บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง 5
ึ
จางอี้หมิงราวกับจับวางจนต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เนื่องจากลูกธนูนั่นม
อ้
ยงร้องของคนร้ายก็ลืมตา ก่อนจะได้ยินเสียง
อย เป็นเช่น
หนึ่งที่แต่งชุดสีดำทั้งตัวปิดหมดทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่ใบหน้า
มาคงทำให้ปากแตกเพราะไปกระแทกกับพื้นดิน ถึงแม้ว่าจะเป็นตอนกลางคืน ไม่มีไฟคบเพลิงส่องสว่างมากมายดั่งในเ
อบหมายให้ถวายความคุ้มครองแก่ท่านอ๋องน้อยขอรับ ข้าขออภัยที่มาช้าจนทำให้ท่านอ๋องน้อยเกิดอันตรา
ทษเจ้าปา (9) ที่เอาอาหารชั้นเลิศนั่นมาให้เขาได้ลองชิม ทำเช่นไรได้ในงานเ
จึงยิงธนูออกไปสกัดขานั้นไว้ตามสัญชาตญาณ โชคดีที่หน่วยเหลียงไป๋ถูกฝึกมาอย่างโชกโชน ความมืดเพียงเท่านี้หาได้ทำให้การยิงธนูพลาดเป้าไม่ แค่นี้ยังนับว่าเป็นเ
ไม่นาน ก็มีกลุ่มคนจำนวน 9 คน โผล่ออกมาล้
้วยลูกธนูเช่นนั้นจึงทำท่าว่าจะหนี แต่ก็ได้แค่นั้น เมื่อชายคนหนึ่งที่มาใหม่พุ่งไ
นหมิงเย่ก็นั่งกอดกัน
าจะทำร้ายตนเป็นแน่ จึงรีบจูงมือน
่นไรบ้าง” ซูลี่เอ่ยถามพ
ายผู้มาใหม่เอ่ยถามขึ้นเป็นครั้งแรกก่
ขอท่านอ๋องน้อยอย่าได้ตกใจและกลัวไปขอรับ” หัวหน้าองครักษ์อี เอ่ยอธิบายออกไป แล
พาตัวกลับจวนอ๋องโดยเร็วที่สุดขอรับ” เป็นซานที่สัง
นหนึ่งไปตามหาครอบครัวของท่านอ๋องน้อยแล้วแจ้งเรื่องให้ทราบ อีกส่วนหนึ่งพาเ
กตรงนั้นเพื่อมุ่งหน้ากลับจวนอ๋อง องครักษ์ที่เหลือทำตามคำสั่งของหัวหน้าท
ัญของจวนได้รับบาดเจ็บหนัก จนป่านนี้ยังไม่สามารถพูดได้ หมอประจำจวน
รอท่า ทั้งผ้าขาวสะอาดอีกหลายผืน สมุนไพรต่าง
นอ๋องน้อย หมอประจำจวนและผู้ช่วยก็รีบเข้ามารับช่วงต่อทันที ทางด้านอู่ (5) กับสือ (10) นำคนร
ผิดพลาด หัวของเจ้าอาจจะไม่ได้ตั้งอยู่บนบ่าอีกต่อไป เหตุใดไม่ไปนั่งรอ
กลับมายังจวนถึงกับต้องรีบดึงตัวซุนซู
าด้วยน้ำเสียงสั่นเทา ถึงอย่างไรนางก็เป็นเด็กสาวอายุเพียงสิบขวบปีเท่าน
่รอดปลอดภัย หาไม่แล้ว ข้าก็มิต่างอันใดกับพวกเจ้าหรอก โทษทัณฑ์นั้นไม่ต้องพูดถึง” องค
าไปรออยู่ที่ใดหรือเจ
นจึงได้พาไปพักในห้องรับแขก ซึ่งเขากลับมาแจ้งทหารยามให
ับเวลา ถึงแม้ว่าท่านอ๋องน้อยจะมิได้สลบไสลไปก็ตาม แต่ก็ยังคงไม่สามารถเล่าอากา
่านหมอกู้เอ่ยขึ้น เมื่อจางอี้หมิงพยักหน้าเข้าใจแล้วเขาจึงได้ทำการดามแขนของจางอี้หมิงด้วยความรวดเร็ว โชคดีที่หมอผู้ช่ว
งครักษ์อี (1) ยืนอย่างสงบรออยู่ตรงหน้าห้องพร้อมกับองครักษ์หน่วยเ
นตามมาติดๆ จางอี้เทาไม่ต้องการให้เถ้าแก่หลินไห่ตื่นตกใจ จึงได้ให้องครักษ์ชี (7) เดินทางไปแจ้งแก่บ่าวที่เรือนเถ้าแก่
ลูกข้าเป็น
บุตรชายอยู่ข้างในก็เอ่ยถามคำถามขึ้น
กลับมาที่จวน ท่านอ๋องน้อยยังมีสติดีขอรับ เพียงแต่ยังพูดอันใดมิได้จากการตรวจร่างกายเบื้องต้น
หลี่อ้ายเอ่ยออกมาก่อนทำท่าจะถลาเปิดประตูห
หากมีความอันใดคืบหน้า ท่านหมอคงออกมาแจ้งเอง” สมแล้วที่จา
รยาอยู่นานกว่าหลี่อ้ายจะหยุดร้องและสงบลง ส่วนนางหูและหัวหน้าหมู่บ้าน
เอ๋อร์ พวกเจ้า
หญิงของตนนั่งอยู่ตรงขอบเตียงก่อนจะ
ข้ากลัว
่ ข้ากล
ความกลัวและความพยายามอดกลั้นทั้งหมดก็พังทลาย ทั้งสองร้องไ
วพลางเอ่ยปลอบใจเสียงเบา มิรู้ว่าคำปลอบใจนั้นกำลังปลอบลูกและภรรยาอยู่หรือว่าเขาเองก็กำลังปลอบใจตนเอ
อดภัยแล้ว ไหนพวกเจ้าสงบสติอารมณ์แล้วเล่าให้ปู่ฟังหน่อยสิว่ามันเก
ังโต๊ะกลมกลางห้องซึ่งตอนนี้ทุกคนต่างนั่งลงอย่างพร้อมเพรียงกัน มีบ่าวรับใช
หลัง” เป็นซุนถงที่เอ่ยปากบอกสาวรับใช้ พวกเขาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ไหนเลยจะหาญกล้าทำตัวเป็นแขกจวน
รสิ่งใดก็แจ้งข้าได้เลยนะเจ้าคะ” สาวใช้กล่าวเส
ด้รับคำกระซิบในการวางแผนจับคู่พวกผู้ใหญ่ให้ไปเที่ยวงานเทศกาลตามล
าด้วย เพราะความซนของหมิงเอ๋อร์ทำให้พี่น้องบ้านซุนประ
งครักษ์จวนอ๋องไปช่วยมิทันจะเกิดอันใดขึ้น นางจะมีชีวิตอยู่ได้เช่นใ
่ ย่อมต้องโกรธเป็นอย่างมาก ต่อให้ฉลาดเช่นไรก็คงจะปฏิ
็เหมือนน้ำท่วมปากที่กลืนไม่ได้คายไม่ออก ความเงีย
รู้สึกบ้านซุนดี ครั้งนี้หลานชายของนางผิดเองเต
ปช่วยไว้ไม่ทัน ความสู
ร์เอ๊ย ซนจนได้เ