ยามใดที่ได้กลิ่นหอมของเธอ นิสัยของผมจะกลับกลายเป็นอีกคน... ทั้งชีวิตที่เกิดมา ไม่เคยมีใครแสดงท่าทีรังเกียจฉันได้มากเท่าเขาอีกแล้ว… “คุณมีปัญหาอะไรกับฉันหรือเปล่าคะคุณแซ้งค์” “ใครจะกล้ามีปัญหากับลูกสาวเจ้าพ่ออย่างคุณเอวาได้ล่ะครับ” “ก็คุณไงคะ” .......................................................................................... ฉันต้องรู้สึกยังไงที่จู่ ๆ ก็มีคนบางคนชอบแสดงท่าทีเหมือนรังเกียจ ทุกครั้งที่พยายามเข้าใกล้ เขาก็จะถอยห่าง มองจากดาวอังคารยังรู้ ว่า ‘คุณแซ้งค์’ กำลังไม่ชอบขี้หน้าฉันอย่างแรง แต่บอกไว้ก่อน เราไม่เคยมีเรื่องกัน แล้วทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ไปได้ “บอกเหตุผลมาหน่อยได้มั้ยคะ ว่าทำไมถึงทำเหมือนไม่ชอบฉันนัก” “ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่ผมแค่ไม่อยากอยู่ใกล้คุณ” “แล้วมันทำไม?” “ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง” หลังจากได้รับคำตอบ ฉันก็ไม่เคยเข้าใจในความหมายนั้น กระทั่งคืนหนึ่งได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น ซึ่งนี่แหละคือจุดเปลี่ยนความสัมพันธ์ของเราไปตลอดกาล...
วันนี้เป็นอีกวันที่ฉันยังคงใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ กลางวันนอน พอดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าก็ไปที่สนามแข่ง ชีวิตในแต่ละวันวนเวียนอยู่เพียงเท่านี้
แม้จะเรียนจบแล้ว ทว่าฉันกลับไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง
ได้แต่บอกตัวเองว่าเอาไว้ก่อน ขอใช้ชีวิตให้สนุกสักช่วงหนึ่งจนกว่าจะพอใจเดี๋ยวก็หยุดเอง
และถึงทำตัวแบบนี้ ทว่าในตอนที่ยังเรียนอยู่ฉันก็เต็มที่ไปกับมัน กระนั้นต่อให้เกรดเฉลี่ยเยอะแค่ไหนป๊าก็ไม่เคยสนใจในตรงนั้น ท่านโฟกัสแค่จุดที่ตนเองไม่ต้องการ โดยไม่สนเลยว่านั่นมันคือสิ่งที่ฉันชอบ
ซึ่งก็คือ ‘การแข่งรถ’ ฉันมักจะทะเลาะกับป๊าเพราะเรื่องนี้ตลอด อย่างว่า...หากเป็นอะไรที่ท่านไม่เห็นดีเห็นงามด้วยย่อมดูขวางหูขวางตาไปเสียทุกอย่าง
“คุณหนูเอวาจะรับมื้อเย็นก่อนไปสนามแข่งมั้ยครับ” นับว่าโชคดีที่อย่างน้อยก็ยังมีบอดี้การ์ดคนสนิทที่คอยใส่ใจ และดูแลความรู้สึกฉันได้ดีกว่าผู้เป็นพ่อ
ฉันนับถือ ‘พี่กัส’ เหมือนพี่ชายคนหนึ่ง และก่อนที่เขาจะเข้ามาทำงานเป็นบอดี้การ์ดพี่กัสเคยช่วยเหลือฉันเอาไว้ ไม่ให้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ฉุดไปทำมิดีมิร้าย
อันที่จริงฉันคิดว่าเราคงไม่มีโอกาสได้มาพบเจอกันอีกด้วยซ้ำ แต่เนื่องจากป๊ารู้เรื่องนี้เข้าก็เลยคัดเลือกลูกน้องที่ไว้ใจได้ รวมถึงมีฝีมือในการต่อสู้เพื่อมาเป็นบอดี้การ์ดคอยตามประกบฉัน
ด้วยความที่วันนั้นฉันไปแอบดูพอดี แล้วพบกับใบหน้าที่คุ้นเคยจึงรีบเดินเข้าไปบอกป๊าว่าพี่กัสคือคนที่ช่วยฉันเอาไว้ ท่านก็เลยให้ฉันตัดสินใจว่าจะเลือกใครมา แน่นอนว่าฉันย่อมเลือกพี่กัสอยู่แล้ว
เหตุการณ์ในวันนั้นฉันยังคงจำได้ดี ว่าพี่กัสมีฝีมือมากแค่ไหน ดูทรงแล้วเขาน่าจะเคยผ่านการฝึก หรือเคยเป็นบอดี้การ์ดมาก่อน ท่วงท่าการออกหมัดช่างคล่องแคล่วและตอบโต้ได้อย่างว่องไว อีกอย่างหากไม่เก่งจริงคงจัดการกับกลุ่มชายฉกรรจ์สามคนไม่ได้หรอก แต่ละคนใช่ว่าจะผอมแห้งแรงน้อยเสียเมื่อไหร่ ร่างกายบึกบึนน่ากลัวแถมยังตัวใหญ่กว่าพี่กัสเป็นไหน ๆ
ในตอนนั้นฉันเพิ่งจะอยู่มัธยมต้นจึงช่วยอะไรเขาไม่ได้ เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะทำอะไรได้นอกจากหาที่หลบซ่อนและคอยแอบมองอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ
ส่วนปัจจุบันนี้น่ะเหรอ? หึ...เรียงตัวมาเลยฉันไม่กลัวหรอก เด็กผู้หญิงที่เคยอ่อนแอในวันนั้นมันได้ตายไปแล้ว
“รับค่ะ” ริมฝีปากบางตอบรับ พลางขยับกายลุกลงจากเตียงนอน “พี่กัสลงไปรอข้างล่างเลยนะคะ เดี๋ยววาตามไป”
สองเท้าเดินตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัว
“ครับ” ขณะที่ร่างสูงเองก็รับคำอย่างว่าง่าย แล้วจึงเปิดประตูก้าวออกไปจากห้องนอนของฉัน
ครั้นทำอะไรเสร็จเรียบร้อย และเดินลงไปยันชั้นล่างของบ้าน ฉันกลับพบกับสิ่งที่ไม่น่าสบอารมณ์สักเท่าไหร่
“สวัสดีค่ะคุณเอวา” ผู้หญิงที่กล่าวคำทักทายช่างดูไม่คุ้นหน้า ดูทรงแล้วคงไม่แคล้วเป็นเด็กใหม่ของป๊าอีกตามเคย
นี่ก็นับว่าเป็นอีกเรื่องที่ทำให้เราสองพ่อลูกมีปัญหาจนถึงขั้นไม่ลงรอยกัน ถือเป็นเรื่องใหญ่สุดเชียวล่ะ และเชื่อเถอะว่าถ้าใครมาเป็นฉันก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกันอย่างแน่นอน
ใครมันจะไปชอบ ที่เห็นว่าพ่อตัวเองพาผู้หญิงเข้าบ้านมาไม่ซ้ำหน้า หากถามว่าแม่ของฉันหายไปไหน ตอบได้แค่ว่าอยู่บนสวรรค์นานแล้ว ตั้งแต่ที่ฉันเรียนอยู่ประถมด้วยซ้ำ
ทว่ายังคงจำได้ดีว่าม๊าเป็นผู้หญิงที่ดีและเพียบพร้อมมากแค่ไหน ดีเสียจนพอจากไปก็ทำให้ป๊าถึงกับเสียศูนย์ หนักขนาดที่ว่าพยายามหาผู้หญิงที่เหมือนกับม๊า ทั้งหมดที่ทำล้วนแล้วแต่ต้องการให้คนมาแทนที่ผู้หญิงที่ตนรักมาก กระนั้นท่านไม่เคยถามความสมัครใจจากฉันสักคำ
หากถามก็คงตอบอย่างหนักแน่นว่าฉันไม่มีทางยอมให้ใครมาแทนที่ม๊าได้ ต่อให้จะเหมือนกันยิ่งกว่าร่างโคลน ฉันก็จะไม่ยอมโดยเด็ดขาด
ม๊าจะอยู่ในหัวใจ และอยู่ในความทรงจำของฉันตลอดไป ไม่ว่าใครหน้าไหนก็อย่าหวังว่าจะได้เข้ามาแทนที่
“เอากองไว้ตรงนั้นแหละ” ไม่สนใจอยู่แล้วว่าใครจะมองยังไง ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ
ต่อให้ป๊าจะยืนอยู่ตรงหน้าฉันก็จะทำตัวแบบนี้…
“เอวา พูดให้มันดี ๆ หน่อย ป๊าไม่เคยสอนให้หนูทำตัวเสียมารยาทกับคนอื่นแบบนี้นะ” ดวงตาคมดุดันมองสบตาฉันในเชิงตำหนิ พร้อมพูดเอ็ดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
“ป๊าเคยสอนด้วยเหรอคะ?” จ้องเขม็งไปที่ท่าน พลางย้อนถามกลับอย่างไม่นึกกลัว
ต่อให้คนอื่นจะรู้สึกกลัวป๊าจนหัวหดขนาดไหน ทว่าฉันกลับไม่เคยเกิดความรู้สึกแบบนั้นเลยสักครั้งเดียว เพราะยังไงท่านคงไม่กล้ายกปืนขึ้นมาจ่อศีรษะฉันเหมือนอย่างที่ทำกับคนอื่น ๆ หรอก
“เอวา!” ระดับน้ำเสียงเริ่มแข็งกร้าวขึ้นตามอารมณ์
“ท่านคะ ไม่เป็นไรค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ข้างป๊ารีบยกมือขึ้นจับแขนท่านเพื่อห้ามปราม
จะรับบทเป็นคนดีสินะ? ฉันเห็นมานักต่อนักแล้ว การแสดงของผู้หญิงทุกคนที่เคยมาเหยียบบ้านหลังนี้ในฐานะผู้หญิงของป๊า ก็จะรอดูแล้วกันว่าจะดีไปได้นานแค่ไหน
“คุณหนูครับ เชิญที่ห้องอาหาร” พี่กัสเดินตรงเข้ามาหา เขาคงได้ยินเสียงป๊าที่ตะคอกใส่ฉัน
“ค่ะ” ดูแล้วป๊าคงพาผู้หญิงคนนี้มารับประทานมื้อเย็นที่บ้านเหมือนกัน ดังนั้นฉันจะพลาดได้อย่างไรกัน
ฉันเปลี่ยนทิศทางไปยังห้องอาหารขนาดกว้าง บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารมากมายที่ถูกจัดวางเอาไว้อย่างเตรียมพร้อม
ฉันไม่เดินเข้าไปนั่งโดยทันที แต่ให้ป๊ากับผู้หญิงคนนั้นนั่งลงก่อน แล้วจึงเดินเข้าไปหยุดยืนที่เก้าอี้ด้านข้างร่างบาง
พี่กัสเลื่อนเก้าอี้ให้ฉันนั่งโดยไม่ถามอะไร แม้ว่าที่ตรงนี้จะไม่ใช่ที่ประจำของฉันก็ตามแต่ กระนั้นป๊ากลับมองมาทางฉันด้วยสีหน้าฉงนที่เห็นว่าฉันเลือกนั่งข้างผู้หญิงของตน
โดยปกติหลายคนคงไม่ชอบที่จะอยู่ใกล้คนที่ตนเองเกลียด แต่สำหรับฉันแล้วยิ่งเกลียดยิ่งอยากอยู่ใกล้ เพราะจะได้กำจัดอย่างง่ายดาย
ใกล้มือใกล้เท้าสิยิ่งดี…
“ทำไมถึงไปนั่งตรงนั้นเอวา” ว่าแล้วป๊าต้องถามคำถามนี้ “ย้ายกลับมานั่งข้างป๊า”
ฉันต้องทำตามที่ป๊าออกคำสั่งเหรอ? ไม่มีทาง กลัวว่าฉันจะลุกขึ้นบีบคอผู้หญิงคนนี้หรือยังไง หวาดระแวงลูกสาวตนเองมากไปหรือเปล่า
“แล้วตรงนี้มีใครเขียนชื่อจองไว้เหรอคะ ทำไมถึงนั่งไม่ได้” ริมฝีปากบางขยับถามพร้อมรอยยิ้มหวาน “หนูก็แค่อยากทำความรู้จักกับผู้หญิงของป๊าบ้างไม่ได้เลยเหรอ?”
“แต่เมื่อกี้ลูกไม่ได้ทำเหมือนอยากจะรู้จักเธอเลยนะ”
“ความรู้สึกของคนเรามันเปลี่ยนแปลงกันได้เสมอค่ะ ป๊ากำลังไม่ไว้ใจหนูอยู่สินะ” ละครฉากหนึ่งกำลังถูกฉันแสดงให้ป๊าได้ดู
“ป๊าไม่ได้คิดอย่างนั้น จะนั่งก็นั่งไปเถอะ” ความคลางแคลงใจเลือนหายไปจากใบหน้าของท่าน “กินข้าวกันได้แล้ว”
“คุณชอบกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ” ฉันหันไปถามคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง
“อาหารไทยค่ะ” คำตอบที่ได้รับกลับมาทำให้ฉันยกยิ้มมุมปาก
ป๊าก็ยังคงเลือกผู้หญิงที่ชอบอะไรเหมือน ๆ กับม๊า
“คุณเป็นลูกครึ่งหรือเปล่าคะ” ฉันยังคงตั้งคำถาม โดยมีสายตาของป๊าคอยลอบมองตลอด
“ไทยกับจีนค่ะ พ่อเป็นคนจีนส่วนแม่เป็นคนไทย” ผู้หญิงคนนั้นตอบ พร้อมกับอธิบาย
ความแตกต่างเห็นทีจะมีตรงจุดนี้ เพราะม๊าของฉันเป็นไทยแท้ไม่ได้มีเชื้อสายอื่น ส่วนป๊ามีหลายเชื้อชาตินับไม่ถ้วน แต่หลัก ๆ ก็จีน มาจากตระกูลเก่าแก่ก็แบบนี้ ใคร ๆ ก็อยากเป็นทองแผ่นเดียวกัน
แต่น้อยคู่ที่แต่งงานเพราะความรัก ส่วนมากมักจะแต่งเพราะผลประโยชน์ ซึ่งแน่นอนว่าคู่ของป๊ากับม๊าคืออย่างแรก ไม่งั้นป๊าคงไม่เป็นเอามากขนาดนี้หลังจากที่ม๊าจากไป
“วาถามมากไปหรือเปล่าคะ” ฉันแทนตัวเองด้วยสรรพนามที่ดูสนิทสนม จะแสดงทั้งทีก็ต้องเล่นให้แนบเนียน
“ถามได้เลยค่ะ ไม่เป็นไร” ดูท่าทางเรียบร้อยเชียว ถ้าหากฉันทำบางสิ่งให้เธอจดจำ ฉันจะกลายเป็นคนใจร้ายไหมนะ
“งั้นคำถามสุดท้ายแล้วกันค่ะ” เพราะฉันก็ไม่อยากเสียเวลาอยู่ตรงนี้นาน ๆ เหมือนกัน “บนโต๊ะนี้คุณอยากกินเมนูไหนมากที่สุดคะ”
“เลือกยากจังเลยค่ะ” ที่เธอพูดออกมาแบบนั้น เพราะอาหารตรงหน้าล้วนเป็นอาหารไทยทั้งสิ้น
“ป๊าช่วยเลือกมั้ยคะ?” ฉันหันไปถามผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ
“ให้ไลลาเลือกเลย” นี่คงจะเป็นชื่อของเธอ เหตุผลที่ฉันไม่ถามเพราะไม่อยากทำความรู้จักกับผู้หญิงคนนี้อย่างที่ปากว่า
“อย่างนั้น…ขอเลือกต้มยำกุ้งแล้วกันค่ะ”
“แน่ใจนะคะ?” ฉันถามย้ำอีกครั้ง รู้ดีว่าพ่อครัวที่บ้านทำเมนูอาหารไทยได้ถึงเครื่องราวกับเป็นสูตรต้นตำรับ
“ค่ะ” เธอยังคงยืนยันคำเดิม โดยไม่ล่วงรู้ชะตากรรมของตนเองเลยสักนิดว่าหลังจากนี้จะพบเจอกับอะไร
“มันจะเผ็ดไปหรือเปล่าคะ เอาแกงเขียวหวานดีกว่ามั้ย” อยากให้โอกาสไลลาได้ตัดสินใจอีกครั้ง แต่ถ้าเธอไม่รับอันนี้ก็ช่วยไม่ได้
“ฉันชอบอะไรเผ็ด ๆ ค่ะ” แบบนี้เองสินะ เดี๋ยวได้แสบจนต้องร้องขอชีวิตแน่ ๆ
“จัดไปค่ะ” ฉันรับคำทันที พลางผุดลุกขึ้นยืนเพื่อเอื้อมมือไปคว้าถ้วยต้มยำกุ้งที่กำลังร้อนอยู่หน่อย ๆ
พรวด!
“กรี๊ดดดด”
“เอวา ลูกทำแบบนี้ทำไม!!”
ทั้งเสียงกรีดร้อง และเสียงตะคอกของผู้เป็นพ่อดังขึ้นประสานกัน หลังจากที่ฉันจัดการเทต้มยำกุ้งราดลงบนศีรษะของไลลา เธอลุกขึ้นกระโดดเร่า ๆ เพื่อสะบัดสิ่งเหล่านั้นออกจากร่างกาย
เป็นเหตุให้กุ้งตัวใหญ่กระเด็นมาอยู่ตรงปลายเท้าของฉัน และจังหวะที่พ่อกำลังเดินอ้อมมาเพื่อเล่นงาน สองเท้าก็รีบกระโดดขึ้นเหยียบเก้าอี้ และปีนข้ามขึ้นไปยืนบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะกระโดดลงไปยืนบนพื้นอีกฝั่ง ท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของลูกน้องป๊าที่ยืนอยู่รอบ ๆ จะมีก็แต่พี่กัสที่ยังคงแสดงสีหน้านิ่งเรียบแบบเดิม
“เซอร์ไพรส์~” เอ่ยพลางหัวเราะร่าอย่างสะใจในสิ่งที่เพิ่งกระทำลงไป “การแสดงจบลงแล้ว ขอบคุณที่รับชมนะคะป๊า ขอตัวก่อนนะคะ บ๊ายบาย”
ฉันหมุนตัวเตรียมชิ่งออกไปจากตรงนี้ โดยมีพี่กัสตามหลังมาติด ๆ
“มัวแต่ยืนบื้อกันอยู่ทำไม จับเอวาไว้สิวะ!!” ป๊าเกรี้ยวกราดใส่ลูกน้อง พร้อมออกคำสั่ง
“ไปเร็วพี่กัส” ฉันรีบคว้ามือหนา พลางฉุดรั้งให้เขาวิ่งตาม “ใครกล้าจับฉันระวังจะกลายเป็นศพ”
ดวงตากลมโตตวัดมองคนที่เข้ามาใกล้เขม็ง อีกฝ่ายชะงักไปนิดหนึ่งอย่างลังเลว่าจะฟังคำสั่งของใครดี แต่ก่อนที่จะทันได้ตัดสินใจ ฉันกับพี่กัสก็รีบพากันวิ่งขึ้นรถที่จอดอยู่ด้านหน้า ซึ่งทำให้รอดจากการจับกุมของลูกน้องป๊าได้อย่างหวุดหวิด
นับว่าโชคดีที่พี่กัสเอารถมาจอดรอตรงนี้ ไม่อย่างนั้นฉันคงโดนป๊าเล่นงานเป็นแน่ ไว้ให้ท่านอารมณ์เย็นลงก่อนค่อยกลับมาบ้านแล้วกัน
“สะใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ร่างสูงข้างกายที่กำลังขับเคลื่อนรถยนต์ด้วยความเร็วเอ่ยถาม
“ขนาดนั้นเลยค่ะ” ยอมรับตามความจริง
“คุณหนูไม่ต้องลงมือเองก็ได้ ขอแค่บอกผม” พี่กัสรู้ใจฉันดีในทุก ๆ เรื่อง และเขาก็รู้ด้วยว่าที่ฉันทำไปทั้งหมดเพียงเพราะอะไร
ใครที่คิดจะเข้ามาแทนที่ม๊าต้องข้ามศพฉันไปก่อน ตราบใดที่ฉันยังอยู่ก็ต้องเจอแบบนี้แหละ…
“ไม่เป็นไรค่ะ วาอยากหาอะไรสนุก ๆ ทำอยู่พอดี” ตอนนี้อารมณ์ดีแล้ว ฉันสามารถไปแข่งรถได้อย่างสบายใจ
อันที่จริงการทำร้ายคนอื่นมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แต่ผู้หญิงคนนั้นมายุ่งกับครอบครัวของฉันก่อน บางทีคงไม่ได้มาดีด้วยซ้ำ เหมือนอย่างผู้หญิงของป๊าก่อนหน้าหลาย ๆ คน ที่เข้ามาเพื่อหวังเงินทอง และหวังเกาะเป็นปลิงดูดเลือด ที่ฉันทำก็เพื่อปกป้องครอบครัวไม่ให้สูญเสียอะไรไปมากกว่านี้ต่างหาก
ดวงตากลมโตทอดมองออกไปยังกระจก เพื่อมองทิวทัศน์ด้านข้างที่รถยนต์เคลื่อนผ่าน ไม่นานนักก็เลี้ยวเข้าสู่สนามแข่งรถชื่อดัง
ฉันเปิดประตูก้าวลงจากรถหลังจากจอดสนิท เพื่อตรงไปยังตึกสำนักงานสูงลิ่ว ก็ต้องเตรียมตัวกันก่อน จะเดินดุ่ม ๆ เข้าไปแข่งเลยมันก็ไม่ได้
ครั้นเดินไปถึงหน้าลิฟต์ บานประตูก็กำลังเคลื่อนปิดพอดี จนพี่กัสต้องรีบยื่นนิ้วไปกดปุ่มค้างไว้ บานประตูเปิดออกอีกครั้ง
“ขอไปด้วยนะคะ” ฉันก้าวเข้าไปในลิฟต์ และพบกับผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง
ทั้งรูปร่างและหน้าตาของเขาทำให้ฉันถึงกับหันไปมองซ้ำอีกรอบ ทั้งชีวิตก็เจอผู้ชายหล่อมาเยอะ แต่ไม่มีใครทำให้ฉันรู้สึกสะดุดตาได้เท่าเขา แล้วส่วนสูงนั่นจะสูงแข่งกับเสาไฟหรือเปล่า
แต่ช่างน่าเสียดาย ที่ท่าทางของเขาดูไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ นอกจากจะไม่พูดด้วยแล้วยังยกหลังมือขึ้นปิดจมูก ก่อนจะรีบก้าวเดินออกจากลิฟต์ไป ทิ้งให้ฉันและพี่กัสมองตามหลังด้วยสีหน้างงงวย
“เขาเหม็นอะไรหรือเปล่าครับ” เมื่อพี่กัสโพล่งถามขึ้นมาแบบนั้น ฉันถึงกับต้องก้มดมกลิ่นกายตัวเองเพื่อพิสูจน์
ก็มีแค่ฉันที่ยืนอยู่ใกล้ผู้ชายคนนั้นมากที่สุด จะว่าไปแล้วพอมานึกดูดี ๆ ฉันลืมฉีดน้ำหอมมานี่นา
“มาจากวาหรือเปล่าคะ พี่กัสลองดมดูให้หน่อย” ฉันขยับเข้าไปหาพี่กัสในระยะประชิด ใกล้ขนาดนี้ถ้ากลิ่นมาจากฉันต้องรู้สึกกันบ้างล่ะ
“ไม่นะครับ”
“โกหกหรือเปล่าคะ”
“จริง ๆ ครับ” ร่างสูงตรงหน้ายืนยันคำเดิมด้วยน้ำเสียงหนักแน่นกว่าเก่า
แล้วผู้ชายคนนั้นเขาเป็นอะไร ลำบากพวกฉันต้องมาตามหากลิ่นที่ทำให้เขาต้องยกหลังมือขึ้นปิดจมูกอีก…
บทที่ 1 บทนำ
17/03/2024
บทที่ 2 ตอนที่ 1 ท้าทาย (1)
17/03/2024
บทที่ 3 ตอนที่ 2 ท้าทาย (2)
17/03/2024
บทที่ 4 ตอนที่ 3 ผลการตัดสิน (1)
17/03/2024
บทที่ 5 ตอนที่ 4 ผลการตัดสิน (2)
17/03/2024
บทที่ 6 ตอนที่ 5 หอบเหล้าหนี (1)
17/03/2024
บทที่ 7 ตอนที่ 6 หอบเหล้าหนี (2)
17/03/2024
บทที่ 8 ตอนที่ 7 หลบหน้า (1)
17/03/2024
บทที่ 9 ตอนที่ 8 หลบหน้า (2)
17/03/2024
บทที่ 10 ตอนที่ 9 คิดบัญชี (1)
17/03/2024
บทที่ 11 ตอนที่ 10 คิดบัญชี (2)
17/03/2024
บทที่ 12 ตอนที่ 11 ไลฟ์โค้ช (1)
17/03/2024
บทที่ 13 ตอนที่ 12 ไลฟ์โค้ช (2)
17/03/2024
บทที่ 14 ตอนที่ 13 ศัตรูเบอร์หนึ่ง (1)
17/03/2024
บทที่ 15 ตอนที่ 14 ศัตรูเบอร์หนึ่ง (2)
17/03/2024
บทที่ 16 ตอนที่ 15 ต้อนรับสมาชิกใหม่ (1)
17/03/2024
บทที่ 17 ตอนที่ 16 ต้อนรับสมาชิกใหม่ (2)
17/03/2024
บทที่ 18 ตอนที่ 17 แต่งงาน (1)
17/03/2024
บทที่ 19 ตอนที่ 18 แต่งงาน (2)
17/03/2024
บทที่ 20 ตอนที่ 19 อุบัติเหตุ (1)
17/03/2024
บทที่ 21 ตอนที่ 20 อุบัติเหตุ (2)
17/03/2024
บทที่ 22 ตอนที่ 21 ข้อเสนอ (1)
17/03/2024
บทที่ 23 ตอนที่ 22 ข้อเสนอ (2)
17/03/2024
บทที่ 24 ตอนที่ 23 โดดเดี่ยว (1)
17/03/2024
บทที่ 25 ตอนที่ 24 โดดเดี่ยว (2)
17/03/2024
บทที่ 26 ตอนที่ 25 ค่ำคืนที่เร่าร้อน (1)
17/03/2024
บทที่ 27 ตอนที่ 26 ค่ำคืนที่เร่าร้อน (2)
17/03/2024
บทที่ 28 ตอนที่ 27 ความลับ (1)
17/03/2024
บทที่ 29 ตอนที่ 28 ความลับ (2)
17/03/2024
บทที่ 30 ตอนที่ 29 บุคคลน่าสงสัย (1)
17/03/2024
บทที่ 31 ตอนที่ 30 บุคคลน่าสงสัย (2)
17/03/2024
บทที่ 32 ตอนที่ 31 สูญเสีย (1)
17/03/2024
บทที่ 33 ตอนที่ 32 สูญเสีย (2)
17/03/2024
บทที่ 34 ตอนที่ 33 มารร้าย (1)
17/03/2024
บทที่ 35 ตอนที่ 34 มารร้าย (2)
17/03/2024
บทที่ 36 ตอนที่ 35 พี่สาวที่พลัดพราก (1)
17/03/2024
บทที่ 37 ตอนที่ 36 พี่สาวที่พลัดพราก (2)
17/03/2024
บทที่ 38 ตอนที่ 37 ร่องรอย (1)
17/03/2024
บทที่ 39 ตอนที่ 38 ร่องรอย (2)
17/03/2024
บทที่ 40 ตอนที่ 39 รวบหัวรวบหาง (1)
17/03/2024
หนังสืออื่นๆ ของ JAMBENZ
ข้อมูลเพิ่มเติม