คุณชายลูกข้าเรียกท่านว่าแม่
ือผู้งดงามเป็นน้องสาวแสนงดงามที่มู่หานซือเก็บไว้ในฝ่ามือเสมือนไข่ในหิน มู่หานซือประคองนางเอาไว้มิให้ผู้ใดได้แตะต้อง แต่ทั้งสองนั้นสนิทกันมากในยามที่เป็นเด็กนั้นซุกซน ทั้งสองมักจะสลับตัว
องเต้ยังชื่นชมนักในศิลปะศาสตร์ของนาง มู่หลิงซือนั้นงดงาม ผู้คนต่างก็กล่าวขวัญกันมากนักเลื่องลือกันดังออกไปเจ็ดแคว้นแปดมหาสมุทร เพราะบิดาของนางพิชิตผืนแผ่นดินได้มากมายเพื่
งก็มีใบหน้าหวานจึงกลัวว่าศัตรูจะมิกลัวเกรง มู่หานซือจึงสวมหน้ากากเสือเอาไว้ตลอดยาม เช่นนี้เองมู่หลิงซือจึงได้ทีสว
นนี้นางจึงมิต้องกังวลนัก ในยามพักหรืออาบน้ำจึงสะดวกอยู่มิน้อยเลยทีเดียว เหล่านักรบนั้นมักจะคอยเดินเวรยามให้นางตลอดราตรี แม้หนูซักตัวก็มิให้เร้นรอดเข้ามาได้ เพราะว่านา
สำนักยกย่องสกุลมู่นัก พี่ชายของนางจึงได้บรรดาศักดิ์เจิ้นเป่ยโหวมาได้โดยง่ายโดยมิต้องรอคอยการสืบทอดแต่อย่างใด นับว่ามีอนาคตยิ่งนักแล้ว ยามที่นางหายไปนั้นบิดาของนางโศกเศร้ามาก บิดาของนางร่ำไห้ทุกคืนว
งตนเองสวมลงบนกิ่งไม้ใหญ่และหามนางลงเปลมาอย่างระมัดระวังนัก ยามถึงเชิงเขาได้จึงเร่งเรียกหาหมอมาดูแผลให้นางก่อนสิ่งใด ยามที่หมอมาตรวจในยามแรก พบว่านางติดพิษกร่อนดวงใจซึมลึกเข้าไปในหัวใจ ความทรงจำทั้งหลายมลา
ก่อนจะเร่งทายาสมานแผลและปลุกปลอบนางที่ตื่นมาร่ำไห้ตลอดยาม ร้องเรียกเพียงคำว่า “เ
่ตามปกติแล้วจะมีแต่ลานฝึกยุทธ แต่ทว่ายามนี้นั้น กลับกลายเป็นสวนน้ำงดงามอย่างยิ่งนัก สงครามชายแดนปะทุเดือด มินานบิดาของนางและพี่ชายของนางก็ต้องไปประจำที่ชายแดนอีกครั้ง เช่นนี้แล้วนาง
งคงกำลังป่วยหนัก ถึงสงสารเห็นใจเพีย
นี้นี่ช่างไร้แก่นสารนัก นางคงหลงลืมตนเองไปในคราแรกจึงวิปลาส เช่นนั้นผู้คนจึงห
ีกครั้งหนึ่ง เช่นนี้นางจึงต้องปลอมตนเองเป็นพี่ชายของตนเองและเข้าร่วมรบ นางชัก
รึงกำลังและออกรบอยู่ในเขตพิพาทที่ซานฉือ องค์รัชทายาทมิได้กลับมานานนักแล้ว และแว่วว่าองค์รัชทายาทนั้นมีทายาทน้อยๆสืบราชนิกูลแล้ว ในยามนี้นั้นการเมืองจึงคุกรุ่นอยู่มิน้อยเลย หลายฝ่ายคาดว่าจะเลือกสนับสนุนทางหนิงอัน สกุลของชายารองขององค์รัชทายาท ที่ในภายหน้าอาจมีความเปลี่ยนแปลงอื่นใดขึ้นมาได