จ้าวเยว่ สตรีเกียจคร้านของท่านแม่ทัพ
ที
าไปหนักหัวค
บัดนี้พวกนางส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ที่นั่นกันแล้ว เพราะต่างพากันไปชุมนุมอยู่ที่ศาลาชมดาวกันหมด
หน้าสะกิดเตือนว่าจะทำให้ชาดที่ทาปากเลอะได้ จะดื่มน้ำก็ยังห้ามดื่มมากเกินไป เพราะอาจทำให้ปวดเบาจนวุ่นวายต้อ
ที่งดงามมานั่งด้วย ก็พากันตะลึง ไม่คิดว่าจะมีสตรีนางใดหาญกล้าถึงเพียง
รให้กินบ้างเจ้าคะ ข้าห
แล้วก็มองไปที่อา
ก่อนเอ่ยว่า “แล้วเหตุใดเจ้า
่งร่วมวงกับสตรี
บว่ากำลังไม่พอใจสตรีพวกนั้น จนพี่ชาย
ร เป็นสตรีแต่มานั่งที่สำหรับบ
หน้าพี่ชายคนรอง
้าวเยว่ มิเคยคิดเล็กคิดน
อยหน่าย มือข้างหนึ่งหยิบจานใส่
้าปากเคี้ยวอย่างรีบร้อน สั
้เฉินยื่นถ้วยน้ำชาให้ ด
ปถามพี่ชายทั้งสองต่อ “ท่านคิดว่างานเลี้ยงครั้งนี้จะยา
ป็นคนสุดท้ายตามเคย” จ้าวหลู่เจินตอบ พลาง
ำตอบแล้วก็ทำหน้
ายชั่วยาม ข้าจะไปท
บสตรีอื่น เหมือนท
เสนอในสิ่งที
ตรี แล้วท่านจะให้ไปคุยกับใครกันเล่า”
หยอกล้อกันไปมาไม่หยุด พี่ชา
ี้ยงปลาอยู่ เจ้ารีบกินแล้วก็รีบไปเถอะ ท
าปาก พลางหยิบขนมอีกสองอันใส่ในอกเสื้อด้วย จากนั้นก็
นร้อย ๆ ตัว ตรงกลางมีสะพานโค้งทอดข้าม เพื่อให้สามารถเดินขึ้นไปดูปลาที่กล
อนกับปลาที่จวน แต่บางตัวก็เป็นปลาที่ด
้วยอย่างมีความสุข สักพักก็คิดขึ้นมาว่าหากมีอาหารปลาก็
ขึ้นมาบนสะพานโค้ง ในมือของเขาม
าอยู่ที่นี่” เซียวเฟิงเอ
ิดว่าจะไม่มีใครรู้เสี
มื่อเห็นสหายเก่าน
แรก ข้ารู้ว่าเจ้าคงไม่อยากอยู่ในงานเลี้ยง ประการที่สอง ไม่มีทางที่เจ้าจะไปสนท
าจริง ๆ” จ้าวเยว่ปรบมือและ
ี่แล้วเจ้าจึงไม่มา
รื่องที่เขาข้องใ
” จ้าวเยว่ตอบ
อมีธุระ ข้าฟังแล
ยงแต่ข้าไม่ชอบพิธีรีตอง เจ้าก็
เซียวเฟิงแกล้ง
ข้า” จ้าวเยว่เชิด
จ้าดูงดงามขึ้นมาก” เซียวเฟิงเอ
้าหน่อยเลย ข้าอึด
ำสีหน้าเหนื่อยหน่
เอ่ยเกินความจริงแต่อย่างใด เขาเพียงแค่รู้สึกว่านางงดง
เวลานี้ พลางส่งกล่องไม้ที่มีอ
บไป
มใจ ก่อนจะจัดการโปรยอาหารให้ปลาต
ี้ยง เนื่องจากมีเรื่องต้องสนทนากับขุนนางด้วยกัน เขาจึงได้ขอตัวกลับไปในงานเลี้ยงก่
วตอนนี้บุตรีของขุนนางราวยี่สิบกว่าคน ก็มาชุมนุมกันอยู่ที่นี่ พวกนางมั
ายของท่านเซียวโหว นามว่าเซียวเฟิง ที่ตอนนี
ลือกอยู่ไม่น้อย เป็นถึงบุตรชายท่านโหว ใคร ๆ ก็ย่อม
ก็จริง แต่ว่าในใจก็อยากจะไ
ินแทรกเข้ามาตร
บพร้อม งามราวกับเทพเซียน ทั้งยังเป็นกุลสตรีมีกิริยาเรียบร้
ี่ยวเพ่ย ข้ามิได้ดี
ๆ ทั้งที่ในใจก็พึง
เว้น....จ้าวเยว่” นี่คือคำเอ่ยของซูหนิง น้อง
้ขัดจังหวะได้หรือไ
ถียนเอ่ยอ
ูหนิงเอ่ยขึ้นอีกครั้งพลางทำหน้างุนงงขึ
ับจ้าวเยว่มาตั้งแต่เด็ก ถึงขั้นวิ่งเล่น
ขึ้นถึงข่าวท
่ยืนอยู่ด้านหล
ก่อนท่านเจ้ากรมจ้าวกับท่านเซียวโหวทำงานใก
กล้ชิดกับนางสักเท่าไร หญิงเกียจคร้านอย่างนั้น ใครอยากจะสนิทสนมด้วยกันเล่า”
ังไปสักพักเอ่ย
นเคยไปขอนางเป็นสหาย แล้วถู
กลบเกลื่อนความจริง “ซูหนิง ถ้าเจ้าเอ่ย
ซูหนิงจึงยอมสง
่ยเถียนก็ไ
แรกแล้วล่ะสิ ว่าจะผูกมัดสกุลเซียวกับสกุลจ้าวไว้ให้
เป็นอย่างนั้นก็ได้
ควรจะทำเอาไว้ แล้วเหตุใด สกุลจ้าวจะไม่ทำเล่า ข้าว่าทั้งเจ้ากรมจ้าวแล้วก็ฮูหยิน ต้องวางแผนเอาไว้แล้ว ดูท่าน่าจะเจ้าเล่ห์กันอยู่ไม่น้อย” หวังเว่ยเถียนหยุด
จียวต่อ “ข้าว่านะ ถ้าคุณชายเซียวได้เห็นหลิงเจียวขอ
กคนพยักหน้า
นที่พวกบุตรสาวขุนนางทั้งหลายเอ่ย
สัมผัสบรรยากาศนอกงานเลี้ยง แต่ว่าพอมาถึงกลับได้พบกับเรื่องไม่น่
ด้วยไม่คิดว่านางจะมาถึงที่นี่ และเรื่องที่พวกนา
อย่างหวังเว่ยเถียนกับซูหลิงเจียวนั้น ไม่สามารถหลบหน้าได้
ขากลับนินทาว่าร้ายไปจนถึงบิดามารดาของนาง ซึ่งเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ มือสองข้
อไม่ ว่าในสมัยกวนหมิงฮ่องเต้ พวกเขาทำการลงโทษหญิงปากมากกันอย่างไร”
กมือขึ้นตอ
้ แล้วก็บีบให้อ้าปาก จากนั้นก
ียวและหวังเว่ยเถียน ต่
เข้าไปอีก ได้แต่ยืนรอกันอย่างสงบเสงี่ยม ถึงแม้จะกลัว แต่ว่าก็ไม่มีใครคิดท