฟา ฉันเพิ่งจะเริ่มทำงานได้ไม่นานก็นึกขึ้นได้ว่าลืมปากกาแท่งโปรดไว้ในห้องนอน
ฉันย่องกลับไปที่ประตูห้องนอนแล้วก็ต้องหยุดชะงัก
มีเสียงดังออกมาจากห้องนอน เสียงครางทุ้มต่ำในลำคอ มันไม่ใช่เสียงของความเจ็บปวด แต่มันเป็นอย่างอื่น...บางอย่างที่เป็นส่วนตัวมากๆ
หัวใจฉันเต้นรัวเหมือนจะทะลุออกมาจากอก ฉันตัวแข็งทื่อ ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของโถงทางเดิน
แล้วเขาก็เอ่ยชื่อเธอออกมา
"แอน"
ชื่อนั้นเหมือนภูตผี เป็นเสียงกระซิบจากอดีตที่ฉันคิดว่าเราฝังมันไปแล้ว แอน มหานที แฟนเก่าของเขา ไฮโซสาวหลงตัวเองที่ทิ้งเขาไปทันทีที่สมบัติของตระกูลเขาระเหยหายไป ผู้หญิงที่ตอนนี้จู่ๆ ก็กลับมาอยู่ในกรุงเทพฯ ใบหน้าของเธอปรากฏอยู่เต็มเว็บซุบซิบหลังจากที่อคินกลับมาเป็นเจ้าพ่อวงการเทคโนโลยีอีกครั้ง
ฉันโน้มตัวไปข้างหน้า ตัวสั่นเทา แอบมองผ่านช่องประตูที่แง้มอยู่
แสงจันทร์สาดเป็นลำพาดผ่านเตียง อคินนอนหงาย ตาทั้งสองข้างปิดสนิท มือข้างหนึ่งขยับอยู่ใต้ผ้าห่ม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างสิ้นหวัง เป็นสีหน้าที่ฉันไม่เคยเห็นจากเขาสักครั้ง ไม่เคยเลย
"แอน" เขาพร่ำเรียกอีกครั้ง เสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยความต้องการที่ดิบเถื่อนและทรมาน "ได้โปรด..."
เสียงนั้นฉีกกระชากหัวใจฉัน มันคือการทรยศ เขาอยู่ในเตียงของเรา เตียงที่เรานอนด้วยกัน และเขากำลังจินตนาการถึงผู้หญิงคนอื่น ไม่ใช่แค่ผู้หญิงคนไหนก็ได้ แต่เป็นเธอคนนั้น
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในทุกช่วงเวลาที่เราใกล้ชิดกัน เขาไม่เคยแสดงความคลั่งไคล้ที่ร้อนแรงจนแทบจะกลืนกินทุกอย่างแบบนี้ออกมาเลย กับฉัน มันอบอุ่น สบายๆ และมั่นคง เขาเป็นแฟนที่สมบูรณ์แบบเมื่อมองจากภายนอก เอาใจใส่ ใจกว้าง เป็นผู้ชายที่สร้างตำนานของตระกูลขึ้นมาใหม่ แต่สิ่งนี้...นี่มันคือความหลงใหล นี่มันคืออาการป่วย
และฉันก็เห็นภาพชัดเจนจนน่าสยดสยองว่าฉันไม่ใช่คนที่เขารัก ฉันเป็นแค่ความสบายใจของเขา เป็นพื้นดินที่มั่นคงให้เขายืน ในขณะที่ใจโหยหาพายุ ฉันเป็นแค่ตัวแทน
ความเย็นเฉียบในท้องของฉันแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัว เป็นน้ำแข็งที่ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาเกาะกินลึกถึงกระดูก ฉันรู้สึกว่างเปล่า เหมือนเป็นแค่คนดูที่กำลังมองชีวิตตัวเองพังทลายลง
เสียงโทรศัพท์ของเขาที่หัวเตียงดังลั่นขึ้นมาทำลายความเงียบ
ตาของอคินเบิกโพลง เขารีบคว้าโทรศัพท์ เสียงยังคงงัวเงียแต่ก็ตื่นตัวทันทีเมื่อเห็นชื่อที่โทรเข้ามา "กรเหรอ มีอะไร"
กรคือหุ้นส่วนธุรกิจและเพื่อนสนิทที่สุดของเขา เขายังเป็นคนเดียวที่กล้าพูดตรงๆ กับอคิน
"แกบ้าไปแล้วรึไง" เสียงของกรแหลมคมลอดผ่านโทรศัพท์ "ฉันเพิ่งเห็นโพสต์ล่าสุดของแอน เธอนั่งอยู่ที่คลับใหม่ในเมือง บอกใครต่อใครว่าแกยังหลงเธอหัวปักหัวปำอยู่เลย"
อคินลุกขึ้นนั่ง เอามือเสยผม "มันไม่ใช่อย่างนั้น"
"ไม่ใช่เหรอ" กรสวนกลับ "แกทำให้อับอายขายขี้หน้ากลางงานกาลาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว วิ่งตามแอนไปตอนที่เธอ 'สะดุดล้ม' แกทิ้งพายยืนอยู่คนเดียวบนเรือยอชต์ตอนที่เครื่องยนต์ไฟไหม้ เพราะแกต้องไปดูให้แน่ใจว่าแอนปลอดภัยก่อน แล้วนี่ยังไงอีก อคิน แกกำลังทำบ้าอะไรอยู่"
ฉันหลับตาแน่น ไฟไหม้บนเรือยอชต์ เขาบอกฉันว่าเขาแค่ไปดูให้แน่ใจว่าทุกคนลงจากเรืออย่างปลอดภัย โกหก ทุกอย่างมันเกี่ยวกับแอนมาตลอด
"แอน...ซับซ้อน" อคินพูด เสียงเบาลง "ผมเป็นหนี้เธอ"
"แกไม่ได้เป็นหนี้อะไรเธอทั้งนั้น! เธอทิ้งแกไปพร้อมกับหนี้สินและหัวใจที่แตกสลาย พายต่างหากที่อยู่ข้างแก พายช่วยแกสร้างทุกอย่างขึ้นมาใหม่ เธอรักแกนะ ไอ้โง่"
ความเงียบโรยตัวลงมาเนิ่นนาน ฉันกลั้นหายใจ อนาคตทั้งชีวิตของฉันแขวนอยู่บนคำพูดต่อไปของเขา
"ฉันรู้" ในที่สุดอคินก็พูดออกมา สองคำนั้นช่างไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ "พายเป็นคนดี เธอใจดี เธอเป็นคนมั่นคง"
"แต่แกไม่ได้รักเธอ" กรพูดอย่างชัดเจน น้ำเสียงเรียบเฉยเต็มไปด้วยความผิดหวัง
"ฉันรักเธอไม่ได้" อคินยอมรับ เสียงสั่นเครือ "กับแอน...มันคือทุกอย่าง มันเกือบจะทำลายฉัน ฉันกลับไปเป็นแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว ฉันจะไม่ยอม พาย...พายปลอดภัยกว่า มันดีกว่าที่เป็นแบบนี้"
"งั้นแกก็แค่หลอกใช้เธอเหรอ แค่หาที่ลงหลักปักฐานงั้นเหรอ มันโหดร้ายนะอคิน เธอสมควรได้รับอะไรที่ดีกว่าการเป็นแค่คนคั่นเวลาของแก"
"มันไม่ใช่อย่างนั้น" อคินยืนกราน แต่เสียงของเขาขาดความมั่นใจ
"มันเป็นอย่างนั้นเป๊ะเลย" กรพูด "แกกำลังจะเสียเธอไป และเมื่อถึงวันนั้น แกจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต"
"เธอไม่ไปไหนหรอก" อคินพูดด้วยความมั่นใจที่น่าขนลุก "เธอรักฉัน" เขาหยุดไปชั่วครู่ "ถึงเธอจะไป มันก็คงจะดีที่สุด ฉันให้ในสิ่งที่เธอต้องการไม่ได้"
สายถูกตัดไปแล้ว
ฉันถอยห่างจากประตู การเคลื่อนไหวของฉันเงียบเชียบและไร้ชีวิตชีวา ฉันเดินโซซัดโซเซไปที่ห้องนั่งเล่น แสงไฟจากเมืองนอกหน้าต่างบานใหญ่พร่ามัวจนกลายเป็นภาพเลอะเลือนที่ไร้ความหมาย
เขาจะไม่สนใจถ้าฉันจากไป
เขากำลังรอให้มันเกิดขึ้น
เขาบอกว่าฉันปลอดภัย เป็นท่าเรือที่ปลอดภัย แต่ท่าเรือเป็นแค่ที่พักของเรือ ก่อนที่มันจะออกเดินทางไปยังที่ที่มันอยากไปจริงๆ
ฉันทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พิงกระจกหน้าต่างที่เย็นเฉียบ ความทรงจำหลั่งไหลเข้ามาเหมือนกระแสน้ำเชี่ยว เป็นคำโกหกที่ถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตซึ่งฉันเข้าใจผิดว่ามันคือชีวิต การพบกันครั้งแรกของเราคืองานปาร์ตี้ที่มหาวิทยาลัย ฉันเป็นแค่นักศึกษาออกแบบกราฟิกเงียบๆ ที่ถูกชะเอม น้องสาวของอคินซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของฉันลากมาด้วย อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นเบียร์ราคาถูกและน้ำหอม
แล้วเขาก็เดินเข้ามา
อคิน วรโชติ ไม่ใช่แค่หล่อ แต่เขามีแรงดึงดูดมหาศาล เขามีวิธีที่ทำให้ทุกอย่างรอบตัวจางหายไปเมื่อเขายืนอยู่ในห้อง เขาสวมแค่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์ธรรมดา แต่กลับดูมั่นใจในตัวเองจนทุกสายตาต้องจับจ้อง
ฉันตกหลุมรักเขาในทันที อย่างหมดหวัง
"นั่นพี่ชายฉันเอง" ชะเอมกระซิบ พลางกลอกตา "อย่าจ้องมากนักสิ เขาไม่ชอบ"
เขาเป็นตำนานของมหาวิทยาลัย ฉลาด มุ่งมั่น และเย็นชาอย่างน่าประหลาด สาวๆ ต่างพากันทอดสะพานให้เขา แต่เขาก็ปฏิเสธทุกคนด้วยความสุภาพแต่เย็นชาจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ฉันเป็นแค่คนหนึ่งในฝูงชน พอใจที่จะชื่นชมเขาอยู่ห่างๆ สมุดสเก็ตช์ของฉันเต็มไปด้วยภาพวาดของเขาที่ฉันแอบวาดไว้
แล้วแอน มหานที ก็ปรากฏตัวขึ้น
เธอคือทุกอย่างที่ฉันไม่ใช่ เสียงดัง ฉูดฉาด และรุกเขาอย่างไม่ลดละ เธอตามจีบเขาอยู่หลายเดือน เป็นเหมือนพลังธรรมชาติที่สดใสและเรียกร้องความสนใจ และน่าตกใจที่ในที่สุดอคิน เจ้าชายผู้ไม่เคยชายตามองใคร ก็ยอมใจอ่อน
เขาไม่ใช่แค่คบกับเธอ แต่เขาบูชาเธอ
ฉันเคยเห็นพวกเขาสองคนเดินตัดผ่านลานกลางมหาวิทยาลัย เขากำลังหัวเราะ เป็นเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างที่ฉันไม่เคยได้ยินจากเขามาก่อน เขายกตัวเธอขึ้น หมุนเธอไปรอบๆ ราวกับว่าเธอคือศูนย์กลางจักรวาลของเขา เขาซื้อรถให้เธอเป็นของขวัญวันเกิด จ่ายค่าเทอมให้เธอ และถึงกับไปมีเรื่องชกต่อยกับผู้ชายที่พูดจาดูถูกเธอที่บาร์ เขาเหมือนคนถูกความรักเข้าสิง
ส่วนฉันก็ถูกความริษยาที่แผดเผาเข้าสิงอย่างเงียบๆ
แล้วทรัพย์สมบัติของตระกูลวรโชติก็ล่มสลาย พ่อของเขาถูกจับในคดีฉ้อโกงครั้งใหญ่ และพวกเขาก็สูญเสียทุกอย่างในชั่วข้ามคืน
วันที่ข่าวออก แอนก็เก็บกระเป๋า เธอพูดกับเขาว่าเธออยู่กับ "ไอ้คนหมดตัว" ไม่ได้ แล้วก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
อคินแตกสลาย เขาดร็อปเรียน ขังตัวเองอยู่ในอพาร์ตเมนต์เล็กๆ และไม่ยอมเจอใคร ชะเอมร้อนใจมาก เธอขอร้องให้ฉันไปดูเขาหน่อย เอาอาหารไปให้ แค่ไปดูให้แน่ใจว่าเขายังมีชีวิตอยู่
ฉันก็เลยทำอย่างนั้น เป็นเวลาหลายสัปดาห์ที่ฉันเอาอาหารไปวางไว้หน้าประตูห้องเขา สอดโน้ตให้กำลังใจไว้ใต้ประตู ฉันแค่...อยู่ตรงนั้น
วันหนึ่ง ในที่สุดเขาก็ยอมเปิดประตู เขาดูซูบผอม ดวงตาโบ๋ลึก เขามองฉันนิ่งอยู่นาน
"เธอยังอยู่อีกเหรอ" เขาถาม เสียงแหบแห้งเพราะไม่ได้ใช้งาน
ฉันพยักหน้า พูดอะไรไม่ออก
"ทำไม"
ฉันแค่มองเขา ความรักที่ฉันแอบซ่อนไว้มานานหลายปีฉายชัดอยู่บนใบหน้า
เขาถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยล้า "เธอชอบฉันเหรอ พาย"
ฉันพยักหน้าอีกครั้ง
"ก็ได้" เขาพูด พลางหลีกทางให้ฉันเข้าไป "มาคบกัน บางทีเธออาจจะช่วยให้ฉันลืมเธอได้"
ฉันรู้ดีตั้งแต่ตอนนั้นว่าฉันเป็นแค่ตัวแทน เป็นเครื่องมือในการฟื้นฟูจิตใจของเขา แต่ฉันรักเขามากจนไม่สนใจ ฉันคิดว่าความทุ่มเทของฉันจะเยียวยาเขาได้ ฉันคิดว่าความรักที่เงียบสงบและมั่นคงของฉันจะสามารถแทนที่ความรักที่ดังสนั่นและทำลายล้างของเธอได้ในที่สุด
เป็นเวลาห้าปีที่ฉันเชื่อว่ามันได้ผล ฉันสนับสนุนเขาในขณะที่เขาทำงานสามอย่าง จ่ายบิลต่างๆ และช่วยเขาเปิดบริษัทเทคสตาร์ทอัพเล็กๆ แห่งแรก เมื่อวรโชติเทคประสบความสำเร็จในที่สุด เขาก็กลายเป็นคนที่เขาควรจะเป็นมาโดยตลอด ทรงพลัง ประสบความสำเร็จ และฉลาดหลักแหลม เขาทุ่มของขวัญให้ฉัน พาฉันไปเที่ยวพักผ่อนหรูหรา และบอกกับคนทั้งโลกว่าฉันคือผู้หญิงที่ช่วยชีวิตเขาไว้
เขาเป็นแฟนที่สมบูรณ์แบบ เขาใจดี เขาเป็นพี่ชายของเพื่อนสนิทฉัน เขาคือรักแรกและรักเดียวในชีวิตของฉัน
ฉันคิดว่าฉันชนะแล้ว ฉันคิดว่าฉันได้เยียวยาหัวใจของเขาแล้ว
แต่ฉันไม่ได้เยียวยามัน ฉันแค่เอาผ้าพันแผลไปปิดบาดแผลที่ยังคงเน่าเฟะอยู่ข้างใต้ และทันทีที่แอนกลับมาในเมืองอีกครั้งในฐานะคนรวยและประสบความสำเร็จ เธอก็ฉีกผ้าพันแผลนั่นออกทันที
เขาเริ่มทำตัวแปลกๆ เขายกเลิกนัดของเราในนาทีสุดท้าย เขาจะเล่นโทรศัพท์แล้วยิ้มให้กับข้อความ และฉันก็จะเห็นชื่อเธอแวบขึ้นมาบนหน้าจอ เขาเริ่มไปงานปาร์ตี้ที่เขารู้ว่าเธอจะไป ทั้งๆ ที่บอกฉันว่าเขามีประชุมดึก
งานประมูลคืองานแรกที่รอยร้าวปรากฏต่อหน้าสาธารณชน เขาได้รับเกียรติในงานกาลาการกุศล และเขาได้ "บริจาค" การใช้เวลาหนึ่งคืนกับแอนเพื่อการประมูล เป็นเกมแห่งอำนาจและการแก้แค้นที่ป่วยและบิดเบี้ยว เขาต้องการแสดงให้เธอเห็นว่าตอนนี้เขาคือผู้ควบคุม คือคนที่มีเงิน แต่ขณะที่เขายืนอยู่บนเวที มองดูผู้ชายหลายคนประมูลตัวเธอ ดวงตาของเขาไม่ได้ฉายแววแห่งชัยชนะ แต่เป็นความปรารถนาที่คุ้นเคยและสิ้นหวัง เขายังคงหลงใหลเธออยู่
ตอนนี้ ขณะที่นั่งอยู่บนพื้นเย็นๆ ในอพาร์ตเมนต์ของเรา ชิ้นส่วนต่างๆ ในชีวิตของฉันก็เข้ามาประกอบกันเป็นภาพที่ชัดเจนจนทนไม่ได้
ความใจดีทั้งหมดของเขา ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ทั้งหมดของเขา มันคือการแสดง มันคือคำโกหกที่เขาบอกตัวเอง และคำโกหกที่เขาบอกฉัน เขาไม่ได้พยายามจะทำร้ายฉัน ในความคิดของเขา เขาทำดีกับฉัน แต่ "ความดี" ในแบบของเขาคือกรงที่สร้างจากความสบายและความมั่นคง ออกแบบมาเพื่อกันไม่ให้ฉันจากไป ในขณะที่หัวใจของเขายังคงถูกล่ามโซ่ไว้กับผู้หญิงอีกคน
เขาไม่เคยรักฉัน เขารักภาพลักษณ์ของฉัน เขารักที่ฉันเป็นคนง่ายๆ ที่ฉันซื่อสัตย์ ที่ฉันไม่ใช่แอน
ฉันเป็นแค่ภูตผี เป็นคนคั่นเวลาสำหรับคนที่เขาไม่เคยมีได้จริงๆ หรือปล่อยไปได้จริงๆ
ฉันมองเงาสะท้อนของตัวเองในหน้าต่างที่มืดมิด ใบหน้าของฉันซีดเผือด ดวงตาเบิกกว้างด้วยความเจ็บปวดที่ลึกซึ้งจนรู้สึกเหมือนมันได้เจาะรูในอกของฉันจริงๆ เป็นเวลาห้าปีที่ฉันปั้นแต่งชีวิตของฉันรอบตัวเขา เชื่อว่าความรักของฉันนั้นเพียงพอ
มันไม่เคยเพียงพอเลย มันไม่เคยแม้แต่จะอยู่ในเกมด้วยซ้ำ
ฉันลุกขึ้นยืน ขาสั่นเทา ฉันเดินไปที่ห้องน้ำและจ้องมองใบหน้าตัวเองในกระจก ผู้หญิงที่มองกลับมาคือคนโง่ คนโง่ที่รักและทุ่มเท
น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาตามแก้ม ร้อนผ่าวและแสบร้อน แล้วก็อีกหยด ฉันไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย ความเจ็บปวดมันลึกซึ้งเกินกว่านั้น มันคือเสียงกรีดร้องที่เงียบงันอยู่ภายใน
ฉันจะไม่เป็นตัวแทนอีกต่อไป ฉันจะไม่เป็นท่าเรือที่ปลอดภัยของเขาอีกต่อไป
ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ การตัดสินใจนั้นฝังแน่นอยู่ในจิตวิญญาณของฉันเหมือนก้อนน้ำแข็ง ฉันจะไป ฉันจะหายไปจากชีวิตของเขาอย่างสิ้นเชิงราวกับว่าฉันไม่เคยมีตัวตน
โทรศัพท์ของฉันสั่นอยู่บนเคาน์เตอร์ ข้อความจากชะเอม
*แม่โทรมาบอกว่า ตระกูลเมธานนท์กำลังจะสรุปสัญญาแต่งงานแล้ว ฉันต้องแต่งงานกับอสูรกายนั่น พาย ฉันทนไม่ไหวจริงๆ ช่วยฉันด้วย*
การแต่งงานคลุมถุงชน ข้อตกลงที่ทำขึ้นเมื่อหลายปีก่อนระหว่างตระกูลวรโชติและตระกูลเมธานนท์ผู้ทรงอิทธิพลและร่ำรวยเก่าแก่เพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ชะเอมต้องแต่งงานกับทายาท คิรากร เมธานนท์ ชายผู้มีข่าวลือว่าอัปลักษณ์และโหดร้าย เป็นคนเก็บตัวที่ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนมาเป็นสิบปี ชะเอมกำลังหลงรักแฟนหนุ่มนักดนตรีของเธออย่างหัวปักหัวปำและกำลังหวาดกลัวอย่างยิ่ง
ความคิดหนึ่งที่บ้าคลั่งและน่าสะพรึงกลัวผุดขึ้นในซากปรักหักพังของหัวใจฉัน
มันคือทางหนี
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา นิ้วพิมพ์ข้อความที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง
*ไม่ต้องห่วงนะชะเอม ฉันจัดการเอง เธอไม่ต้องแต่งงานกับเขา*
*ฉันจะแต่งเอง*
บทที่ 1
29/10/2025
บทที่ 2
29/10/2025
บทที่ 3
29/10/2025
บทที่ 4
29/10/2025
บทที่ 5
29/10/2025
บทที่ 6
29/10/2025
บทที่ 7
29/10/2025
บทที่ 8
29/10/2025
บทที่ 9
29/10/2025
บทที่ 10
29/10/2025
บทที่ 11
29/10/2025
บทที่ 12
29/10/2025
บทที่ 13
29/10/2025
บทที่ 14
29/10/2025
บทที่ 15
29/10/2025
บทที่ 16
29/10/2025
บทที่ 17
29/10/2025
บทที่ 18
29/10/2025
บทที่ 19
29/10/2025
บทที่ 20
29/10/2025
บทที่ 21
29/10/2025
หนังสืออื่นๆ ของ Gavin
ข้อมูลเพิ่มเติม