ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ

ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ

รอยหยัก/宁安 หนิงอัน

5.0
ความคิดเห็น
411.5K
ชม
134
บท

“อันตัวข้า มีนามว่าไป๋ฟางเซียน” ปกติคนอื่นข้ามเวลาคงได้รับมิติ พลังวิเศษ ความเทพทรูต่าง ๆ แล้วนางเล่า ไม่เห็นเป็นเหมือนในนิยายที่เคยอ่านบ้าง เท่านั้นยังไม่พอ! นางยังเข้ามาอยู่ในร่างสาวงามอันดับหนึ่ง มีสถานะเป็นถึงภรรยาของท่านแม่ทัพ ที่สามีหาได้รักใคร่ชมชอบไม่ ออกจะเกลียดแสนเกลียดเสียด้วยซ้ำไป หนำซ้ำสามีหน้าตายผู้นั้นดันมีคนที่ตนพึงใจอยู่แล้ว เช่นนี้นางจะเอาตัวรอดต่อไปในโลกที่ไม่รู้จักได้อย่างไร นอกจากจะต้องปรับตัวอย่างมากแล้ว นางต้องคิดหาวิธีรับมือกับบุรุษผู้เป็นสามีที่จ้องแต่จะกินหัวนางอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอีกด้วย! โอ สวรรค์ ท่านเกลียดชังอะไรข้านักหนา เหตุใดถึงให้ข้าเผชิญชะตากรรมเช่นนี้ ชีวิตสงบสุขที่ใฝ่ฝัน คงได้จบสิ้นกันแล้ว แต่ช่างเถอะ ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ต้องเจอ ไม่สามารถหลีกหนีได้ นาง! ไป๋ฟางเซียนผู้นี้! จะขอร่วมลงประชันสนามอารมณ์กับเขาเอง! ให้มันรู้กันไปเลยว่า ภรรยาอย่างนาง จะเอาชนะสามีอย่างเขา... ไม่ได้!

บทที่ 1 1

“ฟางเซียน! เจ้าตื่นขึ้นมาคุยกับข้าเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงทุ้มตวาดดังลั่นไปทั่วห้องนอน ปลุกให้คนที่กำลังหลับตาพริ้มตื่นขึ้น

“โอ๊ย! เรียกอะไรกันนักกันหนาเนี่ย คนจะหลับจะนอน” เสียงหวานดังออกมาจากตั่งเตียงด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่เจ้าของร่างจะขยับกายลุกขึ้นนั่งบิดตัวไปมาด้วยท่าทีเกียจคร้าน

“น่ารังเกียจนัก!” ไม่พูดเปล่าสายตาคมประดุจเหยี่ยวจ้องมองไปยังคนถูกว่าด้วยสายตารังเกียจปะปนด้วยความโกรธ

ไป๋ฟางเซียน เจ้าของชื่อที่ถูกรบกวนเวลานอน ทั้งยังถูกต่อว่าและได้รับสายตาเช่นนั้นจากอีกฝ่าย ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีกลับไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด นางมองสบตาคนสูงกว่าอย่างเฉยเมย

“ฮึ่ม! ไปอาบน้ำ ข้ามีเรื่องต้องพูดคุยกับเจ้าให้รู้เรื่อง” พูดจบก็เดินออกไปด้วยอารมณ์ขึ้งโกรธ

ไป๋ฟางเซียนมองตามแผ่นหลังกว้างของผู้เป็นสามีพลางมุ่นคิ้วด้วยความสงสัย

‘มีเรื่องต้องคุยกับข้าเช่นนั้นหรือ จะเป็นเรื่องใดได้อีกถ้าไม่ใช่แม่ดอกบัวขาวหวานใจเจ้าผู้นั้น’ นางคิดด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะรีบพาตนเองไปอาบน้ำชำระกาย

ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ไป๋ฟางเซียนก็เดินไปที่ศาลารับลมอันเป็นที่ประจำของนาง เมื่อไปถึงก็เห็นบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ข้างกันมีสตรีหน้าตางดงามในชุดจีนโบราณสีขาวนั่งอยู่ด้วย

สตรีผู้นั้นเอาอกเอาใจสามีของนางดียิ่ง ครั้นเมื่อเห็นว่านางมาถึง ใบหน้ายิ้มแย้มที่มีในคราแรกก็เปลี่ยนเป็นเศร้าหมองราวกับสั่งได้ หยดน้ำตาเม็ดเล็ก ๆ สีใสพลันไหลอาบแก้มนวล

มุมปากของไป๋ฟางเซียนฉีกยิ้มเตรียมดูบทละครตรงหน้า นับได้ว่าสตรีนางนี้มีความสามารถอย่างแท้จริง หากนี่เป็นยุคที่ตนจากมา นางก็คิดว่าอีกฝ่ายคงจะเป็นนักแสดงอันดับต้น ๆ ได้

เข้าใจไม่ผิด ไป๋ฟางเซียนไม่ใช่คนที่นี่ นางทะลุมิติมาจากอีกโลกแบบงง ๆ ไร้ซึ่งความช่วยเหลือเช่นนิยายที่เคยอ่าน คราแรกไป๋ฟางเซียนก็กลัวและกังวลอยู่มาก เนื่องจากนางไม่รู้จักใครที่นี่และยังไม่รู้ว่าตนเองกำลังอยู่ในยุคสมัยไหน

ความทรงจำด้านความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีนก็ไม่มี เพราะในโลกเดิมนั้น ไป๋ฟางเซียนเป็นเพียงนักศึกษาด้านศิลปะการแสดงที่เพิ่งจะขึ้นปีสองเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องการข้ามมาอยู่ที่โลกนี้เป็นไปได้เช่นไรนั้น ไป๋ฟางเซียนไม่รู้เลยจริง ๆ

ส่วนไป๋ฟางเซียนในโลกนี้ นางก็ไม่รู้เช่นกันว่าอีกฝ่ายตายได้เช่นไร ที่บอกว่าตายแล้วก็ด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าเจ้าของร่างนี้ไม่ตายนางคงไม่สามารถเข้ามาอยู่ในร่างอันสวยงาม สมเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงได้หรอก

ไป๋ฟางเซียนในยุคนี้เป็นบุตรสาวบุญธรรมที่บิดามารดาของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีอุปการะเลี้ยงดู ส่วนพ่อแม่ของนางเสียชีวิตไปนานแล้ว วันแรกที่ไป๋ฟางเซียนเข้ามาในจวนแม่ทัพ บรรยากาศในจวนก็เป็นไปได้ด้วยดี บุตรชายของบิดามารดาบุญธรรมเอ็นดูนางไม่น้อย เพราะสงสารที่นางเป็นกำพร้า ไป๋ฟางเซียนมีความสุขมาก แล้วความสุขนั้นของนางก็หายไปเมื่อวันหนึ่งบิดามารดาบุญธรรมหมั้นหมายนางกับบุตรชายของตน

ในตอนแรกไป๋ฟางเซียนก็มีความสุข นานวันเข้าก็มีแต่ความทุกข์ บุรุษที่นางรักและเรียกขานเขาว่าท่านพี่ไม่สนใจไยดีกัน ทั้งยังตั้งแง่รังเกียจ ความอ่อนโยนที่เคยได้รับ กลับกลายเป็นเย็นชาแข็งกระด้างจนนางไม่กล้าเข้าใกล้

ความห่างเหินของบุรุษผู้นั้นทำให้ไป๋ฟางเซียนเปลี่ยนไป ความสดใสกลับกลายเป็นความด้านชา และมีนิสัยเอาแต่ใจตนเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นางกลายเป็นสตรีร้ายกาจในสายตาเขา เป็นนางมารที่สมควรถูกกำจัด

บุรุษผู้นั้นรังเกียจนางยิ่งชีพ ถึงกับกล้าคิดร้ายต่อนางอยู่หลายครั้งเพียงเพราะไม่อยากเห็นหน้า หนำซ้ำยังทำตัวร้ายกาจด้วยคำพูดในทุกคราที่พบหน้า

ไป๋ฟางเซียนไม่มีความสุข ทว่าก็ยอมทนให้เขาต่อว่ามาโดยตลอด ไม่ปริปากบอกบิดามารดาบุญธรรมเพราะกลัวพวกท่านจะไม่สบายใจ ถึงนางจะมีนิสัยเอาแต่ใจ แต่นางก็รู้จักบุญคุณคนที่ชุบเลี้ยงตนมายิ่งกว่าสิ่งใด ดังนั้นอะไรที่จะทำให้พวกท่านไม่สบายใจ ไป๋ฟางเซียนจะไม่พูดหรือทำมันออกไปเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้พวกท่านจึงไม่ได้ทราบถึงการกระทำที่ไร้ความเป็นสุภาพบุรุษของบุตรชาย

ครั้งหนึ่งนางเคยถามเขาว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่ ปฏิบัติกับนางเช่นเดิมเหมือนก่อนที่เขาและนางจะทราบถึงการหมั้นหมายได้หรือเปล่า คำตอบของอีกฝ่ายคือไม่มีทางเป็นไปได้ ไป๋ฟางเซียนเสียใจมากแต่นางไม่ยอมแพ้ พยายามปรับเปลี่ยนตนเอง ลดความเอาแต่ใจให้น้อยลง เพื่อที่จะกลับไปเป็นนางคนเดิมที่พบหน้ากันครั้งแรก

แต่แล้วการปรับเปลี่ยนตนเองของนางกลับไม่เป็นผล ซ้ำร้ายยังดูห่างเหินกันยิ่งกว่าเดิม ด้วยความที่ถูกท่านพี่ บุรุษที่ตนพึงใจหมางเมินมากเข้า นางจึงคิดใช้การแต่งงานมาผูกมัดเขาไว้ คราแรกก็ตั้งใจรอเวลาผ่านไปสักสองถึงสามปีแล้วค่อยแต่ง แต่กลับต้องเปลี่ยนใจเมื่อรู้ข่าวว่าเขามีคนรัก! และสตรีผู้นั้นก็ไม่ใช่ใครแต่เป็นเพื่อนของนางเอง! เพื่อนที่นางสนิทเล่าทุกอย่างให้ฟังอย่างไม่ปิดบัง!

ไป๋ฟางเซียนเสียใจมากและก็โกรธแค้นมากเช่นกัน นางตบตีทำร้ายสตรีคนดังกล่าว พร้อมทั้งออกปากขอบิดามารดาบุญธรรมจัดงานแต่งงานของนางและเขาทันที นั่นคือเหตุที่ทำให้งานแต่งงานสายฟ้าแลบถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ แต่งานนั้นไร้ซึ่งรอยยิ้มของเจ้าบ่าว จึงเป็นที่โจษจันไปทั่วเมืองหลวง!

การกระทำของไป๋ฟางเซียนทำให้อีกฝ่ายโกรธและเกลียดนางยิ่งกว่าเดิม เกลียดจนไม่สนใจพิธีรีตอง ไม่สนแม้กระทั่งขนบธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาอย่างช้านาน คืนส่งตัวเข้าหอวันแรก เจ้าบ่าวกลับไม่อยู่ในห้องหอ เขาไปเมาสุราเคล้านารีที่หอนางโลม ทิ้งนางให้อมทุกข์ร้องไห้เสียใจที่ตั่งเตียงกับอาหารมงคลเพียงผู้เดียว

แม้จะเสียใจแต่ไป๋ฟางเซียนกลับไม่คิดยอมแพ้ นางพยายามปรนนิบัติดูแลสามีของตนอย่างเต็มที่ทุกครั้งเมื่อเขากลับจวน ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ต้องการก็ตาม ด้วยความรักที่มีให้บุรุษเพียงผู้เดียว ไป๋ฟางเซียนจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อเขา นางช่วยงานในจวน เรียนรู้การปฏิบัติตัวกับบ่าวไพร่ แต่ให้ทำดีแค่ไหนพยายามมากเท่าใด รอยยิ้มของเขานางกลับไม่เคยเห็น

สิ่งที่ทำให้ไป๋ฟางเซียนเสียใจและเจ็บใจมากที่สุดก็คือ ขณะที่นางพยายามทำทุกอย่างให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น บุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีกลับยิ้มระรื่นให้กับสตรีไร้ยางอาย ทั้งยังมาเย้ยหยันนางถึงในจวน นี่ทำให้ไป๋ฟางเซียนทนไม่ได้!

ความรักความหึงหวงทำให้ไป๋ฟางเซียนไร้ซึ่งสติ นางเข้าไปจัดการตบตีทำร้ายอีกฝ่ายอย่างรุนแรง ท่ามกลางสายตาตกใจของบุรุษที่นางรัก ก่อนที่เขาจะตั้งสติได้และแยกนางออกไปอย่างรวดเร็ว ทั้งยังต่อว่าต่อขานนางต่าง ๆ นานา

ภาพที่คนรักโอบประคองกอดปลอบสตรีอื่นฉายชัดในความทรงจำมันติดตาของนางไม่เสื่อมคลายจนต้องล้มหมอนนอนเสื่อ เดือดร้อนบิดามารดาบุญธรรมต้องตามท่านหมอมาดูแลรักษา ครั้นเมื่อหายดีพอที่จะใช้ชีวิตอย่างปรกติสุข ก็ต้องมาจมน้ำตาย จนนางไป๋ฟางเซียนในอีกยุคเข้ามาแทนที่

ที่ไป๋ฟางเซียนรู้เรื่องราวของเจ้าของร่างได้ตั้งแต่ต้น เป็นเพราะว่าเจ้าของร่างเดิมได้ทิ้งความทรงจำเอาไว้ นางทิ้งไว้ทุกอย่างแม้กระทั่งความรู้สึก และความรักโง่ ๆ ก็ยังทิ้งไว้ ทว่ามีสิ่งเดียวที่ไม่ว่าไป๋ฟางเซียนคนใหม่ขบคิดเท่าไรก็ไม่อาจหาคำตอบได้คือ

เจ้าของร่างเดิมตายได้อย่างไร?

ไป๋ฟางเซียนพยายามอนุมานหลาย ๆ เหตุผลและหลายเหตุการณ์แต่ก็ยังไม่มีความคิดไหนเข้าท่า เมื่อคิดและหาคำตอบไม่ได้นางจึงไม่ใส่ใจอีก และหันมาสนใจความเป็นอยู่ของตนเองให้ดีในที่สุดแทน

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไป๋ฟางเซียนพยายามทำตัวไม่มีตัวตนในจวนเพื่อที่จะได้ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยและใช้ชีวิตให้ดีต่อไปได้ ไป๋ฟางเซียนเคยโทษชะตาฟ้าลิขิตที่ทำให้นางมาที่นี่ นางตัดพ้อต่อว่าเวรกรรมที่ทำให้นางมาอยู่ในวิถีชีวิตและบรรยากาศที่ตนเองไม่รู้จัก แต่ไม่ว่าจะตัดพ้ออย่างไรก็ไม่เกิดอะไรขึ้น ไม่มีสิ่งใดมาพานางกลับไปยังที่ที่จากมาอยู่ดี

เมื่อเป็นเช่นนั้น ไป๋ฟางเซียนลูกเจ้าของค่ายมวยผู้นี้จึงได้ทำใจยอมรับ และใช้ชีวิตในร่างไป๋ฟางเซียนที่จบชีวิตไปในที่สุด

อันที่จริงการที่ได้มาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้แย่นัก นางได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่างเหมือนในซีรีส์จีนโบราณ ได้พบปะ เผชิญ และสัมผัสด้วยตนเอง ขณะเดียวกันก็ขอบคุณที่ชื่อนี้เป็นชื่อเดียวกันกับนาง และมีหน้าตาคล้ายคลึงกันถึงสามส่วน นี่ทำให้ไป๋ฟางเซียนใช้ชีวิตอย่างไม่ติดขัดและรู้สึกผิดนัก

ด้วยความรู้ความสามารถ และความทรงจำที่มีมาจากโลกเดิม ทำให้ไป๋ฟางเซียนคิดว่านางสามารถใช้ชีวิตและเอาตัวรอดได้ไม่ยาก หากข้ามมาแล้วมีชีวิตโสดหรืออยู่คนเดียวคงดี นางจะได้ออกไปเผชิญโลกภายนอกอย่างง่ายดาย ไม่ใช่มีสถานะเป็นฮูหยินแม่ทัพแบบนี้

เอาเถอะ! ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ นางจะยอมรับก็แล้วกัน ส่วนสามีผู้โง่เขลาคนนั้น นางจะจัดการเอง! ให้มันรู้กันไปสิว่า นางจะไม่สามารถสยบบุรุษผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีได้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ รอยหยัก/宁安 หนิงอัน

ข้อมูลเพิ่มเติม
หวงร้าย หวงรัก

หวงร้าย หวงรัก

โรแมนติก

5.0

ถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกนอกสมรสเธอไม่เคยปริปาก โดนกลั่นแกล้งสารพัดก็ไม่เคยพร่ำบ่น เห็นว่าเธอไม่มีปากเสียงแล้วจะเอาอะไรที่เป็นของเธอไปก็ได้เหรอ? ฝันไปเถอะ! ถึงเวลาที่เธอจะเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองแล้ว ระวังตัวไว้ให้ดีละ เตือนแล้วนะ... .......... ตัวอย่าง 1 “ดี! งั้นมาดูกัน ว่าระหว่างฉันกับเธอใครกันแน่ที่พูดความจริง แต่เธอคงไม่ถือใช่ไหมพริมา ถ้าต้องใช้ผู้ชายคนเดียวกันกับพี่สาวอย่างฉันน่ะ” กล่าวถามก่อนจะหัวเราะอย่างขบขัน เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าเรียบเฉยของน้องสาว อิงอรฉีกยิ้มเยาะเย้ยพลางมองพริมาด้วยสายตาเหยียดหยามดูแคลน มือบางคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วเดินกลับไปยังประตู ทว่าก่อนที่มือจะทันได้จับลูกบิด น้ำเสียงเย็น ๆ ของน้องสาวที่ดังขึ้นด้านหลังกลับหยุดเธอไว้ “ก็เอาสิคะ ถ้าพี่อิงมั่นใจว่าจะแย่งเขาไปจากฉันได้ก็ลองดู แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าฉันเป็นคนหวงของ ยิ่งรักมากก็หวงมาก และฉันคงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ เหมือนที่แล้วมาแน่ อะไรที่เป็นของฉันใครหน้าไหนก็เอามันไปจากฉันไม่ได้ โดยเฉพาะคนหน้าด้านอย่างพี่อิง อย่าได้หวังเลยค่ะ แต่ถ้าพี่คิดว่าพี่แน่ ก็เชิญ แล้วจะได้รู้ ว่าฉันทำอะไรได้มากกว่าที่พี่คิด เตือนแล้วนะ” “เหอะ” อิงอรอารมณ์เสียเพราะคำพูดของพริมา แต่ไม่ใช่ในคำเตือน เธอหันกลับมามองหน้าน้องสาวแล้วส่งสายตาฟาดฟันกัน ก่อนจะสะบัดหน้าหนีเดินออกจากห้องไป .......... ตัวอย่าง 2 “เสียดายจัง ยังไม่ทันได้มองหุ่นเขาเลย พี่พีก็เอามือมาปิดตาพริมซะก่อน เสียดายจริงๆ” “เสียดายทำไม! อยากดูก็มาดูหุ่นพี่นี่ พี่หุ่นดีกว่ามันตั้งเยอะ” ชายหนุ่มพูดเสียงเขียว พริมายู่หน้าตอบ “มันไม่เหมือนกันนี่คะ ของพี่พีพริมได้ดูทุกวัน แต่ของคนอื่นพริมแค่อยากมองเฉย ๆ” เธอยังคงลอยหน้าลอยตาพูดต่อ ทั้งยังไม่วายเจื้อยแจ้วไปถึงบรรดาหุ่นไอดอลชายหรือศิลปินที่เธอชื่นชอบจนรพีพัฒน์ใบหน้าเขียวคล้ำเพราะความหึงหวง มองเธอด้วยสายตาคาดโทษ

ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า

ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า

โรแมนติก

3.5

เมื่อแฟนเก่าไม่อยากเป็นแค่แฟนเก่า ปฏิบัติการตื้อรักจึงเกิดขึ้น ........................... เหนือนที 'เลิกกันเถอะไม่อยากคบกับควาย!' แต่! ใครมันจะไปยอมเลิกวะ! ของของผมยังไงก็เป็นของผมอยู่วันยังค่ำ ไอ้อีหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์! อยากเลิกก็เลิกไปดิ ให้มันรู้กันไปว่าเหนือนทีคนนี้จะเอาเธอคืนกลับมาไม่ได้ น้ำทิพย์ คนเราจะมีแฟนทั้งทีก็ต้องการแฟนดี ๆ และฉลาด ๆ ปะ ถ้าแฟนที่มีอยู่มันโง่แล้วยังทำร้ายจิตใจเรา เราจะทนให้มันเหยียบย่ำต่อไปทำไมจริงไหม? 'เลิกกันเถอะไม่อยากคบกับควาย!' คือประโยคบอกเลิกที่ฉันใช้พูดกับเขาคนนั้นผู้ชายที่ชื่อว่าเหนือนที ให้มันรู้กันไปเลยว่าต่อให้ไม่มีเขา ฉันก็อยู่ได้! ซีรีส์ชุดรุ่นพี่ล่ารัก ประกอบด้วย 1. จะว้ากให้เธอรัก จบแล้ว 2. ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า จบแล้ว

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

สามีข้าช่างน่าแกล้ง เล่ม 1

สามีข้าช่างน่าแกล้ง เล่ม 1

Ocean Books
5.0

สูงศักดิ์ดั่งจักรพรรดิ หรือสามัญชนเช่นบัณฑิต ล้วนถูกพิชิตด้วยภรรยาตัวน้อย สามีจวนอื่นข้านั้นไม่รู้ แต่สองอาหลานราชวงศ์จิ่งล้วนถูกภรรยากลั่นแกล้ง ชุนเสี่ยวป๋าย จะให้ทำอย่างไรได้เล่า บัณฑิตเฒ่าผู้นั้นมิเคยมีท่าทีพึงใจในสตรีนางใด หากชุนเสี่ยวป้ายเฝ้ารอให้เขาเข้ามาทำความรู้จักนางเองแล้วนั้นคงไม่มีวันได้ครองรักกันแน่ ดังนั้นนางจึงต้องบอกกล่าวด้วยตัวเองเสียเลย บัณฑิตเฒ่าผู้แสนหล่อเหลาเจ้าคะ ข้าจะไปเกี้ยวท่านเอง... อู่ซุนต้าเอ้อร์ นางถูกเขาจับพลิกแพลงตะแคงคว่ำอยู่นาน เขาก็ยังมิยอมสงบ พายุรักโหมกระหน่ำดูดแรงกายของอู่ซุนต้าเอ่อร์จนแทบหมดสิ้น ทนแทบมิไหว พลั่ก!! โครม!! รู้ตัวอีกทีทั้งห้องก็เงียบสงัดไร้เสียงหอบกระเส่าและครวญครางเหมือนเมื่อครู่ ร่างเปลือยเปล่าล่อนจ้อนของจักรพรรดิน้อยลงไปกองอยู่ข้างตั่งเตียงโดยมีปลายเท้าของนางยื่นออกไป เหลียนไช่ บัณฑิตเหลียนไช่ซุกไซร้ลำคอขาวของภรรยา เขาสูดดมและขบเม้ม ไล้มือไปทั่วกายนุ่มของนางอย่างหลงใหล มิไหวแล้ว... เขามิอาจทนความน่ารักของชุนเสี่ยวป๋ายได้อีกแล้ว.... “ข้าพลาดแล้วจริงๆ ที่สัญญาว่าจะอ่อนโยนกับเจ้า” จิ่งซานหวง “มิใช่ว่าหม่อมฉันต้องปรนนิบัติพระองค์เหมือนสามีภรรยาหรอกหรือเพคะองค์จักรพรรดิ” “ก็มิใช่ว่าข้าให้เจ้าปรนนิบัติอยู่หรอกหรือ” เขาว่าพลางหลับตาลงไม่อยากมองหน้าสนมโจว นางจึงต้องจำใจอ่านตำราให้เขาฟังอย่างเสียมิได้ คิดมิถึงว่าจักรพรรดิน้อยจะหาทางหลบเลี่ยงการร่วมเตียงกับนางจนได้ ล่วงรู้ไปถึงไหนอับอายไปถึงนั่น ท่ามกลางความซ่านเสียวอู่ซุนต้าเอ่อร์ก็อดถอนใจให้กับตนเองมิได้ คราแรกคิดว่าคืนนี้นางจะได้นอนสบายมิต้องโดนเขาเคี่ยวกรำอยู่แล้วแท้ ๆ แล้วเหตุใดนางจึงยังถูกเขาจับกินได้อีกเล่า!!

หวนคืนมิลืมรัก

หวนคืนมิลืมรัก

ต้ายวี่
5.0

นางเคยมอบความรัก ความภักดี ให้เขาด้วยความจริงใจ แต่เขากลับตอบแทนนางด้วยการทรยศ หักหลัง สกุลของนางต้องล่มสลาย ยามที่สวรรค์มอบโอกาสให้นางได้หวนคืนชะตา นางจึงตั้งมั่นไม่ขอหวนกลับไปยุ่งเกี่ยวพัวพันกับเขาอีก เพียงแต่นางพยายามหลีกหนี คนหน้าหนากลับพยายามไล่ตาม ใช้ความเจ้าเล่ห์ทั้งหลอกล่อบีบคั้นจนนางไร้หนทางหลีกหนี ในเมื่อมิอาจหลีกหนีเช่นนั้นครั้งนี้นางก็จะทำให้เขาได้รู้ว่า สตรีสกุลหลิวจะไม่ยอมโง่เขลาเป็นครั้งที่สอง "กู่เหว่ยหยวน ตลอดชีวิตของข้า สิ่งที่ข้าเสียใจที่สุด คือมอบใจให้บุรุษชั่วช้าเช่นเจ้า หากสวรรค์มีจริง ไม่ว่าจะกี่ภพชาติอย่าได้พบกันอีกเลย"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ