ขอโอกาสอีกครั้ง
เวินหมั้นตกตะลึงไป
เธอรีบชูถุงกระดาษในมือขึ้นมาพลางพูดขึ้นว่า “ฉันมาเพื่อคืนเสื้อคลุมให้ทนายความโฮ่วค่ะ”
โฮ่วซ่าวถิงยื่นมือออกไปรับมา
แล้วเขาก็พยักหน้าอย่างสง่างามพร้อมกับพูดว่า “ลำบากคุณแย่เลย” หลังจากพูดจบ เขาก็เดินตรงไปที่ลิฟต์ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรให้มากความอีก
เวินหมั้นจึงร้อนใจขึ้นมาทันที เธอรีบเดินตามเขาไปพลางพูดขึ้นมาว่า “ทนายความโฮ่ว ฉันอยากจะขอร้องคุณ......”
โฮ่วซ่าวถิงกดปุ่มลิฟต์ แล้วประตูลิฟต์ก็เปิดออก เวินหมั้นจึงเดินตามเข้าไปอย่างไม่สนใจอะไร
โฮ่วซ่าวถิงเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง
เขาจัดระเบียบเสื้อเชิ้ตตรงหน้ากระจกพลางพูดขึ้นมาอย่างใจเย็นว่า “ผมไม่รับทำคดีของคุณ”
มือและเท้าของเวินหมั้นเย็นเฉียบ
ดูเหมือนว่า โฮ่วซ่าวถิงจะรู้เกี่ยวกับเรื่องในครอบครัวของเธอแล้ว!
เธอถามขึ้นมาเบา ๆ ว่า “กู้ฉางชิงได้บอกคุณแล้วเหรอ?”
โฮ่วซ่าวถิงสบตากับเธอในกระจก แล้วก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอ่อน ๆ ว่า “เขาไม่ได้มีสิทธิ์อะไรมากขนาดนั้นหรอก! คุณเวิน ผมเป็นคนที่แบ่งแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันนะ”
เวินหมั้นเข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อเป็นอย่างดี ถ้าเธอต้องการที่จะมีความสัมพันธ์กับเขา เขายินดี แต่ถ้าเป็นเรื่องงาน เขาจะไม่เอามาเกี่ยวด้วย
เธอรู้สึกลำบากอยู่ไม่น้อย
โฮ่วซ่าวถิงไม่ได้บังคับอะไรเธอ
แม้ว่าเวินหมั้นจะเป็นสไตล์แบบที่เขาชอบ แต่มันก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะทำให้เขายกเว้นให้เธอได้ อีกอย่างนี่มันก็กลางวันแสก ๆ ด้วย อารมณ์ของเขาก็ไม่ได้คึกคะนองขนาดนั้นด้วย
พวกเขาแค่พูดคุยกันสั้น ๆ ได้ไม่กี่ประโยค ลิฟต์ก็มาถึงชั้นยี่สิบแปดแล้ว
เลขาของโฮ่วซ่าวถิงกำลังรออยู่ที่ประตู เธอแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเวินหมั้น แต่ความสำรวมที่สั่งสมมานานหลายปีของเธอทำให้เธอไม่ได้แสดงกิริยาอะไรออกมา เธอยังคงพูดด้วยความเคารพว่า “ทนายความโฮ่วคะ คุณหม่ามาถึงแล้วค่ะ”
โฮ่วซ่าวถิงโยนถุงที่ถืออยู่ให้เลขาพร้อมกับออกคำสั่งว่า “เอาไปส่งซักแห้งซะ”
แล้วเลขาก็ออกไปอย่างรู้งาน
โฮ่วซ่าวถิงก้มหน้าลงปัดข้อความบนโทรศัพท์ของเขา ในขณะเดียวกันก็พูดกับเวินหมั้นออกมาอย่างไม่ตั้งใจว่า “คุณไปหาทนายความคนอื่นเถอะ! ...... อีกอย่าง เข็มขัดผู้หญิงก็ไม่ควรจะหลวมเกินไปนะ!”
หลังจากพูดจบ เขาก็เดินออกจากลิฟต์ไป
เวินหมั้นรู้สึกว่าเขาเป็นคนจอมปลอมแล้วก็เล่นตัวมาก!
......
เมื่อเวินหมั้นถูกโฮ่วซ่าวถิงปฏิเสธ เธอจึงพยายามทำทุกวิถีทาง แต่ก็ยังหาเขาไม่เจอสักที
น้าหร่วนที่อยู่ที่บ้านจึงเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอเอาแต่บ่นไม่หยุด เวินหมั้นจึงรู้สึกกดดันอย่างมาก เธอจึงนัดกับไป๋เวยเพื่อนร่วมชั้นตอนเรียนมหาวิทยาลัยของเธอให้มาเจอกัน
หลังจากเรียนจบ ไป๋เวยก็แต่งงานทันที คนที่เธอแต่งงานด้วยเป็นลูกคนรวยในเมืองบีคนหนึ่ง เธอจึงเป็นคนที่มีคอนเนคชั่นกว้างขวางมาก
เวินหมั้นจึงขอให้ไป๋เวยช่วยเธอคิดหาวิธีหน่อย
ทั้งสองนัดพบกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง แล้วเวินหมั้นก็เล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง
ไป๋เวยจึงด่าทอกู้ฉางชิงยกใหญ่ หลังจากได้ระบายความโกรธออกไปแล้ว เธอก็กลอกตาแล้วพูดว่า “คืนนั้นเธอกับโฮ่วซ่าวถิงเกือบจะมีอะไรกันจริง ๆ แล้วเหรอ?”
เวินหมั้นหน้าแดงก่ำ มือคนกาแฟเบา ๆ
ไป๋เวยจึงลดเสียงของเธอลง “เวินหมั้น เธอนี่สุดยอดจริง ๆ เลย! โฮ่วซ่าวถิงเป็นคนที่ตาถึงมากเลยนะ เขาแทบไม่มีเรื่องอื้อฉาวเลยนะ”
เวินหมั้นพูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นว่า “ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริง ๆ ไม่เช่นนั้นฉันคงไม่มารบกวนเธอหรอก”
โฮ่วซ่าวถิงเป็นคนที่มีอำนาจในแวดวงนั้นมาก หากไป๋เวยจะช่วยเธอ อาจจะเป็นการไปทำให้คนอื่นขุ่นเคืองใจได้
แต่ไป๋เวยก็เป็นคนที่มีน้ำใจ เธอใช้เส้นสายของเธอจนเอาแผนการเดินทางของโฮ่วซ่าวถิงมาได้
*
ตอนบ่ายสามโมงของวันเสาร์ โฮ่วซ่าวถิงมีนัดไปเล่นกอล์ฟที่สโมสร
เวินหมั้นจึงติดตามไป๋เวยและสามีของเธอไปด้วย แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ กู้ฉางชิงก็อยู่ที่นั่นด้วย
เวินหมั้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
ไป๋เวยหยิกสามีของเธออย่างแรงพลางบ่นขึ้นมาว่า “คุณไม่ได้ไปสืบให้ดีเหรอ หากกู้ฉางชิงอยู่ที่นี่แล้วเวินหมั้นจะต้องทำตัวไม่ถูกเลย”
สามีของไป๋เวยขอโทษอย่างจริงจังมาก “เวินหมั้น ผมขอโทษนะ! เป็นเพราะผมไม่ได้ไปสืบมาให้ดีเอง”
ตอนที่เวินหมั้นกำลังจะพูด โฮ่วซ่าวถิงก็เห็นพวกเขาแล้ว
โฮ่วซ่าวถิงสวมชุดลำลองสีขาว รูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลา..... พออยู่ท่ามกลางผู้คน เขาเหมือนพระจันทร์ที่ถูกรายล้อมไปด้วยดวงดาวอย่างไรอย่างนั้น
โฮ่วซ่าวถิงทำเช่นเดียวกับตอนอยู่ที่ออฟฟิศ เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเวินหมั้น แล้วก็ทักทายแค่สามีของไป๋เวยเท่านั้น
ซึ่งสามีของไป๋เวยรู้สึกประหลาดใจจากการได้รับความสำคัญ เขาจึงยิ้มหน้าบานไปหมด
ขณะนี้เอง โฮ่วซ่าวถิงถึงได้ทำเหมือนกับเพิ่งสังเกตเห็นเวินหมั้นอย่างไรอย่างนั้น
เดิมทีเวินหมั้นเป็นคนมีผิวพรรณดีอยู่แล้ว และวันนี้เธอก็ได้ใส่เสื้อน้อย ๆ มาด้วย
เธอสวมเสื้อยืดหลวม ๆ สีขาว กางเกงกีฬาขาสั้นสีเทาอ่อน
ผมสีน้ำตาลที่ยาวและเป็นลอนเล็กน้อยถูกมัดเป็นทรงดังโงะ ทำให้เธอดูสดใสและมีเสน่ห์อย่างมาก
สายตาของโฮ่วซ่าวถิงเหลือบมองขาที่เรียวสวยและขาวกระจ่างใสของเวินหมั้น แล้วก็พูดขึ้นมาอย่างชิว ๆ ว่า “ท่านนี้ ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย......”