เปิดบริสุทธิ์เจ้าสาว

เปิดบริสุทธิ์เจ้าสาว

มัสยา บุรินทร์

5.0
ความคิดเห็น
1.1K
ชม
14
บท

จันทร์เจ้า... เจ้าสาวบ้านป่าผู้ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง กับ...พี่ช้าง บทเรียนรักอันสุดแสนจะเร่าร้อน และสุดหื่นหฤหรรษ์ คุณอย่าหวังว่าจะมีเรื่องราว แต่มีเรื่องหวานเรื่องคาว จัดเต็ม!!

บทที่ 1 1.จันทร์เจ้า

จันทร์เจ้าใจคอไม่เป็นปกติ ตั้งแต่รู้ว่า คืนนี้ ไม่แคล้วต้องกลายเป็นของเขาอย่างถูกต้อง...

การแต่งงานอันเกิดจากความเห็นชอบของพ่อแม่ แต่ไม่ได้เกิดจากความรักใด ๆ ของจันทร์เจ้า ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้จักความรักหรอก หาก...เธอยังไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย

ชีวิตของจันทร์เจ้า ก็เหมือนกับสาวบ้านป่า ไม่เคยรู้จักรสชาติอื่นใด นอกจากการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวัน ๆ

มีคนจากในหมู่บ้าน ได้ออกไปเผชิญชีวิตแล้วกลับมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

และคนคนนั้นก็แนะนำ เจ้าบ่าวหนุ่มใหญ่คนนี้มาให้กับเธอ เขาชื่อ ช้าง เป็นนักธุรกิจอะไรสักอย่างในเมืองกรุง

หนุ่มใหญ่หอบเอาเงินทองตามที่พ่อแม่ของเธอเรียกร้องมาแต่งงานอย่างถูกต้อง

พิธีกรรมอันถูกต้องตามประเพณีได้ผ่านพ้นไปแล้ว คืนนี้ ในห้องหอ... เขาจึงมีสิทธิ์ในตัวเธอ

การพูดคุยระหว่างจันทร์เจ้ากับพี่ช้างเพิ่งจะเกิดขึ้นแค่ไม่กี่ประโยค เขาพยายามทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย ส่วนเธอก็พยายามระงับความตื่นเต้น

“เป็นไงบ้างจันทร์เจ้า”

ร่างสูงของเขาขยับเข้ามาใกล้

“ไม่เป็นไงค่ะ”

ตอบเสียงพร่า แค่เขาเข้าใกล้ หัวใจของเธอก็แทบกระดอนออกมานอกอกอยู่แล้ว

จันทร์เจ้าหน้าแดง เขิน ไม่กล้ากระทั่งจะสบสายตากับเขา

“พี่ได้ยินเสียงเต้นหัวใจของจันทร์”

สามีที่เพิ่งผ่านพิธีกรรมแต่งงานมาอย่างถูกต้องรวบร่างของเจ้าสาวร่างอวบอิ่มงดงามไปทั้งตัวเข้าสู่อ้อมกอด

“พี่ขอหอมแก้มได้ไหม”

ทำไมต้องถามด้วยนะ จันทร์เจ้านึกในใจ แต่พยักหน้าพร้อมตอบเสียงเบา

“ค่ะ”

“ว่าไงนะ ไม่ได้ยิน”

“ค่ะ หอมสิคะ”

เอียงแก้ม จมูกโตของพี่ช้างก็จรดลงผิวแก้มนวลเนียน

สำหรับเขา อาจจะเป็นหอมไม่รู้ตั้งกี่ครั้งกับผู้หญิงสักกี่คนมาแล้ว จันทร์เจ้าไม่อาจล่วงรู้ แต่กับเธอ... มันคือหอมแรกในชีวิต หอมแรกที่อาจจะแผ่วเบา ประทับลงไปอย่างหนักหน่วงกลางดวงใจบริสุทธิ์ของเธอ

ความรู้สึกของหญิงสาว สะท้านสะบัดร้อนสะบัดหนาว และยิ่งเมื่อร่างอวบอิ่มถูกอ้อมกอดกระชับ ก็ยิ่งเติมความหวาดหวั่นพรั่นพรึง

เธออายุเพิ่งครบ 20 ปี เมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง ชีวิตสาวบ้านป่า ตั้งแต่ลืมตาตื่นก็คือเรื่องปากท้อง ซ่อนความงดงามของเรือนร่างทั้งหมดอยู่ในชุดมอซอ แม้แต่ใบหน้าก็แทบไม่ได้โผล่ออกมาให้ใครเห็น งานหนักในไร่ ทำให้ความเป็นลูกผู้หญิงแข็งแกร่งไม่ต่างจากเพศตรงข้าม

ถึงอย่างไร ความสวยแบบสาวบ้าน ๆ ก็ทำให้มีหนุ่ม ๆ มากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามาทักทาย เกี้ยวพาราณสี

เพียงแต่หญิงสาวรู้จักวางตัวดี

ไม่ได้หยิ่ง แค่ไม่พยายามให้ความหวังกับใครเท่านั้น

หอมของพี่ช้าง...จึงเป็นหอมแรกที่สะเทือนสะท้านเข้าไปในทุกอณูความรู้สึกของจันทร์เจ้า

“แก้มหอมจังเลย”

พี่ช้างพึมพำ

จันทร์เจ้ายิ้มอาย ไม่กล้าสบตากับเขาเอาเสียเลย

“พี่ช้าง หนูอายนะคะ”

“อายทำไม เราแต่งงานเป็นผัวเมียกันแล้วนะครับ”

“หนูไม่เคยน่ะสิคะ”

เธอบ่นอุบ หากมีแสงไฟเติมลงมาอีก จะเห็นว่าใบหน้าของหญิงสาวแดงระเรื่อ ดวงตาเป็นประกายสุกสกาว มันเป็นความสุขที่เจือด้วยความเขินอาย สะท้านสะเทิ้นสุดขีดของความเป็นสาว

กลิ่นกายของพี่ช้างหอมประหลาด ซอกซอนเข้าไปในทุกอณูขุมขนของเธอ

จันทร์เจ้าไม่เคยใกล้ชิดผู้ชาย กลิ่นของพี่ช้างจึงเป็นกลิ่นของผู้ชายคนแรกที่ซอกซอนเข้าไปความรู้สึกของหญิงสาวบริสุทธิ์

เธอสะเทิ้นหนักเข้าไปอีก เมื่อแก้มอีกข้างถูกพี่ช้างฝังจมูกสูดดม

“จันทร์สั่นนะ”

“หนูอาย”

พี่ช้างนึกสงสาร รู้ได้ทันทีว่าเจ้าสาวใหม่หมาดของเขา ยังคงความบริสุทธิ์สมกับเป็นสาวบ้านป่า เขาชอบที่เธอนุ่งผ้าถุงกับเสื้อยืดเป็นชุดนอน แค่เห็นก็กระตุ้นให้เกิดอารมณ์วาบหวามจนแทบระงับความต้องการเอาไว้ไม่ไหว

แต่ตอนนี้ ไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจต้องการ ทั้ง ๆ ที่ช้างน้อยลุกผงาด เมือกเหนียวซึมทะลักออกมาจากส่วนปลายลำกล้องเกินระงับ

ชุ่มตรงเป้าของกางเกงใน

ทั้ง ๆ ที่คืนนี้ จันทร์เจ้าเป็นของเขาอย่างถูกต้อง แต่เขาก็ยังอยากทำอย่างนุ่มนวล อ่อนโยน อย่างที่สุด แม้ว่า...ความต้องการลึก ๆ แล้ว อยากทาบทับลงไปด้วยพละกำลังที่มีเหลือเฟือ กระหน่ำซัดดอกไม้กลีบบางบริสุทธิ์ให้ย่อยยับอย่างใจปรารถนา

“พี่ขอจูบนะ”

พี่ช้างกระซิบขออนุญาต

หญิงสาวพยักหน้า แต่ไม่วายเขิน... “พี่ปิดไฟได้ไหมคะ”

“พี่ไม่อยากปิดไฟ”

“โธ่ พี่จ๋า หนูอายนะคะ”

หญิงสาวเสียงสะท้าน

พี่ช้างกระชับกอด “ขอพี่เปิดไฟนะครับ พี่อยากเห็น”

“อยากเห็นอะไรคะพี่ช้าง”

“เห็นตอนที่จันทร์แก้ผ้าหมด”

“อุ๊ย พี่ช้าง...”

หน้าแดงไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง แก้มถูกจมูกของพี่ช้างชน สูดเอาความหอมบริสุทธิ์ รู้สึกเขินจนต้องหลับตาลง เพราะแสงไฟนีออนแรงเทียนต่ำ แม้ว่าจะไม่ได้สว่างมากนัก แต่มันก็มากเกินพอสำหรับความเขินอายที่มีอยู่ในตัวเธอ

จันทร์เจ้าไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวชายใดมาก่อน

ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว

ความวาบหวาม อาจจะเคยมีบ้าง แต่ด้วยความที่เธออยู่บ้านนอกคอกนา กรำงานหนักมาทั้งวัน ไม่ได้ว่างพอที่จะคิดฟุ้งซ่าน

ต่อให้รู้สึกวาบหวาม สุดท้ายพอหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย ไม่รู้สึกรู้สาใด ๆ

เรือนหอ... เป็นห้องเดียวของบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง ความจริง ยังไม่ได้มีการกั้นห้องใด ๆ ทั้งสิ้นจนกระทั่งวันแต่งงานของจันทร์เจ้า

พ่อกับแม่แยกไปนอนในเพิงที่ต่อออกมาจากฉางข้าว เพื่อเปิดโอกาสให้บ่าวสาวคู่ใหม่

“พี่ช้างจ๋า หนูกลัวจังค่ะ”

พี่ช้างที่กำลังซุกไซ้สูดดมความหอมจากเรือนกายของเจ้าสาวใหม่หมาดชะงัก กับน้ำเสียงสารภาพสั่นพร่าของหญิงสาว

หื่นกระหายในอารมณ์ของพี่ช้าง มีมากมายเหลือล้น เป้ากางเกงในซึมแล้วซึมอีก จากเมือกรักที่ผุดซึมออกมาเกินสะกดกลั้น

จับมือของหญิงสาว รู้ได้ทันทีว่าเธอไม่ได้โกหก เพราะมือเย็นชืด

พี่ช้างนึกสงสารกับความไร้เดียงสาของเธอ ขณะเดียวกันก็นึกดีใจกับความโชคดีของตัวเองในวัย 40 เศษ เจ้าสาวบริสุทธิ์แบบนี้จะหาได้จากที่ไหน

แค่ถูกเนื้อต้องตัวของเธอเท่านั้น ก็สัมผัสได้ว่าเธอสั่นสะท้าน ใบหน้าร้อนผ่าวแดงเรื่อ ในดวงตามีประกายแห่งความหวั่นซ่อนไม่มิด

นี่คือความงดงามของหญิงสาว

เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตของเขา เธอแตกต่างลิบลับ...

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ มัสยา บุรินทร์

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เมียแต่งท่านประธาน [ตอนง้อเฮียหอนหนักม้าก]

เมียแต่งท่านประธาน [ตอนง้อเฮียหอนหนักม้าก]

สนพ. อิ่มรัก
5.0

ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

พวกเจ้าคอยดู ข้าไม่ปล่อยไว้แน่

พวกเจ้าคอยดู ข้าไม่ปล่อยไว้แน่

Ellary Delossa
5.0

หยุนม่านชิง บุตรสาวของฮูหยินเอกจากจวนโหวหวยอัน ซึ่งถูกสลับตัวตอนอายุยังน้อย และเติบโตในชนบท เมื่อนางได้กลับมาที่จวนท่านโหวหวยอัน นางคาดหวังความรักและความอบอุ่นจากครอบครัว แต่ไม่คาดคิดว่าเป็นเพียงภาพลวงตาจวนโหวถูกยึดครองโดยหยุนโหรวเจียที่เป็นลูกสาวปลอม ในการวางแผนของลูกสาวปลอมและคู่หมั้นของนาง หยุนม่านชิงต้องแต่งงานในฐานะอนุภรรยา ต้องทำตัวนอบน้อมและก้มหัวให้ทุกคนเพื่อเอาใจคนในบ้าน นางคิดว่าจะได้ความรักและความสามัคคีในครอบครัว แต่กลับต้องถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่องจนถึงแก่ชีวิตเมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง นางกลับมาสู่วันที่เปลี่ยนโชคชะตาของนาง หยุนม่านชิงไม่ยอมอดทนอีกต่อไป นางค่อยๆ เผยโฉมหน้าที่แท้จริงของลูกสาวปลอม ไม่ได้ต้องการความรักที่เป็นเพียงภาพลวงอีก และได้เรียกคืนทุกสิ่งที่เป็นของนางทีละนิดเมื่อนางตัดสินใจที่จะตัดขาดจากจวนท่านโหวอย่างสิ้นเชิง คนทั้งจวนกลับคุกเข่าขอร้องไม่ให้นางจากไป!

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ