Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ

5.0
ความคิดเห็น
161.5K
ชม
109
บท

หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้

บทที่ 1 หยางจื้อซีกลายเป็นคนโง่

มันเป็นเพียงรุ่งเช้าของวันหนึ่ง ประตูลานบ้านใหญ่ตระกูลหยางที่ทางเข้าหมู่บ้านก็เปิดออกและปิดอย่างรวดเร็ว หวังซื่อถือตะกร้าในมือ มองไปทางซ้ายทีขวาที เมื่อเห็นว่าไม่มีใครบนถนน จากนั้นจึงรีบเดินไปทางฝั่งตะวันตกของหมู่บ้าน ฉินซื่อแม่ของหวังฉู่หรานเพิ่งลุกขึ้นและกำลังจะไปที่กระท่อมเพื่อปลดทุกข์ เมื่อเห็นหวังซื่อเดินผ่านประตูบ้านไป ฉินซื่อก็เปิดประตูและไล่ตามหวังซื่อไปทันที

“นี่ ภรรยาของหยางเอ้อร์ ข้าได้ยินว่าหยางจื้อซีตกจากภูเขาและกลายเป็นคนโง่ เป็นเรื่องจริงหรือไม่” จู่ ๆ ฉินซื่อก็ถามขึ้นทางด้านหลังทำเอาหวังซื่อตกใจแทบตาย หวังซื่อหันกลับมามองและหันกลับไปทันที ด้วยกลัวว่าฉินซื่อจะตามตอแยไม่เลิกรา หวังซื่อทำได้เพียงแค่หันไปตอบด้วยความไม่พอใจ

“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ฉินซื่ออย่าได้สนใจเลย ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องไร้สาระเท่านั้น ข้าขอตัวก่อน”

“เหอะ กลายเป็นคนโง่ก็แค่ยอมรับว่ากลายเป็นคนโง่สิ จะกลัวอะไรนักหนา มีอันใดต้องปิดบังกัน” ฉินซื่อถุยน้ำลายลงพื้นจากนั้นก็หันหลังกลับบ้านไปทันที

เสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ทำให้หยางจื้อซีลืมตาขึ้นมาทันที มองดูกระท่อมที่ผุพังและทรุดโทรมแล้วหันศีรษะไปมองสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เห็นเด็กทั้งสองคนที่กำลังหลับอยู่นางก็ลุกขึ้นและเดินออกไปอย่างเงียบ ๆ เมื่อตอนที่ถูกเพื่อนสนิทฆ่านั้น หยางจื้อซีคิดว่าตัวเองจะต้องตกตายไปแล้ว

แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าตัวเองจะเดินทางข้ามเวลามาในโลกอันห่างไกลและล้าหลังเช่นนี้ การได้รับโอกาสให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งมันก็ดีอยู่หรอก เพียงแต่ว่าสภาพร่างกายแบบนี้ กระท่อมผุพังเช่นนี้ เกรงว่าหากเป็นคนธรรมดาก็คงจะลำบากไม่น้อย หยางจื้อซีได้แต่ยืนนิ่งมองหลังคาที่ไม่รู้ว่าจะถล่มลงมาเมื่อใดอย่างโง่งม

ที่แห่งนี้เรียกว่าแคว้นต้าเซี่ย และหยางจื้อซีอาศัยอยู่ในหมู่บ้านป่าหมอก อำเภอหยุนหมิง เมืองหยางโจวที่อยู่ทางเหนือของแคว้น เดิมทีหวังซื่อคิดว่าฉินซื่อกลับไปแล้ว แต่ทว่านางประเมินความอยากรู้อยากเห็นของฉินซื่อต่ำไป เมื่อหันกลับมาอีกทีก็พบว่าฉินซื่อนั้นได้เดินตามหลังตัวเองมาอีกครั้ง

“นี่หวังซื่อ เจ้าจะบอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรเช่นนั้นรึ มีใครบ้างที่ไม่เห็นว่าหยางจื้อซีที่มีเลือดออกตามตัวขนาดนั้น เลือดที่เลอะเสื้อผ้าของนางเจ้าจะบอกว่าไม่ใช่เลือดของนางรึ เจ้าคิดว่าผู้ใดโง่กัน ครอบครัวของหยางซานหลางถูกพ่อแม่สามีของเจ้าตัดขาดแล้วเพราะเขาแต่งงานกับคนที่แม่สามีเจ้าไม่ชอบขี้หน้า หากว่าแม่สามีของเจ้าจับได้ว่าเจ้านำของมาให้บ้านหยางซานหลาง เจ้าว่าแม่สามีของเจ้าจะมีสีหน้าเช่นไร ดีไม่ดี อาจจะไล่พวกเจ้าออกมาอีกครอบครัวก็เป็นได้”

“ในเมื่อเจ้ารู้อยู่แล้วทุกอย่าง เจ้าจะถามข้าไปเพื่ออันใดกัน ข้าว่าเจ้าเองก็ยุ่งเรื่องของคนอื่นให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะฉินซื่อ”

“ข้าก็แค่อยากไปดูจื้อซีเท่านั้นเอง เจ้าดูสิหลานสาวของเจ้าอายุสิบสามแล้ว มันเป็นเรื่องยากที่จะคุยเรื่องแต่งงานในอนาคตหากว่านางกลายเป็นคนโง่ เจ้าคิดว่าจะมีผู้ใดอยากแต่งภรรยาโง่งมเข้าบ้านกัน เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ บังเอิญว่าข้ามีหลานชายที่เป็นญาติฝั่งบ้านแม่ของข้าคนหนึ่งที่ยังไม่ได้แต่งงาน เจ้าว่า...”

ยังไม่ทันที่ฉินซื่อจะได้พูดจบ หวังซื่ออดรนทนฟังไม่ได้ก็รีบสาวเท้าเดินหนีออกมาทันที หากจะให้นางรั้งยืนอยู่นางก็ทนไม่ไหวกับความหน้าด้านหน้าทนของฉินซื่อ เดิมทีฉินซื่อคนนี้มักทำตัวน่ารังเกียจเช่นนี้อยู่เสมอ มีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าญาติฝั่งแม่ของนางมีนิสัยเช่นไร นอกจากจะเป็นพวกขี้เกียจไม่เอาไหนแล้วยังเป็นพวกลักเล็กขโมยน้อยอีกด้วย ผู้ใดจะยอมให้ลูกสาวไปแต่งงานกับคนแบบนั้นกัน

“นี่ฉินซื่อ แม้ว่าจื้อซีของเราจะโง่เขลาขึ้นมาจริง ๆ บิดามารดาของนางคงไม่ยอมให้ลูกสาวออกเรือนไปกับพวกขี้เกียจ ไม่ทำงานอันใดนอกจากลักเล็กขโมยน้อยไปวัน ๆ บิดามารดาของนางย่อมต้องเก็บนางเอาไว้ในบ้านดีกว่าที่จะผลักลูกสาวเข้ากองไฟเช่นนั้น” หวังซื่อพูดออกมาด้วยความโมโห

“หวังซื่อ ข้าก็แค่แนะนำด้วยความหวังดี ไม่เห็นจะต้องพูดจาเช่นนี้กับข้าเลยนี่”

“หากมันดีจริงอย่างที่เจ้าว่า เหตุใดเจ้าไม่ให้แต่งกับลูกสาวของเจ้าเสียเองล่ะ ลูกสาวของเจ้าเองก็มีอายุที่ต้องคุยเรื่องหมั้นหมายแล้วนี่ ความหวังดีของเจ้าข้าไม่กล้ารับเลยจริง ๆ”

“นี่ เจ้าบอกข้าหน่อยสิ ในตะกร้าของเจ้ามีอันใดอยู่บ้าง มีแป้งขาวใช่หรือไม่ หรือมีเนื้ออยู่ หากแม่สามีของเจ้ารู้ว่าเจ้านำอาหารมาให้บ้านซานหลางจะเกิดอันใดขึ้น คงได้เป็นเรื่องใหญ่แน่” ฉินซื่อยังไม่เลิกรา

ผู้คนในชนบทตื่นแต่เช้าและออกมาดูความสนุก หวังซื่อยืนนิ่งทันที ความโกรธของนางเพิ่มสูงขึ้นจนท่วมหัวและหันกลับมาจ้องมองไปที่ฉินซื่อที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านและชอบนินทา ตอนนี้หวังซื่ออยากจะถลกหนังหัวของฉินซื่อออกมาเสียจริง ๆ

แม้ว่าหยางจื้อซีจะไม่ค่อยแน่ใจเกี่ยวกับความคับข้องใจและความขัดแย้งของสมาชิกในครอบครัวที่สามของตระกูลหยางกับบ้านใหญ่หยาง แต่นางก็ไม่อยากทำให้หวังซื่อผู้ใจดีต้องอับอายและโมโห หยางจื้อซีเดินออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อพบและโบกมือให้หวังซื่อจากระยะไกลแล้วตะโกนว่า “ป้าสะใภ้รอง โปรดกลับไปเถอะเจ้าค่ะ”

“จื้อซี เจ้าจดจำป้าได้หรือไม่” หวังซื่อมีความสุขในตอนแรกและจากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า เอ้อร์หลางสามีของนางต้องการให้นางนำไข่มามอบให้กับหลานสาว แต่ในทางกลับกันมันจะทำให้ครอบครัวของจื้่อซีได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน แม่สามีไม่ชอบน้องสะใภ้สาม ดังนั้นนางทำได้เพียงถามจื้อซีถึงอาการบาดเจ็บเท่านั้น

“วันนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ยังปวดหัวอยู่หรือไม่ ?”

“ป้าสะใภ้รอง ข้าสบายดีเจ้าค่ะ ขอบคุณป้าสะใภ้รองเจ้าค่ะ ป้าสะใภ้รองไม่ต้องเป็นห่วง กลับไปเถอะเจ้าค่ะ หากว่าท่านย่ารู้เข้า ท่านจะเดือดร้อนเอาได้”

หวังซื่อมองดูหลานสาวคนโตของนางที่อายุสิบสามแล้วแต่ไม่สูงเท่ากับลูกสาวของนางที่มีอายุเพียงสิบเอ็ดปี หวังซื่อรู้สึกเศร้ามากจึงพยักหน้าและจากไปอย่างรวดเร็ว ทันทีที่หวังซื่อจากไป ฉินซื่อก็กลอกตาแล้วเดินไปหาหยางจื้อซีด้วยรอยยิ้ม

“จื้อซี ตอนนี้เจ้าก็อายุสิบสามแล้วนะ ป้า...”

“หุบปากของเจ้าเสียดีกว่านะ” หยางจื้อซีขัดจังหวะอย่างเย็นชา จากนั้นก็พูดต่อไปว่า

“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้อะไรเลย ถ้าคนขี้เกียจฉินเก่งขนาดนั้น เหตุใดไม่ให้เขาแต่งงานกับลูกสาวของเจ้าเสียล่ะ สิ่งดี ๆ ที่เจ้าเก็บไว้ก็จะไม่ตกเป็นของคนอื่น ไม่ดีหรือ แบบนี้ข้าว่ามันดีมากเลยนะ”

บริเวณใกล้เคียงก็มีคนเริ่มออกมาดูความสนุกสนานหลังจากได้ยินหยางจื้อซีพูด ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและบางคนถึงกับพูดตลกเสียงดังว่า

“นี่ฉินซื่อ จื้อซีพูดถูกแล้ว ถ้าหลานชายของเจ้าเก่งขนาดนั้นทำไมเจ้าไม่ให้หวังฉู่หรานลูกสาวของเจ้าแต่งเองเสียล่ะ อีกอย่างหากหลานชายของเจ้าดีจริงเหตุใดถึงยังไม่แต่งงานจนถึงตอนนี้เล่า ?”

ฉินซื่อรู้สึกอับอายหลังจากที่ทุกคนหัวเราะเยาะ นางจ้องหยางจื้อซีอย่างดุเดือดแล้วหันหลังกลับและวิ่งหนีไปด้วยความโมโห หยางจื้อซีหันหลังกลับเข้าบ้าน ก็พบว่าน้องชายและน้องสาวตื่นกันหมดแล้ว

“พี่สาว เหตุใดไม่รอข้า ท่านไม่รักข้าแล้วใช่หรือไม่” หยางเจวี๋ยวัยห้าขวบเป็นเด็กที่ได้รับการดูแลดีที่สุดในครอบครัวนี้ เขามีใบหน้ากลม ตาโต และวิธีที่เขามองนางด้วย คิ้วเล็ก ๆ ของเขาขมวดและเอียงศีรษะซึ่งมัน...น่ารักมาก

“ไม่ใช่ว่าเพราะพี่สาวอยากให้เจ้านอนมากหน่อยหรือ” หยางจื้อซียิ้มและตบหัวเล็ก ๆ ของเขา จากนั้นหันไปถามหยางอันวัยเก้าขวบว่า “ฉินซื่อคือใคร”

“ฉินซื่อเป็นแม่ของหวังฉู่หราน” เมื่อเห็นพี่สาวขมวดคิ้วหยางอันจึงอธิบายว่า

“หวังฉู่หรานเป็นหญิงปากร้ายในหมู่บ้าน และหวังเฉินเซิงน้องชายนางเขาก็เป็นคนอันธพาลที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้านของเรา เพราะครอบครัวของเขาเป็นพวกร้ายกาจและขี้โกง พวกเขากล้าแม้กระทั่งต่อสู้กับหัวหน้าหมู่บ้าน ครอบครัวของพวกเขามีสมาชิกในครอบครัวเยอะมากและหาดีไม่ได้เลย ล้วนแล้วแต่เป็นพวกร้ายกาจกันทั้งนั้น ดังนั้นผู้คนในหมู่บ้านจึงไม่กล้ายุ่งกับพวกเขา”

หยางจื้อซีพยักหน้าแล้วหันหลังกลับและเข้าไปในครัว นางได้เห็นความยากจนของครอบครัวนี้แล้วเมื่อตอนมาถึงเมื่อวานนี้ หลิวซื่อแม่ของร่างเดิมซึ่งควรจะเป็นคนเลี้ยงดูครอบครัว ตอนนี้ป่วยหนักนอนอยู่บนเตียง หยางซานหลางพ่อของร่างเดิมต้องทำงานข้างนอกเป็นเวลาหลายปีเพื่อหาเงินในเข้าบ้าน

ภาระของครอบครัวตกอยู่กับหยางจื้อซีและหยางซานหลาง แม้ว่าหยางจื้อซีจะเป็นเพียงเด็กวัยสิบสามปี ในโลกโบราณแห่งนี้เด็กหญิงวัยสิบสามปีเริ่มคุยเรื่องแต่งงานและหาบ้านเจ้าบ่าวแล้ว แต่สำหรับหยางจื้อซีแม้ว่าจะอายุสิบสามแล้วแต่ยังไม่ได้คุยเรื่องงานแต่งงานเพราะครอบครัวที่ยากจนและมีแม่ป่วยนอนติดเตียง มีน้องสาวน้องชายที่อายุน้อย

ส่วนหยางซานหลางออกไปทำงานหาเงินนอกบ้าน ทำให้เรื่องแต่งงานของนางต้องปล่อยผ่านไปก่อน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเมื่อหยางจื้อซีคนใหม่มาถึง และนางไม่คิดว่าการแต่งงานตั้งแต่อายุน้อยเป็นเรื่องที่ควรทำ นางตั้งใจเอาไว้ว่าจะไม่แต่งงานในเร็ว ๆ นี้แน่นอน

“น้องรอง เจ้าไปทำโจ๊กให้ท่านแม่ ข้าจะออกไปตักน้ำ”

“เจ้าค่ะพี่หญิงใหญ่” หยางอันรับคำ

“พี่สาว ข้าเองก็อยากไปด้วย ให้ข้าไปตักน้ำที่ลำธารด้วยได้หรือไม่ขอรับ” หยางเจวี๋ย

“น้องชาย เจ้าไปอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่ดีหรือไม่ เดี๋ยวพี่สาวกลับมาแล้วจะทำของอร่อยให้เจ้ากิน”

“พี่สาวไม่หลอกข้านะ มีของอร่อยจริง ๆ นะขอรับ”

“ย่อมต้องมีสิ พี่สาวเคยหลอกลวงเจ้าหรือไม่”

“ไม่เคยขอรับ”

“เช่นนั้นก็ไปอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่ เข้าใจหรือไม่”

“ขอรับ ข้าจะไปอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่เดี๋ยวนี้”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ

ข้อมูลเพิ่มเติม
ฮูหยินบ้านป่า

ฮูหยินบ้านป่า

เมืองแฟนตาซี

5.0

เอ๋ สาวโรงงานที่มีคำถามอยู่ในหัวตลอดเวลาว่า คนเราตายแล้วไปไหน แต่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบเธอได้เลยสักคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนรักอย่างชลดา ที่มาด่วนจากไปเมื่อ 5ปีที่แล้ว หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอเองที่เพิ่งจะเสียไปเมื่อ 3เดือนก่อน แล้วตอนนี้ สำหรับเอ๋ ไม่เหลือญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้ว นอกจากเพื่อนสนิท ที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียว เช่น พร อยู่มาวันหนึ่งเอ๋ได้ฝันถึงชลดา เพื่อนรักอีกคนที่จากไปแล้ว ในฝัน ชลดา บอกกับเธอว่า หลังจากที่ตายไปแล้วชลดาก็ไปมีสามีและมีลูก เธอยังพูดกับชลดาว่า มันจะเป็นไปได้ยังไง ตายแล้วไหนจะไปมีสามีมีลูกได้เล่า และในฝัน ชลดาบอกว่านี่เป็นคำตอบสำหรับตัวเธอว่าตายแล้วไปไหน ส่วนคนอื่นเธอไม่รู้จริงๆ ว่าตายแล้วไปไหน แต่ตัวชลดาเองบอกกับ เอ๋ ว่าตายแล้วไปมีสามีและมีลูก เช้าวันต่อมา เอ๋ก็ไปทำงานตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ เอนก แฟนหนุ่มของเธอ จะเกิดอะไรขึ้นกับเอ๋ และเอ๋จะได้คำตอบเป็นของตัวเองหรือไม่ เราไปร่วมลุ้นหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

ผจญภัย

5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

สวนฟาร์มมหัศจรรย์ยุค80

สวนฟาร์มมหัศจรรย์ยุค80

เมืองแฟนตาซี

5.0

เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา

หนังสือที่คุณอาจชอบ

Happy ที่โสดอีกครั้ง

Happy ที่โสดอีกครั้ง

STARMOON PTE. LTD.
4.9

แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

ประกาศหาแฟน

ประกาศหาแฟน

Mathe Hackett
5.0

คู่หมั้นของเธอนอกใจแม่เลี้ยงของเธอ และทั้งสองก็ร่วมมือกันวางแผนหลอกลวงทรัพย์สินของครอบครัวเธอ และวางกับดักให้เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เพื่อที่จะแก้แค้น เหวินหญ่าจึงตัดสินใจหาผู้ชายคนหนึ่งมาก่อเรื่องที่ที่งานหมั้นและฉีกหน้าพวกเขาทั้งคู่ โดยไม่คาดคิดหลังจาก "ประกาศหาแฟนโดยจ่ายค่าตอบแทนสูง"แล้ว เธอก็ได้หนุ่มสุดหล่อมาจริงๆ! เหวินหญ่าคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กยากจนที่เพื่อเงินเท่านั้น แต่หลังจากอยู่กับเขา โชคของเธอก็ดีขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก เดินนเล่นในห้างสรรพสินค้าใดก็ได้รับคูปองสำหรับแบรนด์หรูที่ซื้อฟรีและได้ชุดมูลค่านับแสนฟรี! ในงานหมั้น เขาออกงานอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ทุกคนนั้นตกตะลึงและประกาศอย่างเปิดเผยว่าเธอคือผู้หญิงของเขา! เดิมทีคิดว่าพวกเขาจะแยกทางกันหลังจากเรื่องนี้จบลง แต่เขากลับติดตัวเธอไม่ยอมไปไหนอีก "เราเพิ่งหมั้นกัน ตอนนี้ผมเป็นคู่หมั้นของคุณแล้ว" เหวินหญ่าหัวเราะเบา ๆ "คุณหมิ่น คุณคงไม่ใช่คิดว่าฉันรวยก็เลยไม่ยอมปล่อยฉันมั้ง?" หมิ่นซือหางยิ้ม เขาเป็นหลานชายของตระกูลใหญ่ ตระกูลหมิ่น เป็นซีอีโอของฮั้วเชง กรุ๊ป และเป็นถึงเจ้านายเบื้องหลังที่ควบคุมเส้นชีวิตทางเศรษฐกิจของเมืองไฮทั้งหมด เขาต้องมาสนใจเงินเล็กน้อยของเธอเหรอ? ต่อมาเหวินหญ่ารู้ว่าเขาคือคนที่เอาครั้งแรกของเธอไปในคืนนั้น!

ฟ้าโอบดาว

ฟ้าโอบดาว

หลงเวลา
5.0

ฟ้า แผ่นฟ้า นิรันนุกุล คูเวอร์ แฝดผู้น้องของซุปตาร์สาวน้ำ ธารน้ำ นิรันนุกุล คูเวอร์ อายุ 23 ปี เขาเป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างสูงโปร่งถึง 185 เซนติเมตร ใบหน้าหล่อเหลาแต่ทว่าติดความเย็นชามาจากบิดา ริมฝีปากหนาสีแดงธรรมชาติ บุคลิกเย็นชานั้นไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ว่าติดใครมา ความหล่อเหลาของเขาเป็นที่กล่าวถึง แต่ทว่ากลับไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเคยเข้าถึงตัวของชายหนุ่มเลย จนในวงการแอบซุบซิบกันว่าน้องชายของซุปตาร์สาวชื่อดังเป็นเกย์ เพราะชอบไม้ป่าเดียวกัน รายล้อมรอบกายของเขาก็มีแต่ผู้ชาย แต่ใครเลยจะรู้ว่าข้างกายของเขามีเธอ ที่เขายื่นข้อเสนอบ้าๆ เพื่อแลกกับการรักษาชีวิตเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตของเธอเอาไว้ ดาว ดาราภัส พงษ์วิภา ลูกคุณหนูตกอับที่สูญเสียบิดามารดาไปกับอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ถึงแม้จะมีญาติเยอะแต่ก็ไม่มีครอบครัวไหนเลยที่จะรับเด็กหญิงไปอยู่ในการดูแล สรุปคือเด็กหญิงถูกส่งต่อให้บ้านเด็กกำพร้า เธอเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดีด้วยการอุปถัมภ์จากครอบครัวนิรันนุกุล คูเวอร์ เด็กสาวซาบซึ้งในพระคุณ แต่ใครเลยจะรู้ว่าเธอจับพลัดจับพลู ต้องตกไปเป็นผู้หญิงของบุตรชายคนกลางของผู้มีพระคุณ ฟ้า แผ่นฟ้า นิรันนุกุล คูเวอร์ ที่ใครๆ ก็บอกว่าเขาเป็นเกย์ แต่จะมีใครรู้ดีไปเท่ากับเธอ ว่าใบหน้าที่แฝงความเย็นชานั้น มันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นจนร้อนลุ่มในหัวใจขนาดไหน **พระเอกเรื่องนี้ไม่ร้ายนะคะ เขาแค่เย็นชา แต่รักนางเอกมาก ความปากหนักทำให้นางเอกเกิดความเข้าใจผิด เรื่องราวจะเป็นอย่างไรรอติดตามกันต่อไปน๊า.......

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก
1

บทที่ 1 หยางจื้อซีกลายเป็นคนโง่

19/02/2025

2

บทที่ 2 หยางอันถูกทุบตี

19/02/2025

3

บทที่ 3 ทุบตีป้าสะใภ้ใหญ่

19/02/2025

4

บทที่ 4 หยางจื้อซีที่เปลี่ยนไปจนน่าตกใจ

19/02/2025

5

บทที่ 5 ขึ้นเขาอีกครั้ง

19/02/2025

6

บทที่ 6 พบศัตรูบนภูเขา

19/02/2025

7

บทที่ 7 ความวุ่นวายในหุบเขา

19/02/2025

8

บทที่ 8 ท่านเป็นญาติกับฮ่องเต้หรือ

19/02/2025

9

บทที่ 9 หมาป่าและเสือ

19/02/2025

10

บทที่ 10 เจตนาที่ซ่อนเร้นของ หวังซูเหวิน

19/02/2025

11

บทที่ 11 ล้มหมีด้วยหมัดเดียว

19/02/2025

12

บทที่ 12 สวรรค์ท่านล้อข้าเล่นใช่หรือไม่

19/02/2025

13

บทที่ 13 ครอบครัว

19/02/2025

14

บทที่ 14 ความรักของคนในครอบครัว

19/02/2025

15

บทที่ 15 ขึ้นไปบนภูเขา

19/02/2025

16

บทที่ 16 มองหาสมบัติ

19/02/2025

17

บทที่ 17 การเก็บเกี่ยวที่ดี

19/02/2025

18

บทที่ 18 คำโกหกง่อย ๆ

19/02/2025

19

บทที่ 19 การเริ่มต้นที่ดี

19/02/2025

20

บทที่ 20 ลูกพลับ กับดอกเบญจมาศป่า

19/02/2025

21

บทที่ 21 ค้นพบต้นฮวาเจียว และ เกาลัดคั่วน้ำตาล

19/02/2025

22

บทที่ 22 ไปเมืองชิงสุ่ย

19/02/2025

23

บทที่ 23 สิ้นหวัง

19/02/2025

24

บทที่ 24 มีความหวัง

19/02/2025

25

บทที่ 25 ตกลงการค้า

19/02/2025

26

บทที่ 26 ซื้อผ้า

19/02/2025

27

บทที่ 27 ซื้อเนื้อกลับบ้านกันเถอะ

19/02/2025

28

บทที่ 28 เกาลัดคั่วน้ำตาลชุดสุดท้าย

19/02/2025

29

บทที่ 29 ขึ้นเขา เผาถ่าน

19/02/2025

30

บทที่ 30 ทุ่งหญ้ากลางป่าลึก

19/02/2025

31

บทที่ 31 ขาย ขาย ขาย เงิน เงิน เงิน

19/02/2025

32

บทที่ 32 ความสามารถที่กลับคืนมา พี่ใหญ่ที่ถูกถอนหมั้น

19/02/2025

33

บทที่ 33 ถูกนินทา ตัดเขากวาง

19/02/2025

34

บทที่ 34 ไฟในทรวง

19/02/2025

35

บทที่ 35 เกวียนวัว

19/02/2025

36

บทที่ 36 บ้านหยางร่ำรวยแล้ว

19/02/2025

37

บทที่ 37 ขึ้นเขาอีกครั้ง

19/02/2025

38

บทที่ 38 ขายฉั่งฉิก

19/02/2025

39

บทที่ 39 ไปล่าหมูป่าอีกครั้ง

19/02/2025

40

บทที่ 40 ทำกุนเชียง เบคอนรมควัน

19/02/2025