เธอคือลมหายใจของฉัน
ผู้เขียน:ณัฏฐินี แก้วมณีงาม
หมวดหมู่โรแมนติก
เธอคือลมหายใจของฉัน
หย่าเสวียนนั่งลงตรงโต๊ะที่อยู่มุมสุดพลางมองไปที่ท้องทะเลยามค่ำคืน ฟังเสียงคลื่นกระทบกับผิวน้ำ ขณะที่รับประทานอาหารว่างชั้นเลิศ อารมณ์ของเธอก็เริ่มดีขึ้นมาบ้าง ลมทะเลเย็น ๆ พัดมาโดนตัวของเธอ หย่าเสวียนรีบปิดหน้าต่างทันที เมื่อครู่เธอรีบออกมาจากร้าน โดยไม่ทันสังเกตว่าลืมหยิบผ้าคลุมมาด้วย โชคดีที่ห้องโถงมีฮีตเตอร์ ไม่งั้นเธอได้แข็งตายแน่ ๆ
หลังจากที่นั่งรออย่างเบื่อหน่ายมานาน งานเลี้ยงก็ยังไม่เริ่มสักที ยังดีที่มีอาหารอร่อย ๆ พวกนี้ให้เธอได้กิน
หลังจากที่รับประทานของว่างอย่างเอร็ดอร่อยนั้น เธอก็รู้สึกคอแห้งขึ้นมา เธอเดินไปหยิบเครื่องดื่มและได้ยินคนพูดกันเกี่ยวกับคระกูลลู่ พวกเขากำลังรอแขกคนสำคัญอยู่ ถ้าแขกคนดังกล่าวมาถึงแล้ว งานเลี้ยงก็จะเริ่มขึ้นและเรือสำราญก็จะแล่นออกจากท่าในทันที
ไม่นานนักก็มีเสียงเอะอะดังขึ้นที่ประตูทางขึ้น หย่าเสวียนมองผู้หญิงแทบจะทุกคนที่วิ่งกรูไปที่นั่นอย่างตื่นเต้น
ถ้าไม่ใช่เพราะถูกอบรมสั่งสอนมาในตระกูลผู้ดีหล่ะก็ ป่านนี้พวกเธอคงจะกรี๊ดเสียงดังไปแล้ว
ผ่านไม่กี่นาที ในที่สุดหย่าเสวียนก็รู้ว่าใครทำให้พวกเธอต้องตื่นเต้นขนาดนั้น
โซนอาหารนั้นอยู่สูงขึ้นไป ทำให้เธอมองเห็นประตูทางเข้าได้อย่างชัดเจน มันก็คือเขานั่นเอง เป็นใครไปไม่ได้นอกจากสามีของเธอ ในเมืองเยว่นั้น เขานั้นเป็นผู้ชายที่ทั้งหล่อทั้งรวย ที่สำคัญ เขายังโสด ที่พวกเธอคิดอย่างนั้นเพราะไม่มีใครรู้เรื่องการแต่งงานของพวกเขา
เมื่อแขกคนสำคัญของตระกูลลู่มาถึง เรืองสำราญก็แล่นออกจากท่า และงานเลี้ยงก็เริ่มขึ้นในทันที
แม้ว่าหย่าเสวียนจะเป็นนักเลง แต่เธอก็รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร
เธอจะไม่อยากจะมีปัญหากับหลิงเฉินในที่สาธารณะแบบนี้เด็ดขาด แต่ผู้ชายใจแคบคนนั้นก็ชอบมาหาเรื่องเธอทุกครั้งไป เพราะงั้นเวลาที่เห็นเขา หย่าเสวียนก็จะพยายามเลี่ยง
งานเลี้ยงเปิดตัวด้วยการเต้นรำของหลิงเฉินและคู่ของเขา ทุกคนต่างจับตามองทั้งสองอย่างเพ้อฝัน จะมีก็แต่หย่าเสวียนที่เยาะเย้ย เธอรู้จักผู้หญิงคนนี้ดี เธอคือคนที่ดูถูกเธอที่ห้างสรรพสินค้าเมื่อไม่กี่วันก่อน
และก็มีอีกคู่หนึ่ง ‘เดี๋ยวนะ…’ หย่าเสวียนเพ่งมองไปที่พวกเขาทั้งคู่ ‘นั่นมันลู่ชี่หาง อธิการบดี่ของพวกเขา ไม่ใช่เหรอ?’ หย่าเสวียนส่ายหัวไปมาและคิดว่าเธอน่าจะกินมากจนตาลายมองผิดก็เป็นได้
และเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่า นี่เป็นงานที่ตระกูลเขาจัด ‘ฉี่หางจะมาเข้าร่วมก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร’ ทว่า คู่เต้นของเขาสวยและมีสไตล์มาก ชุดเดรสสีช็อคโกแลตของเธอนั้นก็ทำให้คนที่มองรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน
เมื่อการเต้นรำจบลง เสียงปรบมือก็ดังกึกก้องไปทั่วห้องโถง หย่าเสวียนเองก็ปรบมือเช่นกัน เธอปรบมือให้กับชี่หางและคู่เต้นของเขา
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำกิจกรรมตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็นห้องโถงหรือดาดฟ้าเรือต่างก็คลาคล่ำไปด้วยผู้คน บ้างก็ดื่มไวน์ บ้างก็พูดคุย บ้างก็ร้องเพลงอย่างสนุกสนาน ทุกคนดูมีความสุขกันมาก
ทว่า คนฉลาดนั้นดูออก นอกจากคนที่คุยธุรกิจแล้วนั้น คนอื่น ๆ กลับรู้สึกน่าเบื่อ คนเราก็แค่พูดคุยกับเรื่องไร้สาระ ร้องเพลง เต้นรำและดื่มด้วยกันเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ในเมื่อทุกคนไม่ได้พูดความรู้สึกจริง ๆ ของตัวเองออกมา
ส่วนห้วยหมิงที่มากับเธอนั้น ก็จีบสาว ๆ มาได้สองคน ซึ่งตอนนั้นพวกเขาเองก็กำลังพูดคุยหยอกล้อกันอยู่ไม่ไกลจากเธอนัก
หย่าเสวียนส่ายหัวพลางถอนหายใจ เมื่อกินอิ่มแล้ว หย่าเสวียนก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปด้านนอกและดื่มด่ำกับบรรยากาศทะเลยามค่ำคืน
ที่ดาดฟ้านั้นมีคนค่อนข้างเยอะ เมื่อลมทะเลพัดมา หย่าเสวียนก็เริ่มสั่นด้วยความหนาว ข้างนอกนี่มันหนาวจริง ๆ
ทีแรกเธอคิดว่าจะกลับไปยืมเสื้อสูทของห้วยหมิงมาสวม แต่เมื่อเธอเห็นเขากำลังโน้มตัวลงจูบผู้หญิงคนหนึ่ง หย่าเสวียนเลยล้มเลิกความคิดและเดินกลับไป
เธอยืนมองทะเลพลางหัวเราะออกมา ‘ห้วยหมิงเป็นผู้ชายนี่นะ ฉันหล่ะไม่แปลกใจเลยจริง ๆ พอเห็นคนสวยก็ไปไม่ถูกซะแล้ว’
พอคิดอย่างนั้นแล้วก็อดคิดต่อไม่ได้ว่า ‘ถ้าฉันไม่สวย…ห้วยหมิงยังจะอยากเป็นเพื่อนกับฉันไหมนะ?’
“หย่าเสวียน?” เสียงอ่อนโยนดังขึ้นทำลายความคิดอันฟุ้งซ่านของเธอ
หย่าเสวียนเอาผมทัดหูก่อนจะหันไปมองตามเสียงนั้น มันคือฉี่หางนั่นเอง “สวัสดีค่ะ ท่านอธิการ เธอทักทายเขาอย่างสุภาพ
หย่าเสวียนนั้นชอบให้ใช้ไม้อ่อน และเธอก็ชอบวิธีที่ชี่หางหางสอนคนอื่น มันนุ่มนวลและค่อยเป็นค่อยไปเหมือนกับบุคลิกของเขา
ฉี่หางเดินมาแค่คนเดียว เขาถอดเสื้อสูทราคาแพงของเขามาคลุมให้เธอ
“ข้างนอกหนาวนะ ทำไมไม่เข้าไปนั่งด้านในหล่ะ?” เขาถามอย่างนุ่มนวล
เธอที่กำลังหนาวสั่นอยู่ทีแรกก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย เธอมองหน้าเขาก่อนจะตอบอย่างอาย ๆ ว่า “ฉันกินเยอะไปหน่อย ก็เลยออกมาเดินย่อยหน่ะค่ะ”
ชี่หางขำออกมากับท่าทีของเธอ เข้าใจแล้วหล่ะ “เธอมากับห้วยหมิงเหรอ?”
“ใช่ค่ะ”
“เขาเป็นเพลย์บอยนี่นะ” “พอเจอคนสวยก็ทิ้งเธอซะแล้ว” เขาพูดพลางเท้าแขนกับราวกั้นและมองออกไปที่ท้องทะเล
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เขายังโสด เขามีสิทธิ์ที่จะหาความสุขและออกเดทกับใครก็ได้ที่เขาต้องการ” หย่าเสวียนพูดอย่างขำ ๆ
ชี่หางงยิ้มก่อนจะพูดว่า “มานี่สิ ผมมีคนที่อยากจะแนะนำให้เธอรู้จัก”
“หืม? ใครเหรอคะ?” หย่าเสวียนรู้สึกงงกับคำพูดของเขา ทำไมเขาถึงอยากจะแนะนำคนอื่นให้เธอรู้จักกันนะ? เขาเป็นแบบนี้กับทุกคนงั้นเหรอ? หรือเป็นแค่กับเธอกันนะ?
ชี่หางไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะผายมือเป็นการเชิญเธอ เธอไม่ได้ปฏิเสธอะไร และเดินตามเขาเข้าไปในห้องโถง
ภายในโซนอาหาร
หย่าเสวียนมองสามคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างอึ้ง ๆ ซึ่งก็คือ หลิงเฉิน หมี่เจียและผู้หญิงคนที่เต้นรำคู่กับชี่หางเมื่อครู่ สายตาของสองคนแรกทำให้เธอรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนขึ้นมาทันที
‘หลิงเฉินเนี่ยนะ? ฉันจะอยู่ห่างจากเขาบ้างไม่ได้เลยรึไงกันนะ?’
ชี่หางทักทายทั้งสามคนอย่างสุภาพ หลิงเฉินมองเธอด้วยสายตาอาฆาต ซึ่งมันก็ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมาก และตอนที่เธอกำลังจะเดินออกไปนั้นเอง ชี่หางก็เอื้อมมือมาขวางเธอไว้ซะก่อน “หย่าเสวียน นี่คือหลิงเฉิน เพื่อนสนิทของผม ส่วนนี่คือหมี่เจีย คู่ของเขา และนี่คือซ่งฉือ แฟนของผม” เขาหันไปยิ้มกับซ่งฉือพลางแนะนำหย่าเสวียนให้เธอรู้จัก “ซ่งฉือ นี่คือหย่าเสวียน”
หย่าเสวียนก้าวเข้ามาหนึ่งก้าว ทำเป็นไม่สนใจสองคนที่เหลือ ก่อนจะยิ้มให้กับซ่งฉือ “สวัสดีค่ะ พี่ซ่งฉือ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” มีคำถามมากมายในหัวของเธอ เธอกับชี่หางไม่ได้สนิทกัน ไม่เคยคุยกันสักคำด้วยซ้ำไป ทำไมเขาถึงแนะนำแฟนของเขาให้เธอรู้จักกันนะ?
ซ่งฉือจับมือหย่าเสวียน และพูดกับเธออย่างอ่อนโยนว่า “สวัสดีค่ะ หย่าเสวียน ฉันได้ยินเกี่ยวกับคุณมาเยอะ คุณสวยมากเลย” หย่าเสวียนถึงกับทำตัวไม่ถูกเมื่อได้รับคำชม เสียงของซ่งฉือนั้นช่างไพเราะน่าฟังเสียจริง
“เราเป็นเพื่อนกันแล้ว ถ้ามีอะไรก็บอกมาได้เลยนะคะ”
หย่าเสวียนไม่เคยคิดว่าจะได้รับคำชมแบบนี้มาก่อน ไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรก็มีเสียง ๆ หนึ่งพูดแทรกขึ้นมา “ซ่งฉือ ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้หรอกนะ คนเราหน่ะจะดูแต่รูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้หรอก ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูสวย มันก็เป็นเพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น แต่จิตใจของเธอนั้นต่ำช้าจนน่าขยะแขยงเลยหล่ะ”
ซ่งฉือกับชี่หางต่างมองไปที่หลิงเฉินอย่างตกใจ ชี่หางเองก็เดาได้ว่าพวกเขาทั้งสองคนคงจะไม่ถูกกันเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นได้ถึงขนาดนี้
แม้ว่าปกติหลิงเฉินจะไม่ค่อยชอบผู้หญิงสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่เคยว่าผู้หญิงด้วยคำพูดแบบนี้มาก่อน ถ้ามีผู้หญิงคนไหนที่เข้าหาเขาก่อนอย่างหน้าด้าน ๆ เขาก็จะแค่พูดออกมาคำเดียวเท่านั้น ผู้หญิงหน่ะ ตายไปซะได้ก็ดี
'นี่มันเรื่องอะไรกัน? หรือจะเป็นเพราะหย่าเสวียนบอกรักเขาสิบรอบในวิดิโอกันนะ?’ ชี่หางคิดอย่างพยายามจะเข้าใจเหตุการร์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า
หย่าเสวียนพยายามจะควบคุมสติอารมณ์เพราะไม่อยากจะมีปัญหา แต่ผู้ชายคนนี้กลับทำให้สถานการณ์มันแย่ลงไปกว่าเดิม และเธอก็ระเบิดออกมา ‘พอสักทีเถอะ!’
หย่าเสวียนแย่งแก้วไวน์แดงที่อยู่ในมือของหมี่เจียมา ก่อนจะสาดใส่หน้าหลิงเฉินเต็ม ๆ “หย่าเสวียน!” เมื่อนึกได้ว่าเธอกำลังจะทำอะไร ชี่หางพยายามที่จะห้ามเธอไว้แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมาก
ทุก ๆ คนที่อยู่ตรงนั้นถึงกับช็อค เมื่อเห็นไวน์กำลังจะโดนหลิงเฉิน
“โอ้!” “พระเจ้า! ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร? !” “กล้าดีมาจากไหน ทำไมถึงเอาไวน์สาดหน้าคุณหลิงเฉินหล่ะ?”
“เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ !”
“คอยดูแล้วกัน เธอไม่ตายดีแน่ ๆ !”
“ไม่มีทางที่คุณหลิงเฉินจะปล่อยเธอไปง่าย ๆ แน่นอน”