เพลิงสุมใจไฟสุมรัก

เพลิงสุมใจไฟสุมรัก

B.J.

5.0
ความคิดเห็น
79K
ชม
72
บท

นราวดีผวาสุดตัว เธอพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากเชือกที่มัดเธอเอาไว้บนหัวเตียง เท้าของเธอโดนมัด และร่างของเธอเหลือเพียงบราเซียกับแพนตี้ติดกายเท่านั้น ร่างของเธอค่อยๆ สั่นและเธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่ไม่เคยพานพบมาก่อน มันช่างรุนแรงและทรมานจนแทบจะขาดใจ เธอต้องการการปลดปล่อย เธออยากจะร้องไห้กับความทรมานนี้เหลือเกิน ร่างน้อยสัมผัสได้ถึงมือหนาอันแข็งกร้าวที่ลูบไล้ร่างกายของเธอ ความหวาดกลัวมาพร้อมกับความปรารถนาที่รุนแรงเกินจะหักห้ามใจ “อื้อ...” เธอครางเสียงสั่นจนสะท้าน รับรู้ได้ถึงรสสัมผัสแปลกใหม่ ริมฝีปากร้อนรุ่มของใครสักคนที่ค่อยๆ ช่วยปัดเป่าความทรมานให้เธออย่างลึกซึ้ง เธอบิดกายเร่าๆ ไปมาด้วยความเสียวซ่านเมื่อยอดถันถูกดูดดึงด้วยริมฝีปากร้อนๆ เสียงลมหายใจของเขาร้อนแรง เขากัดยอดถันของเธอจนเจ็บแปลบ เธอดิ้นเร่าๆ ถูกตามติดบดเบียดเรือนกายเข้ามาหา ในขณะที่มือของเธอถูกปลดปล่อยจากพันธนาการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

บทที่ 1 1

บทนำ

ว้าย!!!

เอี๊ยด!!!

กรี๊ด!!!

โครม!!!

เสียงหวีดร้อง เสียงเบรกรถเบียดอัดกับถนน เกิดจากเสียงรถชนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ นราวดี อภิวัชรโยธิน เด็กสาววัย 15 ปี นั่งตัวสั่นอยู่หน้าพวงมาลัยรถ ก่อนที่ไทยมุงจะเข้ามาดูเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ รถพยาบาล เสียงคนพูดกันอย่างแซ็งแซ่ผ่านเข้าประสาทหู ในขณะที่เด็กสาวได้แต่ช็อกกับเกตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอส่ายหน้าไปมาอย่างขวัญเสีย

‘ขับรถยังไง ชนคนท้องตายคาที่’

‘แบบนี้แหละ พวกลูกนักการเมืองใหญ่ พ่อมันก็โกง ลูกมันก็ใจดำ นี่แหละเขาว่าคนดีตายง่าย คนชั่วๆ เลวๆ ตายยาก’

‘นี่ก็คงรอดพ้นจากคดีอีกตามเคย พ่อมันเส้นใหญ่ ถ้าลูกคนอย่างพวกเราๆ มีหวังติดคุกหัวโต’

‘ขับรถเร็วใช่ไหมล่ะ วันก่อนพี่ชายมันซิ่งชนคนตายยังเอาเรื่องไม่ได้เลย’

‘อายุแค่นี้เป็นฆาตกรเสียแล้ว เวรกรรมจริงๆ ประเทศไทย มีแต่เด็กนรก ยิ่งพ่อแม่มันรวยยิ่งเลวทรามต่ำช้า หาดีไม่ได้เลยจริงๆ’

‘กฎหมายหรือจะสู้เงินได้ มันสองมาตรฐานเห็นๆ’

‘รอลงอาญาอีกล่ะสิ ลูกคนรวยก็แบบนี้แหละ กฎหมายไทยน่าจะจริงจังมากกว่านี้นะ’

ไทยมุงวิจารณ์กันไปต่างๆ นาๆ รู้กฎหมายบ้างไม่รู้กฎหมายบ้าง

นราวดีหน้าซีดตัวสั่นเมื่อได้ยินว่าผู้หญิงที่เธอขับรถชนเสียชีวิตตายคาที่ ลูกน้องของบิดาตามติดเธอไปยังโรงพยาบาลด้วยเพื่อให้ปากคำกับตำรวจก่อนจะพากลับ เพราะสถานที่เกิดเหตุเป็นหน้าบ้านของเธอเอง เธอสติหลุดพูดผิดๆ ถูกๆ แถมยังไม่เห็นหน้าคนเจ็บอีกเพราะเลือดท่วม หลังจากนั้นเธอก็เก็บตัวอยู่แต่บนห้องด้วยความกลัว

“แกนี่มันตัวซวยจริงๆ เลย ฉันกำลังจะลงเล่นการเมือง แกก็ทำงามหน้า ขับรถชนคนตาย” นนท์จิ้มหน้าผากบุตรสาวด้วยความโมโห นราวดีลนลานทำอะไรไม่ถูก หลังจากเกิดเรื่อง นนท์กับมาตาก็ต้องรับผิดชอบเต็มที่เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงไปมากกว่านี้ แต่พ่อแม่ของสุวดีนั้นปฏิเสธการช่วยเหลือ แถมยังสาดน้ำไล่อีกเมื่อไปเคารพศพ ทำให้ต้องกลับกะทันหัน

“มันตายๆ ไปซะได้ก็ดีค่ะคุณ” มาตาพูดอย่างแค้นใจ เพราะคนที่บุตรสาวขับรถชนเป็นเมียน้อยของสามี ซึ่งเคยเป็นอดีตเลขา ตั้งท้องขึ้นมาก็เรียกร้องให้รับผิดชอบลูกในท้อง ผู้หญิงเดี๋ยวนี้หน้าด้านหน้าทนจริงๆ ชอบแย่งผัวชาวบ้าน

“นังลูกคนนี้นี่มันตัวซวย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง”

“คุณพ่อคะ คุณแม่คะ แล้วครอบครัวผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้างคะ” เด็กสาวเอ่ยถามบิดามารดา เธอนึกเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มันมีบางสิ่งบางอย่างที่เธอพูดไม่ได้ พูดออกไปก็ไม่ดี และคงไม่มีใครเชื่อ

“แกจะถามทำไม มันจะเป็นยังไงก็ช่างมันสิ” นนท์พูดด้วยความโมโห

“แต่หนูอยาก...”

“แกเลิกพูดมากแล้วทำตามคำสั่งของฉันก็พอ ไม่เห็นหรือไงว่ามันไม่รับความช่วยเหลือจากเรา”

นราวดีได้แต่รู้สึกผิด เธอนอนฝันร้ายทุกคืน ฝันว่าผู้หญิงคนนั้นยืนอุ้มลูกมาทวงความเป็นธรรม เธอปิดกั้นทุกอย่างไม่เคยดูข่าว ไม่รับรู้อะไร เพราะหวาดกลัว เนื่องจากอายุยังน้อย เธอไม่เห็นหรอกว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเป็นยังไง เห็นในความฝันว่าเธอยืนเลือดท่วมกายเพียงแค่นั้น เพราะตอนไปงานศพยังไม่ทันจะเข้าไปในงานก็โดนสาดน้ำไล่ออกมาเสียก่อน

นราวดีจึงไปทำบุญถวายสังฆทานกับแม่นมที่เลี้ยงดูกันมา อุทิศส่วนกุศลให้กับผู้หญิงคนนั้น เพราะไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ใครต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้ หลังจากวันนั้นเธอไม่เคยหัดขับรถอีกเลย นอกจากความรู้สึกผิดแล้ว มีบางสิ่งบางอย่างที่เก็บซ่อนเอาไว้ในใจ ปริปากบอกใครไม่ได้

คดีความนั้นเธอยอมรับผิดทุกอย่าง ตอนให้ปากคำก็มีทนายของบิดาไปด้วยตลอด พอขึ้นศาลทางพ่อแม่ผู้เสียหายก็ไม่รับความช่วยเหลือใดๆ แถมยังสาปแช่งเธออีก โชคดีที่เป็นช่วงปิดเทอม เธอจึงไม่ต้องออกไปพบเจอผู้คน ปิดกั้นข่าวสารทุกอย่างเอาไว้แค่เพียงในห้องเล็กๆ

“ฉันจะส่งแกไปอยู่โรงเรียนประจำ” นนท์พูดใส่หน้าลูกสาวคนเล็กที่เขาแสนจะรังเกียจ เพราะคดีของนราวดี รอลงอาญาสามปี บุตรสาวเป็นผู้เยาว์ ต้องบำเพ็ญประโยชน์ และห้ามก่อคดีแบบนี้อีก

ตั้งแต่เล็กจนโต นราวดีไม่เคยได้รับความรักจากบุพการี เธอมักอยู่กับแม่นมและสาวใช้ซึ่งคอยดูแลกันมาตลอด เธอทำอะไรก็ผิดหูผิดตาบิดามารดาไปเสียหมด มารดาอาจไม่เท่าไหร่ แต่บิดานั้นเรียกว่าจงเกลียดจงชังเธอเหลือเกิน เธอเองก็ไม่รู้ว่าสาเหตุอันใดจึงเป็นเช่นนั้น

นราวดีถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ ในช่วงมัธยมปลาย หลังจากนั้นท่านก็ส่งเธอไปอยู่กับป้าเพื่อเรียนต่อที่ต่างประเทศ ฝันร้ายยังตามหลอกหลอน เธออยากกลับบ้านเกิดเมืองนอน ป้าของเธอมีสามีหลายคน ใช้ชีวิตหรูหรา และไม่เคยคิดว่าเธอคือหลานสาว นราวดีจึงกลายเป็นคนรับใช้ในคฤหาสน์หลังงามไปโดยปริยาย เธอไม่รู้ว่าทำไมทุกคนถึงไม่ชอบเธอกันนัก แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีหวัง หลังจากเรียนจบ จะได้กลับประเทศไทย ข่าวคราวของครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่เธอขับรถชนตายก็เงียบหายไป เหมือนกาลเวลาจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกลืมเลือน แต่มันไม่ได้ทำให้เธอลืมไปได้เลย...

นราวดีคิดว่าบิดาคงหายโกรธเธอ เธอจะกลับมาเซอร์ไพร้ส์ท่าน จึงเดินทางกลับมาโดยไม่ได้แจ้งให้ใครรับรู้ เธอไม่สนิทกับพี่ชายและพี่สาว เพราะตั้งแต่เล็กจนโต บิดานั้นรักใคร่พี่ๆ ของเธอ แต่กับเธอนั้นท่านกลับเกลียดชังและแสดงออกถึงความห่างเหิน เธอเห็นบิดามารดากอดพี่ๆ ก็นึกน้อยใจ ในขณะที่เธอกลับนั่งอยู่บนตักของคนรับใช้เก่าแก่ เหมือนไม่ใช่ลูกของท่านอีกคน

นราวดี หญิงสาววัย 23 ปี เธอขึ้นรถแท็กซี่อย่างมีความหวัง หลังจากถึงสนามบินอย่างปลอดภัย บางทีการกลับมาถึงบ้าน บิดามารดาอาจจะคิดถึงกอดรัดเธอเหมือนกอดรัดพี่ๆ ของเธอบ้าง อาการง่วงนอนที่เกิดขึ้น ทำให้เธอเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเธอพบแต่ความมืด และนอนอยู่ที่ไหนสักแห่ง พอขยับกายกลับพบว่าเธอโดนมัดเอาไว้

นราวดีผวาสุดตัว เธอพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากเชือกที่มัดเธอเอาไว้บนหัวเตียง เท้าของเธอโดนมัด และร่างของเธอเหลือเพียงบราเซียกับแพนตี้ติดกายเท่านั้น

ร่างของเธอค่อยๆ สั่นและเธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่ไม่เคยพานพบมาก่อน มันช่างรุนแรงและทรมานจนแทบจะขาดใจ เธอต้องการการปลดปล่อย เธออยากจะร้องไห้กับความทรมานนี้เหลือเกิน

ร่างน้อยสัมผัสได้ถึงมือหนาอันแข็งกร้าวที่ลูบไล้ร่างกายของเธอ ความหวาดกลัวมาพร้อมกับความปรารถนาที่รุนแรงเกินจะหักห้ามใจ

“อื้อ...” เธอครางเสียงสั่นจนสะท้าน รับรู้ได้ถึงรสสัมผัสแปลกใหม่ ริมฝีปากร้อนรุ่มของใครสักคนที่ค่อยๆ ช่วยปัดเป่าความทรมานให้เธออย่างลึกซึ้ง เธอบิดกายเร่าๆ ไปมาด้วยความเสียวซ่านเมื่อยอดถันถูกดูดดึงด้วยริมฝีปากร้อนๆ เสียงลมหายใจของเขาร้อนแรง เขากัดยอดถันของเธอจนเจ็บแปลบ เธอดิ้นเร่าๆ ถูกตามติดบดเบียดเรือนกายเข้ามาหา ในขณะที่มือของเธอถูกปลดปล่อยจากพันธนาการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“อ๊ะ! เจ็บ ถอยออกไปก่อน ไม่เอา” นราวดีตัวแข็งค้าง เธอดันหน้าท้องแกร่งของอีกฝ่ายออกห่าง แต่เขาตามมาประชิดกดเธอแทบจมเตียง เธอหวีดร้องด้วยความทรมาน เจ็บแปลบและเสียวซ่าน ส่ายหน้าไปมาด้วยความรู้สึกสับสนไปหมด

ร่างสูงของใครสักคนกดแทรกตัวเข้ามาจนล้ำลึกมิดเม้น ผ่านปราการพรหมจรรย์จนขาดสะบั้น เธอหวีดร้องอีกครั้งผวากอดรัดเขาทั้งแขนขาด้วยความเจ็บเสียว ม่านน้ำตารินไหลในขณะที่เขาเริ่มขยับ

เธอรู้สึกว่าทุกอย่างรอบกายดูพลิกคว่ำพลิกหงายไปหมด และสุดท้ายความเสียวซ่านก็เข้ามาแทนที่อารมณ์ทุกสิ่งทุกอย่างที่ก่อตัวขึ้นจนหัวหมุนไปหมด

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.

ข้อมูลเพิ่มเติม
หวานใจเฮียเจ้า

หวานใจเฮียเจ้า

โรแมนติก

5.0

โปรย หวานใจเฮียเจ้า ปิ่นเพชรยืนมองประตูห้องน้ำอย่างลังเล เขากำลังอาบน้ำเช่นนี้ เธอควรจะเข้าไปดูแลเขาไหมนะ เขาไม่เคยเรียกร้อง ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด ถ้าเขาจะทำอะไรก็ควรทำสักที เธอมาอยู่กับเขาเพื่อสิ่งนี้ไม่ใช่หรือ ตัดสินใจได้ดังนั้น ปิ่นเพชรก็ทะลึ่งพรวดพราดเข้าไปในห้องน้ำของเขาในทันที เจ้าทัพตกใจเมื่อจู่ ๆ เธอก็โผเข้ามากอดเขาเอาไว้ทั้งตัว ในขณะที่เขาเองก็กำลังเปลือยเปล่าอยู่ “มีอะไร” เขาเอ่ยถามเหมือนเพิ่งหาเสียงเจอ ไม่คิดว่าเธอจะโผล่พรวดเข้ามาแบบนี้ “คือปิ่นจะมาช่วยอาบน้ำให้คุณน่ะค่ะ” คนบอกว่าจะมาช่วยอาบน้ำกอดเขาเอาไว้แน่น ไม่กล้าผละออกห่างหรือเงยหน้ามองเขาเพราะอาย “จะมาช่วยอาบน้ำให้ผม แต่กอดผมเอาไว้ซะแน่นแบบนี้จะอาบได้ยังไงกันครรับ” เขาเอ่ยเสียงนุ่ม พลางกลั้นยิ้มเอาไว้ “ก็คุณโป๊อยู่” “มาช่วยผมอาบน้ำก็ต้องรู้สิครับว่าผมโป๊” “เอ่อ...” เธออึกอัก เขาจึงค่อย ๆ ดันเธอออกห่าง ก่อนจะมองหน้าเธอไม่วาง เจ้าทัพทาบริมฝีปากลงไปหาริมฝีปากน้อยสั่นระริกของเธอ เธอเกร็งตัวหลับตาแน่น จิกมือเข้าที่บ่าของเขา ท่าทีของเธอบอกว่ากำลังหวาดกลัว และไม่พร้อม ทำให้เขาต้องละริมฝีปากออกห่าง เมื่อเขาจูบลงไปแต่เธอกลับปิดปากแน่น “คุณไม่ต้องฝืนใจตัวเองหรอกนะ ผมไม่บังคับคุณจนกว่าคุณจะเต็มใจ” ประโยคของเขาทำให้เธอชะงักและอึ้งไป

หวานใจเฮียเจตน์

หวานใจเฮียเจตน์

โรแมนติก

5.0

“เดี๋ยวพลอยไปเอาเสื้อผ้ามาให้พี่แล้วกันค่ะ” เขาทำท่าจะตามมา เธอเลยรีบปรามเอาไว้ “พี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องพลอยดีกว่า ยืนรอตรงนี้มันหนาว” “ไม่ได้ค่ะ” “กลัวพี่เหรอ” “กลัวค่ะ” เธอตอบตามตรง จะไปอวดดีว่าไม่กลัวเขา เดี๋ยวก็เจอดีเข้าหรอก “พี่ไม่ทำอะไรหรอก ถ้าพลอยไม่ยอม” “แน่ใช่ไหม” เธอพูดอย่างไม่ไว้ใจ “แน่ครับ” เขาเอานิ้วไปเกี่ยวไว้ทางด้านหลัง ก่อนจะฉีกยิ้มให้เธออย่างบริสุทธิ์ใจ “พลอยไม่ไว้ใจพี่เจตน์หรอกค่ะ พี่น่ะเสือผู้หญิง รออยู่นี่แหละค่ะ พลอยจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้” เธอรีบตัดบท ไม่ยอมใจอ่อนง่าย ๆ พลอยไพลินเปิดตู้เสื้อผ้าและหยิบชุดให้เขา พอหันมาก็ต้องสะดุ้ง “อุ๊ย! พี่เจตน์เข้ามาตอนไหนคะ พลอยบอกว่าให้รออยู่ข้างนอกไง” “ห้องน้องพลอยเรียบร้อยจังเลยครับ หอมด้วย” เขาได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากห้องนอนของเธอ “ชุดพี่เจตน์ค่ะ” เธอยื่นให้เขา เขาก็รับมาถือเอาไว้ “ชุดน้องพลอยหอมจังเลยครับ” เจตน์ยกขึ้นมาดม ก่อนจะยิ้มหวานให้เธอ “เวลาพี่เจตน์จีบผู้หญิงก็ใช้มุขนี้เหรอคะ” “พี่ไม่เคยจีบผู้หญิง” “จะบอกว่าผู้หญิงวิ่งเข้าหาพี่เองเหรอคะ” “น้องพลอยเห็นยังไงก็อย่างนั้นแหละ” “...” เธอเงียบไม่ได้ตอบโต้ “หึงพี่เหรอ” เขาเดินเข้าหา ก่อนจะใช้มือดันไปที่ตู้เสื้อผ้า ทำให้เธอตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา “ใครจะไปหึงพี่กันล่ะคะ” “น้องพลอยก็เปียกไปหมดแล้ว เปลี่ยนชุดพร้อมพี่ไหม” “อุ๊ย! อย่ามาลามกกับพลอยนะคะ” เธอยกขึ้นกอดอกเมื่อเขาหลุบสายตามองต่ำลง “ยังไม่ตอบเลยว่าหึงพี่เหรอ” เขาขยับเข้าไปใกล้ พลางกระซิบถามตรงริมหู ลมหายใจร้อนแรงของเขาเป่ารดอยู่ตรงพวงแก้มหอมกรุ่น “ไม่ได้หึงค่ะ” เธอตอบเขาออกไป ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด การใกล้ชิดกับผู้ชายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เหลือร้ายแบบเขา ทำให้เธอใจสั่น พยายามจะอยู่ให้ไกลจากเขา เพราะรู้ว่าหัวใจตัวเองคงทานทนไม่ไหว แต่ก็เผลอเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาในชีวิตอยู่ร่ำไป “อย่าค่ะ” เธอดันใบหน้าของเขาออกห่าง เมื่อเขาทำท่าจะก้มลงมาประทับริมฝีปากกับกลีบปากหวานฉ่ำของเธอ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณโม่ อดีตภรรยาของคุณสามปีมีลูกสองแล้ว

คุณโม่ อดีตภรรยาของคุณสามปีมีลูกสองแล้ว

Sassy Lady
5.0

แต่งงานมาสามปี อันหนีก็ยังเป็นสาวบริสุทธิ์ ในบรรยากาศที่มีความสุข เดิมทีคิดว่าเขาจะกลับใจ ที่แท้ก็แค่ต้องการรับคนรักในใจกลับมาเท่านั้น ถ้าความรักมีขีดจำกัด ความอดทนก็มีเช่นกัน เธอยื่นข้อตกลงการหย่าฉบับหนึ่งให้เขา แต่กลับไม่คิดว่ากลับถูกเขาพลิกมือกดกับพนัง “คนที่บอกว่าต้องการฉันก็คือเธอ บอกว่าไม่ต้องการฉันก็เธอ มันจะง่ายขนาดนั้นเสียที่ไหน? ” จากนั้น ภรรยาไร้รสชาติที่เคยอ่อนโยนเยือกเย็น ก็ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน หัวกระไดไม่เคยแห้ง ผู้ชายข้างกายเปลี่ยนหน้าไปทุกเดือนทุกปี แต่สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนคือใบหน้างดงามที่บึ้งตึงของโม่หานชวน จนกระทั่งท้องของเธอโตขึ้นเรื่อย ๆ และอุ้มเด็กที่ไม่รู้ว่าเป็นลูกของใครออกมา โม่หานชวนอดทนแล้วอดทนอีก สุดท้ายก็ตัดสินใจอดทนต่อไป แต่เมื่อเขาตัดสินใจจะยอมรับเป็นพ่อ—— เธอกลับโบกมือลา “ขอบคุณความหวังดีของคุณโม่ ต่อไปเรื่องแบบนี้ก็มีอีกเยอะแยะ ก็จะรบกวนคุณบ่อย ๆ ไม่ได้นะคะ”

ท่านประธานหยุดทรมานภรรยา—เธอเป็นตัวท็อปวงการแพทย์แล้ว!

ท่านประธานหยุดทรมานภรรยา—เธอเป็นตัวท็อปวงการแพทย์แล้ว!

Destination
5.0

[ตามง้อเมียแบบเจ็บลึก + รักสองทางต่างมุ่งหน้าเข้าหากัน + โฟกัสเรื่องงาน/สร้างอาชีพ] แต่งงานกันแบบปิดเงียบมาได้สามปี เหอซือชิงเคยคิดว่าความอุ่นร้อนจากหัวใจเธอจะละลายหลู่เป่ยหลินได้สักวัน แต่สุดท้าย ต่อให้เธอทุ่มเททั้งใจเท่าไหร่ ก็สู้การหวนคืนอย่างสวยงามของหญิงคนรักเก่าที่เขาเฝ้าคิดถึงมาตลอดไม่ได้เลย “หย่ากันเถอะ ในเมื่อเราทั้งคู่เห็นหน้ากันก็ยิ่งรู้สึกเบื่อหน่าย งั้นปล่อยให้เราต่างคนต่างเป็นอิสระจะดีกว่า ”หัวใจของเหอซือชิงเหมือนมอดไหม้จนไร้ความรู้สึกแล้ว หลู่เป่ยหลินปฏิเสธอย่างเย็นชา “ฉันไม่เห็นด้วย เธอไม่มีวันได้หย่าจากฉันเด็ดขาด!” เขาคิดจะกักเธอไว้ข้างกาย แต่ยิ่งบีบก็ยิ่งผลักเธอให้ห่างออกไปเรื่อย ๆจนสุดท้าย…ก็สูญเสียเธอไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อได้พบกันอีกครั้ง เธอกลับรุ่งโรจน์ในหน้าที่การงาน ชื่อเสียงโด่งดังในวงการแพทย์ ผู้ชายที่ตามจีบล้อมรอบไม่ขาดสาย ชีวิตไปได้สวย และที่สำคัญ เธอลืมเขาไปอย่างหมดสิ้น หลู่เป่ยหลิน “ลืมเหรอ? ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะทำให้เธอนึกขึ้นได้เอง!” จากนั้นเป็นต้นมา— เหอซือชิงกุมเอว หน้าแดงจัดพร้อม “ต่อว่า” ไปว่า “หลู่เป่ยหลิน คุณมันเผด็จการ จะพอได้รึยัง!” หลู่เป่ยหลินยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “ไม่มีวันพอหรอก!”

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

Roana Javier
4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

แสนรัก(ลักษณ์)พันธนาการใจ

แสนรัก(ลักษณ์)พันธนาการใจ

มณีมายา/แอล/รมตี
5.0

หนุ่มใหญ่วัย 42 เจ้าของโรงแรมและรีสอร์ตระดับ 5 ดาว ผู้ทรงอิทธิพลแห่งขุนเขา ดุดัน โหดและดินเถื่อน ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับสายตาและรอยยิ้้มแสนหวาน ของสาวน้อยวัย 19 เธอคือ made mind day เธอคือคนที่ทำให้วันเครียดๆ ของเขากลายเป็นสีชมพู รอยยิ้มของเธอทำให้เขาไม่มีวันลืม นอนไม่หลับ และเฝ้ารอที่จะได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้ง “ปวดท้องอีกแล้วค่ะ อื้อ! พอปวดมันก็ไหลออกมาอีก” “บอกอาเลย ให้อาทำยังไง” “ไปร้านสะดวกซื้อ ซื้อผ้าอนามัยให้วีได้ไหมคะ” “ไอ้เขตไปร้านสะดวกซื้อ เร็ว” พ่อเลี้ยงหนุ่มสั่งอย่างรีบร้อน ก่อนจะประคองมนัสวีเขามากอดปลอบไปก่อนเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร “ครับๆ” ว่าแล้วเขตแดนก็ขับรถไปพาร้านสะดวกซื้อทันทีซึ่งหาไม่ยาก “ถึงแล้ว ให้อาซื้ออะไรบ้างบอกมาซิ” ครั้นจะให้หนุ่มๆ ไปซื้อก็มีความรู้เท่ากันนั่นแหละ สู้เขาไปจัดการเองดีกว่า “ได้เหรอคะ วีกลัวคุณอาจะ...” “ไม่เป็นไรวีเดินไม่ไหว ไหนกางเกงน่าจะเปื้อนแล้ว” “เอาแบบกลางวัน ยาว 30 cm. 1 ห่อนะคะ แล้วกลางคืนยาว 35 cm. ค่ะ ถ้าหาไม่เจอบอกพนักงานก็ได้ค่ะ” “โอเคจ้ะ” ได้หรือไม่ได้เขาก็รับปากไปก่อนก็แล้วกัน ว่าแล้วจึงรีบลงจากรถพุ่งตัวเข้าไปในร้านในทันที เพียงไม่กี่ล็อกก็เจอผ้าอนามัยแต่ “คุณพระคุณเจ้ามีเป็นร้อย เอ่อ ไงดีวะ” ด้วยความไม่แน่ใจ กลัวหยิบไปผิด ต้องรวบรวมความกล้าและทิ้งความอายไปถามพนักงาน ไม่งั้นเมียเขาม่ได้ใส่ผ้าอนามัยแน่ๆ เชียว “ขอโทษทีครับ คือ ผม... มาซื้อผ้าอนามัยให้... ภรรยา แต่ไม่รู้ว่าต้องเลือกยี่ห้อไหนขนาดอะไรหรือแบบไหนถึงจะดี”

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ