GOOD BOY ผู้ชายก็ดีเป็น

GOOD BOY ผู้ชายก็ดีเป็น

JAMBENZ

5.0
ความคิดเห็น
9K
ชม
52
บท

"ถ้านายยังทำนิสัยแบบนี้ สักวันนายจะไม่เหลือใคร" ร่างเล็กพูดบอกผมออกมาด้วยแววตานิ่งๆ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยและเพรียบพร้อมไปซะทุกอย่าง ถ้าเปรียบเธอเป็นที่สูง ผมก็คงเป็นที่ต่ำ ผมอยากจะไขว่คว้าเธอ แต่มันก็เกินเอื้อม เพราะคนเลวๆ อย่างผมมันไม่มีค่าที่จะคู่ควรกับเธอ "ถ้าฉันเป็นคนดีแล้วเธอจะรักฉันได้มั้ย" ผมลองย้อนถามกลับไป เธอยังคงยืนนิ่งก่อนที่จะเดินออกไปโดยที่ไม่ได้ตอบอะไรผมทั้งนั้น ไม่ว่าผมจะเป็นยังไงสุดท้ายเธอก็ไปอยู่ดี ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว ประโยคนี้มันไม่มีผลอะไรกับชีวิตของผม ไม่ว่าจะทำตัวดีแค่ไหน สุดท้ายก็เหี้ยในสายตาของเธออยู่ดี...

บทที่ 1 .

.:ICE PART:.

ผมชื่อ “ไอซ์” เป็นผู้ชายเหี้ยๆ คนหนึ่งที่แอบรักเพื่อนสนิทของตัวเอง เธอกับผมมันช่างแตกต่างกัน ผมยอมรับว่าผมมันไม่เอาไหน แต่ถ้าได้เอาเธอผมก็ไม่หวั่น เวลาผมทำอะไรไม่ดีเธอมักจะคอยเตือนและคอยด่าผมเสมอ หนึ่งคำก็เหี้ย สองคำก็เหี้ย แต่เขาว่ากันว่าผู้หญิงด่าแปลว่าผู้หญิงรัก โอเคถ้างั้นผมให้อภัยเธอ ถึงแม้ว่าผมจะเหี้ย แต่ถ้าได้เลียนี่เล่นซะเพลียเลยนะ

“อยู่กับพี่ ให้ ‘ปี้’ ได้ก่อ”

.:END ICE PART:.

.:SODA PART:.

ฉันชื่อ “โซดา” ฉันเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ถึงแม้ว่าใครต่อใครจะบอกว่าฉันไม่ธรรมดาก็ตาม และคนที่มักจะพูดแบบนี้อยู่เสมอ เขาก็คือเพื่อนสนิทของฉันเอง เขาคนนั้นเป็นผู้ชาย ฉันเองก็ไม่เข้าใจว่าเรามาสนิทกันได้ยังไง รู้แค่ว่าคบแล้วรู้สึกสบายใจที่สุด มันก็ยังดีกว่าคบเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน แล้ววันๆ เอาแต่จ้องจะงาบของเราไปกิน แต่สำหรับเพื่อนคนนี้ เขาไม่เคยคิดจะแย่งอะไรไปจากฉัน มีแต่คอยหยิบยื่นทุกอย่างให้ โดยไม่สนว่าตัวเองจะไม่เหลืออะไร

“เขาคือ ‘เพื่อน’ ที่ดีที่สุดสำหรับฉัน”

.:END SODA PART:.

...น้ำแข็งโซดา ซาบซ่าสุดขั้ว...

.:ICE PART:.

ทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้ ซึ่งสิ่งที่ผมเลือกนั้นแม่งก็บัดซบสิ้นดี ผมชื่อ ‘ไอซ์’ ใครๆ ก็รู้จักผมดีว่าเหี้ยแค่ไหน ผมอาศัยอยู่ในห้องแคบๆ ภายในบ้านไม้หลังเก่าแถวสลัม ซึ่งเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติดทุกชนิด มีหลายคนที่ย้ายมาอยู่แถวนี้แล้วหลงระะเริงไปกับสิ่งเหล่านั้น ถ้าถามว่าผมเป็นแบบนั้นมั้ย? ตอบได้เลยว่า ไม่!

ไม่เหลือเหี้ยอะไรแล้วตอนนี้ เงินทุกบาททุกสตางค์ของผมมันหมดไปกับอบายมุขทุกอย่าง อย่ามาถามว่าผมเสพอะไรบ้าง ถามมาดีกว่าว่าอะไรที่ผมยังไม่เคยเสพ เพราะถ้าให้ผมบอกว่าผมเสพอะไรวันนี้ก็คงจะบอกไม่หมด แม่งยาวยิ่งกว่าแม่น้ำปิงวังยมน่านรวมกันซะอีก

ผมมองไปที่โต๊ะตรงหน้านิ่งๆ ขณะพ่นควันบุหรี่ออกมาลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง กลิ่นเหล้าหรือกลิ่นอะไรต่างๆ ก็ลอยคลุ้งไปทั่ว บ้านผมไม่มียุงหรอก แม่งเมาควันบุหรี่จนตกลงมาตายหมดแล้ว

เห็นไหมว่าอย่างน้อยสิ่งเหี้ยๆ แม่งก็มีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่

บนโต๊ะของผมนั้น พื้นที่ทุกตารางนิ้วถูกจับจองไปด้วยยาเสพติดชนิดต่างๆ ผมวางมันไว้อย่างโจ่งแจ้งโดยไม่กลัวว่าใครจะมาเห็น เพราะส่วนมากไม่มีใครเข้ามายุ่งกับผมอยู่แล้ว

“ไอซ์!” นอกจากเธอคนนี้คนเดียว โซดาคือเพื่อนสนิทคนเดียวของผม เธอตะโกนเรียกชื่อผมเสียงดังพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ ผมคีบบุหรี่ออกจากปากแล้วดับมัน โซดายกมือขึ้นปิดจมูก พลางปัดควันบุหรี่ออกห่างตัว

เธอไม่ชอบมัน แต่ผมนี่สิชอบมันยิ่งกว่าอะไร

“มาทำไม” ผมถามขึ้นเสียงนิ่ง พลางมองหน้าเธอไปด้วย วันนี้เธอใส่ชุดนักศึกษามาหาผม คงจะเพิ่งเลิกเรียนแน่ๆ ส่วนตัวผมนั้นไม่เรียนหรอก ผมได้แต่ใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆ

สายตาของโซดาไม่ได้มองมาที่ผม เธอมองจ้องไปที่สิ่งเหล่านั้นที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะหันกลับมามองผมด้วยสายตานิ่งๆ

“เมื่อไหร่จะเลิกเสพสักที” เธอถามผมด้วยสีหน้าหงุดหงิด

“...” แต่ผมก็นั่งเงียบไม่ตอบคำถามของเธอ

“ถามจริงมันดีตรงไหนของพวกนี้เนี่ย” เธอเอ่ยถามออกมาต่อ

“มันฟิน” ผมตอบออกไปสั้นๆ ไม่ได้จะกวนตีน แต่นี่คือความจริงที่อยากจะพูดต่างหาก

“...”

“แล้วมันก็จะเวิ้งๆ หน่อย” ผมพูดออกมาต่อ โซดาเดินขยับเข้ามาใกล้ผมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ พร้อมกับง้างฝ่ามือขึ้น

ผลัวะ!

“เจอแบบนี้ยังเวิ้งอยู่มั้ย” เธอเอ่ยถามออกมา หลังจากที่ฟาดฝ่ามือลงบนศีรษะของผม อยากถามว่านี่มือหรือส้นตีน มันไม่เวิ้งหรอกแต่มันวิ้งมากกว่า

“ทำเหี้ยไรวะ กลับบ้านไปดิ่ ปวดหัวจะกินยา” ผมพูดไล่ออกมาด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่ได้ตะคอกหรืออะไร แค่พูดเล่นๆ แต่ถ้าเธอไปจริงๆ มันก็ดี ผมไม่อยากให้เธอมาเห็นเวลาผมทำเรื่องเลวๆ หรอก แล้วยาที่ผมบอกว่าจะกินนี่ก็ไม่ใช่ยาปกติทั่วไปด้วย แต่เธอก็ยังคงยืนนิ่งพร้อมกับสายตาที่มองมาทางผมอย่างไม่ลดละ

แววตาของเธอมันสื่อให้เห็นว่าอีกสักพักจะมีเรื่องดราม่าตามมา

“ถ้านายยังทำนิสัยแบบนี้ สักวันนายจะไม่เหลือใคร” ร่างเล็กพูดบอกผมออกมาด้วยแววตานิ่งๆ

เห็นหรือเปล่าผมบอกแล้ว

สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือมองสบตาเธอนิ่งๆ โดยไม่กล้าขยับปากพูดอะไรออกมา ขณะที่สมองของผมมันกำลังคิดทบทวนกับสิ่งที่เธอพูด โซดาเป็นผู้หญิงที่สวยและเพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง ถ้าเปรียบเธอเป็นที่สูง ผมก็คงเป็นที่ต่ำ ผมอยากจะไขว่คว้าเธอ แต่มันก็เกินเอื้อม

เพราะคนเลวๆ อย่างผมมันไม่มีค่าที่จะคู่ควรกับเธอ

“ถ้าฉันเป็นคนดีแล้วเธอจะรักฉันได้มั้ย” ผมลองย้อนถามกลับไป แต่เธอก็ยังคงยืนนิ่ง ก่อนที่จะเดินออกไปโดยที่ไม่ได้ตอบอะไรผมทั้งนั้น

ก็เข้าใจ...ไม่ว่าผมจะเป็นยังไงสุดท้ายเธอก็ไปอยู่ดี

ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว ประโยคนี้มันไม่มีผลอะไรกับชีวิตของผม ไม่ว่าจะทำตัวดีแค่ไหน สุดท้ายก็เหี้ยในสายตาของเธออยู่ดี…

ครั้นพอคิดมาถึงตรงนี้ผมก็รู้สึกเครียด จนต้องเอื้อมมือไปหยิบบุหรี่อีกมวนขึ้นมาจุดสูบ ก่อนจะพ่นควันออกมาช้าๆ อย่างเหม่อลอย อยากจะตบปากตัวสักทีสองทีที่พูดอะไรแบบนั้นออกไป

แต่สักพักหนึ่งโซดาก็กลับเข้ามาพร้อมกับถุงก๋วยเตี๋ยวในมือ เธอเดินตรงเข้าไปในครัวก่อนจะกลับมาอีกครั้งพร้อมชามก๋วยเตี๋ยว โซดาใช้มือกวาดสิ่งเสพติดที่อยู่บนโต๊ะไปทางอื่น แล้ววางชามก๋วยเตี๋ยวนั้นลงตรงหน้าผมแทน

“ที่พูดออกมาเมื่อกี้คือนายกำลังเบลอใช่มั้ย งั้นกินอะไรร้อนๆ หน่อยสติจะได้กลับมา” เธอพูดบอก ดวงตาคมของผมหลุบมองชามก๋วยเตี๋ยวสลับกับใบหน้าของเธอ

“ถ้าอยากให้กินก็ปรุงให้ด้วยดิ” หลังจากที่ผมโพล่งออกไปแบบนั้น โซดาจึงเดินเข้าไปในครัวอีกครั้งแล้วกลับออกมาพร้อมเครื่องปรุง เธอใส่ทุกอย่างลงไปจนกระทั่งเหลือขั้นตอนปรุงลำดับสุดท้าย

“ใส่พริกเยอะมั้ย” เธอเงยหน้าขึ้นถามผม ขณะที่มือเล็กก็กำลังจับช้อนและกระปุกพริกป่นอยู่

“เยอะๆ” ผมตอบสั้นๆ อย่างไม่ใส่ใจ จริงๆ ก็กินได้หมดขอแค่เธอทำให้ก็พอ

“งั้นเทหมดเลย” แล้วเธอก็ทำแบบนั้นจริงๆ โซดาตะแคงพริกป่นในกระปุกที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง แล้วเทพรวดเดียวลงในชามก๋วยเตี๋ยวของผมจนหมดกระปุก

“ไหนๆ ปรุงแล้วก็กินเองเลยเถอะ” ผมบอกเธอก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินหนีไป ตอนกินไม่เท่าไหร่ แต่ตอนขี้นี่ดิใครจะมาช่วยผม

.:END ICE PART:.

.:SODA PART:.

หลังจากที่ฉันบังคับให้ไอซ์กินก๋วยเตี๋ยวที่ฉันปรุงได้ ฉันก็เดินออกมาจากบ้านของเขา แล้วตรงไปที่ป้ายรถเมล์เพื่อขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้านของตัวเอง

ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดเท่าไหร่ เขามักจะชอบถามตลอดว่ารักฉันมั้ยๆ รักเหี้ยอะไรของมันฉันก็ไม่รู้ สงสัยไอซ์เบลออย่างที่ฉันว่าจริงๆ นั่นแหละ แต่ถึงแม้ว่าเขาจะทำตัวเหลวแหลกแค่ไหน แต่เขาก็ไม่เคยทำให้ฉันต้องหลั่งน้ำตา

“ลุงคะจอดตรงบ้านหลังนี้เลยค่ะ” ฉันพูดบอกลุงคนขับแท็กซี่ เมื่อรถขับมาถึงหน้าบ้านของตัวเอง ลุงจอดรถตามที่ฉันบอก ก่อนที่ฉันจะยื่นค่าโดยสารให้กับลุง แล้วเปิดประตูก้าวลงจากรถเพื่อเดินเข้าบ้าน

บ้านของฉันค่อนข้างใหญ่โต เพราะฐานะทางบ้านค่อนข้างดี แต่ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะดีไปอีกนานแค่ไหน ทุกอย่างที่ครอบครัวฉันมี ก็เป็นเพราะพ่อของฉันนั่นแหละคือคนที่สร้างมันขึ้นมา แต่ตอนนี้พ่อของฉันไม่อยู่แล้ว ท่านเสียไปตั้งแต่ที่ฉันยังเรียนอยู่มัธยม อีกไม่นานคงจะมีใครสักคนมาทำลายสิ่งที่พ่อฉันสร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงของท่าน

“ไปไหนมาโซดา!” และคนที่จะทำลายมันก็อาจจะเป็นแม่ของฉันเองก็ได้

“ไปหาเพื่อนมาค่ะ” ฉันตอบออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ขณะกำลังเดินตรงไปที่บันไดซึ่งแม่ของฉันเองก็กำลังเดินลงมาจากบนนั้น

“เพื่อนคนไหน ใช่ผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า” แม่เอ่ยถามออกมาต่อ ท่านไม่ชอบให้ฉันไปยุ่งกับไอซ์มากเท่าไหร่ เหตุผลมันก็เพราะว่าเขาเป็นคนไม่ดี แต่ความจริงแล้วที่แม่ของฉันไม่ชอบไอซ์ก็เป็นเพราะว่าเขาไม่ได้ร่ำรวยต่างหากล่ะ ที่บอกว่าไม่ดีน่ะมันก็แค่การหาข้ออ้างให้ดูสวยหรู

สำหรับแม่ของฉันต่อให้เลวมากแค่ไหนแม่ก็ไม่สนใจหรอก แม่ฉันสนอย่างเดียวคือขอแค่มีเงินเท่านั้น

“ใช่ค่ะ”

“ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ยว่าห้ามไปยุ่งกับมัน! ผู้ชายทำตัวเหลวแหลกอย่างนั้นแกยุ่งเข้าไปได้ยังไงห๊ะ!!” แม่ฉันเป็นพวกชอบดูถูกคนแบบนี้แหละ ถ้าเห็นบ่อยๆ ก็คงจะชินไปเอง คนรอบข้างแม่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครทำตัวเหลวแหลก บางทีอาจจะหนักกว่าไอซ์เลยด้วยซ้ำ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ JAMBENZ

ข้อมูลเพิ่มเติม
HELLO BITCH ฉันมันวายร้าย

HELLO BITCH ฉันมันวายร้าย

โรแมนติก

5.0

ผู้หญิงหลายคนไม่ได้ต้องการผู้ชายที่เพอร์เฟ็กต์ ไม่ได้ต้องการผู้ชายที่แสนดีเหมือนหลุดออกมาจากนิยาย แค่ต้องการผู้ชายที่รักเธอ และซื่อสัตย์ต่อเธอเท่านั้น แต่ดูเหมือนสิ่งที่ได้มามันกลับตรงข้ามไปซะหมด ตอนนี้แค่ความรักเธอเองก็ไม่มั่นใจแล้วว่าเขาจะยังมีให้กับเธอเหมือนเดิมหรือเปล่า แทนที่มันจะเพิ่มมากขึ้น แต่ดูเหมือนเวลาผ่านไปมันก็ยิ่งมีน้อยลง ใช่ว่าเธอจะไม่เหนื่อย เธอเหนื่อยมากๆ กับพฤติกรรมของเขา แล้วถ้าคุณเป็นเธอล่ะ? คุณจะเหนื่อยหรือเปล่า หากคนที่คุณรักแม่งปลิ้นปล้อน กระหล่อน และเจ้าชู้มากๆ แต่ถ้าคุณเหนื่อยคุณก็พัก ผัวไม่รักก็หาใหม่ จะร้องทำเหี้ยอะไร หาผัวใหม่ที่ดีกว่า อย่าเสียน้ำตาให้กับคนที่ไม่เห็นค่าในตัวเรา จำไว้!!

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ลิขิตรักนายสุดหื่น

ลิขิตรักนายสุดหื่น

รินธารา
5.0

เมื่อเธอโดนนอกใจจากคนที่รัก จึงหนีไปเริ่มต้อนชีวิตใหม่ที่ดูไบ และเธอก็ได้เจอกับหนุ่มอาหรับสุดแซ่บ ที่มายั่วยวนหลอกล่อให้เธอมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับเขา และเขายังต้องการให้เธอท้องลูกของเขาอีก.... เรื่องย่อ.... “คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…” “ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…” “ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…” “หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…” “อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้” “ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” “อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….” อัสลาน ราเชด บรูฮัมนี อายุ 37 ปี “อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. มารียา เวทติวัตร อายุ 27 ปี “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
5.0

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ