ฮุ่ยหลิง มีอายุมากกว่าพันปี เธอใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด เพราะคนรอบข้างและคนที่รักล้มหายตายจากกันไปทีละคนจรไม่เหลือใครเลย แต่เธอก็ยังคงหวังว่าสักวันจะได้พบกับพวกเขาอีกครั้ง ณ ที่ใดสักแห่งบนโลกใบนี้ และแล้วความปราถนาของเธอก็เป็นจริง เพราะเธอได้พบกับคนที่เฝ้าตามหามานานคนนั้นแล้ว ความรัก ความโหยหา ความปราถนาที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้มันระเบิดอออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ จนทำให้เธอเผลอปล่อยตัวปล่อยใจไปกับมัน แล้วความรักระหว่างคนและปีศาจจะจบลงเช่นไร เอาใจช่วยได้ใน วุ่นนักรักของยัยปีศาจ
“ได้โปรดอย่าจากข้าไป หากปราศจากท่านแล้วข้าจะมีชีวิตได้อย่าไร ได้โปรด ไหนท่านสัญญาว่าจะอยู่กับข้าไปจนแก่เฒ่า ท่านจะผิดสัญญากับข้าเยี่ยงนี้ไม่ได้” คำพูดที่พรั่งพรูออกมาจากหญิงสาวที่กำลังร้องไห้ปานจะขาดใจกับชายชายที่อยู่ในอ้อมกอดของนาง
“ขะ ข้าขอโทษ ที่ ที่ไม่อาจ รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับ จะ เจ้าได้” ชายหนุ่มกระอักเลือกออกมาก่อนที่จะพูดต่อ “ข้าจะชดใช้ ให้เจ้าในชาติ…” พูดได้เพียงเท่านั้นชายหนุ่มก็สิ้นใจในอ้อมกอดของหญิงสาว มือที่จับหน้าของนางอยู่ร่วงหล่นลงมา เห็นแบบนั้นนางยิ่งร้องไห้นักกว่าเดิม พร้อมทั้งเขย่าตัวของชายคนรักอย่างแรง ด้วยหวังว่าเขาจะตื่นขึ้นมา
“ไม่นะไม่ ท่านจะจากข้าไปเช่นนี้ไม่ได้ ท่านพี่ ท่านพี่”
“คัท เยี่ยมมากฮุ่ยหลิง” สิ้งเสียงสั่งคัท น้ำตาที่ไหลอาบแก้มอยู่เมื่อครู่ก็หยุดไหลทันที
“เป็นยังไงบ้างคะ พอใช้ได้มั้ย” หญิงสาวเดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าจอมอนิเตอร์แล้วถามขึ้น ก่อนจะหันไปดูผลงานที่ตนเพิ่งแสดงไปเมื่อสักครู่ผ่านหน้าจอ
“ไม่ใช่แค่ใช่ได้ มันดีมากเลยต่างหากละ นี่ถ้าไม่ใช่คุณผมคิดไม่ออกเลยนะว่าใครจะสามารถเล่นบทนี้ได้”
“ผู้กำกับก็ชมเกินไป ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” เมื่องานของเธอเสร็จแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ที่นี่ต่อ หญิงสาวจึงขอตัวกลับทันที
“โอเค แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ”
“ค่ะ สวัสดีคะ” หญิงสาวกล่าวลาเพื่อนร่วมงานก่อนที่จะไปเปลี่ยนชุดแล้วกลับบ้านไป
“จะไปไหนต่อมั้ยครับ หรือกลับบ้านเลย” เมื่อขึ้นมานั่งบนรถแล้วคนขับรถก็ถามความต้องการของเจ้านายอย่างทกุที เพราะในแต่ละวันเมื่อเสร็จงานแล้วเธอมักจะมีวิธิผ่อนคลายต่างกันไป แล้วแต่ว่าวันนั้นเธออย่างทำอะไร
“ไปหาอี๋นั่ว” หญิงสาวสั่งก่อนที่จะเอนหลังพิงเบาะและหลับตาลงเพื่อพักสายตา
“ครับ”
“ก็แค่ดาราตกยุค ทำมาเป็นวางท่า”
“ก็นั่นนะสิ”
“ฉันว่านะที่หล่อนได้มาเล่นลครเรื่องนี้ไม่ใช่เพราะความสามารถหรอก”
“ฉันก็ได้ข่าวมาเหมือนกัน ว่าหล่อนยอมนอนกับคนไปทั่วเพื่อให้ได้งาน”
“ปล่อยพวกเธอไป” หญิงสาวที่นั่งหับตาอยู่เบาะหลังพูดขึ้นในขณะที่ชายที่นั่งด้านข้างคนขับรถจะลงไปจัดการหญิงสาวสองคนนั้นที่กล้ามาพูดจาให้ร้ายเจ้านายของเขา
“ครับ” ชายคนนั้นโค้งรับคำของผู้เป็นนายก่อนที่จะส่งสัญญาณให้ชายอีกคนขับรถออกไป
“นายยังไม่ชินอีกหรือไง” หญิงสาวถามขึ้นทั้งที่ยังคงหลับตาอยู่
“เหมือนจะชินครับ แต่ก็ไม่ชินสักที” ชายคนนั้นตอบ
“หึหึหึ” หญิงสาวหัวเราะในลำคอและไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกจนถึงที่หมาย เธอก้าวลงจากรถอย่างสง่างามจนคนที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองกันเป็นตาเดียว
“นั่นใครสวยจังเลย”
“เหมือนจะเป็นดารานะ แต่ไม่ได้ดังมาก”
“จริงดิ สวยขนาดนี้ยังไม่ดังอีกเหรอ”
“มีข่าวลือว่าที่เธอไปเป็นดาราก็เพราะความสนุกเท่านั้น”
“แต่ข่าวลือที่ฉันได้ยินมาคือเธอยอมนอนกับใครก็ดไ้ที่ให้งานเธอนะ”
“พูดไม่คิด ถ้าเธอทำแบบนั้นจริงป่านนี้ดังไปนานแล้ว” “ก็จริงของเธอ”
“แต่ฉันอิจฉาความสวยของเธอจัง” เสียงพูดคุยดังขึ้นตลอดทางที่เธอเดินผ่าน แต่หญิงสาวก็ไม่ได้สนใจ
“จะมาทำไมไม่บอกก่อนครับ”
“ไม่บอก แต่นายก็ลงมารับฉันทันทุกครั้งไม่ใช่เหรอ น่ารักจริงๆ เลยเด็กคนนี้” หญิงสาวหยกแก้มชายตรงหน้าอย่างแรงด้วยความหมั่นเคี้ยว ท่ามกลางสายตาของคนมากมายที่เดินผ่านไปมา
“ผมว่าพอก่อนเถอะครับ คนมองมาทางนี้กันหมดแล้ว” ชายที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรถเมื่อสักครู่พูดขึ้น
“นายอายเหรอ อี๋นั่วยังไม่เห็นว่าอะไรฉันเลย”
“นั่นสิ พี่ก็อย่าจริงจังงเกินไปนักเลยพี่ห่าวหราน”
“แล้วนี่จะไม่พาเราเดินชมบริษัทใหม่นายหน่อยเหรอ” ฟางหรงพูดขึ้น เขาก็คือชายที่นั่งข้างคนขับรถของหญิงสาวนั่งเอง
“เอาสิ เดี๋ยวผมพาทัวร์เอง” จากนั้นอี๋นั่วก็พาทั้งสามเดินชมบริษัทของเขา จนมาถึงแผนกกฏหมายฮุ่ยหลิงรีบวิ่งพรวดเข้าไปในแผนกอย่างลืมตัว จนชายทั้งสามตกใจ
“ซินเอ๋อ” หญิงสาวพูดออกมาอย่างเหม่อลอย พร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ชายที่ยืนอยู่ด้านในสุดของห้อง ชายทั้งสามคนมองหน้ากันและรีบเดินเข้าไปประชิดตัวของหญิงสาวทันที
“เอ่อ มีอะไรหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มคนนั้นถามขึ้นเมื่อเห็นว่ามีหญิงสาวมายืนอยู่ตรงหน้าเขา แล้วทำท่าราวกับว่าจะร้องไห้ออกมาอย่างนั้น
“ซินเอ๋อ” ฮุ่ยหลิงพูดชื่อนั้นออกมาอีกครั้งทำเอาชายหนุ่มตรงหน้ารู้สึกงงเล็กน้อย เพราะเขาไม่ได้ชื่อนี้ “ขอโทษนะครับ เจ้านายผมจำคนผิด” ฟางหรงรีบพูดแก้ตัวให้เจ้านายก่อนที่จะพาเธออออกไป แต่หญิงสาวไม่ยอม
“นายท่าน” ชายหนุ่มทั้งสามเรียกหญิงสาวที่ตอนี้ร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ นานมากแล้วที่เขาไม่ได้เห็นเธอร้องไห้แบบนี้
“เขาคือซินเอ๋อ ซินเอ๋อของฉันจริงๆ ในที่สุดพี่ก็หาเจ้าพบน้องพี่” ฮุ่ยหลิงยกมือขึ้นลูบแก้มของชายหนุ่มตอนนี้ยืนนิ่งค้างอยู่ และไม่ใช่แค่นเท่านั้น ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันหยุดนิ่งอยู่กับที่ ยกเว้นพวกเขาทั้งสี่คนที่ไม่เป็นอะไร
“แบบนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะสิ” อี๋นั่วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม โชคดีจริงๆ ที่เขาซื้อบริษัทนี้มา แบบนี้นายท่านจะได้มีความสุขเสียที ชายหนุ่มทั้งสามยิ้มให้กัน แต่ก็ต้องหุบยิ่มลงเมื่อมีชายอีกคนเดินเข้ามา
“นี่ทุกคน…” ชายคนนั้นหยุดพูดเมื่อเห็นว่าไม่ได้มมมีแค่เพื่อนร่วมงานเท่านั้น ยังมีเจ้านายคนใหม่ขอเขาและคนที่เขามไม่รู้จักอีกสามคน มนต์ที่ถูกร่ายไว้เมื่อสักครู่ถูกคลายออกด้วยชายพี่เพิ่งมาใหม่คนนี้ สร้างความประหลาดใจให้แก่พวกเขาทั้งสามเป็นอย่างมมาก แต่ฮุ่ยหลิงกลับยิ้มออกมา วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีอะไรเช่นนี้ นอกจากจะได้เจอน้องชายแล้วยังได้เจอเขาคนนั้นด้วย ชายที่กุมหัวใจของเธอเอาไว้คนนั้น
“กลับมาแล้วเหรอ” ชายที่ฮุ่ยหลิงเรียกว่าซิงเอ๋อนั้นเดินเข้าไปหาชายที่มาใหม่พร้อมกับรับซองเอกสารมาก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
“จริงสิ ทุกคนนี่คุณฮุ่ยหลิง เป็นนักแสดงในค่ายของเรา” อี๋นั่วแนะนำแค่นั่นทุกคนก็เข้าใจทันที ผู้ชายอีกสองคนก็คงจะเป็นบอดี้การ์ดสินะ
“สวัสดีค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” หญิงสาวทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้ม
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ชายที่เป็นหัวหน้าแผนกเดินเข้าไปหวังที่จะจับมือของหญิงสาวเป็นการทักทาย แต่ถูกห่าวหรานกันเอาไว้
“อย่าเสียมารยาท” ฮุ่ยหลิงหันไปดุคนของตนและหันมายิ้มให้ชายตรงหน้าและจับมือทักทายกับเขา ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาหลิวหยาง ชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามาเมื่อสักครู่ และยื่นมือไปตรงหน้าเขา หลิงหยางจับมือทักทายฮุ่ยหลิงพร้อมรอยยิ้ม
“มีอะไรให้รับใช้ก็บอกได้เลยนะครับ”
“รับใช้อะไรกัน พูดอย่างกับฉันเป็นนายจ้างหน้าเลือดเลย
“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นนะครับ”
“ฉันรู้ค่ะ” หลิวหยางรีบพูดแก้ตัวเพราะกลัวฮุ่ยหลิงเข้าใจผิด แต่เธอไม่ได้โกรธเขาเลย ตรงข้ามเธอกลับยิ้มและหัวเราะออกมาอีกด้วย
บทที่ 1 ในที่สุดก็ได้พบ
19/01/2022
หนังสืออื่นๆ ของ คะนึงหา
ข้อมูลเพิ่มเติม