ห้วงแค้นจอมนาง เล่ม 1
ที
สุภาพ ดุจดอกไม
ลเด็กสาวที่กำลังเคลิบเคลิ้มในห้วงนิทรากำลังดำดิ่งอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง ท้องฟ้าสีครามทุ่งหญ้าเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา หมู่มวลนกหน้าตาแปลกประหลาดแต่กลับงดงาม กำล
ด้านหลัง ทำให้นางต้องหันกลับไปมองทางต้นเสียงว่าเสียงนั้นเ
นางอยู่ทำให้นางรู้ในทันที่ว่าทั้งสองเป็นใคร ทั้งสองไม
ท่านรู้หรือไม่ว่าสิ่งที่ท่านทิ้งไว้ให้ข้า ช่างน่าปวดหัวจนเกินกว่าที่ข้าจะรับมือไหว” ลู่จิ้นจิวไ
้ แต่สำหรับเทพเซียนอย่างพวกข้าเห็นว่ามันออกจะยุติธรรมต่อทุกคนไม่เห็นต้องโมโหขนาดนั้นเลย เจ้าไม่เห็นด้วยกับความคิดขอ
ากันหัวเราะเยาะข้า เห็นข้าเป็นตัวตลก เช่นนี้แล้วมันน่าเห็นด้วยกับท่านเช่นนั้นรึ!?” ลู่จิ้นจิวโต้แย้งชี้แจงในเหตุผลและหลักความเป็นจร
งบ้าง เปลี่ยนให้คนทั้งโลกต้องจารึกและจดจำชื่อของเจ้าไว้ตลอดกาล” คำของคู่หมั้นของเทพชะตาทำให้ลู่จิ้นจิวชะงักค้างไป ด้วยเพราะสิ่งที่นางกล่าวมาล้วนเป็นจริง
้งสองเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทางแน่วแน่ขอ
ะนิ้วที่มีลวดลายงดงาม ระหว่างข้อมือมียังมีอัญมณีสีแดงสดประดับไล่ระดับจากข้อมือขึ้นลงมา มีอัญมณีสีแดงประดับอยู่สี่เม็ดไล่ลงมาสามและสุดท้ายอยู่ตรงกลางฝ่ามืออีกหนึ่งเม็ด ต่อพวง
ะตายื่นของที่อยู่ในมือมาให้
นนี้เจ้าจะสามารถเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ได้ตามที่เจ้าต้องการ หรือแม้กระทั่งพาคนเข้ามาที่นี่เจ้าก็สามารถทำได้เพียงเจ้าตั้งจิตให้มั่นเท่านั้น พูดให้เข้า
งกายได้อีกด้วย ข้าว่าสิ่งนี้คงพอที่จะชดเชยกับวีรกรรมของนางได้แล้วกระมัง” ลู่จิ้นจิวนิ่งฟังอย่างตื่นเต้นก่อนจะหยิบสร้อยข้อมือเส้น
าอัศจรร
ของตนเป็นใหญ่ โดยลืมไปว่านั้นไม่ใช่ชีวิตเทพเซียนที่มีชีวิตอยู่ได้อย่างยืนยาวนับแสนปี”
่เห็นว่านางจะทำอะไรนอกจากดีดนิ้วไปสองครั
้วข้าลืมแนะนำตัวข้าไปเลย ข้าคือ เทพคู่ครอง ที่คอยสร้างพรมลิขิตให้แก่มวลมนุษย์ นี่ถึงเวลาแล้วข้าต้องไปเสียที
ตียงนอนหลังเดิมที่ใช้มาตลอดการมาอยู่ในที่แห่งนี้จึงสรุปกับตนเองว่าเมื่อ
นะเพคะ”หัวหน้านางกำนัลที่คอยรับใช้นางมาตลอด เลิกผ้าม่านที่ปิดอยู่
รวจเมื่อรับรู้ได้ถึงบางอย่างบนข้อมือซ้ายของตน เมื่อเพ่งสายตามองก็พบว่าบนข้อมือปรากฏสร้อย
ของตนแล้วยิ้มออกมาอย่างไม่รู้จะอธิบายอย่างไร “นั้นสร้อยอะไรหรือเพค
ยไม่เหมือนเครื่องประดับในเมืองหลวงสักเท่าไหร่ แล้วเจ
น้ำไว้ให้ท่านหญิงสรงก่อนนะเพคะ” นางกำ
็นมีแล้ว เจียงเฉียงนางเอา
อมฉันยังไม่ได้กล่าวอะไรเลยเพคะ” สีหน้าแปลกใจของนางกำนัลทำให้ลู่จิ้นจิวนึกสงสัย เพราะเมื่อครู่น
เจ้าไปทำหน้า
ห้หมดสิ้นก่อนที่นางจะลงแช่ในอ่างน้ำ เมื่อปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากกายจนหมดนางก็ค่อยๆ หย่อนกายลงไปในอ่างอย่างผ่อนคลาย ภายในอ่างเหล่านางกำนัลได้นำกลีบดอกกุหลาบและบรรดาดอกไม้ทั้งมีกลิ่นหอมมาโรยไว้จนเต
ของท่านหญิงด้วยเพคะ” หัวหน้านางกำนัลที่ได้ยินจึงรีบเข้าม
วหน้านางกำนัลเอ่ยขึ้นเมื
” หัวหน้านางกำนัลใช้ผ้าผืนบางเช็ดย้ำไปมาบนผิวเนื้อขอ
ลู่จิ้นจิวเพ่งมองปานรูปดอกเหมยสีแดงบนหัวไหล่ซ้ายของตนและหวนนึกขึ
็ไม่ได้น่าเกลียดอันใดจะว่าไปก็สวยดีเหมือนกันร
นเฟินทันที นางทั้งสองเดินทางโดยรถม้าที่เช่ามาจากข้างนอก ด้วยไม่อยากให้เป็นที่สะดุดตามากนักจึงเลือกใช้รถม้าจากข้างนอกแทน รถม้าแล่นมาถึงโ
มีมากอยู่พอสมควร ผู้คนจากทั่วสารทิศต่างมาพักที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้ที่มีราคาไม่แพงนักเพราะดูจ
งรออยู่ด้านใน แต่ละคนดูแข็งแรงบึกบึนหน้าตาคมคายจัดว่าหล่อเหล่ากันทุกคน เมื่อสังเกตดูทั้งสี่น่าจะมีอายุไล่เลี่ยงกันน่าจะรุ่
ี่” ทั้งสี่แม้จะยังคงมีท่าทีแข็งกร้าวแต่ก็ยังคงประ
็นคนที่หม่อมฉันรู้จักตอนอยู่หัวเมือง พวกเขาล้วนมีฝีมือ ต่างผาดโผนไปทั่วยุทธภพแต่ไม่สังกัดสำนักใด พวกเขาเพียงอยากหาความสนุกและประสบการณ์ใส่ตัว ข้าเองนับถือพวกเขามากเมื่อท่านหญิงต้องการคนมาช่วยหม่อมฉันจึงนึกถึงพวกเขา
หยางสือที่กล่าวถามออกมาด้วยแววตาแน่วแน่ ดว
พวกท่านมาช่วยงานข้า” ทั้งสี่ต่างมองหน้ากันไปม
ยังไม่ยอมรับ แล้วท่านจะเอาอะไรมาโน้มน้าวให้พวกเราช่วยงานท่านได้” ลู่
นี้ได้ พวกท่านจะยอมช่วยข้าหรือไม่” ทั้งส
” ลู่จิ้นจิวเองก็เผยรอยยิ้มขึ้นอีกครั้งด้วยความมั่นใจเพราะก่อนมาที่นี่ลู่จิ้นจิวค้นพบว่า
เป็นใหญ่ร่วมกัน ข้าพูดถูกหรือไม่” ทั้งสี่ต่างต้องตกใจไปตามๆ กัน ท่านหญิงซูมี่ผู้นี้ล่วงรู้ความลับที่พวกเขารู้กันเพียงสี่คนเท่านั้น ค
่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะถ้ามีใคร
อก” เมื่อทั้งสี่กระชับกระบี่ที่อยู่ด้านข้างด้วยใบหน
น นางเองก็ไม่คิดว่านางจะเป็นผู้นำพาท่านหญิงมาสู่อันตรายเช
วยใบหน้าราบเรียบ ย่างเท้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เจียงเฉียงมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด นางรู้ดี
องกลัวอะไรอีก เมื่อมองดูเจียงเฉียงอยู่สักพักลู่จิ้นจิวก็หันไปมองบุรุษเบื้องหน้าทั้งสี่ด้วยแววตาแน่วแน่ ก่อนจะหลับตาลงนึกถึงดินแด