อุบัติเหตุลิขิตรัก
“เกิดอุบัติเหตุขึ้นนิดหน่อยค่ะอาจารย์ หนูมาส่งเล่มวิทยานิพนธ์ค่ะ”
“จ๊ะ เข้ามาก่อน เอานี่เช็ดผมซะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
อาจารย์สาวยื่นผ้าขนหนูสีขาวให้ลูกศิษย์ ก่อนจะก้มลงตรวจเอกสารให้ เธอรับมาอย่างขอบคุณ
“เรียบร้อยแล้วนะ อาจารย์ยินดีด้วยในที่สุดก็จบสักทีต่อไปก็ขอให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานนะ”
“หนูต้องขอบคุณอาจารย์มาก ๆ เลยนะคะ ที่ช่วยเหลือหนูตลอดสองปีที่ผ่านมา ถ้าไม่ได้อาจารย์ช่วยหนูก็คงยังไม่จบ”
“เป็นหน้าที่ของอาจารย์ ที่ต้องส่งลูกศิษย์ให้ถึงฝั่ง แต่ทั้งหมดนี่เป็นเพราะความขยันอดทนของตัวหนูเอง อาจารย์แค่ช่วยในเรื่องที่ช่วยได้ ต่อไปก็เริ่มต้นชีวิตใหม่นะ ที่ผ่านมาก็ถือซะว่าเป็นบทเรียนให้ชีวิตเราแข็งแกร่งขึ้น อาจารย์เชื่อว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็ทำให้นักศึกษาโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น ถ้าเป็นคนอื่นอาจไม่สู้จนทำให้ชีวิตแย่ลงมากกว่านี้อีก เอาข้อดีเหล่านี้มาปรับใช้กับชีวิตนะ อาจารย์เอาใจช่วย”
อาจารย์พูดพร้อมลูบศีรษะลูกศิษย์สาว ด้วยความเอ็นดู เธอรู้ว่าตลอดสองปีที่ผ่านมา ลูกศิษย์ของตนต้องผ่านอะไรมาบ้าง ต้องใช้ความพยายามและอดทนมากแค่ไหน ถึงมีวันนี้ได้
“ขอบคุณค่ะ หนูกลับก่อนนะคะ”
นิศรากล่าวด้วยความซาบซึ้งใจก่อนปาดน้ำตา เดินจากไปเธอรู้สึกขอบคุณจริง ๆ เธอเป็นคนเดียวในรุ่นที่จบช้ากว่าเพื่อน ๆเพราะปัญหาของครอบครัว ทำให้เธอต้องดรอปเรียน
เพื่อนๆ รุ่นเดียวกันกับเธอต่างเรียนจบ มีงานทำกันหมดแล้ว การต้องเรียนกับรุ่นน้องและจบหลังเพื่อนทำให้เธอรู้สึกกดดันว้าเหว่มาก แต่ก็อดทนจนผ่านมันมาได้ มองทุกอย่างให้เป็นเรื่องธรรมดา ต่อให้ใครต่อใครจะพูดถึงเธอในทางที่ไม่ดีบ้างก็ตาม
สองปีแล้ว สองปีเต็ม ๆ กับชีวิตที่พลิกผันของเธอจากลูกคุณหนูที่มีพร้อมทุกอย่าง ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยต้องพบเจอความยากลำบากเลยสักครั้ง เธอถูกเลี้ยงมาดั่งไข่ในหินจนกระทั่งธุรกิจของบิดาถูกเพื่อนรักที่ไว้ใจ หักหลังโกงเงินบริษัทจนทำให้บริษัทโดนฟ้องร้อง และมีปัญหาด้านการเงิน ทำให้บริษัทเกือบล้มละลาย พี่ชายคนเดียวของเธอจึงต้องกลับมาช่วยงานที่บ้าน ยอมทิ้งความฝันของตัวเอง มาบริหารบริษัทที่กำลังจะไปไม่รอด เป็นบริษัทที่บิดาและมารดาของเธอสร้างมาด้วยกัน
ทรัพย์สินเกือบทั้งหมดที่บิดาสร้างไว้ ถูกขายมาใช้หนี้บางส่วนนำมาใช้จ่ายหมุนเวียนในบริษัท ที่มีพนักงานหลายร้อยคนฝากชีวิตเอาไว้
ทั้งเธอและพี่ชายจึงต้องทุ่มเทเวลาทั้งหมด มาช่วยกันแก้ไขปัญหาและบริหารงานจนบริษัทดีขึ้น การเรียนจบจึงเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในชีวิตเธอที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวได้โดยไม่มีอะไรค้างคาใจ
หญิงสาวมีวุฒิการศึกษาที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับหน้าที่การงาน ที่ตนเองรับผิดชอบในบริษัทได้ เธอจบ Interior Design ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญของบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน
ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ ความคิดแปลกใหม่ ทำให้สองพี่น้องต้องช่วยกันพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน เพื่อให้พนักงานในบริษัทรวมถึงคู่ค้ามั่นใจและเชื่อมั่น เมื่อธุรกิจเริ่มดีขึ้นก็ต้องหาต้นตอของคนที่ทำผิด เพื่อเรียกชื่อเสียงของบริษัทที่เสียไปกลับมาให้ได้
‘บ้าเอ๊ย วันซวยแท้ ๆ โดนทั้งกาแฟเหนียว ๆ แล้วยังจะมาโดนฝนต่ออีกให้มันได้แบบนี้สิ’ นิศราสบถกับตัวเองในใจ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาโทรให้พี่ชายมารับ
“พี่ดินเลิกงานหรือยังคะ แวะมารับดาวได้มั้ยดาวอยู่ร้านเครื่องเขียนใกล้ ๆ มหาลัย ฝนตกหนักมากเลยค่ะ”
“โอเคพี่อยู่ใกล้เราพอดี เข้าไปรอในร้านก่อนนะพี่จะรีบไป”
ฝนทยอยตกลงมาไม่ขาดสาย หลังจากตั้งเค้ามาแต่เช้าหญิงสาวที่ตัวเลอะตั้งแต่เช้า เจอฝนที่มาสมทบอีกทำให้รู้สึกตัวเหนียวเหนอะหนะไปทั้งตัว ยิ่งเห็นสภาพตัวเองยิ่งนึกโมโหคนที่ทำให้เธอต้องทนเดินตัวเหนียวทั้งวันแบบนี้ยิ่งคิดยิ่งแค้นอย่าต้องได้เจอกันอีกเลยชาตินี้
นิศราหลับตาสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อทำให้ตนเองใจเย็นลง ก่อนวิ่งเข้าไปในร้านหนังสือ เดินเลือกซื้อของรอพี่ชายมารับ ขณะเดียวกันชายหนุ่มอีกคน ยืนจ้องมองหญิงสาวที่ตนเจอเมื่อเช้าจนป่านนี้เธอยังอยู่ในชุดเดิม
เขาเห็นตั้งแต่เธอยังยืนอยู่หน้าร้าน สภาพไม่ต่างไปจากเมื่อเช้าเลยแม้แต่น้อย นึกแปลกใจทำไมเธอถึงยังไม่เปลี่ยนชุดใหม่ แต่ยังคิดไม่ทันจบก็เห็นชายร่างสูงในชุดสูทอีกคนวิ่งตามเข้ามาในร้าน พร้อมกับถอดเสื้อสูทที่ใส่มาสวมคลุมให้เธอพร้อมโอบไหล่ประคองพาหญิงสาวเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์
ก่อนจะพากันเดินออกจากร้านไป ‘ที่แท้ก็เด็กเสี่ย แต่ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงหน้าคุ้นจังว่ะ’ ธีรวัฒน์คิดในใจ