ขอโอกาสอีกครั้ง
โฮ่วซ่าวถิงเสแสร้งพูดออกมาเช่นนั้น ซึ่งสามีของไป๋เวยก็ให้ความร่วมมืออย่างมีไหวพริบ
“เวินหมั้น เพื่อนร่วมชั้นเรียนตอนมหาวิทยาลัยของไป๋เวยน่ะครับ เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความสามารถ แล้วก็เป็นครูสอนเปียโนด้วย”
โฮ่วซ่าวถิงหัวเราะออกมาเบา ๆ “ที่แท้ก็อาจารย์เวินนี่เอง!”
เขาอมยิ้ม แล้วก็ยื่นมือออกประหนึ่งสุภาพบุรุษท่านหนึ่ง
คนที่อยู่รอบ ๆ ล้วนเป็นพวกผู้ชายที่สูงส่งกันทั้งนั้น พวกเขาทำหน้าตามีเลศนัย รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย! พวกเขาทุกคนมองออกได้ว่าอาจารย์เวินที่หน้าตาสะสวยท่านนี้มาที่นี่เพื่อโฮ่วซ่าวถิงโดยเฉพาะ
ทันใดนั้นใครคนหนึ่งก็หยอกล้อขึ้นมาว่า “ทนายความโฮ่วช่างโชคดีจริง ๆ เลย”
อันที่จริงเวินหมั้นเป็นคนขี้อายมาก เธอเคยต้องมาเจอกับสถานการณ์ที่รุนแรงแบบนี้ซะที่ไหนล่ะ ใบหน้าของเธอจึงแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว แล้วเธอก็แสร้งทำเป็นยื่นมือออกไปอย่างเป็นมิตร
ฝ่ามืออันอ่อนนุ่มของเธอถูกเขาจับเอาไว้
เมื่อโฮ่วซ่าวถิงปล่อยมือออกแล้ว เขาก็เผยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ขึ้นมาที่มุมปากพร้อมกับพูดว่า “อาจารย์เวิน ลองตีสักสนามไหมล่ะ?”
หลังจากที่พูดจบ เขาก็เดินไปที่สนาม เหมือนไม่เปิดโอกาสให้เธอปฏิเสธได้ซะอย่างนัน
เวินหมั้นจึงต้องเดินตามไปอย่างไม่มีทางเลือก
ที่ด้านหลัง กู้ฉางชิงกำลังถือไม้กอล์ฟด้วยสีหน้ามืดมนอยู่
......
โฮ่วซ่าวถิงอารมณ์ดีมาก ต่อให้เวินหมั้นจะบอกว่าตีไม่เป็น เขาก็ไม่รู้สึกรำคาญอะไร
“ผมจะสอนคุณเอง!”
ทันทีที่เขาพูดออกมาเช่นนี้ คนที่อยู่ข้าง ๆ ก็รู้ได้ทันทีว่าโฮ่วซ่าวถิงหมายถึงอะไร ทันใดนั้นสายตาของพวกเขาก็เริ่มมีเลศนัยขึ้นมาทันที
เวินหมั้นเองก็ไม่ใช่คนโง่ การที่โฮ่วซ่าวถิงมาใกล้ชิดกับเธอเช่นนี้ มันบ่งบอกได้ถึงสิ่งเดียวนั่นก็คือ——
เขาไม่ชอบกู้ฉางชิงนั่นเอง!
เวินหมั้นยืนอยู่หน้าโฮ่วซ่าวถิง ปล่อยให้เขากอดเธอจากด้านหลังได้ตามอำเภอใจ กางเกงกีฬาขาสั้นที่เธอใส่อยู่เผยให้เห็นถึงขาสวย ๆ ที่ขาวกระจ่างใสที่กำลังแนบชิดกับตัวของเขาอยู่ จนเธอสามารถสัมผัสได้ถึงความร้อนจากร่างกายของเขาเลย
ใบหน้าของเวินหมั้นร้อนระอุอย่างมาก
“อาจารย์เวิน มีสมาธิหน่อยสิ!” โฮ่วซ่าวถิงเอาริมฝีปากบาง ๆ ของเขาไปแนบชิดอยู่กับหูของเธอและกระซิบขึ้นมาเบา ๆ เหมือนกับคู่รักที่พูดคุยกันกระหนุงกระหนิง
เวินหมั้นตกตะลึงไปชั่วขณะ
เวลานี้โฮ่วซ่าวถิงได้จับมือของเธอไว้ แล้วก็เหวี่ยงไม้กอล์ฟออกไปแล้ว
มีเสียงปรบมือดังขึ้นมาจากบริเวณรอบ ๆ พร้อมกับเสียงเยินยอที่แสนเลี่ยนของคนเหล่านั้น
“ทนายความโฮ่วและอาจารย์เวินนี่ร่วมมือกันได้เป็นอย่างดีเลยนะครับ”
“เป็นเพราะทนายความโฮ่วนำทางได้ดีต่างหากล่ะ!”
“หากทนายความโฮ่วตีอีกรอบ จะต้องเข้าหลุมแน่ ๆ”
......
ผู้ชายมักจะเคยชินกับการพูดอะไรแบบนี้ แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
แต่สีหน้าของเวินหมั้นกลับแดงระเรื่อขึ้นมา
โฮ่วซ่าวถิงกดหน้าลงที่หูนุ่ม ๆ ของเธอ แล้วก็หัวเราะขึ้นมาเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “อาจารย์เวิน เรามาตีกันอีกสักรอบดีไหม?”
เขามีเทคนิคที่ดีมาก ทำให้การตีรอบนี้ลงหลุมไปได้จริง ๆ
เสียงปรบมือจากบริเวณรอบ ๆ ดังขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าอันหล่อเหลาและมีเสน่ห์ของโฮ่วซ่าวถิงดูมีชีวิตชีวาอย่างมาก
ร่างกายของเวินหมั้นสั่นเทาไปชั่วขณะ
วันนี้ เห็น ๆ อยู่ว่าเธอจงใจมายั่วยวนเขา แต่แล้วเธอกลับถูกเขาควบคุมตามอำเภอใจซะอย่างนั้น
เธอเกิดสัญชาตญาณหนึ่งขึ้นมาว่า หากโฮ่วซ่าวถิงต้องการจะจีบใครสักคน ผู้หญิงประมาณเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์จะต้องไม่สามารถต้านทานเขาได้อย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าผู้ชายที่มีสถานะแบบเขา ไม่สามารถที่จะลดสถานะของตัวเองลงได้ง่าย ๆ ก็เท่านั้น
เวินหมั้นถูกกอดไว้ในอ้อมแขนของเขา แล้วก็ตีเข้าไปได้อีกหลายหลุมเลย
ระหว่างช่วงพักครึ่ง เวินหมั้นก็มานั่งข้าง ๆ โฮ่วซ่าวถิง เขาไม่ได้คุยกับเธอมากนัก ส่วนใหญ่เขาจะพูดคุยกับคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ บางครั้งก็มีพูดเรื่องกฎหมายบ้าง
ส่วนเวินมั่นทำตัวเอาใจเขาเป็นอย่างมาก
เธอคอยยื่นเครื่องดื่ม หยิบผ้าเช็ดตัว..... แล้วโฮ่วซ่าวถิงก็ยอมรับไปอย่างง่ายดาย
ไป๋เวยคิดว่าเรื่องนี้มีหวังจะเป็นไปได้
เธอจึงลากเวินหมั้นเข้าไปในห้องน้ำ แล้วก็กระซิบขึ้นมาว่า “ฉันมองไม่ออกเลยนะว่าทนายความโฮ่วจะเป็นคนเล่นตัวได้ขนาดนี้เนี่ย! ก่อนหน้านี้ฉันเคยเห็นเขาในที่งานเลี้ยงมาก็หลายครั้งแล้วนะ ท่าทางเขาดูจริงจังมาก”
ไป๋เวยกลัวว่าเวินหมั้นจะเล่นกับไฟและถูกไฟแผดเผาตัวเอง เพราะจากสถานะของโฮ่วซ่าวถิงแล้ว เขาไม่น่าจะแต่งงานกับเวินหมั้นได้เลย อีกอย่างในความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ยังมีกู้ฉางชิงแทรกกลางอยู่อีกด้วย
เวินหมั้นที่มองทุกอย่างออกอย่างทะลุปรุโปร่งพูดขึ้นมาเบา ๆ ว่า “อย่างมากสุดก็เป็นเรื่องทางกายน่ะ แล้วฉันก็ไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้นด้วย”
ไป๋เวยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที
ตอนที่พวกเธอสองคนกำลังจะเดินออกไปนั้น กู้ฉางชิงก็ผลักประตูเข้ามาซะก่อน ทันทีที่เขาเดินเข้ามา เขาก็ผลักเวินหมั้นเข้ากับกำแพง สีหน้าเขาดูมืดมนอย่างมาก
ไป๋เวยร้อนใจมาก จึงไปดึงเขาเอาไว้อ“กู้ฉางชิง คุณจะทำอะไรน่ะ?”
กู้ฉางชิงยื่นมือออกมากันเธอไว้ แล้วก็ผลักไป๋เวยออกไป
จากนั้นก็ล็อคประตูทันที
ด้านนอก ไป๋เวยพยายามตบบานประตูอย่างสุดชีวิต แล้วก็ข่มเสียงด่าทอเขาขึ้นมา “กู้ฉางชิง นายมันเหี้ย นายรังแกผู้หญิงแบบนี้ ไม่เป็นลูกผู้ชายจริง ๆ โว้ย!”
แต่คำพูดเด็ก ๆ แบบนี้ กู้ฉางชิงไม่ได้สนใจเลยสักนิด
ถ้าเขาไม่โหดร้ายพอ เขาจะทำใจทิ้งเวินหมั้นและรีบกำจัดทุกอย่างให้สิ้นซากได้อย่างไรล่ะ?