อุบัติเหตุลิขิตรัก
เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง ทุกคนดื่มพูดคุยสอบถามสารทุกข์สุกดิบกันอย่างสนุกสนาน ตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันนาน ต้องอัปเดตชีวิตกันหน่อย
“ดาวพอก่อนแกดื่มมากไปแล้วนะ ถึงฉันจะเคยเป็นผู้ชายแต่ตอนนี้ฉันบอบบางมาก ฉันแบกแกกลับบ้านไม่ไหวหรอกนะ” เชอร์รี่ออกตัวเมื่อเห็นเพื่อนที่คออ่อนเริ่มเมามากเกินไปแล้ว
“ฉันมาเองได้ก็กลับเองได้ พวกแกรู้มั้ยว่าฉันไม่ได้ออกมาสนุกแบบนี้มานานแล้ว ฉันเหนื่อย ขอวันหนึ่งนะต่อไปก็ไม่ค่อยได้มาดื่มกับพวกแกอีกแล้ว”
คนเมาบ่นและขอความเห็นใจจากเพื่อนในกลุ่ม เพราะหลังจากวันนี้ไป เธอต้องทำงานเต็มตัวมีหน้าที่และความรับผิดชอบมากขึ้น
เมื่อทุกคนในกลุ่มได้ฟังเช่นนั้น ก็ได้แต่เพียงมองหน้ากันด้วยความเห็นใจ และปล่อยให้คนที่บอกว่าตัวเองเหนื่อยได้ดื่มให้เต็มที่ไปเลย เพราะเข้าใจว่าสองปีที่ผ่านมานิศราไม่มีเวลาได้มาเที่ยวกับเพื่อน เพราะเอาแต่ทำงานหาเงินใช้หนี้ให้บริษัทของครอบครัว อีกทั้งพอหนี้เริ่มน้อยลง เริ่มมีเวลาก็ต้องกลับไปเรียนให้จบ ทุกคนก็ต่างทำงานกันหมดแล้ว เลยทำให้เวลาไม่ตรงกันจะหาเวลามาเจอหน้ากันก็มีน้อย
“เอ้า งั้นก็ดื่มไปให้เต็มที่ วันนี้ฉันจะแปลงร่างแบกแกไปส่งที่บ้านเอง” เชอร์รี่เอ่ยขึ้นพร้อมเสนอตัวไปส่งหญิงสาว
“ขอบใจนะเพื่อน รี่ ฉันรักแกจัง เดี๋ยวฉันกลับมาดื่มต่อ ขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่ง สั่งเครื่องดื่มมาเติมให้ด้วยจะกลับมาดื่มต่อ” คนเมาสั่งก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้นเดิน
“ฉันไปเป็นเพื่อน” แพรไหมอาสาเมื่อเห็นว่าเพื่อนเดินไม่ตรงทาง
“ไม่ต้อง ๆ แพรแกอยู่ที่แหละ ฉันไปคนเดียวได้สบายยย” คนเมาบอกขณะที่ยังใช้มือค้ำกับโต๊ะไว้อยู่เลย
“แน่ใจนะ” แพรไหมถามย้ำ
“อืม” คนเมาที่ไม่รู้ตัวว่าเมา เดินโซเซไปเข้าห้องน้ำ โดยมีสายตาเพื่อน ๆ ที่มองตามหลัง จนหายเข้าไปในมุมของร้านอาหาร
“แกว่ามันจะไปถึงห้องน้ำมั้ย” นุ่นถามเพื่อนที่อยู่ด้วยกัน
“ถึงสิ มันก็แค่เดินไม่ตรงทาง แต่ยังมีสติอยู่” เชอร์รี่บอก
“ถ้าหายไปนานเดี๋ยวฉันเดินไปตามเอง” แพรไหมบอกก่อนจะหันมาดื่มต่อ
“เฮ! น้องสาว ไหวรึเปล่า จะไปไหนให้เพ่ช่วยมั้ย” ชายหนุ่มแปลกหน้าที่น่าจะเมาไม่แพ้เธอเช่นกันเอ่ยถามนิศราที่เดินเซออกมาจากห้องน้ำ
“ไม่ต้องค่ะ เดินเองได้”
“มาเถอะน่า ยืนตรงยังไม่ไหวเลยเดี๋ยวพี่ช่วย” มือของคนแปลกหน้าสอดเข้าไปที่เอวคอดของเธออย่างถือวิสาสะ ทำนิศราที่ไม่ทันตั้งตัวถูกดึงร่างเซไปหา
“นี่ทำอะไรนะ ปล่อยนะ” หญิงสาวร้องพร้อมพยายามสะบัดตัวหนีออกจากมือใหญ่ แต่ไม่เป็นผลเพราะชายแปลกหน้ารัดเอวบางของเธอไว้แน่น แถมไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยมือจากเธอด้วย
“จะดิ้นทำไม พี่ก็กำลังจะช่วยน้องอยู่นี่ไง” ชายคนเดิมพูดพร้อมกลับยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอหมายจะฉกจูบ หญิงสาวที่มีสติเหลือน้อยนิด รีบใช้มือดันใบหน้าชายผู้นั้นให้ออกห่างทันที พร้อมกับพยายามดันตัวถอยหนี
“ว้าย.. ถอยไปนะ ออกไปเดี๋ยวนี้ ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ” หญิงสาวร้องเสียงดังให้คนช่วยเมื่อชายตรงหน้าพยายามเข้ามาใกล้และทำมิดีมิร้ายเธอ
“เฮ้ย! ทำอะไรนะ ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้” เสียงเข้มเอ่ยห้ามพร้อมกระชากไหล่ชายคนนั้นให้ออกจากตัวหญิงสาวทันที
ธีรวัฒน์เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น ที่ไม่ได้เข้ามาช่วยตั้งแต่แรก เพราะนี่อาจเป็นความต้องการของเธอก็เป็นได้ในการหาเหยื่อ แต่เขาคิดผิดเมื่อสิ่งที่เห็น ไม่เป็นอย่างที่เขาคิด เธอมีอาการขัดขืนไม่ยอมและกำลังจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเขาจึงรีบเดินเข้ามาช่วย
“อย่ามายุ่งเรื่องของผัวเมีย” ชายแปลกหน้าบอก
“ไม่ ไม่ใช่นะ” เธอปฏิเสธทันควันพยายามสะบัดตัวหนีแต่ไม่หลุด
“ดูท่าแล้วคุณผู้หญิงจะไม่ได้คิดแบบคุณ งั้นผมคงต้องโทรแจ้งตำรวจก่อน” เขาขู่เสียงเรียบจริงจัง พร้อมกับดึงแขนเธอเข้ามาหาตัว อีกมือก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาตำรวจ ชายแปลกหน้าเห็นเช่นนั้น ก็รีบเดินหนีไปทันที
“ไม่ต้องโทรฉันไปแล้ว” พูดจบมันก็รีบเดินหายออกไปจากตรงนั้น
“ขอบ.. คุณค่ะ...” หญิงสาวที่ตอนนี้ยืนพิงที่อกกว้างของเขาอยู่ กล่าวขอบคุณโดยที่ยังไม่ทันเห็นหน้าเขาด้วยซ้ำ เมื่อพยายามหรี่ตามองเธอก็รู้สึกคุ้นหน้า
“เอ๊ะ คุณหน้าคุ้นจัง”
คำพูดชะงักเมื่อใบหน้าสวยเงยขึ้นพยายามหรี่ตาจ้องมองอย่างพินิจอีกครั้ง ใบหน้าคมของคนที่อยู่เบื้องหน้า จากภาพที่เบลออยู่เมื่อสักครู่ บัดนี้เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาที่หรี่เล็กเมื่อครู่ กายเป็นเบิกโตกว้างขึ้นมาในทันที
ด้วยความตกใจก่อนจะอึ้งไปชั่วครู่ แล้วผลักหน้าอกเขาออกอย่างแรง แต่กลับเป็นตัวเธอเองที่เซถลาถอยหลังไป จนเขาต้องเดินเข้าไปคว้าเอวบางเข้ามาหาตัวอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะล้มไปกองที่พื้น
“นี่ปล่อยเลยนะ คุณมันคนนิสัยไม่ดี” พูดพร้อมกับพยายามสะบัดตัวให้หลุดออกจากอกแกร่งของเขา
“คุณพูดกับคนที่พึ่งช่วยคุณไว้ แบบนี้ได้ยังไง” ธีรวัฒน์ต่อว่าคนเมา
“คุณ..ไม่ใช่คุณ..แต่เป็น ไอ้ขยะเปียก คนเมื่อวาน คุณมันก็ไม่ต่างจากไอ้คนเมื่อกี้หรอก ฉวยโอกาสอยู่เนี่ย”
คนเมาต่อว่าด้วยสติอันน้อยนิดที่มี แต่ยังอุตส่าห์จำเขาได้เขายกยิ้มที่มุมปากอย่างเอ็นดู
-นี่เธอว่าเขาเป็นขยะเปียกอย่างนั้นหรือ- เขาคิด