เธอคือลมหายใจของฉัน
ผู้เขียน:ณัฏฐินี แก้วมณีงาม
หมวดหมู่โรแมนติก
เธอคือลมหายใจของฉัน
หลิงเฉินและหย่าเสวียนมองหน้ากันอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็ได้มอบถ้วยรางวัลและรางวัลให้กับเธอ ตามกำหนดการเขาจะต้องจับมือทักทายกับผู้รับรางวัล
ขณะที่หย่าเสวียนถือถ้วยรางวัลและรางวัลด้วยมือซ้าย เธอก็ยื่นมืออีกข้างออกมาเพื่อจับมือกับเขา หลิงเฉินมองดูมือเล็ก ๆ ของเธอเพียงครู่เดียวเท่านั้นก่อนจะปฏิเสธ
เขามองหย่าเสวียนและพูดเสียงต่ำ “มือเธอสกปรก”
เพียงแค่คำสามคำนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เธอขุ่นเคือง
โชคยังดีที่ไม่มีใครได้ยินพวกเขา ฝูงชนต่างจับตาดูหลิงเฉินเพราะว่าเขาเป็นผู้ทรงเกียรติในงาน และก็ต้องงุ่นงงเมื่อเห็นว่าเขาปฏิเสธที่จะจับมือหย่าเสวียน ทุกคนล้วนคาดเดาไม่ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
‘ถ้าตอนนี้มีแค่ฉันกับเขา ฉันคงได้ลากเขาไปหย่ากันที่เขตและอัดเขาให้เละ!’ หย่าเสวียนกำหมัดแน่นด้วยความขุ่นเคือง ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความโกรธ เธอชิงชังผู้ชายคนนี้เหลือเกิน
แต่เพราะมีสายตานับพันจับจ้องพวกเขาอยู่ เธอจึงทำได้เพียงกล้ำกลืนความอับอายครั้งนี้ไว้
หลิงเฉินหันหลังให้กล้องตลอดการมอบรางวัล ดังนั้นจึงมีเพียงบางคนในงานเท่านั้นที่เห็นสิ่งที่เขาทำ
หน่าเสวียนอยากจะโยนถ้วยรางวัลและรางวัลลงถังขยะซะเหลือเกิน แค่คิดว่ามันเคยผ่านมือหลิงเฉินก็ทำให้เธอขนลุกแล้ว แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอทำได้เพียงจินตนาการ
เมื่องานมอบรางวัลจบลงอย่างเป็นทางการ หย่าเสวียนและเพื่อน ๆ ก็กลับไปที่มหาวิทยาลัย
เมื่อมาถึงทางเข้า กว่อกว่อก็หยุดพวกเขาไว้และขอให้หย่าเสวียนรักษาสัญญาของตัวเอง
ตอนแรกหย่าเสวียนว่าจะเอาตามตัวเลือกที่สอง คือการขังลู่ชี่หางไว้ที่ออฟฟิศ แต่พอนึกถึงการกระทำที่หยาบคายของหลิงเฉิน เธอก็เลยเปลี่ยนใจ ‘ถ้าเขาเห็นเข้าว่าฉันสารภาพรักเขา เขาคงหัวเสียน่าดู! โอ้ พระเจ้า ตอนนี้ฉันล่ะอยากจะรู้จริง ๆ ว่าเขาจะมีท่าทียังไง!’ เธอคิดกับตัวเองด้วยความเบิกบานใจ
ขณะที่ครุ่นคิดถึงการตัดสินใจของตน หย่าเสวียนก็ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์และเดินไปที่สวนแห่งหนึ่งในมหาวิทยาลัยโดยมีเพื่อน ๆ ตามไปด้วยกัน
โชคดีที่มันเป็นช่วงสุดสัปดาห์และมีนักเรียนอยู่ในวิทยาเขตเพียงไม่กี่คน สวนดังกล่าวปกคลุมไปด้วยความเงียบ หย่าเสวียนหันไปหาเพื่อน ๆ ของเธอและทำท่าทางให้เพื่อนรอจนกว่าเธอจะเสร็จ จากนั้นเธอก็เข้าไปในสวนและเจอต้นไม้เก่าแก่ต้นหนึ่ง เมื่อมายืนตรงข้ามต้นไม้ เธอก็รวบรวมเสียงให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วตะโกนว่า “หลิงเฉิน ฉันรักคุณ หลิงเฉิน ฉันรักคุณ...”
ตามข้อตกลงคือเธอต้องพูดซ้ำสิบครั้ง หย่าเสวียนจึงทำตามนั้น
เธอกรีดร้องออกมาเมื่อถึงครั้งที่สิบ ทำให้พวกนกที่เกาะอยู่บนต้นไม้พากันบินหนีไปในอากาศ
หย่าเสวียนทำภารกิจสำเร็จอย่างง่ายดาย เธอตบหน้าอกตัวเองเพื่อสงบสติอารมณ์ แต่สิ่งที่เธอคาดไม่ถึงคือ มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นหลังต้นไม้ และเธอก็ต้องตกตะลึงเมื่อรู้ว่าเขาเป็นใคร
เขาคนนั้นคือชี่หาง! ‘โอ้ พระเจ้า…’ หย่าเสวียนหน้าซีด ‘ทำไมท่านอธิการ... ถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ? !’ เธอตั้งคำถามกับตัวเอง หย่าเสวียนเริ่มเหงื่อตกด้วยความประหม่า
‘เวรแล้ว! นี่มันน่าอายมาก! เขาอาจจะเอาเรื่องนี้ไปบอกหลิงเฉินก็ได้! ฉัน ฉันต้องหนี!’ หย่าเสวียนหมุนตัวแล้วรีบวิ่งออกจากสวนโดยใช้มือปิดหน้าตัวเองไว้
“เฮียเหนียน เธอจะรีบไปไหนน่ะ” เจ๋อหนันถามด้วยความสับสน “มีหมีวิ่งไล่เธออยู่หรือไง”
หย่าเสวียนชะงักและหยุดวิ่งเมื่อมองเห็นเจ๋อหนัน เธอสอดส่องสายตาเพื่อสำรวจบริเวณนี้ ดีที่ชี่หางนั้นไม่ได้ตามมา ‘เขาคงจำฉันไม่ได้นะ’ หย่าเสวียนคิดและถอนหายใจอย่างโล่งอก ‘แต่ฉันเคยเจอเขามาก่อน คิดว่าน่าจะที่ห้องพักคณบดี’
หย่าเสวียนรู้ถึงความสัมพันธ์ของเคอร์ติสกับหลิงเฉิน นั่นทำให้เธอจมอยู่ในความคิดตัวเอง ‘แต่ถ้าเกิดว่าเขาจำฉันได้แล้วเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้หลิงเฉินฟังล่ะ เดี๋ยวสิ ฉันเป็นภรรยาของหลิงเฉินนะ มันก็ปกตินี่ที่ภรรยาจะบอกรักสามีตัวเอง!’ เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็รู้สึกโล่งใจ เธอยิ้มอย่างพอใจตอนที่เดินผ่านกว่อกว่อ และรู้สึกภูมิใจสุด ๆ กับสิ่งที่เธอเพิ่งทำ
ความสับสนก่อตัวขึ้นในใจกว่อกว่อเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นของหย่าเสวียน
‘ทำไมเธอถึงอารมณ์ดีนักล่ะ เธอไม่รู้หรอว่าหลิงเฉินเกลียดผู้หญิงที่พยายามจะจีบเขา’ ความสับสนนั้นแปรเปลี่ยนเป็นความรำคาญในที่สุด 'ยิ้มเท่าที่เธอยังทำได้เถอะ หย่าเสวียน เธอต้องเสียสติแน่ตอนที่หลิงเฉินเห็นสิ่งนี้'
เธอดึงโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็ส่งวิดีโอที่ถ่ายไว้ไปให้ใครบางคน
ย้อนกลับไปในหอพัก ความรู้สึกขนลุกยังคงหลงเหลืออยู่ในใจหย่าเสวียน เธอไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจนว่าเพราะอะไร เธอรู้สึกสับสน
เธอได้ค้นพบตัวเองอย่างไม่รู้ตัวจากงานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนที่เกิดขึ้น ราวกับว่ามีบางอย่างควบคุมร่างกายของเธอ เธอจึงเริ่มหารายชื่อผู้เข้าร่วมการแข่งขันฮาล์ฟมาราธอนในทันที แล้วมันก็สะกิดใจเธอ
‘ไม่มีชื่อนังนั่นอยู่ในรายชื่อด้วยซ้ำ!’ เธอกรีดร้องในความเงียบ ‘เธอวางแผนไว้หมดแล้ว! เธอรู้ว่าผู้ที่เคยชนะเลิศเหรียญเงินจะเข้าร่วมการแข่งขัน ดังนั้นเธอถึงได้หลอกล่อฉันและจงใจทำให้ฉันขายหน้า!’
เธอสอดส่ายสายตาเพื่อหาของมาระบายความโกรธ จากนั้นก็คว้าหมอนและกระแทกมันกับผนัง ‘เธอควรระวังตัวไว้ให้ดีนะ กว่อกว่อ!’ หญิงสาวสาปแช่งในใจ
ขณะเดียวกัน ในเซิ่งหมิง กรุ๊ป
ห้องประชุมกว้างขวางเต็มไปด้วยผู้คน มันคืองานเปิดตัวสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ตัวล่าสุด นักข่าวทุกคนต่างเตรียมอุปกรณ์มาเพื่อจับภาพในงานอย่างทั่วถึง
ประชาชนทั่วไปทราบดีว่าผลิตภัณฑ์จากเซิ่งหมิง กรุ๊ป มักเป็นตัวกำหนดเทรนด์เสมอ
จากนั้นผู้อำนวยการจัดงานก็มาถึงห้องประชุม ซึ่งประกอบไปด้วยหลิงเฉินและผู้บริหารระดับสูงอีกหลายคน กล้องทุกตัวต่างเล็งไปที่เหล่าผู้บริหารระดับสูง มันเป็นกฏสำหรับนักข่าวทุกคนคือห้ามถ่ายภาพหรือวิดีโอที่เห็นหลิงเฉิน ไม่เช่นนั้นเขาจะบังคับให้ลบรูป และในกรณีร้ายแรง พวกเขาอาจโดนฟ้อง
เมื่อหลิงเฉินและผู้บริหารระดับสูงนั่งประจำที่แล้ว คนอื่น ๆ จึงนั่งได้ ผู้จัดการใหญ่กล่าวเปิดงานก่อนจะให้รองผู้จัดการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของพวกเขา
ทุกคนในงานจดจ่อกับสุนทรพจน์ของผู้จัดการใหญ่
เมื่อกล่าวสุนทรพจน์จบ ลำดับต่อไปคือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดผ่านโปรเจคเตอร์
รองผู้จัดการจึงเปิดโปรเจ็กเตอร์ด้วยรีโมทคอนโทรล อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ได้ปรากฏขึ้น แต่กลับเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังตะโกนอยู่หน้าต้นไม้ เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนั้น คิ้วของหลิงเฉินก็ขมวดเข้าหากันทันที
“หลิงเฉิน ฉันรักคุณ หลิงเฉิน ฉันรักคุณ...”
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เตรียมไว้ ไม่มีใครรู้ว่ามันจะเกิดขึ้น ดวงตาทุกคู่เบิกกว้างด้วยความตกใจ กรามของพวกเขาแทบจะตกลงมาอยู่ที่พื้น
ใบหน้าของหลิงเฉินเคร่งขรึมจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพียงได้ยินเสียงเธอก็ทำให้เขารู้สึกขยะแขยงแล้ว ‘เด็กคนนี้อีกแล้วหรอ นี่เธอจะอยู่ทุกที่เลยใช่มั้ย
ผู้ชมในงานไม่ได้มีเพียงพนักงานจากเซิ่งหมิง กรุ๊ป และนักข่าวเท่านั้น แต่คนทั้งโลกต่างก็ดูอยู่
ทุกคนในห้องประชุมสับสายตามาที่หลิงเฉินเพื่อรอดูท่าทีของเขา จ้งไห่เฉิง ผู้ช่วยของหลิงเฉินก็อยู่ตรงนั้นและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เขาเองก็กำลังนึกชื่อของผู้หญิงคนนั้น ‘นั่นไม่ใช่คุณนาย... โฮว่หรอกหรอ?’
แม้จะอยู่ในสถานการณ์ไม่คาดฝัน หลิงเฉินก็ยังคงสงบนิ่งไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ผู้คนจึงยิ่งมองเขาด้วยความชื่นชมมากขึ้น ‘ไม่มีอะไรทำให้เขาหวั่นไหวได้เลย! ไม่แปลกเลยที่เขาจะประสบความสำเร็จในการบริหารกลุ่มธุรกิจใหญ่!’ รองผู้จัดการเองก็แสดงท่าทางเหมือนกับหลิงเฉิน เนื่องจากเขาตระหนักได้ว่าต้องมีใครมายุ่งกับแฟลชดิสก์ของเขาแน่ ๆ
ขณะที่กำลังประเมินว่าข้อมูลผลิตภัณฑ์ยังอยู่ในแฟลชดิสก์หรือเปล่า เขาก็ได้ยินเสียงของหลิงเฉิน “ดำเนินการต่อ”
หลังจากวิดีโอน่ารังเกียจที่หย่าเสวียนแสดงความรักของเธอจบลง หน้าจอก็แสดงภาพผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้อง
เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วน หลิงเฉินหยิบโทรศัพท์ออกมากดหมายเลขของใครบางคน “ชี่หาง คุณรู้จักนักเรียนที่ชื่อหย่าเสวียนไหม” หลิงเฉินถาม จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วและสงสัยว่า ‘ทำไมชื่อนี้ถึงได้คุ้นจัง’
“เธอทำไมหรอ” ชี่หางถามกลับ
“ผมอยากให้คุณไล่เธอออก!” หลิงเฉินเรียกร้อง “เดี๋ยวนี้!” คงไม่มีผู้หญิงคนไหนอีกแล้วที่จะกระตุกทุกเซลล์ประสาทของเขาได้แบบนี้ เธอต้องได้รับกรรมอย่างสาสม การนองเลือดคงจะเกินไป หลิงเฉินจึงขอเพียงให้เธอถูกไล่ออก
เหล่าผู้สื่อข่าวต่างพากันลบร่องรอยของภาพถ่ายและวิดีโอทั้งหมดที่พวกเขาถ่ายได้ เพราะพวกเขาไม่กล้าเสี่ยงที่จะทำให้หลิงเฉินโกรธ แม้ว่าในทางปฏิบัติแล้ว โลกจะเห็นหย่าเสวียนไปแล้วก็ตาม ผู้ชมคงบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านโทรศัพท์กันหมดแล้ว เมื่อการเปิดตัวผลิตภัณฑ์แพร่ออกไป ข้อมูลของหย่าเสวียนก็ถูกเปิดเผยให้คนทั้งโลกได้รับรู้