เธอคือลมหายใจของฉัน
ผู้เขียน:ณัฏฐินี แก้วมณีงาม
หมวดหมู่โรแมนติก
เธอคือลมหายใจของฉัน
เมื่อหลิงเฉินมองไปที่หย่าเสวียน เขาก็จำได้ทันที เธอก็คือผู้หญิงที่จูบเขาที่บาร์นั่นเอง
เขาเหลือบมองไปที่ชุดของหมี่เจียอีกครั้ง ถ้าผู้หญิงอายุราว ๆ หย่าเสวียนใส่ชุดนี้หล่ะก็ แน่นอนว่าจะดูแก่มาก ตอนที่เขาเลือกชุดให้หมี่เจียนั้น เขาก้แค่มองดูคร่าว ๆ แล้ว แต่พอเธอสวมมันแล้ว เขาไม่แม้แต่จะอยากมอง เพราะงั้นเขาเลยไม่รู้ว่ามันสวยรึป่าว
ตอนนี้เมื่อหลิงเฉินลองมองดูดี ๆ แล้ว ก็เห็นว่าหย่าเสวียนพูดถูก ชุดที่หมี่เจียใส่นั้นดูแก่จริง ๆ แถมยังดูหลวมไปสำหรับเธอด้วย เขายกยิ้มอย่างรู้สึกตลก ทว่าเขาไม่ได้แสดงออกมาแม้แต่นิด
ตอนที่หมี่เจียบ่นกับหลิงเฉินนั้น สายตาทุกคู่ในร้านต่างจับจ้องมาที่เขา ซึ่งเขาเพียงแค่ตอบมาสั้น ๆ ว่า อืม เท่านั้น
หมี่เจียยังคงรู้สึกอับอาย
เธอมองไปที่หลิงเฉินที่ยังคงเงียบ เธออยากจะพูดอะไรต่อ แต่เธอรู้สึกกลัวเขาจึงไม่ได้พูด
คนที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกเขาไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือผู้ช่วยจ้งนั่นเอง เขามองหย่าเสวียนพลางคิดว่า ‘ตัวเองเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ที่ไหนกันนะ’ จู่ ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ เขารีบเข้าไปหาหลิงเฉินและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “คุณหลิงเฉินครับ ผู้หญิงคนนั้นคือ...” ก่อนที่ผู้ช่วยจ้งจะพูดคำนั้นออกมา เขาก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียง ๆ หนึ่งซึ่งเขาก็รู้ได้ว่าเป็นเสียงของหย่าเสวียน
“เฮ้ย ฉันเกือบมองไม่เห็นคุณแหน่ะ” หย่าเสวียนอุทาน พลางเดินไปหาผู้ช่วยจ้ง “คุณนั่นเอง เป็นยังไงบ้างคะ? ”
ไม่ทันที่ผู้ช่วยจ้งจะรู้สึกตัว เขาก็โดนหย่าเสวียนลากออกไปอีกทาง
‘โอ้พระเจ้า! ผู้ชายคนนี้เป็นคนช่วยเรื่องจดทะเบียนสมรสระหว่างฉันกับหลิงเฉิน’ หย่าเสวียนบอกตัวเอง ‘พ่อมักจะพาฉันไปหาหลิงเฉินอยู่บ่อย ๆ เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา และก็เป็นผู้ช่วยจ้งที่คอยต้อนรับพวกเขามาโดยตลอด’
หย่าเสวียนมีสีหน้าเคร่งเครียดและคิดว่า ‘ฉันจะต้องไม่ให้หลิงเฉินรู้ว่าฉันเป็นใคร เรื่องที่ฉันจูบเขาครั้งที่แล้วก็เช่นกัน และตอนนี้ เราก็ได้เจอกันอีกแล้ว! เขาอาจจะคิดว่าฉันทำอย่างนี้เพื่อดึงดูดความสนใจของเขาก็เป็นได้’
“คุณ...” ผู้ช่วยจ้งอยากเรียกเธอว่า คุณนาย แต่ก็ถูกขัดจังหวะอีกครั้ง
“คุณ? คุณจำฉันไม่ได้เหรอ ฉันเอง” หย่าเสวียนพูดอย่างตื่นเต้น ผู้ช่วยจ้งมองไปทางหย่าเสวียนอย่างงง ๆ “คุณ? ยอมรึยัง! เราเจอกันอีกแล้วนะ!” หย่าเสวียนต่อยเบา ๆ ที่กลางอกของผู้ช่วยจ้งเพื่อเป็นการเปลี่ยนเรื่อง “อย่ามาทำเป็นสุภาพกับฉันเลยน่า มันแปลกมากเลยนะรู้ไหม” เธอลากผู้ช่วยจ้งออกไปให้ห่างจากหลิงเฉินพอสมควร ท่ามกลางสายตางงงวยของทุกคนที่นั่น
พอออกห่างจากหลิงเฉินมาพอสมควรแล้ว แต่เธอก็ยังมองอยู่อย่างระแวง “คุณนาย ทำไมคุณถึงทำแบบนี้หล่ะครับ?” ผู้ช่วยจ้งถาม “คุณหลิงเฉิน ไม่เคยพบคุณมาก่อน ผมต้องแนะนำให้เขารู้จัก”
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้ช่วยจ้งทำให้หย่าเสวียนอยากจะหัวเราะออกมา
‘ใช่ เราแต่งงานกันมาสามปีแล้ว เราสองคนยังต้องให้คนอื่นมาแนะนำให้รู้จักอีกงั้นเหรอ!’ หย่าเสวียนเย้ยหยัน
‘ถ้าไม่ใช่เพราะทะเบียนสมรสบ้า ๆ นั่น ฉันก็ยังคิดว่าตัวเองโสด และไม่มีทางที่ฉันจะรู้จักเจ้าของบริษัทข้ามชาติอย่างหลิงเฉินได้แน่นอน’
หย่าเสวียนดึงผู้ช่วยจ้งเข้ามาใกล้ ๆ พลางกระซิบว่า “ไม่ต้องหรอก ขอบคุณคุณมาก ๆ คือเรื่องมันเป็นอย่างงี้ค่ะ ฉันเซ็นใบหย่าแล้ว และขอให้ลุงโจว๋เอาไปให้หลิงเฉินแล้ว เพราะงั้นฉันกับเขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องรู้จักกันแล้วหล่ะค่ะ”
“ใบหย่างั้นเหรอ?” ผู้ช่วยจ้งถามซ้ำด้วยความตกใจ “คุณจะหย่ากับคุณหลิงเฉิน?” ผู้ช่วยจ้งตกใจก่อนจะถอยหลังออกไปนิดหนึ่ง เขามองหย่าเสวียนก่อนจะเริ่มครุ่นคิด ’ถ้าฉันจำไม่ผิด หย่าเสวียนอายุน้อยกว่าหลิงเฉินประมาณหกเจ็ดปีแหน่ะ ผู้หญิงอย่างเธอไม่อยากเป็นภรรยาของผู้ชายที่ทั้งหล่อทั้งรวยเหรอ?’
เขาเหลือบมองหลิงเฉินอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันกลับมาหาหย่าเสวียน ผู้ช่วยจ้งก็ยังนึกไม่ออกว่าทำไมหย่าเสวียนถึงจะขอหย่า “สมองของเธอผิดปกติรึไงกัน? หลิงเฉินทั้งหล่อทั้งรวยและมีอำนาจ ทำไมเธอถึงอยากหย่ากับเขาหล่ะ?’
หย่าเสวียนจับชายเสื้อไว้แน่นก่อนจะตอบอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ว่า“ใช่ ฉันต้องการหย่ากับหลิงเฉิน และฉันก็หวังว่าคุณจะเก็บมันเป็นความลับ เพื่อไม่ให้มีปัญหาอะไรมากกว่านี้”
ผู้ช่วยจ้งนั้นถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ในใจเขามีคำถามมากมาย
ขณะที่ผู้ช่วยจ้งเดินกลับมาหาหลิงเฉิน เขาก็ซื้อเซ็ตลิปสติกให้หมี่เจียเสร็จพอดี
สายตาที่เย็นชาของหลิงเฉินจับจ้องไปที่ผู้ช่วยจ้งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเหลือบมองไปทางหย่าเสวียน และก็เห็นว่าเธอกำลังอยู่ในอ้อมกอดของห้วยหมิง
เขากระตุกยิ้มขึ้นมา ‘ก็ไม่ใช่ผู้หญิงดีอะไรนี่!’ เขาคิด
เมื่อคิดว่าตัวเองนั้นเคยจูบกับผู้หญิงเช่นนี้แล้ว สีหน้าของเขาก็ถอดสีทันที เขาหันหน้าไปทางผู้ช่วยจ้งและสั่งว่า “ผู้ช่วยจ้ง ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรกับคุณ แต่ตอนนี้คุณรีบเอาเธอออกไปจากห้างนี้ซะ คนอย่างเธอไม่เหมาะที่จะมาเดินที่นี่ เข้าใจนะ?”
ครั้งที่แล้วไม่ทันจะได้จัดการเธอ แต่ครั้งนี้เขาจะไม่ปล่อยเธอไปแน่นอน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ช่วยจ้งเห็นท่าทางโกรธจัดของหลิงเฉิน ทว่าคราวนี้มันกลับดูแตกต่างออกไป หลังจากที่มองไปทางที่หลิงเฉินกำลังมอง ผู้ช่วยจ้งก็เข้าใจได้ว่าเพราะอะไร
สิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นคือ เด็กผู้หญิงกำลังเกาะแขนของเด็กผู้ชาย และกำลังอ้อนเขางั้นเหรอ? ซึ่งก็คือหย่าเสวียนกับห้วยหมิงนั่นเอง และก็เป็นอีกครั้งที่ห้วยหมิงถูกโยงกับเรื่องไม่เป็นเรื่องของหย่าเสวียน “ห้วยหมิง ที่รักคะ คุณซื้อเซดลิปสติกนั่นให้เราสิ” หย่าเสวียนพูดเสียงดังกว่าปกติเยอะ หย่าเสวียนหันมองไปทางหมี่เจียและชี้ไปที่เธอ พลางมองห้วยหมิงและทำหน้าบึ้ง “เราก็อยากได้เหมือนกัน ดูคุณป้าตรงนั้นสิ แฟนของเธอเพิ่งซื้อเซ็ตลิปสติกให้เธอเอง” หย่าเสวียนจับมือห้วยหมิงขึ้นมาและยิ้มหวานพลางพูดต่อ “ทำไมคุณไม่ซื้อให้เราบ้างหล่ะคะ?”
ไม่ต้องรีบ ให้เธอคิดก่อนว่าพวกดาวมหาลัยพวกนั้นอ้อนคนอื่นยังไง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นและจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะทำแบบนี้
ห้วยหมิงเอามือทาบอกด้วยความตกใจก่อนจะมองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาด้วยท่าทีงง ๆ ก่อนจะพูดว่า “นี่! เฮียเหนียน เธอเป็นอะไรรึป่าว? อย่าทำให้ฉันกลัวสิ” เพื่อนของหย่าเสวียนทุกคนต่างก็ประหลาดใจกับการกระทำของเธอ
'นี่คือหย่าเสวียนจริง ๆ เหรอ? ไม่ ไม่มีทางที่เธอจะทำอย่างนั้นแน่นอน หย่าเสวียนจะอ้อนคนอื่นแบบนี้ได้ยังไงกัน!’ ทุกคนที่เห็นต่างก็ตกใจและไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
“ห้วยหมิงที่รัก ได้โปรด…” ดวงตาของหย่าเสวียนเป็นประกาย “คุณก็รู้ว่าเราชอบลิปสติก ซื้อให้เราหน่อยสิคะ” ทั้งหมดทั้งมวลนี้ หย่าเสวียนเหมือนกับกำลังทำร้ายตัวเอง เธอมองไปทางหลิงเฉินเป็นครั้งคราว และเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ
‘ทำไมเขายังไม่ไปล่ะ ไม่รู้หรือไงว่าฉันรู้สึกขยะแขยงตัวเองจะแย่แล้ว ช่างมันเถอะ! เพื่อตัวเธอเองนะหย่าเสวียน! เธอสู้ตาย!’
หย่าเสวียนกำมือแน่น สายตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เธอคิดว่า วันนั้นฉันจูบกับเขา แถมวันนี้ยังอ้อนผู้ชายคนอื่นอีก ‘ถ้าวันหนึ่งหลิงเฉินรู้ว่าฉันเป็นภรรยาของเขาแล้วหล่ะก็ เขาจะต้องคิดว่าฉันมีความสัมพันธ์กับชายอื่นอย่างแน่นอน!’ ‘เพราะงั้นเขาจะคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงต่ำ ๆ คนหนึ่งและจะต้องยอมเซ็นใบหย่าอย่างแน่นอน! ซึ่งมันก็วินวิน สำหรับเราทั้งคู่!’ นั่นคือแผนอันยิ่งใหญ่ของหย่าเสวียน และไม่มีทางที่เธอจะปล่อยให้มันล้มเหลวอย่างแน่นอน และก็เป็นคำพูดของห้วยหมิงที่ทำให้เธอกลับมาได้สติอีกครั้ง“โอเค ผมจะซื้อให้เธอ! ผมจะซื้อทุกอย่างที่เธฮต้องการ แต่ได้โปรด...” เสียงของห้วยหมิงอ่อนลงด้วยความสิ้นหวัง “ได้โปรดหยุดทำอย่างนี้เถอะ...” ห้วยหมิงทนไม่ไหว และเขาก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่านี่คือการแสดงของหย่าเสวียน เขาขอแค่ว่าให้มันรีบจบ ๆ ไป ห้วยหมิงเดินไปที่แผงขายลิปสติก เขาคว้าลิปสติกทั้งหมดที่เขาเห็นและยื่นให้พนักงานขายทันที
พนักงานขายถึงกับตกตะลึงกับจำนวนลิปสติกที่ห้วยหมิงถืออยู่ในมือ ‘มือของเขากำลังสั่น!’ เธอคิด “ไม่ได้ยินเหรอ?” ห้วยหมิงถาม “ฉันเอาทั้งหมดนี่ รีบคิดเงินเร็ว ๆ เลยนะ!”
พนักงานขายรับของจากห้วยเหมิงไปแล้วรีบไปที่เคาน์เตอร์ทันที ห้วยหมิงคิดว่า ‘เดี๋ยวซื้อของเสร็จแล้วจะพาเธอไปเช็คสมองทันที’
มีเพียงคนเดียวที่รู้ว่าเธอกำลังเล่นละคร ซึ่งก็คือผู้ช่วยจ้ง ‘เธอตั้งใจทำแบบอย่างชัดเจน…’ อย่างไรก็ตาม เขามีบางอย่างที่ต้องจัดการในตอนนี้ ซึ่งก็คือต้องทำตามคำสั่งของหลิงเฉินโดยการไล่หย่าเสวียนออกไป หย่าเสวียนเป็นภรรยาของเขาไม่ใช่เหรอ? ไม่มีทางที่ผู้ช่วยจ้งจะทำอย่างนั้นได้
เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อครู่ หมี่เจียก็หันไปหาผู้ช่วยจ้งและถามว่า “ผู้ช่วยจ้ง ในเมื่อหลิงเฉินสั่งแล้วทำไมคุณไม่ทำตามคำสั่งของเขาหล่ะคะ?” ในที่สุดหมี่เจียก็รู้สึกโล่งอก เมื่อได้ขัดคำพูดของผู้ช่วยจ้ง เธอคิดว่าที่หลิงเฉินต้องการจะไล่หย่าเสวียนออกไปนั้นก็เพื่อเธอ
‘ฉันแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นในสายตาของเขา มีความสุขจริง ๆ เลย’
“แต่คุณหลิงเฉินครับ...” ผู้ช่วยจ้งกระซิบ ผู้ช่วยจ้งลังเล แต่เขาจำเป็นต้องพูด “เธอเป็น...”คนที่เขากำลังจะไล่ออกไปนั้นเป็นถึงคุณนายนะครับ คุณหลิงเฉินแน่ใจว่าจะทำอย่างนั้นเหรอครับ?
เขาสัมผัสได้ถึงสายตาอำมหิตที่มองมาทางเขา ผู้ช่วยจ้งเลยไม่ได้พูดอะไรต่อ รีบสั่งบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังเขาทันที “รีบเอาพวกเขาออกไปเดี๋ยวนี้!”
ในที่สุด ช่วงเวลาที่หย่าเสวียนรอคอยก็มาถึง หลังจากที่ผู้ช่วยจ้งได้รับคำสั่งแล้ว หย่าเสวียนก็ยกมือขึ้นและพูดว่า “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพวกเราจะออกไปเอง”
หย่าเสวียนพูดกับห้วยหมิงที่กำลังจะจ่ายเงิน “นี่ ไม่ต้องซื้อลิปสติกแล้ว ไปกันเถอะ” ห้วยหมิงดึงบัตรเครดิตที่กำลังจะยื่นให้พนักงานขายกลับ เอาลิปติกทั้งหมดไปวางไว้ที่เดิม และก็ไม่ลืมที่จะเรียกเพื่อน ๆ อีกสองคนออกไปด้วย
เมื่อหลิงเฉินมองดูหย่าเสวียนที่ยอมออกไปแต่โดยดี เขาก็เริ่มสงสัย ‘มีบางอย่างผิดปกติ…’ เขาคิด
หมี่เจียมองตามหย่าเสวียนไปด้วยสายตาดูถูก หลังจากที่เก็บอารมณ์เรียบร้อยแล้วก็หันไปหาหลิงเฉินและคล้องแขนเขา พลางพูดด้วยน้ำเสียงไพเราะ “หลิงเฉินคะ เราไปทานอาหารเย็นที่ชั้นห้า ของอาคารยู่เหิงกันไหมคะ?
หลิงเฉินสั่งเบา ๆ “นำทางไปที”
ผู้ช่วงจ้งสะบัดข้อสงสัยทั้งหมดออกจากหัว เคลียร์ทางและพาเจ้านายออกจากร้านไป
ที่ทางออกของอาคารเทียนเสวียน หย่าเสวียนหันกลับมามองห้วยเหมิงอย่างกะทันหันและถามว่า “นี่ ฉันจำได้ว่านายอยากกินอาหารที่ชั้นห้าของอาคารยู่เหิง ใช่ไหม?”
“เฮียเหนียน” ห้วยหมิงถอยหลังกลับ “พูดตามตรงนะ ฉันใช้เงินทั้งหมดไปกับการเติมเงินในเกมบนมือถือ ฉันเลี้ยงพวกเธอไม่ไหวหรอก”
“หึ!” หย่าเสวียนปรบมือและยิ้ม “เดี๋ยวฉันเลี้ยงพวกเธอเอง”