เมีย(เก่า)ฉันเป็นเศรษฐี
ผู้เขียน:Axel Bob
หมวดหมู่โรแมนติก
เมีย(เก่า)ฉันเป็นเศรษฐี
เจียงซุ่ยร้องไห้ด้วยความขมขื่นอยู่ภายในอ้อมแขนของผู้เป็นปู่ ราวกับว่าเธอต้องการระบายความคับข้องใจที่ต้องประสบพบเจอตลอดหลายปีที่ผ่านมา
“หนูกลับมาก็ดีแล้ว” นายท่านเจียงลูบหลังหลานสาวอย่างอ่อนโยน “ซุ่ยซุ่ย พ่อกับแม่ของหนูด่วนจากไปก่อนเวลาอันควร แถมอารองของหนูก็ยุ่งอยู่กับงานในกองทัพ เขาถูกเรียกตัวกลับทันทีหลังจากที่พาตัวหนูมาส่ง อาสามของหนูก็อยู่ต่างประเทศตลอดเวลา ตอนนี้ปู่เหลือหนูที่เป็นหลานสาวอยู่ด้วยคนเดียวเท่านั้น หนูจะต้องไม่เป็นอะไรนะลูก”
หัวใจอันแตกสลายของเจียงซุ่ยค่อย ๆ อบอุ่นขึ้น
“ค่ะ! หนูจะไม่ยอมกลายเป็นโง่แบบนั้นอีกแล้ว”
สองหลานปู่กำลังคุยกัน ในตอนนั้นก็มีร่างบางหนึ่งวิ่งเข้ามาหา
“ซุ่ยซุ่ย! ฉันคิดถึงเธอจังเลย!”
เจียงซุ่ยพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตกใจ “หลินหลิน เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
หลัวหลินหลินโผเข้ากอดเจียงซุ่ย เธอเงยหน้าหวาน ๆ ขึ้นและฉีกยิ้มกว้าง
“ทันทีที่ฉันได้ยินว่าเธอกำลังกลับบ้าน ฉันก็รีบร้อนมาเนี่ย ดีใจจัง!”
นายท่านเจียงถอนตัวออกมาจากห้องทันทีเมื่อเห็นดังนั้น เขาไม่อยากรบกวนช่วงเวลาการหวนกลับมาพบกันอีกครั้งของทั้งคู่
ดวงตาของเจียงซุ่ยร้อนผ่าว เป็นอีกครั้งที่เธออดกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้
ในตอนนั้น เพื่อที่จะได้แต่งงานกับยู่จินเฉิน หญิงสาวถึงกับยอมทิ้งฐานะและครอบครัวที่ร่ำรวยของตนเองเอาไว้ด้านหลัง พร้อมกับตัดขาดช่องทางการติดต่อกับทุกคน จนเธอแทบจะเรียกได้ว่ากลายเป็นคนทรยศหักหลังต่อครอบครัวของตนเอง
“หลินหลิน ฉันคิดถึงเธอจัง…”
หลัวหลินหลินยื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาให้อีกคนด้วยความปวดใจและความโกรธ
“หมอชั่วนั่นมันรังแกเธอเหรอ รอเดี๋ยวนะ ฉันจะช่วยสั่งสอนบทเรียนให้ไอ้หมอนั่นเอง!”
“เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งไป ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะหย่ากับเขา”
“หย่าเหรอ? ดีมาก! เธอน่าจะเตะไอ้ชั่วนั่นออกไปตั้งนานแล้ว!” หลัวหลินหลินพูดขึ้นมาด้วยความพอใจ “เธอเป็นถึงเจ้าหญิงตัวน้อยแห่งตระกูลเจียงเชียวนะ เธออยากจะได้ผู้ชายแบบไหนล่ะ เดี๋ยวฉันจะเรียกมาให้เธอจิ้มนิ้วเลือกเอาเลย!”
เจียงซุ่ยรีบเอ่ยขึ้นขัดความคิดของเพื่อนสนิททันที
“ไม่เอาล่ะ ฉันเรียนรู้แล้วว่าคนเราเลี้ยงหมาดีกว่าตามจับผู้ชาย การงานนั่นแหละถึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
เมื่อนึกถึงความทุกข์ทรมานที่ได้ประสบมาตลอดสามปี เจียงซุ่ยยังคงรู้สึกหวาดหวั่นอยู่เลย
“เธอจะเข้ามาสืบทอดตำแหน่งในหยูโจว กรุ๊ปเหรอ? ตอนนี้มู่เจ๋อเป็นประธานบริหาร ให้เขาจัดเตรียมตำแหน่งรองประธานบริหารเอาไว้ให้เธอดีกว่าเนอะ!”
หลัวหลินหลินเสนอความคิดเห็นด้วยความตื่นเต้น
เจียงซุ่ยได้แต่ส่ายหน้ายิ้ม ๆ ส่งให้
“ทำไมล่ะ?” หลัวหลินหลินรู้สึกงงงวย
“มู่เจ๋อบริหารที่นั่นได้ดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันไม่อยากเข้าไปนั่งอยู่ในตำแหน่งเฉย ๆ แล้วคอยรับแต่ผลประโยชน์”
แต่หลัวหลินหลินไม่เห็นด้วย “ซุ่ยซุ่ย เธอคิดมากเกินไปแล้ว ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเจียงเป็นของเธออยู่แล้ว แถมมู่เจ๋อยังเชื่อฟังเธอตั้งแต่เด็ก ๆ มาตลอด เขาไม่คิดอะไรอย่างนั้นหรอก”
เจียงซุ่ยยังคงไม่เห็นด้วย “แต่ฉันอยากจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง ฉันวางแผนที่จะเข้าบริษัทไปสมัครงานไว้แล้ว เริ่มจากตำแหน่งดีไซเนอร์ ฉันจะได้ฝึกฝนตัวเองพร้อมกับศึกษางานของบริษัทไปด้วย”
เธอพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
ตอนนั้นเองที่หลัวหลินหลินมั่นใจว่าเจียงซุ่ยคนเดิมกลับมาแล้วจริง ๆ
“ซุ่ยซุ่ย ฉันการันตีเลยนะว่าพรสวรรค์ของเธอน่ะ สร้างชื่อเสียงในวงการนี้ให้เธอได้อย่างแน่นอน จากนั้นยู่จินเฉินก็จะเทียบเธอไม่ติด จนเขาต้องรู้สึกเสียใจ!”
เมื่อได้ยินชื่อนั้น หัวใจของเจียงซุ่ยก็หยุดเต้น บาดแผลที่เขาทิ้งไว้ให้เธอมันบาดลึกเกินกว่าจะรักษาได้ในระยะเวลาชั่วครู่
เธอตอบกลับอย่างเฉยเมย “ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากเข้าไปพัวพันกับเขาอีกเลยตลอดชีวิตนี้”
หลังจากพูดจบ เจียงซุ่ยก็หยิบเอกสารที่เตรียมไว้เมื่อนานมาแล้วออกมาจากลิ้นชัก
…
ณ ตระกูลยู่ กรุ๊ป
ยู่โหลโผล่พรวดเข้ามาในห้องทำงานของประธานบริษัท “พี่คะ ทำไมถึงระงับบัตรของฉันล่ะ?”
ยู่จินเฉินก้มตรวจดูเอกสารโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองแม้แต่นิดเดียว
“เพื่อให้เธอได้กลับมาทบทวนตัวเองใหม่”
“ฉันต้องทบทวนอะไร? เจียงซุ่ยยอมหย่าออกไปเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย! เห็น ๆ กันว่าเป็นเธอที่ขี้อิจฉาเลยลงมือทำร้ายพี่เมิ่งหนิง ฉันก็เลยสั่งให้เธอบริจาคไต ฉันเองก็เป็นห่วงพี่เมิ่งหนิงเหมือนกันนะ!” ยู่โหลมีท่าทางโกรธขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ “โชคดีที่พี่เมิ่งหนิงไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นเจียงซุ่ยจะจ่ายด้วยอวัยวะของเธอยังไงมันก็ชดใช้ไม่ไหวหรอก!”
“พอได้แล้ว!” ยู่จินเฉินเงยหน้ามองเธอด้วยสายตาเยือกเย็น “ไม่ว่ายังไง เจียงซุ่ยก็ถือเป็นพี่สะใภ้ของเธอ เป็นภรรยาของฉัน และมันก็ไม่ใช่หน้าที่ของเธอที่ต้องมานั่งสั่งสอนบทเรียนให้เจียงซุ่ย”
“เธอก็สมควรโดนแล้วนี่!” ยู่โหลทำหน้ามุ่ย “เรื่องหย่าก็เหมือนกัน ฉันคิดว่าเจียงซุ่ยแกล้งทำตัวน่าสงสารไปอย่างนั้นเอง ผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบนั้นคงพยายามเกาะครอบครัวของเราเป็นปลิงเพื่อปอกลอกเงินไปให้ได้มากที่สุด!”
ยิ่งฟังยู่โหลพูดมากเท่าไหร่ ยู่จินเฉินยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นเท่านั้น
ในจังหวะเดียวกัน หวังอี้ที่เป็นผู้ช่วยก็เข้ามาส่งเอกสารให้เขา
“คุณยู่ครับ คุณนายส่งเองสารนี้มาให้ และบอกว่าต้องการให้คุณลงมือเซ็นด้วยตัวเอง”
“ดูเอาเถอะ! ฉันพูดถูกใช่ไหมล่ะ?” ยู่โหลกลอกตาด้วยความรู้สึกดูถูกดูแคลน “หายไปได้ไม่นาน หางก็โผล่ออกมาซะแล้ว ผู้หญิงคนนั้นออกไปเที่ยวเล่นจนหมดเงินละสิ เลยมาขอคืนดี บอกว่าจะหย่า แม่นั่นน่ะโกหกทั้งเพ!”
ยู่จินเฉินไม่ได้ตอบอะไร เขาเปิดซองเอกสารในมือนิ่ง ๆ
มีบัตรเครดิตร่วงออกมา
พร้อมกับเอกสารฉบับหนึ่งที่ลงชื่อไว้แล้ว… หนังสือหย่า