เธอคือลมหายใจของฉัน
ผู้เขียน:ณัฏฐินี แก้วมณีงาม
หมวดหมู่โรแมนติก
เธอคือลมหายใจของฉัน
หึ หมี่เจียที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หลิงเฉินยิ้มเยาะก่อนจะพูดดูถูกหย่าเสวียนว่า “เธอนี่มันโง่จริง ๆ เลยนะ ฉันหล่ะรู้สึกอายแทนเลย ฉันจะบอกเธอให้นะ ไชนิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล พลาซ่า ทั้งหมดเป็นของหลิงเฉิน”
เสี่ยวเคอถึงกับหลับตาลงด้วยความเหนื่อยหน่าย และพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
‘หย่าเสวียน ครั้งนี้ฉันไม่รู้ว่าจะช่วยเธอยังไงจริง ๆ ...เธอหาเรื่องหลิงเฉินมาหลายครั้งแล้ว...’ เธอมองหย่าเสวียนและส่ายหัว ‘ฉันจะเอาอะไรไปช่วยเธอได้หล่ะ ตอนนี้แม้แต่ตัวของฉันเองยังไม่รู้ว่าจะรอดไหมเลย...’
หย่าเสวียนมองไปรอบ ๆ ทุกอย่างบนชั้นห้านั้นเต็มไปด้วยความหรูหรา ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีราคา ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดโบราณ โบราณวัตถุ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ล้ำสมัย ‘นั่นก็หมายความว่าฉันก็เป็นเจ้าของที่นี่ด้วย’ หย่าเสวียนยิ้มกว้าง
และหัวเราะออกมา
สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมาที่หย่าเสวียน และก็คิดว่าสมองของเธอนั้นคงไม่ปกติ
และแน่นอนว่ามีเพียงผู้ช่วยจ้งเท่านั้นที่รู้เหตุผล
‘ในที่สุด เธอก็รู้ตัวสักทีว่าตัวเองเป็นเจ้าของที่นี่เช่นกัน’ ยังดีที่เธอไม่ได้ดีใจจนถึงกับเสียสติ เมื่อรู้ว่าไชนิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล พลาซ่านั้นเป็นของเธอ ถือว่าค่อนข้างจะนิ่งมากทีเดียว
เมื่อเห็นท่าทีของหย่าเสวียนวันนี้แล้ว ห้วยหมิงก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอคงจะโดนอะไรไม่ดีเข้าสิงเป็นแน่ เขาโน้มตัวลงก่อนจะอุ้มหย่าเสวียนมาพาดไว้บนบ่า
เมื่อหัวของเธอทิ่มไปกับพื้น เธอก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา เธอตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจทันที “เฮ้ย! ห้วยหมิง นายทำบ้าอะไรเนี่ย อุ้มฉันทำไม? !” ห้วยหมิงยังคงอุ้มหย่าเสวียนต่อไป โดยไม่ได้สนใจคำพูดของเธอเลยแม้แต่นิด “ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ ผู้ชายแบบนี้ต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง เขามาว่าฉันแบบนี้ได้ยังไง” เธอพูด ถึงแม้ว่าห้วยหมิงจะไม่ยอมปล่อยเธอลง แต่หย่าเสวียนก็รู้ว่าเธอยังไม่แพ้ ‘หย่าเสวียน เธอต้องจัดการมัน!’ เธอพูดกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น
ประโยคหลังนั่นหมายถึงหลิงเฉิน เธอจะต้องหย่ากับเขาแน่นอน! รีบ ๆ เซ็นใบหย่าเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นก็ไปที่เขตด้วยกันตอนนี้เลย’ หย่าเสวียนเงยหน้าขึ้นและชี้ไปที่หลิงเฉินพลางยิ้มอย่างดูหมิ่น “นายฟังฉันนะ คุณหลิงเฉิน” ไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรออกมา
ก็โดนเสี่ยวเคอกับห้วยหมิงปิดปากไว้ซะก่อน ไม่เพียงเท่านั้น เสี่ยวเคอยังยิ้มให้หลิงเฉินเป็นการขอโทษ “คุณหลิงเฉินคะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ วันนี้เพื่อนของฉันกินยาผิด ก็เลยบ้า ๆ ไปหน่อย ต้องขอโทษจริง ๆ ค่ะ เราจะออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ค่ะ”
สิ่งที่ทำให้หย่าเสวียนรู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้นก็คือ แม้แต่ หว่านหยิงกับเจ๋อหนันต่างก็ขอโทษหลิงเฉินด้วยเช่นกัน “คุณหลิงเฉิน พวกเราขอโทษด้วย พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ”
จากนั้นพวกเขาก็ลงลิฟต์และออกจากห้างไป ห้วยหมิงอุ้มหย่าเสวียนไปจนถึงลานจอดรถชั้นใต้ดิน โดยไม่สนใจสายตาของผู้คนรอบข้างแต่อย่างใด เมื่อไปถึงรถเบนซ์ของเขา ห้วยหมิงก็วางหย่าเสวียนลง ห้วยหมิงหอบหายใจก่อนจะพูดออกมาว่า “พวกเรา…รีบพาเฮียเหนียนไปโรงพยาบาลบ้าเดี๋ยวนี้เลย…” เขาเหนื่อยจากการที่ต้องอุ้มหย่าเสวียนไว้ เพื่อที่จะไม่ให้เธอไปก่อเรื่องอีก “เราควร…รีบติดต่อผู้อำนวยการของโรงพยาบาลทันที…” ห้วยหมิงพูดพลางหอบหายใจ “และบอกว่าเรามีเคสพิเศษที่ต้องเข้ารับการรักษาในทันที” ในที่สุดห้วยหมิงก็ยอมแพ้ ทิ้งตัวลงนอนราบกับพื้นลานจอดรถด้วยความเหนื่อย และทุกอย่างก็เงียบลง ทุกคนต่างจับจ้องไปที่ห้วยหมิงที่กำลังเหนื่อย
ทุกคนคิดว่าหย่าเสวียนคงจะไม่กล้าทำอะไรแล้ว แต่ที่ไหนได้ หย่าเสวียนที่กำลังตาลายด้วยความมึนนั้น กระโดดขึ้นมา และทำท่าจะตบห้วยหมิง “นายสิต้องไปโรงพยาบาลบ้า!”
ไม่ทันที่เธอจะได้ลงมือ เสี่ยวเคอก็จับมือเธอไว้เสียก่อน “ไม่ หย่าเสวียน ห้วยหมิงพูดถูกและฉันก็เห็นด้วยกับเขา เธอจะต้องไปเช็คที่โรงพยาบาลบ้า วันนี้เธอผิดปกติมาก และฉันก็คิดว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติกับเธอแน่นอน” หย่าเสวียนดึงมือของเธอออกจากเสี่ยวเคอและปล่อยมือของเธอออกจากห้วยหมิง เสี่ยวเคอพูดต่อ “เธอรู้ไหมว่านั่นใคร? นั่นคือคุณชายหลิงเฉินนะ!” พูดจบก็รีบพนมมือพลางพูดว่า พระผู้เป็นเจ้า “ได้โปรดอย่าให้หลิงเฉินตามฆ่าเราเลย! อย่าให้หลิงเฉินตามฆ่าพวกเราเลย”
หย่าเสวียนยืนพิงรถ พลางเอามือก่ายหน้าผาก “ฉันจะกลับบ้านแล้ว ตอนบ่ายฉันไม่ไปเรียนแล้ว”
“โดดเรียนอีกแล้วเหรอ?” เจ๋อหนันขมวดคิ้วอย่างไม่เห็นด้วย พูดแล้วก็รู้สึกเจ็บ เขากับหย่าเสวียนก็รู้จักกันมานาน ทำไมเธอถึงไม่เป็นคนรักเรียนแบบเขาบ้างนะ ไม่ใช่ คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล หรอกเหรอ?
เมื่อเปิดประตูรถเบนซ์ของห้วยหมิง หย่าเสวียนก็เข้าไปนั่งในที่คนขับทันที ก่อนจะตอบอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย “ใช่แล้วหล่ะ เจ๋อหนัน” พลางพูดต่อ “ห้วยหมิง รถนาย...” เธอส่ายหัวอย่างครุ่นคิด ‘เดี๋ยวก่อนนะ…รถเบนส์ของห้วยหมิงราคาหลักล้าน ส่วนรถของเสี่ยวเคอนั้นราคาหลักแสน…ฉันควรจะยืมรถของเธอแทน’
เธอโผล่หน้าออกมาก่อนจะพูดว่า “เสี่ยวเคอ ฉันขอยืมรถของเธอหน่อย”
เสี่ยวเคอหยิบกุญแจรถออกมาพลางมองเธออย่างไม่ค่อยวางใจนัก “เฮียเหนียน แน่ใจนะว่าจะไม่ไปโรงพยาบาล?”
เธอถอนหายใจออกมา ‘ฉันจะบอกเพื่อน ๆ ได้ยังไงว่าหลิงเฉินเป็นสามีของฉัน? ต่อให้พูดออกไปตอนนี้ ก็คงจะโดนพวกเขาลากไปโรงพยาบาลบ้าอีกแน่ ๆ ” หย่าเสวียนคิดในใจ
หย่าเสวียนพยักหน้าตอบเสี่ยวเคอ “ฉันสบายดี เมื่อกี้ก็แค่โกรธเท่านั้นแหละ สบายใจได้ หลิงเฉินจะไม่มาหาเรื่องเราแน่นอน” สิ่งที่เธอจะทำตอนนี้ก็คือรีบกลับไปที่บ้าน ไปคุยกับหลิงเฉินตัวต่อตัวเรื่องหย่าให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย
หย่าเสวียนหยิบโทรศัพท์ พิมพ์เบอร์ที่อี้จูนให้มาพร้อมทั้งข้อความว่า “หลิงเฉิน ฉันอยากจะหย่ากับนาย! ฉันให้เวลานายอีกหนึ่งวัน นายต้องรีบกลับมาจัดการให้เรียบร้อย!”
เมื่ออ่านข้อความอีกครั้ง หย่าเสวียนก็คิดว่าโทนเสียงมันดูแข็งเกินไปหน่อย ‘เธอยังรู้สึกกลัวเรื่องวันนี้อยู่ เธอจะต้องไม่ทำให้เพื่อนของเธอต้องมาเดือดร้อนไปด้วย เมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้ว เธอจึงลบข้อความออกทั้งหมด ก่อนจะเริ่มพิมพ์ข้อความใหม่ “คุณหลิงเฉินคะ คุณปล่อยเพื่อนฉันเถอะ ฉันขอโทษจริง ๆ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ฉันจะหย่ากับคุณโดยเร็วที่สุด ถ้าวันนี้คุณว่าง เราจะไปที่เขตวันนี้เลย”
หย่าเสวียนคิดก่อนจะหยุดพิมพ์ ‘ไม่ได้ ๆ วันนี้ฉันโกรธมากนะรู้รึป่าว? อีกอย่าง เรื่องวันนี้ไม่ใช่ความผิดของฉันสักหน่อย ทำไมฉันจะต้องขอโทษเขาด้วยหล่ะ’ หลังจากที่เธอลังเลอยู่นาน ในที่สุดเธอก็ล้มเลิกความคิดนี้และโทรหาลุงโจว๋
“สวัสดีค่ะ ลุงโจว๋ ค่ะ ฉันขอเบอร์โทรศัพท์ของผู้ช่วยจ้งหน่อยได้ไหม?” เธอถามผ่านทางโทรศัพท์ ผู้ช่วยจ้งเป็นผู้ช่วยของหลิงเฉิน เขาจะต้องรู้อะไรแน่ ๆ เมื่อลุงโจว๋ส่งเบอร์ของผู้ช่วยจ้งมาให้ เธอก็รีบโทรหาเขาทันที
ตอนที่ผู้ช่วยจ้งได้รับโทรศัพท์จากหย่าเสวียนนั้น หลิงเฉินเพิ่งจะแยกกันกับหมี่เจีย และหลิงเฉินก็สั่งให้เขาขับรถพาเธอไปส่งที่บ้าน เขารับสายผ่านหูฟังบลูทูธของเขา “สวัสดีครับ?”
“สวัสดี ผู้ช่วยจ้ง นี่ฉันเองนะ หย่าเสวียน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้ช่วยจ้งก็เหลือบมองหมี่เจียที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขากระแอมในลำคอและกล่าวทักทาย “สวัสดีครับคุณนาย...โฮว่”
แน่นอนว่า คำทักทายของผู้ช่วยจ้งนั้น ดึงดูดความสนใจของหมี่เจียในทันที
หย่าเสวียนที่อยู่ในสายก็รีบพูดทันทีว่า ไม่ใช่ เดี๋ยวฉันก็ไม่ใช่คุณนายโฮว่อีกต่อไปแล้วหล่ะ ผู้ช่วยจ้งอย่าเรียกฉันแบบนี้เลย”
“เอ่อ เรื่องนั้น…” ผู้ช่วยจ้งพูด “เรื่องของคุณสองคนยังไม่เรียบร้อยดี เพราะงั้นผมก็ควรจะเรียกคุณว่า คุณนายโฮว่”
หย่าเสวียนถึงกับเงียบไปพักหนึ่ง “ก็ได้ ฉันขอถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม? เขา... เขาสั่งให้คุณกำจัดฉันหรือเพื่อนของฉันรึป่าว?”
ผู้ช่วยจ้งนึกถึงคำพูดของหลิงเฉิน ก่อนจะตอบว่า “ไม่ครับ ท่านเพียงแต่สั่งว่าให้ไปส่งหมี่เจียที่บ้าน” และตรวจสอบเธอเท่านั้น
จริง ๆ แล้ว มันก็ทำให้ผู้ช่วยจ้งรู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน โดยปกติแล้ว ถ้าหลิงเฉินเจอคนที่ทำให้เขาเกลียดเหมือนกับคุณนายหล่ะก็ เขาจะต้องสั่งให้เขารีบจัดการทันที แต่สำหรับหย่าเสวียน เขาแค่ขอให้เขาตรวจสอบเธอเท่านั้น
หรือว่าคุณนายนั้นมีเสน่ห์ดึงดูดเขา? หรือว่าหลิงเฉินจะมีความคิดอะไรบางอย่างกับเธอกันนะ?
ผู้ชายทุกคนไม่สามารถต้านทานผู้หญิงสวยได้อยู่แล้ว คุณนายนั้นสวยจริง ๆ เธอดูดีแม้กระทั่งไม่แต่งหน้า ถ้าคุณหลิงเฉินจะชอบเธอก็คงไม่แปลก
เมื่อได้ยินคำตอบของผู้ช่วยจ้ง หย่าเสวียนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เพื่อไม่เป็นการรบกวนผู้ช่วยจ้ง “คุณช่วยส่งที่อยู่ของบริษัทมาให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
เธอคิดว่าเธอควรจะจัดการกับเรื่องนี้ด้วยตัวเอง มันจะดีซะกว่าถ้าเธอจะไปคุยกับหลิงเฉินเรื่องการหย่าด้วยตัวเอง
ผู้ช่วยจ้งรับปากที่จะส่งที่อยู่ให้กับเธอ หลังจากนั้นเธอก็พูดต่อ “เมื่อไปถึงบริษัท คุณแสร้งทำเป็นไม่รู้จักฉันก็พอ มันคงจะไม่ดีนัก ถ้าจะลากคุณเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้” หย่าเสวียนอ้อนวอน “ตกลงไหม?” หลิงเฉินเป็นคนใจแคบ เอาเป็นเอาตายแม้กระทั่งกับผู้หญิงคนหนึ่ง ถ้าเกิดเขารู้ว่าผู้ช่วยจ้งคอยปกป้องเธอมาตลอดหล่ะก็ เขาจะต้องไม่ปล่อยผู้ช่วยจ้งไว้แน่
“เอ่อ…” ผู้ช่วยจ้งอยากจะปฏิเสธ หย่าเสวียนเองก็รู้ดีว่าเขาคงไม่ทำตามที่เธอบอกง่าย ๆ แน่นอน เธอเลยยิ้มและพูดต่อ
“ผู้ช่วยจ้ง ถ้าคุณปฏิเสธเงื่อนไขของฉัน งั้นฉันจะไม่หย่า…” “และวันหนึ่งฉันจะบอกหลิงเฉิน ในนามคุณนายโฮว่ ว่ามันเป็นความคิดของคุณที่ให้ฉันปิดบังตัวตนจากเขา”
“คุณนาย โฮว่”
“ต้องขอโทษด้วยนะผู้ช่วยจ้ง ฉันไม่มีทางเลือกจริง ๆ ” หย่าเสวียนพูด “ไว้ครั้งหน้าเดี๋ยวฉันจะเลี้ยงข้าวคุณ” หย่าเสวียนจะจำบุญคุณของเขาอย่างไม่มีวันลืมเลย
เฮ้อ ผู้ช่วยจ้งถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจ เด็กผู้หญิงยังไงก็เป็นเด็กผู้หญิงวันยังค่ำ จะขอให้คนช่วยยังจะมาขู่กันอีก
‘เด้กผู้หญิงที่แสนจะน่ารัก’ ผู้ช่วยจ้งคิดในใจ ‘เจ้านายที่แสนเย็นชา...ก็น่าจะชอบสิ?’ เพื่อที่จะไม่ให้หลิงเฉินต้องพลาดของดีแบบนี้ เขาจึงตัดสินใจที่จะทำบางอย่างเพื่อช่วยเขา
การสนทนายังคงดำเนินต่อไป เหมือนกับว่าผู้ช่วยจ้งจะลืมไปว่ามีหมี่เจียอยู่ในรถด้วย อยากรู้จังว่าใครคือ ‘คุณนายโฮว่ หมี่เจียรู้สึกสงสัยจนแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ ทันทีที่เขาวางสาย หมี่เจียก็ถามผู้ช่วยจ้งขึ้นมาทันที “ผู้ช่วยจ้ง หลิงเฉินมีภรรยาแล้วเหรอ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ก่อนจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ผู้ช่วยจ้งรู้ดีว่าไม่ใช่อย่างนั้น เพราะหมี่เจียรู้สึกกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด ผู้ช่วยจ้งไม่ได้ตอบอะไร หมี่เจียก็ถามขึ้นมาอีกว่า “เธอเป็นใครกันแน่? บอกชื่อเธอมา”