ทะลุมิติไปเป็นคุณแม่มือใหม่

ทะลุมิติไปเป็นคุณแม่มือใหม่

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ

5.0
ความคิดเห็น
167.2K
ชม
120
บท

เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน

บทที่ 1 ใบหม่อน

ใบหม่อน หญิงสาวชาวไทยเชื้อสายจีน อายุ25ปี สาวสวยรวยและโสดมาก พ่อแม่เสียชีวิตไปเมื่อ5 ปีที่แล้วด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังจากที่เสียพ่อแม่ไป ใบหม่อนที่ไม่มีใครรออยู่ที่บ้านแล้วเวลาทั้งหมดทุ่มเทให้กับงานและการอ่านนิยาย

วันนี้ใบหม่อนไปทำงานด้วยอารมณ์บูด จนเพื่อนร่วมงานไม่กล้าเข้าใกล้สาเหตุมาจากนิยายที่เธออ่าน เนื้อหาในนิยายกล่าวเอาไว้ว่านางเอกได้ทะลุมิติไปยังโลกคู่ขนานที่จะเรียกว่ายุคโบราณก็ไม่ได้ จะเรียกว่ายุคปัจจุบันก็ไม่ได้อีก ทั้งภาษาและวัฒนธรรมผสมปนเปกันไป การแต่งตัวเหมือนชนเผ่าอะไรสักเผ่าของชาวจีนแต่กลับไม่ได้ใช้ภาษาจีนในการสื่อสาร

อีกทั้งยังเป็นโลกที่ด้อยพัฒนาหาเทคโนโลยีไม่เจอ ไม่มีพลังภายในไม่มีพลังวิเศษอะไรทั้งนั้นแถมเริ่มต้นมาก็ดราม่าอีก แบบนี้จะไม่ให้ใบหม่อนคนคูลอารมณ์เสียได้ยังไง ตอนที่นางเอกทะลุมิติไปอยู่ในร่างหญิงสาวที่กำลังคลอดลูกพอดีแถมครอบครัวยากจนมากๆ ให้นางเอกทะลุมิติมาแบบไม่มีตัวช่วยอะไรมิตงมิติก็ไม่มี ตอนนี้หาสติของตัวเองเจอก็ดีเท่าไหร่แล้ว

โผล่มาก็กำลังคลอดลูกแถมยังต้องมาอดมื้อกินมื้อปลูกผักเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ ซ้ำร้ายสามีของนางเอกก็โดนแม่เลี้ยงขับไล่ออกจากบ้านพร้อมกับพี่ชายและพี่สะใภ้นางเอกก็ไม่มีความสามารถอะไรผักตามป่ายังไม่รู้จักเลยว่าอะไรที่สามารถกินได้ นี่ให้นางเอกที่แต่เดิมก็เป็นคนไร้ความสามารถ พอได้เกิดใหม่ก็ไร้ความสามารถอีกแล้วแบบนี้จะมีชีวิตรอดได้อีกเรอะ เรื่องแบบนี้ใครมันจะอยากอ่านกันเหอะเสียดายเงินที่ซื้อมาจริงๆ ใบหม่อนทำได้แค่โยนหนังสือนิยายทิ้งและมาทำงานด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

"หม่อนๆ ใบหม่อน" หัสนัยเพื่อนร่วมงานเรียกใบหม่อนเสียงดังเพราะเขาเรียกหลายรอบแล้วแต่ไม่มีเสียงขานรับจากใบหม่อน

"อะไร เรียกทำไมเสียงดังเนี่ยหูจะแตกอยู่แล้ว"

"เอ้าก็เรียกตั้งนานไม่ตอบแล้วเนี่ยเป็นอะไรนั่งหน้าบูดเนี่ยอารมณ์เสียเรื่องอะไรมาอีกอย่าบอกว่านิยายที่ซื้อมาเมื่อวานไม่สนุกไม่ได้ดั่งใจอีกนะ"

"ก็ประมาณนั้นแหละ แล้วมีอะไรเรียกไม"

"หัวหน้าหน่วยเรียกพบน่ะ เรื่องภารกิจลับครั้งนี้"

"อืม ขอบใจมาก"

"เห้ยไม่เป็นไรไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"

ใบหม่อนไปพบหัวหน้าหน่วยและได้รับภารกิจลับให้ไปซุ่มโจมตีขบวนขนยาเสพติดที่ชายแดนโดยพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่ทางการตามล่ามานานหลังจากจบภารกิจบุกทำลายแก๊งยาเสพติดครั้งนี้ใบหม่อนจะมีวันหยุดยาวหนึ่งเดือน เธอวางแผนว่าหนึ่งเดือนนี้เธอจะไปเรียนทำอาหารและขนมเพิ่มเติมพร้อมทั้งจะไปเวิร์กช็อปที่กรมการเกษตร ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ไม่ว่าจะเป็นสัตว์บกหรือสัตว์น้ำ

เธอวางแผนเอาไว้ในอนาคตจะลาออกจากหน่วยผันตัวเองไปทำการเกษตรเชิงท่องเที่ยวและให้บริการบ้านพักแบบโฮมสเตย์ เหนือสิ่งอื่นใดคืออ่านนิยายที่เธอชื่นชอบคิดๆดูแล้วหยุดหนึ่งเดือนไม่พอจริงๆ

วันออกเดินทางใบหม่อนเตรียมของเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางทันทีจุดนัดหมายคือกองบัญชาการเมื่อทุกคนมากันครบแล้วก็ออกเดินทางทันทีใช้เวลาในการทำภารกิจทั้งหมด5วันเมื่อภารกิจเสร็จสิ้นก็เดินทางกลับทันทีระหว่างทางได้มีการพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมเกี่ยวกับวันหยุดยาวนี้ว่าใครวางแผนจะทำอะไรบ้าง

"หม่อนหยุดยาวนี้มีแผนจะทำอะไรหรือเปล่า"วินัยถามออกมา

"ว่าจะไปเรียนทำอาหารทำขนมเพิ่มแล้วก็ไปฝึกปลูกผักเลี้ยงสัตว์ที่กรมการเกษตรอ่ะ"

“เห้ย นี่เอาจริงหรือเรื่องปลูกผักทำโฮมสเตย์เนี่ย” นัยเองอดถามออกมาไม่ได้เขาไม่คิดว่าใบหม่อนจะจริงจังกับเรื่องนี้มาก

"อืม จริงจังมาก แล้วพวกนายสองคนล่ะมีแผนจะทำอะไร"

"กลับบ้านที่ต่างจังหวัดน่ะ" วินัยตอบใบหม่อนด้วยความดีใจ

"อืมกลับบ้านเหมือนกัน"หัสนัยตอบออกมาสีหน้าไม่ยินดีที่ได้กลับบ้าน

"เอ้า จะกลับบ้านไม่ดีใจเหรอทำไมทำหน้าแบบนั้น"ใบหม่อนอดถามไม่ได้

"นั่นสิมีอะไรหรือเปล่า"วินัยถามออกมาด้วยความเป็นห่วง

“ไม่มีอะไรก็คุณนายที่บ้านน่ะสินัดดูตัวเรากับลูกสาวเพื่อนพวกนายเองก็รู้เรายังไม่อยากแต่งงานตอนนี้เราไม่อยากมีภาระตอนนี้เวลาไปทำภารกิจจะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ที่สำคัญเราไม่ชอบลูกสาวเพื่อนของคุณนายคนนี้เลย”

“ทำไมนายเคยเจอเขาหรือไง สวยป่ะ” วินัยถามออกมา

“สวยแต่นิสัยไม่สวย อย่าให้เราพูดเลยเคยเจอแบบบังเอิญสองสามครั้ง เหวี่ยงวีนไร้เหตุผล”

“อ่าแบบนี้ก็แย่ดิคุณนายแม่ถูกภาพลวงตาหลอกลวงหรือไง แบบนี้แต่งเข้ามามีหวังบ้านลุกเป็นไฟ” ใบหม่อนรู้สึกสงสารเพื่อนจริงๆ

“นายก็ไม่ต้องกลับไปก็สิ้นเรื่องบอกคุณนายแม่ว่าติดทำภารกิจไง หรือจะไปเที่ยวบ้านเราก็ได้นะถ้าไม่ติดว่าบ้านเรากันดาลมาก” วินัยเอ่ยชวน

“อืม ดีเหมือนกัน งั้นเราไปบ้านนายด้วยแล้วกัน หม่อนล่ะไม่ไปด้วยกันเหรอ”

“ไม่ล่ะพวกนายไปกันเถอะ เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน”

วันหยุดมาถึงใบหม่อนดี๊ด๊ามากตื่นแต่เช้าออกกำลังกายเสร็จไปตลาดซื้อของสดเข้าบ้านเพื่อทำอาหารหลังจากนั้นก็ออกไปร่ำเรียนการเพาะปลูกที่กรมการเกษตรจนถึงบ่ายสามโมงเย็นเลิกเรียนกลับบ้านอ่านนิยายที่ชื่นชอบใบหม่อนใช้ชีวิตแบบนี้ทุกๆวันกิจกรรมแต่ละวันก็เหมือนเดิม เหลือวันหยุดอีกห้าวันเธอรู้สึกว่าเวลาในวันหยุดนั้นหมุนเร็วมากใกล้จะได้เวลากลับไปทำงานในอีกไม่กี่วันข้างหน้าทำให้เธอรู้สึกแย่นิดหน่อยเพราะยังอยากหยุดต่อ

วันหยุดยาวผ่านพ้นไปวันทำงานก็เริ่มขึ้นใบหม่อนไปทำงานแต่เช้า เพื่อนร่วมทีมกลับมาทำงานกันครบแล้วรวมถึงวินัยและหัสนัยด้วย

“หวัดดี เป็นไงไปบ้านวินัยสนุกป่ะ”ใบหม่อนถามหัสนัย

“สนุกมาก ใช้ชีวิตในชนบทห่างไกลสงบดี ที่สำคัญมือถือไม่มีสัญญาณคุณนายแม่โทรมาด่าไม่ได้”

“ฮ่าๆ นายก็พูดไปเรื่อย”

“เอ้าจริงๆนะ วินัยสอนเราจับปลาทำอะไรหลายๆอย่างสนุกดี พ่อแม่วินัยก็ใจดีมาก”

“อืมเอาไว้คราวหน้าเราจะไปด้วย”

“หม่อน หัส หัวหน้าเรียก” วินัยเดินมาเรียกเพื่อนทั้งสองคน

“ขอบใจ ไปกันเถอะสงสัยมีภารกิจ” หัสนัยเอ่ยออกมา

“สวัสดีครับหัวหน้า”

“สวัสดีค่ะหัวหน้า”

“อืมสวัสดี ที่ผมเรียกพวกคุณมาวันนี้ผมมีภารกิจใหม่ให้พวกคุณไปทำ”

“เมื่อไหร่คะหัวหน้า”

“อีกห้าวัน พวกคุณเตรียมตัวให้พร้อม ภารกิจทลายแก๊งค้ามนุษย์ ภารกิจนี้อันตรายมากพวกคุณระวังตัวด้วย พวกค้ามนุษย์มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่หนุนหลังอยู่ ทำงานให้รัดกุมที่สุด ที่สำคัญรักษาชีวิตตัวเองให้ดี ต้องปลอดภัยกลับมา”

“รับทราบครับ/รับทราบค่ะ”

“เอาล่ะพวกคุณไปเตรียมตัวเถอะ”

หลังจากนั้นทั้งสามคนกลับไปเตรียมตัวเพื่อไปทำภารกิจอีกห้าวันข้างหน้า ใบหม่อนรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอย่างบอกไม่ถูกเธอได้เรียกทนายประจำตระกูลมาพบและทำพินัยกรรมยกสมบัติทั้งหมดให้กับการกุศลหากเธอเสียชีวิต และยังได้แบ่งเงินอีกจำนวนหนึ่งให้กับทนายประจำตระกูลเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วเธอรู้สึกโล่งใจแปลกๆ แต่ก็ช่างเถอะลูกหลานไม่มีญาติพี่น้องไม่มี สามีก็ไม่มีงานที่เธอทำก็เสี่ยงพอสมควรจัดการไว้ก็ไม่มีอะไรเสียหาย

โดยที่ใบหม่อนไม่มีทางได้รู้เลยว่าการไปทำภารกิจในครั้งนี้เธอจะไม่ได้กลับมา กลางดึกคืนก่อนไปทำภารกิจขณะที่ใบหม่อนนอนหลับอย่างสบายใจเธอฝันว่ามีใครสักคนมาบอกกับเธอว่าฝากลูกๆของข้าด้วยจากนั้นก็สะดุ้งตกใจตื่น

“ฝันบ้าอะไรวะ ฝากลูกๆอะไรสงสัยเพราะนิยายบ้าเล่มนั้นไม่น่าไปหยิบมาดูเลยให้ตายสิเอามาฝันเป็นตุเป็นตะ”

หลังจากตื่นขึ้นมาบ่นแล้วใบหม่อนไม่สามารถข่มตาหลับลงได้อีก เธอลุกขึ้นอาบน้ำและออกไปที่กองบัญชาการเพื่อรอเดินทางไปทำภารกิจร่วมกับทีม ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นใบหม่อนเห็นคนร้ายเล็งปืนใส่หัสนัยเพื่อนร่วมทีมเธอจึงผลักเพื่อนให้พ้นวิถีกระสุนและตัวเธอเองกลิ้งหลบไปอีกด้านแต่ทว่าโชคร้ายที่กลิ้งไปทางคนร้ายอีกคนทำให้ใบหม่อนเสียชีวิตขณะทำภารกิจการจากไปของใบหม่อนในครั้งนี้สร้างความเสียใจให้เพื่อนร่วมทีมและทุกคนในหน่วยงานเป็นอย่างมาก

เนื่องจากใบหม่อนไม่เหลือญาติแล้วหัสนัยและหัวหน้าหน่วยจึงเป็นคนจัดการเรื่องทำศพของใบหม่อน ทั้งวินัยและหัสนัยได้แต่อวยพรให้เธอไปสู่ภพภูมิที่ดีและถ้าหากใบหม่อนได้เกิดใหม่ก็ขอให้มีครอบครัวที่อบอุ่นไม่ต้องอยู่แบบโดดเดี่ยวเช่นนี้ ใบหม่อนที่ยืนดูร่างตัวเองถูกเผาไป พร้อมกับวิญญาณที่ล่องลอยเคว้งคว้างเธอหวังว่าจะได้พบกับคุณพ่อและคุณแม่แบบนี้เธอจะไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกแล้ว แต่นั่นมันแค่สิ่งที่เธอหวังเอาไว้ แต่ความจริงแล้ว

“โอ๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เจ็บๆๆ ทำไมมันเจ็บแบบนี้ นี่เราโดนยิงตาย มันเจ็บถึงวิญญาณเลยหรือไง”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ

ข้อมูลเพิ่มเติม
บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

ผจญภัย

5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

เมืองแฟนตาซี

5.0

หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้

ฮูหยินบ้านป่า

ฮูหยินบ้านป่า

เมืองแฟนตาซี

5.0

เอ๋ สาวโรงงานที่มีคำถามอยู่ในหัวตลอดเวลาว่า คนเราตายแล้วไปไหน แต่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบเธอได้เลยสักคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนรักอย่างชลดา ที่มาด่วนจากไปเมื่อ 5ปีที่แล้ว หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอเองที่เพิ่งจะเสียไปเมื่อ 3เดือนก่อน แล้วตอนนี้ สำหรับเอ๋ ไม่เหลือญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้ว นอกจากเพื่อนสนิท ที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียว เช่น พร อยู่มาวันหนึ่งเอ๋ได้ฝันถึงชลดา เพื่อนรักอีกคนที่จากไปแล้ว ในฝัน ชลดา บอกกับเธอว่า หลังจากที่ตายไปแล้วชลดาก็ไปมีสามีและมีลูก เธอยังพูดกับชลดาว่า มันจะเป็นไปได้ยังไง ตายแล้วไหนจะไปมีสามีมีลูกได้เล่า และในฝัน ชลดาบอกว่านี่เป็นคำตอบสำหรับตัวเธอว่าตายแล้วไปไหน ส่วนคนอื่นเธอไม่รู้จริงๆ ว่าตายแล้วไปไหน แต่ตัวชลดาเองบอกกับ เอ๋ ว่าตายแล้วไปมีสามีและมีลูก เช้าวันต่อมา เอ๋ก็ไปทำงานตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ เอนก แฟนหนุ่มของเธอ จะเกิดอะไรขึ้นกับเอ๋ และเอ๋จะได้คำตอบเป็นของตัวเองหรือไม่ เราไปร่วมลุ้นหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ

สวนฟาร์มมหัศจรรย์ยุค80

สวนฟาร์มมหัศจรรย์ยุค80

เมืองแฟนตาซี

5.0

เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา

หนังสือที่คุณอาจชอบ

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

เทพเจ้าแห่งอสูร: พิชิตทุกพิภพด้วยหมื่นภูตผี

เทพเจ้าแห่งอสูร: พิชิตทุกพิภพด้วยหมื่นภูตผี

Daniel
5.0

-- ในศตวรรษที่ 26 ทหารรับจ้างอันดับหนึ่งได้กลับชาติมาเกิดใหม่ กลายเป็นลูกเลี้ยงที่ไร้ค่าของตระกูลผู้มีชื่อเสียง แต่เมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง โลกก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ย่ำยีชายทรยศ ข่มเหงหญิงเลว จัดการกับพวกที่ทำให้ชีวิตติดขัด เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งตามใจปรารถนา ควบคุมเทพสัตว์นับพัน ถลุงยาวิเศษ วางข่ายศักดิ์สิทธิ์ วาดยันต์ผี ทุกอย่างนางทำได้อย่างชำนาญ อยู่เหนือกว่าอัจฉริยะทั้งห้าภพ โลกนี้นางครอบครอง ไม่สามารถบำเพ็ญตบะงั้นหรือ แต่นางเป็นผู้ครอบครองพลังครบทุกธาตุ ไม่มีคุณสมบัติมากพอบำเพ็ญลัทธิหรือ นางนอกจากบำเพ็ญลัทธิอสูรลัทธิเทพลัทธิวิญญาณลัทธิมารทั้งสีแล้ว ยังสร้างลัทธิภูตผีอีกด้วย ไร้ค่า ไม่มีความสามารถงั้นหรือ นางคือราชาผี ที่สืบทอดพลังหยินขั้นสูง แค่กระดิกนิ้ว พญาวิญญาณแค้นนับหมื่นก็พรั่งพรูมาปรนนิบัติ เพียงแต่ว่าจักรพรรดิผู้ลึกลับที่ตามตื้อนางนั้น มันคือยังไงกัน เฝิงอี้ "เพิ่งเจอหน้ากันก็ถอดเสื้อข้า เช่นนั้นเราสู้กันบนเตียงอีกรอบดีหรือไม่" เย่วเฉิงเฟิงยิ้มยั่ว "ผู้ชายมีแต่จะเป็นตัวถ่วงของข้า ท่านจักรพรรดิ ท่านเดินทางดีๆ ลาก่อนนะ"

รักร้ายจอมทระนง

รักร้ายจอมทระนง

มาชาวีร์
5.0

“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ทะลุมิติไปเป็นคุณแม่มือใหม่
1

บทที่ 1 ใบหม่อน

22/11/2024

2

บทที่ 2 ความเจ็บปวด

22/11/2024

3

บทที่ 3 แรกพบหน้าสามี

22/11/2024

4

บทที่ 4 อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน

22/11/2024

5

บทที่ 5 เมียพี่เปลี่ยนไป

22/11/2024

6

บทที่ 6 อาหารล้ำค่าจากป่า

22/11/2024

7

บทที่ 7 ขายเห็ด ขายไข่(มุก)

22/11/2024

8

บทที่ 8 ขายไข่มุก ซื้อเกวียนเทียมวัว

22/11/2024

9

บทที่ 9 โชคดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

22/11/2024

10

บทที่ 10 ข้าก็ว่าจะไม่ร้ายแล้วนะ

22/11/2024

11

บทที่ 11 เห็ดหลินจือและหมูสองตัว

22/11/2024

12

บทที่ 12 ความหน้าด้านนี้ท่านได้แต่ใดมา

22/11/2024

13

บทที่ 13 เยี่ยมเยียนสหายและให้การช่วยเหลือ

22/11/2024

14

บทที่ 14 เข้าป่าล่าสัตว์

22/11/2024

15

บทที่ 15 น้ำตาแห่งความยินดี

22/11/2024

16

บทที่ 16 เกินความคาดหมาย

22/11/2024

17

บทที่ 17 No.17

22/11/2024

18

บทที่ 18 ทรัพย์ในดิน

22/11/2024

19

บทที่ 19 ร่วมด้วยช่วยกัน

22/11/2024

20

บทที่ 20 เผือกหอม

22/11/2024

21

บทที่ 21 เกือบไปแล้ว

22/11/2024

22

บทที่ 22 ความในใจของพ่อ

22/11/2024

23

บทที่ 23 เมื่อฤดูหนาวมาเยือน

22/11/2024

24

บทที่ 24 ในวันที่หิมะโปรยปราย

22/11/2024

25

บทที่ 25 การเก็บเกี่ยวในฤดูหนาว

22/11/2024

26

บทที่ 26 เรื่องไม่คาดฝันในวันที่เหน็บหนาว

22/11/2024

27

บทที่ 27 ระหว่างแม่ลูก และถั่วงอก

22/11/2024

28

บทที่ 28 หลี่อ้ายหญิงสาวผู้ใจกล้าและหน้าด้าน

22/11/2024

29

บทที่ 29 บางคนก็มีความสุข และบางคนก็มีความทุกข์

22/11/2024

30

บทที่ 30 คิมหันต์แย่แล้ว

22/11/2024

31

บทที่ 31 ท่านพ่อเกิดเรื่อง

22/11/2024

32

บทที่ 32 เหมันต์กำลังจะผันผ่าน

22/11/2024

33

บทที่ 33 สิ้นสุดเหมันต์

22/11/2024

34

บทที่ 34 การกลับมาของท่านพ่อ

22/11/2024

35

บทที่ 35 ปรับความเข้าใจ

22/11/2024

36

บทที่ 36 ทุกอย่างไม่ได้ง่ายดายปานนั้น

22/11/2024

37

บทที่ 37 สายสัมพันธ์พ่อลูก

22/11/2024

38

บทที่ 38 เกือบจะสายไป

22/11/2024

39

บทที่ 39 จุดจบของบางคน และการเริ่มต้นใหม่ของบางคน

22/11/2024

40

บทที่ 40 แตงโม และข้าโตแล้ว

22/11/2024