5.0
ความคิดเห็น
17.4K
ชม
18
บท

รักแรกมักลืมยาก แต่การยอมรับความเจ็บปวดนั้นกลับยากยิ่งกว่า แถมโชคชะตายังเล่นตลกให้เขากลับมาเป็นเด็กบำเรอกามของแด๊ดดี้อีกครั้ง

บทที่ 1 เรื่องบังเอิญหรือโชคชะตา

บทที่ 1

เรื่องบังเอิญหรือโชคชะตา

Readtober Theme (2018) : บังเอิญ

ก๊อกๆ

“เชิญครับ”

เรนัล แลนด์คอป เงยหน้าจากแฟ้มเอกสารแล้วเอ่ยตอบรับเสียงเรียบ ดวงตาคมเหลือบมองนาฬิกาข้อมือเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มพอใจเมื่อเห็นว่าเข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาตรงกับที่เขานัดอีกฝ่ายให้เข้ามาพบในวันนี้

ถือว่ารู้จักมารยาทต่างจากนักวิจัยคนอื่นที่เคยมา

ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีกรมท่าขยับตัวลุกขึ้นยืนต้อนรับแขกอย่างให้เกียรติ ใบหน้าคมติดเย็นชาแต่ยังคงความสุภาพไว้หลายส่วนถูกเปลี่ยนเป็นอาการประหลาดใจยามเห็นผู้มาเยือนเต็มสองตา

“คุณ...” นะโมเองก็ตกใจจนดวงตาคู่สวยเบิกกว้างราวกับเห็นผีใบหน้าหวานที่คุ้นเคยทำให้คนมองเผลอยกยิ้มมุมปากคล้ายเจออะไรถูกใจ

ไม่คิดเลยว่าการปฏิเสธไม่ยอมคุยกับตาแก่เสียงยานที่รู้สึกเกลียดขี้หน้าอย่างบอกไม่ถูก มันจะทำให้เขาได้เจอกับ ‘ของเล่น’ ชิ้นโปรดซึ่งเคยหลุดมือไปเมื่อหลายปีก่อน

ความรู้สึกที่เก็บซ่อนในหัวใจตลอดมาได้แทรกซึมก่อเกิดเป็นอารมณ์หลากหลาย

ทว่าชั่วพริบตาบอสหนุ่มผู้กำอำนาจมหาศาลก็กลับมามีท่าทีปกติราวกับเมื่อสักครู่ไม่มีสิ่งใดผิดแผกไป

“...!”

นักวิจัยตัวเล็กแอบสะดุ้งเฮือกเมื่อประตูห้องทำงานถูกเลื่อนปิดอัตโนมัติ แม้จะพยายามควบคุมสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แต่มันกลับทำได้ไม่ง่ายเลย

มันยากเหลือเกินที่จะมองข้ามอดีตและห้ามไม่ให้รู้สึกอะไรเมื่อต้องอยู่ตามลำพังกับผู้ชายคนนี้…

“นั่งก่อนสิ”

“...ขอบคุณครับ” เจ้าตัวตอบรับเสียงเบา เขาพยายามตั้งสติแล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน

ดวงตาคมวาววับจับจ้องไปยังร่างผอมบางในชุดสูทสีครีมไม่วางตา ใบหน้าเนียนใสดูซูบผอมกว่าอดีตแต่ยังคงดึงดูดสายตาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายปีก่อนอีกฝ่ายจะเป็นเด็กใต้อาณัติซึ่งเขายอมตามใจมากที่สุด

“ผมชื่อณัฐวุฒิ เป็นหนึ่งในคณะวิจัยโครงการพิเศษนี้ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” รอยยิ้มเจื่อนๆ ฉายทาบขณะแนะนำตัวด้วยความสุภาพ ฝ่ามือยื่นแฟ้มที่กอดไว้แนบอกลงวางบนโต๊ะ

ทว่านั่นทำให้คนฟังเริ่มมีสีหน้ามึนตึงกรุ่นโกรธ เรนัลตวัดสายตาดุเป็นการตักเตือนแทนคำพูด

แม้นะโมจะเป็นเพียงของเล่นชิ้นเก่า แต่ก็นับว่าถูกใจตนมากที่สุด การที่อีกฝ่ายแสร้งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนทำให้เขารู้สึกราวกับโดนลูบคมอยู่กลายๆ

“กะ ก็คุณเรนัลเป็นคนบอกเองว่าต้องการคุยกับนักวิจัย ผมเลยแนะนำตัวเผื่อคุณจะไม่รู้... แค่นั้นเอง” นะโมรีบแก้ตัวเสียงอ่อย

คำตอบนั้นทำให้บอสหนุ่มพลันนิ่งงัน ก่อนนึกได้ว่าตนใช้ข้ออ้างขอคุยกับนักวิจัยคนอื่นเพื่อสอบถามข้อมูลไว้ตัดสินใจว่าจะเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนหลักดีหรือไม่ ทั้งๆ ที่ใจจริงเขาคิดจะตอบตกลงไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่ด้วยความที่ไม่ชอบหน้าเหี่ยวๆ ของตาแก่เจ้าของแลบ จึงเลือกยืดเวลาออกไปเพื่อทรมานคนรอฟังคำตอบเล่นๆ

“ฉันพึ่งรู้ว่าเธอเป็นนักวิจัยโครงการนี้ด้วย”

ช่างเป็นความบังเอิญที่เหมาะเจาะเสียจริง…

“ผมทำงานกับที่นี่มาตั้งแต่เรียนจบแล้วครับ ถ้ายังไง… เรามาคุยเรื่องโครงการวิจัยกันเลยดีไหมครับ ตรงจุดไหนที่คุณเรนัลสงสัยผมจะได้อธิบายให้ฟัง”

นักวิจัยหนุ่มพยายามหลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องส่วนตัวเพราะไม่อยากนึกถึงอดีตที่สร้างบาดแผลไว้ในใจให้เขาจนถึงทุกวันนี้ โดยการดึงประเด็นเข้าเรื่องงานโดยไม่อ้อมค้อมใดๆ ทั้งสิ้นให้เสียเวลา

แต่ดูเหมือนเจ้าของห้องจะไม่ยินยอมให้เขาทำแบบนั้น

“หลังจากที่เราเลิกกัน มีใครเลี้ยงเธอต่อบ้าง”

คำถามที่ยิงออกมาทำให้คนฟังชะงักไปชั่วครู่ ภาพเหตุการณ์ที่เป็นต้นเหตุของการเลิกราปรากฏชัดในใจ มันบีบคั้นความรู้สึกเสียจนนะโมเผลอกัดริมฝีปากเข้าหากันอย่างลืมตัว

กาลเวลาไม่เคยนำพาให้ความรู้สึกแย่จากเรื่องราวในวันนั้นหายไปไหน และไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ไม่อาจรักษาให้หายได้

แม้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยแอบคิดว่าคนตรงหน้าจะสามารถเยียวยาบาดแผลเหล่านั้นได้ ทว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกระทำกลับตรงกันข้าม

ไม่มีการปลอบใจใดๆ กระทั่งคำขอโทษจากคนผิด… เขาก็ไม่เคยได้รับมัน

“ไม่มีครับ” นะโมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ขณะฝืนตอบเสียงเรียบ ความเศร้าที่หน่วงหนักในใจนั้นเต็มไปด้วยความรักมากมายที่เขามอบให้แก่คนซึ่งไม่เคยเห็นค่า

หัวใจพลันปวดร้าวเมื่อคิดเช่นนั้น เปลือกตาปิดลงเพื่อบดบังความเศร้าและหยาดน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอ สองมือบีบเข้าหากันจนแน่นอยู่บนตัก นะโมใช้เล็บจิกลงกลางฝ่ามือเรียกสติให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ก่อนจะกะพริบดวงตาถี่ๆ แล้วพยายามแสดงท่าทางให้ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้

“...แล้วตอนนี้เธออยู่กับใคร” เส้นเสียงทุ้มราวกับขาดหายไปชั่วขณะเพียงแค่เห็นแววตาหม่นหมอง ทว่าหน้ากากเรียบเฉยก็ถูกสวมใส่ปิดบังความรู้สึกอย่างรวดเร็ว

“ผมกลับไปอยู่กับลูกพี่ลูกน้องเหมือนเดิมครับ” ดวงตาสองคู่สบประสานกันชั่วขณะก่อนผู้มาเยือนจะก้มหน้าลงต่ำด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

คนตัวเล็กยอมรับว่านัยน์ตาสีฟ้าคู่นี้มีเสน่ห์ดึงดูดชวนให้หัวใจเต้นรัวแรงไม่ต่างจากวันแรกที่พบเจอ แม้ความหวาดกลัวจากเหตุการณ์ครั้งนั้นยังตามหลอกหลอนอยู่เกือบทุกค่ำคืนจนต้องพึ่งยานอนหลับก็ตาม

มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งรักทั้งเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน

สองหนุ่มต่างวัยจมอยู่กับความคิดของตัวเองจนรอบข้างพลันไร้ซึ่งเสียง มีเพียงบรรยากาศแปลกๆ ที่ลอยอบอวลเท่านั้น มันไม่ถึงกับชวนให้อึดอัด ทั้งยังพาพวกเขาย้อนกลับไปยังอดีตที่เคยเต็มไปด้วยความสุข ก่อนใบหน้าเรียบเฉยจะปรากฏร่องรอยครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

สายตาเลื่อนสำรวจตามเรือนร่างผอมแห้งราวกับคนไม่มีข้าวกิน หัวคิ้วก็พลันขมวดมุ่น ถึงเขาจะพอรู้อยู่บ้างว่าแลบของเดนิชขาดทุนหนักจนต้องเร่ขายอุปกรณ์วิจัยบางส่วน แต่ก็ไม่คิดว่าตาแก่นั่นจะถึงขั้นไม่จ่ายเงินเดือนพนักงานจนอีกฝ่ายแทบจะเป็นกระดูกเดินได้แบบนี้

“เดนิชได้จ่ายเงินเดือนบ้างหรือเปล่า” บอสหนุ่มเผลอเอ่ยถามตามที่คิด

“เอ่อ…”

สีหน้าลำบากใจนั้นเป็นคำตอบได้อย่างดี ผู้นำตระกูลเก่าแก่ถอนหายใจออกมาเบาๆ แม้เขาจะห้ามตัวเองไม่ให้สืบเรื่องราวของนะโมหลังจากแยกทางกันได้ ทว่าพอเห็นเจ้าของรอยยิ้มสดใสมีชีวิตราวกับสวรรค์กลั่นแกล้งเช่นนี้ ความรู้สึกผิดที่เคยมีก็ยิ่งกัดกินใจจนอยากจะทำอะไรเพื่อชดเชยสักอย่าง…

ชดใช้ให้กับความผิดพลาดที่เขาได้ก่อมันขึ้นมาเมื่อห้าปีก่อน

ทั้งยังยึดติดในศักดิ์ศรีเสียจนไม่กล้าเอ่ยปากขอโทษคนที่มีสถานะเป็นเพียงแค่เด็กบำเรอบนเตียง และนั่น… ก็ทำให้เขาต้องเสียนะโมไป

สายตาคมไล่สำรวจอีกฝ่ายจนพอใจจึงวกกลับมาที่ใบหน้าหวานซึ่งตราตรึงในความทรงจำไม่เคยเลือนหาย แม้มันจะดูเศร้าและไร้รอยยิ้มแบบที่เขาชอบก็ตามที

“เธอคิดว่างานวิจัยนี้จะมีโอกาสสำเร็จสักกี่เปอร์เซ็นต์”

จู่ๆ เรนัลก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนามาเป็นเรื่องงาน ท่าทางจริงจังของเขาทำให้นะโมรีบฝังกลบความรู้สึกแย่ๆ จากการคิดถึงอดีต แล้วฟังคำถามอย่างตั้งใจ

แต่น้ำเสียงเย็นชาไร้อารมณ์ราวกับเรื่องที่กำลังพูดถึงเป็นสิ่งที่เขาไม่ให้ความสนใจ หนุ่มนักวิจัยจึงลอบกลืนน้ำลายลงคอแล้วเอ่ยตอบอย่างไม่เต็มเสียงนัก

“...การวิจัย ‘ยา Preg-able (ผู้หญิงสามารถมีอสุจิหรือผู้ชายมีรังไข่) ’ โอกาสสำเร็จอยู่ที่ 30-50 เปอร์เซ็นต์ครับ...”

พูดจบดวงตาสีน้ำตาลก็แอบมองสีหน้าของคนฟังด้วยใจลุ้นระทึก แม้เขาจะรู้จักเรนัลเพียงแค่ครึ่งปี แต่การได้อยู่ด้วยกันทุกวันทำให้เข้าใจนิสัยอีกฝ่ายพอสมควรโดยเฉพาะเรื่องการใช้เงิน ถ้าหากเป็นสิ่งที่เจ้าตัวถูกใจ ต่อให้ต้องเสียเงินเป็นล้านก็ให้ได้ แต่ถ้าไม่...

ก็อย่าหวังว่าจะได้อะไรจากเขาเลย!

จากท่าทางและน้ำเสียงคนตรงหน้าทำให้นะโมรู้สึกใจเสีย คาดเดาไปแล้วว่างานวิจัยชิ้นนี้คงจะอยู่ในฝั่งของสิ่งที่ไม่สนใจแน่ๆ

“แต่ตอนนี้งานวิจัยมันเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นพอสมควรแล้วนะครับ ถ้าหากทางเราได้รับเงินสนับสนุนจากคุณ มันจะต้องออกมาสำเร็จและสร้างกำไรให้อย่างมหาศาลแน่นอน” แม้ว่าดวงหน้าหวานจะเริ่มแสดงออกถึงความกังวล แต่ตราบใดที่ยังไม่ได้ยินคำปฏิเสธชัดเจนจากปากคนตรงหน้า เขาก็ยังไม่ยอมตัดใจ

ถ้าหากเรนัลไม่ยอมเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนเงินทุน มีหวังงานวิจัยที่เขากับคนอื่นๆ ปลุกปล้ำกันมาเกือบปีต้องสูญเปล่าเพราะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้แน่ๆ

หรือถ้าพูดให้ถูกคือแลบคงจะต้องปิดตัวลงหลังเกิดสภาวะขาดทุนนานเกือบปี

“นักธุรกิจอย่างฉันไม่ลงทุนกับงานวิจัยไร้สาระที่มีโอกาสทำเงินไม่ถึงครึ่งแบบนี้หรอกนะ” น้ำเสียงเย็นชาตอบกลับอย่างไร้ความรู้สึก

ทว่าปากหยักกลับเม้มเข้าหากันจนแทบเป็นเส้นตรงเมื่อเห็นนัยน์ตาเศร้ามีน้ำตาเอ่อคลอพลางหลุบลงต่ำไม่กล้าสบตา แต่แผนที่วางไว้จะคลาดเคลื่อนไม่ได้เด็ดขาด

เขาต้องการให้นะโมกลับมาอยู่ข้างกายอีกครั้ง อยากเสพสมกับเรือนร่างหอมกรุ่นที่เคยหลงใหลเมื่อครั้นอดีตให้เต็มที่ แต่จะให้เอ่ยปากขอคืนดีก็ดูเสียศักดิ์ศรีไปหน่อย การตัดรอนและบีบบังคับให้เจ้าตัวยอมเป็นฝ่ายเข้าหาเองจึงถือเป็นทางเลือกสุดท้าย

“...เข้าใจแล้วครับ” นะโมฝืนยิ้มตอบรับคำปฏิเสธหลังพยายามกะพริบตาถี่ๆ ไล่หยาดน้ำตาให้หายไปอยู่นาน

ขณะที่มือสั่นเทาเอื้อมมาหยิบแฟ้มรายละเอียดกลับไป เสียงเอ่ยถามก็ดังขึ้นจุดไฟแห่งความหวัง ทว่ากองไฟนั้นกลับลุกโชนลามเลียใจเขาจนเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย

“ถ้าเธอยอมเอาตัวเข้าแลก ฉันจะลองคิดดูอีกที… ดีไหม?”

รอยแผลตกสะเก็ดในหัวใจคล้ายถูกมีดปลายแหลมตวัดสร้างรอยปริให้เลือดไหลซึม นัยน์ตาหวานซึ่งช้อนมองสบคนตรงหน้าจึงเต็มไปด้วยความน้อยใจปนตัดพ้อต่อว่า

ที่ผ่านมาเขาพยายามดิ้นรนเพื่อให้มีสถานะทางสังคมที่ดีขึ้น แต่สุดท้ายตัวเขาก็มีค่าแค่นี้เองสินะ…

...เป็นได้แค่ของเล่นไว้ใช้บำเรอความใคร่

แล้วแด๊ดดี้ก็จะเบื่อเขาและทำแบบวันนั้น...

ทุกถ้อยคำผุดขึ้นมาในสมองไม่หยุดราวกับมีดล่องหนที่พุ่งตรงทำร้ายตัวเขาซ้ำไปซ้ำมา นะโมกลืนความขมขื่นลงคอแล้วก้มลงมองแฟ้มในมือที่ไร้ซึ่งความสนใจจากผู้กุมอำนาจ สีหน้าและแววตาหมองเศร้าเสียจนเรนัลไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป

“จะไม่มีแบบวันนั้นอีกแล้วนะโม” เสียงทุ้มเอ่ยหนักแน่นราวกับให้คำมั่นสัญญา

ใบหน้าหวานเงยขึ้นมามองสบตาด้วยท่าทางสับสน นัยน์ตาสีน้ำตาลดูเหม่อลอยคล้ายเจ้าตัวกำลังจมดิ่งสู่ห้วงแห่งภวังค์ไม่ต่างจากวันนั้น บอสหนุ่มขยับตัวเล็กน้อยด้วยความรู้สึกกระสับกระส่าย ใจอยากเข้าไปโอบกอดเพื่อปลอบประโลม ทว่าอีกใจกลับเอ่ยแย้งว่านะโมไม่ได้มีความสำคัญไปมากกว่าเด็กบำเรอกามคนหนึ่ง

เขาก็แค่อยากเชยชิมรสสวาทที่ติดใจเหมือนคนเคยกินอาหารอร่อยๆ แล้วอยากกินอีกเท่านั้นแหละ

ผู้นำตระกูลแลนด์คอปเอ่ยย้ำกับตัวเองหลังเกิดความลังเลขึ้นในใจแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“...ถ้าผมทำให้คุณพอใจได้ คุณจะเป็นสปอนเซอร์ให้กับงานวิจัยโครงการนี้ใช่ไหมครับ” นักวิจัยหนุ่มกลั้นใจเอ่ยถามเพื่อขอคำยืนยัน เล็บมือจิกแน่นหวังตั้งสติให้อยู่กับปัจจุบันมากที่สุด

ตอนนี้เขาคือหนึ่งในคณะวิจัย...

เขาคือตัวแทนของทุกคน…

เขาจะเอาเรื่องในอดีตมาทำให้เสียโอกาสดีๆ แบบนี้ไม่ได้

“ตราบใดที่นายทำให้ฉันพอใจ จะโครงการไหนๆ เอาเงินเท่าไหร่… ฉันให้หมด”

คำตอบรับง่ายๆ ที่ดังกระทบหูอาจจะทำให้คนอื่นดีใจจนน้ำตาไหล แต่มันกลับสร้างความขื่นขมให้คนฟังจนเจ้าตัวต้องกัดปากแรงๆ เพื่อหยุดยั้งก้อนสะอึก

แพขนตาหนาหลุบลงเพื่อปิดบังความเสียใจที่ฉายชัดในดวงตา นะโมกลืนทุกความรู้สึกไม่ว่าจะเป็นความรักที่เคยมีหรืออารมณ์โศกเศร้าใดๆ ลงในใจแล้วยอมรับกับสิ่งที่ตนเองตัดสินใจเลือก

“ตกลงครับ”

ในเมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้กลับมาอยู่ที่จุดเดิม เขาก็ขอเลือกเส้นทางนี้ดูอีกสักครั้ง

งานวิจัยที่ทุกคนทุ่มเทแรงกายแรงใจมาตลอดจะต้องสำเร็จ…

...ต่อให้ต้องใช้ร่างกายนี้แลกเงินก็ตาม!

----บอสเจ้าแผนการ----

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เจ้าหญิงน้อยของพี่ๆ ทั้งสาม

เจ้าหญิงน้อยของพี่ๆ ทั้งสาม

Silas Thorn
5.0

ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

test
3.5

เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
บอสเจ้าแผนการ
1

บทที่ 1 เรื่องบังเอิญหรือโชคชะตา

24/01/2022

2

บทที่ 2 เด็กดีบนเตียงเปลี่ยนเป็นบนตัว (NC)

24/01/2022

3

บทที่ 3 คนไม่สำคัญที่สำคัญ

24/01/2022

4

บทที่ 4 ความลับไม่มีอยู่จริง

24/01/2022

5

บทที่ 5 มึงมันโง่

24/01/2022

6

บทที่ 6 จุดเริ่มต้นของฝันร้าย (NC)

24/01/2022

7

บทที่ 7 Party Sex (1) (NC)

24/01/2022

8

บทที่ 8 Party Sex (2) (NC)

24/01/2022

9

บทที่ 9 ข้าวไม่ได้มีไว้อม

24/01/2022

10

บทที่ 10 อม… ไอศครีม (NC)

24/01/2022

11

บทที่ 11 ความใจดีเป็นเหตุ

24/01/2022

12

บทที่ 12 จะดูดให้น้ำหมดตัวเลย (NC)

24/01/2022

13

บทที่ 13 อย่ามายุ่งกับคนของฉัน (NC)

24/01/2022

14

บทที่ 14 เผชิญหน้า

24/01/2022

15

บทที่ 15 ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

24/01/2022

16

บทที่ 16 ในโบสถ์มันไม่ดี งั้นข้างหลังแทนก็ได้ (NC)

24/01/2022

17

บทที่ 17 บันนี่บอยและเด็กน้อยแสนน่ารัก (NC)

24/01/2022

18

บทที่ 18 ‘เอา’ อีกแล้ว (NC)

24/01/2022