ข้าอยากเป็นภรรยาเจ้า

ข้าอยากเป็นภรรยาเจ้า

ปิ่นหยก

5.0
ความคิดเห็น
1.5K
ชม
21
บท

เซียวหรูอวี้กับโอวหยางหลิงหลง เรื่องข้ามภพข้ามชาติมาเป็นชายาอ๋อง เรื่องข้าอยากเป็นภรรยาเจ้า เป็นเรื่องบุตรสาวของเซียวหรูอวี้ คือท่านหญิงเปยเปยกับอวครักษ์จาง เรื่องราวระหว่างท่านหญิงกับองครักษ์ที่มีความรักให้กัน คนทั้งคู่จะได้มีวาสนาได้ครองรักกันหรือไม่? ................................................................................................................................................................ ใต้น้ำ ชายหนุ่มกอดหญิงสาวไว้ ริมฝีปากรีบประกบปากนาง ทั้งคู่มองหน้ากันแม้จะอยู่ใต้น้ำ เขาต้องต่อลมหายใจให้นาง ถ้าขืนโผล่หน้าขึ้นไปพวกมันอาจซุ่มอยู่ก็เป็นได้ การประกบริมฝีปากอยู่ใต้น้ำช่างเนิ่นนานเหลือเกิน พรึ่บ! ในที่สุดทั้งคู่ก็โผล่หัวออกมาจากใต้น้ำ หญิงสาวหายใจเฮือกใหญ่ “ข้าหนาว พาข้าขึ้นฝั่งที” ชายหนุ่มไม่รอช้า เขาพานางขึ้นฝั่ง เขาพานางขึ้นฝั่งแล้วเข้าไปในถ้ำ โชคดีในถ้ำเหมือนจะมีคนเคยมาพักที่นี่ ทิ้งฟืนไว้จำนวนมาก หญิงสาวนั่งตัวสั่น นางหนาวเหลือเกิน “เจ้าถอดเสื้อผ้าออกเถอะ” ชายหนุ่มหันไปบอกหญิงสาว แต่ในมือยังคงก่อไฟ เป่ยเป่ยได้ยินดังนั้นก็ปลดอาภรณ์สีแดงเพลิงออกเหลือเพียงแค่เอี๊ยมสีชมพู หญิงสาวนั่งผิงไฟอย่างเขินอาย จีนโบราณ

บทที่ 1 1

สตรีร่างบางมองใบหน้าเล็กเรียวของนางที่หน้าคันฉ่องสีเหลืองทอง ดวงตานางกลมโตดุจกวางน้อย คิ้วโค้งราวพระจันทร์เสี้ยว ริมฝีปากบางอวบอิ่มด้วยสีชาด จมูกนิดรับกับใบหน้าเรียวชวนมองให้หลงใหล หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ ขนตานางงอนงามราวกับปีกผีเสื้อ มวยผมม้วนขึ้นเป็นทรงไป๋เหอประดับด้วยปิ่นเงินสวยงาม

“ท่านหญิงเพคะ องครักษ์จางรอท่านหญิงอยู่ที่หน้าวังแล้วเพคะ” เสี่ยวสี่เข้ามารายงานให้ผู้เป็นนายทราบทันที

หญิงสาวได้ยินสาวใช้เอ่ยถึงองครักษ์ประจำตัวนาง โอวหยางเป่ยเป่ยถึงกับเบะปาก ไม่รู้จางอวี้หวายจะรีบไปไหนกะอีแค่งานล่าสัตว์ที่ท่านลุงฮ่องเต้โอวหยางเซี่ยเฟิงจัดขึ้นทุกปี

นางเป็นญาติกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเพราะบิดานางเป็นพระอนุชาฮ่องเต้หรือน้องชายร่วมอุทรนั่นเอง

แต่ละปีก็ไม่เห็นมีอะไรแค่ล่าสัตว์แข่งกัน ใครได้เยอะที่สุดคนนั้นเป็นฝ่ายชนะ นางจำได้ว่าปีที่แล้วองค์รัชทายาทโอวหยางเซียวอี้เป็นผู้ชนะในการล่าสัตว์ครั้งนั้น ฮ่องเต้ก็ประทานรางวัลให้เป็นเงินหลายร้อยตำลึง องค์รัชทายาทยังขอคุณหนูใหญ่ตระกูลห่านเป็นพระชายาเอกอีกด้วย

แล้วปีนี้นางไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ

ช่างน่าเบื่อเสียจริง

“เจ้าไปบอกองครักษ์จางให้รอก่อน” นางสั่งเสี่ยวสี่

สาวใช้รับคำสั่งรีบสาวเท้าออกไปทันที

พระชายาโอวหยางเดินเข้ามาในห้องของบุตรสาว เซียวหรูอวี้มองบุตรสาวที่แต่งชายด้วยอาภรณ์สีแดง

นี่อย่าบอกนะว่าบุตรสาวจะใส่ชุดแบบนี้ไปล่าสัตว์

“เป่ยเป่ย เจ้าจะใส่ชุดนี้ออกไปล่าสัตว์หรือ” พระชายาเอ่ยถามบุตรสาว

“ท่านแม่ข้าชอบนี่เพคะ มันงดงาม” โอวหยางเป่ยเป่ยรีบกอดมารดาทันที เป่ยเป่ยแม้จะโตเป็นสาวถึงวัยออกเรือนแล้วแต่นางก็ยังอ้อนมารดาเหมือนตอนเด็กๆ ไม่มีผิด

“เจ้าโตเป็นสาวแล้วนะยังจะมากอดแม่อีก” เซียวหรูอวี้มองบุตรสาวออดอ้อนตัวเอง

“ข้ารักท่านแม่นี่นา” เป่ยเป่ยบอก

“ช่างเถอะ เจ้าจะใส่ชุดอะไรก็ช่าง ควรรีบไปได้แล้ว มันถึงยามแล้ว” พระชายาโอวหยางบอกบุตรสาว

“แล้วท่านพ่อล่ะเพคะ” หญิงสาวถามหาบิดาทันที

“พ่อเจ้าไปตั้งแต่ยามเหม่า” พระชายาโอวหยางบอกบุตรสาว

“ข้าไปก่อนะเพคะท่านแม่” หญิงสาวบอกมารดาแล้วเดินออกไปทันที

สายตาพระชายาโอวหยางมองบุตรสาวแล้วส่ายหน้า โตจนจะออกเรือนแล้วบุตรสาวยังปฏิเสธบุตรชายที่จะมาสู่ขอ เซียวหรูอวี้อยากจะให้บุตรสาวเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที เห็นทีจะอยากงานเย็บปักถักร้อยเป่ยเป่ยก็ไม่ทำหาได้ใส่ใจ

“พระชายาทรงเป็นห่วงท่านหญิงหรือเพคะ” เสี่ยวลู่เอ่ยถามผู้เป็นนายหลังเห็นพระชายาโอวหยางมองแผ่นหลังบุตรสาวแล้วมีสีหน้าเป็นกังวล

“ข้าเป็นห่วงนางเป็นอย่างมาก เจ้าก็ดูสิข้ามาถึงนางก็กอดข้า นางโตจนจะออกเรือนแล้วแต่นางก็เล่นตัวเสียเหลือเกิน ข้ากลัวนางจะเป็นสาวเทื้อคาเรือน”

เสี่ยวลู่ได้ฟังแล้วเข้าใจทันที เดิมทีท่านหญิงจะออกเรือนตอนอายุสิบห้าปี แต่พอมาถึงวันแต่งงานท่านหญิงกลับหนีไปเสียดื้อๆ จนย่างเข้าอายุสิบหก ทั้งคุณชายแต่ละตระกูลส่งแม่สื่อมาทาบทามท่านหญิงก็ไม่สนใจ ใครเป็นมารดาก็อดที่จะเป็นห่วงบุตรสาวไม่ได้

“พระชายาเพคะ บางทีท่านหญิงอาจจะยังไม่มีคนที่ถูกใจก็ได้นะเพคะ”

ภายในรถม้าหญิงสาวนั่งข้างในอย่างเบื่อหน่าย เมื่อไรจะถึงป่าที่ท่านลุงฮ่องเต้จัดงานี้ นั่งจนปวดก้นแล้ว

หญิงสาวเปิดผ้าม่านออก สายตามองที่องครักษ์จางนั่งบนหลังม้าอย่างงดงามราวกับเทพบุตร ดวงหน้าสี่เหลี่ยม จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วดุจกระบี่

ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนมีคนแอบมองจึงหันไปเห็นท่านหญิงเป่ยเป่ยกำลังมองเขาอยู่ ทั้งคู่สบตากันพอดี เป่ยเป่ยรีบปิดม่านลงทันที ใบหน้าของนางร้อนและมีสีแดงจัด

ด้านจางอวี้หวายเขารู้ท่านหญิงเป่ยเป่ยคิดอย่างไรกับเขา เขาได้แต่บอกตัวเองว่ามันเป็นไปไม่ได้ เขามีหน้าที่ต้องดูแลท่านหญิงตลอดไป ไม่สามารถเป็นอย่างอื่นไปได้เพราะฐานะเขาไม่คู่ควร

เมื่อครั้งท่านหญิงจะออกเรือนตอนอายุสิบห้า นางไม่ยอม ขบวนเจ้าบ่าวมาแล้วแต่นางหนีออกไปข้างนอกจนเขาไปตามกลับมา นางร้องไห้ นางไม่อยากแต่ง ชินอ๋องโกรธมากจึงทำโทษนางโดยให้นางคุกเข่าต่อศาลบรรพชนเป็นเวลาหนึ่งเดือน

ต่อมาอายุย่างเข้าสิบหกเมื่อไม่นานมานี้ แม่สื่อได้มาทาบทามนางให้คุณชายตระกูลต่างๆ แต่เป่ยเป่ยก็ปฏิเสธไป คนนอกอาจจะมองว่านางอยากจะสนุกกับชีวิต แต่เขาผู้เป็นองครักษ์นางมาสิบกว่าปีทำไมเขาจะไม่รู้เพราะนางไม่ออกเรือนเสียที เพราะ…

ไม่นานรถม้าก็มาถึงสถานที่จัดงานแข่งล่าสัตว์ จางอวี้หวายลงจากอาชาคู่ใจ หญิงสาวเปิดม่านออกกระโดดลงจากรถม้าทันทีไม่รอให้จางอวี้หวายมาช่วย

เป่ยเป่ยเป็นอย่างนี้ประจำ นางไม่ต้องการให้เขาช่วยหรือเพราะเขินอาย ทั้งสามคนจึงเดินไปที่แท่นพิธีโดยมีหญิงสาวชุดแดงเพลิงนำหน้า ทำให้แขกที่มางานในวันนี้ต่างตกตะลึง นางช่างงดงามราวกับเทพธิดาเสียจริง ใบหน้าขาวราวกับหิมะบวกกับริมฝีปากแดงด้วยสีชาด ดวงตากลมโตดุจกวางน้อย ท่วงท่าที่เดินช่างสมกับเป็นท่านหญิงบุตรสาวของชินอ๋องเหลือเกิน

“เจ้าดูบุตรสาวเจ้าสิหลิงหลง นางช่างงดงามเหมือนมารดาไม่มีผิด” ฮ่องเต้ตรัสชมหลานสาวสุดที่รักของเขาต่อหน้าพระอนุชา โอวหยางเป่ยเป่ยช่างเหมือนกับมารดาเจ็ดส่วน ทำให้ผู้เป็นบิดาอย่างชินอ๋องริมฝีปากแทบจะฉีกถึงรูหูเมื่อพระเชษฐาเอ่ยชมบุตรสาว

แน่นอนบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนย่อมงดงามเหมือนพระชายาของเขา ในเมืองต้าฉินไม่มีใครงดงามเท่าบุตรีเขาอีกแล้ว บุตรีเขานับเป็นโฉมสะคราญนางหนึ่งก็ว่าได้ คุณชายบ้านไหนเห็นก็อยากจะสู่ขอที่หน้าวังอ๋อง ดูอย่างตอนนี้สิ นางย่างเท้าเข้ามาในงานจะเดินหาเขาผู้เป็นบิดาด้วยท่าทางแช่มช้อย คุณชายแต่ละตระกูลก็มองตาเป็นมันทำอย่างกับว่าบุตรสาวเขาเป็นอาหารอันโอชะให้พวกบุรุษเขมือบกิน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ปิ่นหยก

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

Lewie Parenti
5.0

"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ

วิวาห์ตัวสำรอง ชุด เจ้าสาวพรหมจรรย์ของมหาเศรษฐี

วิวาห์ตัวสำรอง ชุด เจ้าสาวพรหมจรรย์ของมหาเศรษฐี

เนื้อนวล
4.9

เคลวิน แม็คคลาเรน ถูกคู่หมั้นหักหน้าด้วยการประกาศแต่งงานกับชายคนอื่น ด้วยความคั่งแค้นที่ถูกหยามหน้า ทำให้เขาว่าจ้างเด็กสาววัยกำดัดที่ตนเองอุปการะเอาไว้มาแต่งงานด้วย เพื่อเอาคืนคนเคยรักให้กระอักเลือด เพราะบุญคุณล้นหัว ทำให้เฌอปรางต้องยอมลงชื่อในสัญญาจ้างแต่งงาน แทนที่ผู้หญิงคนนั้นที่เขารักมาก "เธออ่านสัญญาละเอียดหรือยัง" "หนูอ่านละเอียดแล้วค่ะ" "ถ้าอ่านละเอียดแล้ว เธอคงรู้ข้อห้ามทั้งสามข้อที่เธอต้องทำให้ได้แล้วใช่ไหม" "ค่ะ หนูทราบแล้วค่ะ" "งั้นลองบอกฉันมาสิ ว่าข้อห้ามมีอะไรบ้าง" หล่อนช้อนตาขึ้นมองผู้มีพระคุณด้วยสายตาที่ซ่อนความเศร้าเอาไว้แทบไม่มิด "ข้อแรก หนูไม่มีสิทธิ์ในตัวของคุณค่ะ" "ถูกต้อง" เขายิ้มอย่างพอใจ "แล้วข้อสองล่ะ" หล่อนกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก "ห้ามรักคุณค่ะ" เขายิ้มอย่างพอใจอีกแล้ว "แล้วข้อสามล่ะ" "ห้าม... เอ่อ... ห้ามปล่อยให้ท้องค่ะ เพราะถ้าท้อง คุณจะไม่รับผิดชอบ" "ถูกต้อง และฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด" หล่อนไม่มีทางเลือกนอกจากฝืนยิ้มออกไป "แล้วถ้าครบสัญญาหกเดือนแล้ว เอ่อ... หนูต้องไปจากที่นี่ไหมคะ" "ฉันคิดว่ามันจะดีสำหรับเรา หากไม่ต้องเห็นหน้ากันอีก หรือเธอคิดว่าไง" ท่าทางของเขาเย็นชา ไร้หัวใจ ทำราวกับกำลังเจรจาธุรกิจไม่มีผิด "เอ่อ หนูแล้วแต่คุณค่ะ" เธอทำได้แค่ฝืนยิ้ม ซ่อนน้ำตา ให้กับผู้ชายที่ตรเองทั้งรักทั้งบูชาเท่านั้น แต่ใครจะรู้เล่าว่า เมื่อสัญญาจบสิ้นลง เธอได้เดินจากไปพร้อมกับเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา

ประกาศหาแฟน

ประกาศหาแฟน

Mathe Hackett
5.0

คู่หมั้นของเธอนอกใจแม่เลี้ยงของเธอ และทั้งสองก็ร่วมมือกันวางแผนหลอกลวงทรัพย์สินของครอบครัวเธอ และวางกับดักให้เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เพื่อที่จะแก้แค้น เหวินหญ่าจึงตัดสินใจหาผู้ชายคนหนึ่งมาก่อเรื่องที่ที่งานหมั้นและฉีกหน้าพวกเขาทั้งคู่ โดยไม่คาดคิดหลังจาก "ประกาศหาแฟนโดยจ่ายค่าตอบแทนสูง"แล้ว เธอก็ได้หนุ่มสุดหล่อมาจริงๆ! เหวินหญ่าคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กยากจนที่เพื่อเงินเท่านั้น แต่หลังจากอยู่กับเขา โชคของเธอก็ดีขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก เดินนเล่นในห้างสรรพสินค้าใดก็ได้รับคูปองสำหรับแบรนด์หรูที่ซื้อฟรีและได้ชุดมูลค่านับแสนฟรี! ในงานหมั้น เขาออกงานอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ทุกคนนั้นตกตะลึงและประกาศอย่างเปิดเผยว่าเธอคือผู้หญิงของเขา! เดิมทีคิดว่าพวกเขาจะแยกทางกันหลังจากเรื่องนี้จบลง แต่เขากลับติดตัวเธอไม่ยอมไปไหนอีก "เราเพิ่งหมั้นกัน ตอนนี้ผมเป็นคู่หมั้นของคุณแล้ว" เหวินหญ่าหัวเราะเบา ๆ "คุณหมิ่น คุณคงไม่ใช่คิดว่าฉันรวยก็เลยไม่ยอมปล่อยฉันมั้ง?" หมิ่นซือหางยิ้ม เขาเป็นหลานชายของตระกูลใหญ่ ตระกูลหมิ่น เป็นซีอีโอของฮั้วเชง กรุ๊ป และเป็นถึงเจ้านายเบื้องหลังที่ควบคุมเส้นชีวิตทางเศรษฐกิจของเมืองไฮทั้งหมด เขาต้องมาสนใจเงินเล็กน้อยของเธอเหรอ? ต่อมาเหวินหญ่ารู้ว่าเขาคือคนที่เอาครั้งแรกของเธอไปในคืนนั้น!

เสี่ยงรักสัจอธิษฐาน

เสี่ยงรักสัจอธิษฐาน

ปลายฟ้า
5.0

เพราะการบนบาลครั้งนั้นทำให้เธอต้องรีบหาสามีเพื่อผลิตลูกไม่อย่างนั้นเธอก็จะต้องเจอกับสิ่งลี้ลับและผู้โชคดีที่จะเป็นพ่อของลูกของเธอก็ดันรุ่นราวคราวพ่อเธอจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร..... ...................................///............................... ทุกคนเชื่อในเรื่องการผิดคำพูดในการบนบานศาลกล่าวกันหรือเปล่า... เรื่องราวที่ไรท์จะเขียนในนิยายเป็นเรื่องที่นางเอกของเราเคยบนบานเอาไว้และเมื่อสิ่งที่บนประสบผลสำเร็จนางเอกของเราก็จะต้องแต่งงานกับผู้ชายคนแรกหลังตื่นเช้าของอีกวันและผู้ชายคนนั้นก็คือ...พระเอกของเราเองค่า.. แต่..แต่..แต่..ว่า...พ่อพระเอกของเราไม่ได้จะยอมง่ายๆเพราะว่านางเอกดันอายุอ่อนกว่าเขายี่สิบกว่าปีเรียกว่ารุ่นลูกยังได้ แต่หากพระเอกของเราไม่ยอมแม่นางเอกของเราก็ต้องตื๊อให้ยอมจนได้... เพราะว่า... เธอ... ไม่อยากจะเจอเรื่องซวยๆอีกต่อไป.. ความสนุกของเรื่องนี้จะเกิดจากความโก๊ะๆเปิ่นๆของนางเอกแถมความลี้ลับที่นางเอกต้องเจอ...มันสร้างความเดือดร้อนให้เธอมากมายจนพระเอกของเราต้องคอยปกป้องนางเอกของเราอยู่ตลอด...นานวันเข้าทั้งสองก็...(คิดกันเอาเอง อิๆๆ) เรื่องราวจะเป็นอย่างไร...ติดตามกันได้ในเรื่อง เสี่ยงรักสัจอธิษฐาน.. ได้เลยนะคะ.. เนื้อหาชื่อคนหรือสถานที่ในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใดขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ