อันหนิง ยอดหญิงแห่งตงหลาง
ช่วยฝึกให้นาง ฉีอันหนิงหัวเร็ว เด็กหญิงสามารถขี่ม้าได้แบบไม่หวาดกลัว ต่างจากพี่รองที่มิเอาดีในด้านนี้เลยสักนิด พี่
จ้าก็ขี่ม้าแข่งกับพี่ได้แล้ว
น้องว่าน้องยังต้องฝึกให้บ
ดสามารถเอาชนะได้แล้วล่ะ” เด็กหญิงส่งยิ้มให้กับผู้เป็นพี่ชาย ก่อนที่
นซุน คุณหนูสี่ของเจ้าเก่งเกินว
ท้าฉีให้เป็นผู้ฝึกสอนคุณหนูสี่ขี
ำดี เรียนรู้เร็ว และอ่อนน้อมถ่อมตน นางมิได้แบ่งชนชั้นว่านางค
า คุณหนูสี่ของข้
ได้มิต้องกังวลว่าจะมีผู้ใดมากลั่
สาวใช้คงมิอาจปกป้องคุณหนูสี่ได้เต็มที่ หากคุณหนูของนางจะมีว
่อรับประทานอาหารกลางวัน แม้จะรู้สึกว่าตนเองฝึกขี่ม้าได้ดีพอแล้ว แต่ฉีอั
์ ลูกชอบขี
นร่วมกันเสร็จ ยามนี้ใต้เท้าฉีมิได้อยู่ที่จวน จึงมีเพี
ค่ะ ขี่ม
บไปที่ศีรษะของบุตรีก่อนที่นางจะลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารแล้วเดินออก
ม้าทำไมกัน สู้อยู่ต่อบท
ักหลังมานี้น้องสาวนั้นชอบออกไปฝึกขี่ม้ากับพี่ให
มิฝึกก็ได้ หากละเลยที่จะฝึกไป ม้าก็จะมิคุ้นเคยกับน้องหรอกนะเจ้าคะ” ฉีอันหนิงอธิบายให้พี
ดคุยกันด้วยเหตุและผล เขาจึงตัดปัญหาด้วยการสอนน้องเล็กขี่ม
ี่ใดกัน วันนี้ใยพี
ังจากมื้อเช้าเขามิได้พบหน้าน้องสามเลย แม้แต่ตอนรับประ
ไปตกปลา แล้วจะปิ้งปลากินที่นั่นมิกลับมากินมื้อกลางวันด้วยเจ้าค่ะ ท่านพ่
ือไม่ท่านพี่น้องหญิงสี่ แดดยามนี้ช่างร้อนน
มาทันทีเมื่อเห็นว่าแสงสุริยันในยามนี้นั
ไว้ยามเชินเราค่อยออกไปฝึกขี่ม้ากันอีกค
คหน้าน้องสาวอยากออกเรือนคงจะยาก ยามนี้นางยังมิบ่นให้เขา แต่ถ้าหากนางเติบโตเป็นสตรีที่งดงามขึ้นมาแต่ทว่
ริมน้ำดีไหมเจ้าคะ น้องจะให้พี่ซุนซุนนำฉ
ทกวีและดนตรี แต่ทว่าความสามารถในการเล่นฉินของเขา
่หลังจากรับประทานมื้อกลางวันเสร็จ บ่าวรับใช้ของคุณชายสามเมื่อเห็นว่า
อย่างไรล่ะ เหตุใดจึงรีบปลุกข้าเร็วนัก ยังง่วงน
งฉีอันหนิงเรียกสติให้ฉีอันลู่ เขาขยี้ตาก่อนที่จะมองไปย
งอ้วนเป็นหมูหรอกน้องสี่” เขาบ่นออกมา
เจ้าหรอกใช่ไหมลู่เอ๋อร์” ฉีอันหลงผู้เป็
ขาตอบพี่ชายใหญ่ยิ้มๆ ก่อนที่จะเหล่ต
อบทกวีกัน เจ้
ฉีอันลู่พยักหน้าให้เขา เพราะน้องสามของเขาก็ชื่
ล่นกันหรือขอรับ” ฉีอั
เองเจ
้ำที่มีสายลมพัดมาเอื่อยๆ เสียงฉินที่ถูกบรรเลงโดยฉีอันหนิงทำให้พี่ชายทั้งสาม รวมไ
ีคลีเพื่อฝึกขี่ม้าต่อ ทั้งสองเอ่ยชวนฉีอันลิ่งและฉีอันลู่ให้ไปด้วยกันแล้ว แต่ทว่าเด็กชายทั้งสองนั้นรู้สึกเก
มารถขี่ม้าด้วยตนเองแล้ว แต่ทว่าความปลอดภัยของนางก็สำคัญ ลุงลู่คอยสอดส่องดูแลคุณชายและคุณหนูสกุลฉีอยู่มิห่าง เขามองไปคุณหนูสี่ด
่อนเถิดนะขอรับคุณ
นุกกับการขี่ม้าจนลืมเวลา ยามนี้ท่านเจ
ลับมาจากสำนักศึกษาเราค่อยมาฝึกฝนกันใหม่” ฉีอันหลงเอ่ยชวนน้อ
ีอันหนิง พร้อมด้วยบ่าวรับใช้ชายหญิงก็พากันกลับเรือนเพื่ออ
ั้งใจรับประทานโดยที่มิมีผู้ใดกล่าวอันใดออกมา แต่ทว่าเมื่อมื้ออาหารผ่านพ้นไป ใต้เท้าฉีก็มักจะใช้เวลาเหล่านั้นคอยถามไถ่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวันของบุ
ันใดบ้าง” เขาเริ่มต้นเอ่ยถา
างวันลูกกับน้องๆ ก็พากันต่อบทกวีและฟังน้องหญิงสี่ด
เจ้าทำการอันใดบ้าง” บุตรชายคนร
พี่ใหญ่ พร้อมทั้งฟังน้องหญิงสี่ดีดฉินขอรับ” ฉีอันลิ่งรายงานผ
้นลูกก็นอนพักสายตาอยู่หนึ่งก้านธูป ไม่นานพี่ใหญ่ พี่รองและน้องหญิ
้าใช่หรือไม่หนิงเอ๋อร์” ใต้เท้า
ใหญ่ สนุกมากๆ เลยนะเจ้าคะ และช่วงหลังมื้อก
ห้กับความใฝ่รู้ของบุตรี แม้จะกังวลว่าภายภาคหน้านางจะหาสามียาก แต่ในยามนี้เพี
สบายใจ พวกเจ้าแยกย้ายกั
้งสี่จึงคำนับลาเขาและภรรยา ก่อนที่ผู้เป็นพี่ชายจะเดินนำน้องๆ ออกจากห้องนี้ แล้วเด็